มอร์ทัลคอมแบต: ดีเซปชัน
มอร์ทัลคอมแบต: ดีเซปชัน | |
---|---|
ภาพปกเวอร์ชันเพลย์สเตชัน 2 ของทวีปอเมริกาเหนือที่นำเสนอโอนากะ | |
ผู้พัฒนา | มิดเวย์เกมส์[a] |
ผู้จัดจำหน่าย | มิดเวย์ |
กำกับ | เอ็ด บูน |
อำนวยการผลิต | จอห์น พอดลาเสก |
ออกแบบ | เอ็ด บูน เปาโล การ์เซีย ไบรอัน เลอแบรอน |
ศิลปิน | สตีฟ เบเรน มาร์ติน สตอลต์ซ แพฟ โคแวชิช |
เขียนบท | จอห์น โวเกิล จอน กรีนเบิร์ก อเล็กแซนเดอร์ แบร์เรนไทน์ ไบรอัน ชาร์ด |
แต่งเพลง | แดน ฟอร์เดน เชส แอชเบเคอร์ ริช คาร์ล ไบรอัน ชาร์ด |
ชุด | มอร์ทัลคอมแบต |
เอนจิน | เรนเดอร์แวร์ |
เครื่องเล่น | ดีเซปชัน อันเชนด์ |
วางจำหน่าย | เพลย์สเตชัน 2 และเอกซ์บอกซ์
เพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล
|
แนว | ต่อสู้ |
รูปแบบ | ผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น |
มอร์ทัลคอมแบต: ดีเซปชัน (อังกฤษ: Mortal Kombat: Deception) เป็นเกมต่อสู้ ค.ศ. 2004 ที่พัฒนาและเผยแพร่โดยบริษัทมิดเวย์ โดยเป็นภาคหลักลำดับที่หกของแฟรนไชส์มอร์ทัลคอมแบต และเป็นภาคต่อของมอร์ทัลคอมแบต: เดดลีอัลไลแอนซ์ ที่เปิดตัวใน ค.ศ. 2002 เกมดังกล่าววางจำหน่ายสำหรับเครื่องเพลย์สเตชัน 2 และเอกซ์บอกซ์ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2004, สำหรับเกมคิวบ์ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2005 รวมถึงต่อมาได้มีการพอร์ตไปยังเครื่องเพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล ภายใต้ชื่อมอร์ทัลคอมแบต: อันเชนด์ ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2006 ซึ่งมอร์ทัลคอมแบต: ดีเซปชัน เป็นเรื่องราวต่อจากภาคห้าที่ชื่อเดดลีอัลไลแอนซ์ เรื่องราวของเกมนี้มุ่งเน้นไปที่การฟื้นคืนชีพของราชามังกรที่ชื่อโอนากะผู้พยายามที่จะยึดครองอาณาจักรต่าง ๆ ตามเนื้อเรื่องในซีรีส์ หลังจากเอากำจัดหมอผีอย่างฉวนชือและช่างจง ที่เป็นศัตรูหลักในภาคก่อน รวมถึงเทพเจ้าสายฟ้าอย่างไรเดน ผู้ปกป้องเอิร์ธเรล์มได้ โดยเหล่านักรบที่รอดชีวิตจากภาคก่อนร่วมมือกันเพื่อเผชิญหน้ากับโอนากะ
เกมนี้มีตัวละครทั้งหมดยี่สิบหกตัวที่สามารถเล่นได้ โดยมีเก้าตัวที่ปรากฏตัวครั้งแรกในภาคนี้ ภาคดีเซปชันนำเสนอคุณสมบัติใหม่หลายอย่างในซีรีส์ เช่น เกมหมากรุกและเกมปริศนาที่มีตัวละครมอร์ทัลคอมแบต ตลอดจนโหมดออนไลน์ ส่วนโหมดคอนเควสต์กลับมาจากภาคเดดลีอัลไลแอนซ์ แต่ติดตามชีวิตของชูจิงโก ซึ่งเป็นนักรบที่ถูกโอนากะหลอกให้ค้นหาวัตถุที่จะมอบพลังให้แก่โอนากะมากขึ้น โหมดคอนเควสต์ของภาคดีเซปชันแตกต่างอย่างมากจากโหมดคอนเควสต์ของภาคเดดลีอัลไลแอนซ์ โดยการที่มีองค์ประกอบของการสำรวจโอเพนเวิลด์ในระหว่างการดำเนินเรื่อง แทนที่จะเป็นคอมแบตทาวเวอร์ของภาคเดดลีอัลไลแอนซ์
เอ็ด บูน ผู้ร่วมสร้างซีรีส์ได้ออกแบบภาคดีเซปชันให้เป็นเกมต่อสู้ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น มินิเกมเป็นเซอร์ไพรส์เช่นกัน ส่วนต่าง ๆ หลายส่วนจากภาคเดดลีอัลไลแอนซ์ เช่น คอมโบและสนามประลองได้รับการออกแบบใหม่ให้สมจริงมากขึ้นและยังโต้ตอบได้มากขึ้น ภาคดีเซปชันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักวิจารณ์วิดีโอเกม ซึ่งชื่นชมการต่อสู้และคุณสมบัติใหม่ อย่างไรก็ตาม โหมดคอนเควสต์ได้รับการติเตียนถึงการพากย์เสียงที่แย่ ขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับระบุว่ามอร์ทัลคอมแบต: ดีเซปชัน เป็นเกมต่อสู้ที่ดีที่สุดแห่ง ค.ศ. 2004
รูปแบบการเล่น
[แก้]สมรภูมิของเกมนี้จะคล้ายกับสมรภูมิของมอร์ทัลคอมแบต: เดดลีอัลไลแอนซ์ แต่มีคุณสมบัติใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา โดยบางตัวละครมีอาวุธที่สามารถหยิบมาใช้ได้ นอกจากนี้มีการแตกแขนงฉากออกไป ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นสามารถกระแทกคู่ต่อสู้ออกจากพื้นที่การต่อสู้ในสถานที่บางแห่ง แล้วดำเนินการต่อสู้ต่อในพื้นที่ใหม่ได้ โดยช่วงดังกล่าวในเกือบทุกด่านจะมีกับดักมรณะ ซึ่งจะสังหารผู้เล่นที่โดนกับดักนั้นทันที เกมภาคนี้ยังเปิดตัว "คอมโบเบรกเคอร์" (Combo Breaker) ซึ่งเป็นระบบที่ผู้เล่นสามารถหยุดคอมโบได้สูงสุดสามครั้งต่อแมตช์[1] และตรงกันข้ามกับภาคเดดลีอัลไลแอนซ์ ที่บรรดาตัวละครมีฟาแทลลิตีเพียงครั้งเดียว ส่วนบรรดาตัวละครภาคดีเซปชันมีฟาแทลลิตีสองครั้งและมีท่าฆ่าตัวตายแบบฮารากิริ โดยอย่างหลังนี้ใช้เมื่อมีวลี "ฟินิชฮีม/เฮอร์" ปรากฏบนหน้าจอและผู้เล่นกำลังจะแพ้[2]
ภาคดีเซปชันนำเสนอมินิเกมสองเกมที่ใช้ตัวละครมอร์ทัลคอมแบตได้แก่ "เชสคอมแบต" (Chess Kombat) และ "พัซเซิลคอมแบต" (Puzzle Kombat) ส่วนโหมดคอนเควสต์ได้กลับมาอีกครั้ง แต่ได้รับการขยายให้กลายเป็นเกมผจญภัยแบบเร่ร่อนที่มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง
"คริปต์" (Krypt) ได้กลับมาจากมอร์ทัลคอมแบต: เดดลีอัลไลแอนซ์ และทำหน้าที่เป็นส่วนต่อประสานสำหรับเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษที่ซ่อนอยู่ใน "คอฟฟินส์" (ในเกมได้จงใจสะกดผิดเป็น koffins โดยเป็นเครื่องหมายการค้าของซีรีส์นี้ ที่ตามความเป็นจริงต้องสะกดว่า coffins ซึ่งหมายถึงโลงศพ) โดยภาคดีเซปชัน ขอบเขตของคริปต์ลดลงจาก 676 คอฟฟินส์ (โลงศพ) เหลือ 400 คอฟฟินส์ และคอฟฟินส์บางโลงมีแม่กุญแจที่ต้องใช้ซึ่งหาได้ในโหมดคอนเควสต์เท่านั้น ทั้งนี้ คริปต์ในเกมมอร์ทัลคอมแบต: ดีเซปชัน ประกอบด้วยตัวละครโบนัสจำนวนสิบสองตัว (ซึ่งในเวอร์ชันเกมคิวบ์ถูกตัดเหลือเพียงหกตัว)[3]
โหมดคอนเควสต์
[แก้]โหมดฝึกฝนรูปแบบเกมแอ็กชันเล่นตามบทบาทของภาคเดดลีอัลไลแอนซ์ที่เรียกว่า "คอนเควสต์" (Konquest) ได้กลับมาอีกครั้งในภาคดีเซปชัน และได้รับการขยายอย่างมากจากเวอร์ชันก่อนหน้า โหมดคอนเควสต์ของภาคดีเซปชันเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในเกมหลัก โดยจะสำรวจประวัติของชูจิงโก ซึ่งเริ่มก่อนที่เขาจะฝึกกับโบ ไร โช และจบลงที่จุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่องหลักภาคดีเซปชัน ที่แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมผจญภัย แต่องค์ประกอบการต่อสู้จะเกิดขึ้นในโหมดต่อสู้ภาคดีเซปชันปกติ ส่วนการฝึกการเคลื่อนไหวของตัวละครแต่ละตัวให้เชี่ยวชาญนั้นเป็นเพียงภารกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น และไม่จำเป็นต้องชนะตัวละครทั้งหมดเพื่อชนะโหมดเกมนี้อีกต่อไป ในคอนเควสต์นี้ ชูจิงโกวัยหนุ่มได้พบกับดามาชิ สิ่งมีชีวิตที่ขอความช่วยเหลือในการรวบรวมไอเทมทรงพลังหกชิ้นซึ่งเรียกว่าคามิโดกุ เพื่อส่งให้แก่พวกเอลเดอร์ก็อด ครั้นเมื่อเขาเก็บรวบรวมคามิโดกุทั้งหกชิ้นเสร็จ ชูจิงโกก็เป็นชายชราแล้ว ซึ่งใช้เวลาสี่สิบหกปีในการปฏิบัติภารกิจของเขา อย่างไรก็ตาม ดามาชิกลับถูกเปิดเผยว่าเป็นราชามังกรแห่งความชั่วร้ายที่ชื่อโอนากะ ผู้ซึ่งหลอกชูจิงโกเพื่อให้ได้คามิโดกุทั้งหกมา ทั้งนี้ ผู้เล่นที่ต้องการปลดล็อกเนื้อหาโบนัสส่วนใหญ่ในภาคดีเซปชันจะต้องเล่นผ่านโหมดคอนเควสต์ และแม้ว่าจะจบโหมดดังกล่าวแล้ว แต่ผู้เล่นยังสามารถสำรวจโลกต่อไปเพื่อปลดล็อกไอเทมเพิ่มเติมได้[4]
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ บริษัทจัสต์เกมอินเตอร์แอกทีฟได้พอร์ตเกมนี้ไปยังเพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Kombat tips". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 3, 2009. สืบค้นเมื่อ February 16, 2009.
- ↑ "Mortal Kombat: Deception Video Tour". GameSpot. July 22, 2004. สืบค้นเมื่อ February 17, 2009.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Krypt guide". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 2, 2009. สืบค้นเมื่อ February 16, 2009.
- ↑ "Konquest guide". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 22, 2009. สืบค้นเมื่อ February 16, 2009.