ข้ามไปเนื้อหา

พ่อขุนเมือง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พ่อขุนเมือง
ဘောငံမုန်
รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงแห่งหงสาวดี
ครองราชย์ใน ค.ศ. 1382 – 2 มกราคม ค.ศ. 1384
ก่อนหน้าพระยาอู่
ถัดไปพ่อลาวแก่นท้าว (รัชทายาทโดยสันนิษฐาน)
ประสูติป. ค.ศ. 1370
พะโค อาณาจักรหงสาวดี
สวรรคตค.ศ. 1389/90
ปี 751 ME
พะโค อาณาจักรหงสาวดี
ราชวงศ์หงสาวดี
พระราชบิดาพระยาอู่
พระราชมารดาราชเทวี
ศาสนาพุทธเถรวาท

พ่อขุนเมือง หรือ พ่อขวัญเมือง (พม่า: ဘောခုံမှိုင်း, [bɔ́ kʰòʊɴ m̥áɪɴ] หรือ ဘောငံမုန်, [bɔ́ ŋàɴ mòʊ̯ɴ]; ป. 1370 – 1389/90) เป็นรัชทายาทแห่งอาณาจักรหงสาวดี ระหว่างปลายรัชสมัยของพระราชบิดา พระยาอู่ หลังจากการสวรรคตของพระยาอู่พระองค์ถูกจับคุมขังโดยพระเชษฐาต่างพระมารดา พระเจ้าราชาธิราช ซึ่งเข้ายึดราชบัลลังก์ด้วยความช่วยเหลือจากราชสำนัก พระองค์ถูกสำเร็จโทษใน ค.ศ. 1389/90

พระประวัติ

[แก้]

พระองค์เป็นพระราชโอรสของ พระยาอู่ ที่ประสูติแต่ พระนางสิริราชเทวีแห่งหงสาวดี มีพระนามว่า พ่อขุนเมือง[note 1] พระมารดาของพระองค์เป็นพระสนมมาก่อนแต่ภายหลังกลายเป็นพระมเหสีพร้อมพระอิสริยยศว่า ราชเทวี[1] พระองค์ประสูติ ป. ค.ศ. 1370[note 2]

ตามพงศาวดารราชาธิราช ได้บันทึกไว้ว่าพระองค์หล่อเหลาและสำรวมจึงเป็นที่โปรดปรานของพระราชบิดา[2] พระยาอู่ผู้เป็นพระบิดาจึงสถาปนาพ่อขุนเมืองเป็นรัชทายาทเมื่อ พ.ศ. 1925[3] ต่อมาใน ค.ศ. 1383 พระพลานามัยของพระยาอู่ทรุดโทรมลงพระองค์จึงยกพระราชอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินให้กับ พระมหาเทวีแห่งหงสาวดี พระเชษฐภคินีทำให้เกิดกลุ่มการเมืองที่ต่อต้านพระนางอย่างลับ ๆ ขึ้นในพระราชสำนัก พ่อขุนเมืองมีคู่แข่งที่น่ากังวลคือพระเชษฐาต่างพระมารดา พระยาน้อย ซึ่งถูกเกลี้ยกล่อมโดยเสนาบดี สมิงชีพราย ให้เริ่มต้นการกบฏ พระองค์ถูกสมเด็จพระปิตุจฉา (ป้า) คุกคามมากเกินไป พระองค์จึงได้ประกาศเป็นพันธมิตรกับพระยาน้อยด้วยพระองค์เอง[4]

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1383 พระยาน้อยเริ่มต้นการกบฏที่ ตะเกิง 60 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ของราชธานีหงสาวดี[5] หลังการสวรรคตของพระยาอู่ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1384 ราชสำนักได้อัญเชิญพระยาน้อยขึ้นสืบราชบัลลังก์เถลิงพระนามว่า พระเจ้าราชาธิราช พ่อขุนเมืองไม่ได้คัดค้านการขึ้นครองราชย์ของพญาน้อย[6] ทำให้กษัตริย์องค์ใหม่พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้พ่อขุนเมืองเป็น Binnya Dok (ဗညားဒုတ်, [bəɲá doʊ̯ʔ])[6]

แม้ในตอนแรกจะมีท่าทีเช่นนั้น แต่พระเจ้าราชาธิราชไม่เคยไว้วางใจพระอนุชาต่างพระราชมารดาเลย พระองค์ไม่สามารถลืมพระราชดำรัสซ้ำ ๆ ของพระราชบิดาของทั้งสองที่ว่าพ่อขุนเมืองจะได้เป็นกษัตริย์ หลังจากนั้นไม่นาน พระองค์สั่งให้จำคุกพ่อขุนเมือง[7] พ่อขุนเมืองใช้เวลาอยู่ในคุก 5 ปี เจ้าชายถูกประหารชีวิตตามพระราชดำรัสสั่งของพระเจ้าราชาธิราชในฤดูแล้งของ ค.ศ. 1389–90 ในเวลานั้น พระเจ้าราชาธิราชเสด็จอยู่ที่พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี โดยต่อสู้ต่อกองทัพของสมิงเลิกพร้าแห่งมย่องเมียะ พระองค์ทรงกังวลว่าพ่อขุนเมืองอาจถูกปล่อยตัว และอาจยึดครองพะโคตอนที่พระองค์อยู่แนวหน้า โดยขณะอยู่ที่ฐานทัพใน Dala-Twante พระองค์ทรงสั่งให้ผู้บัญชาการ E Kaung Bein ให้ประหารชีวิตพ่อขุนเมือง[7] (ภายหลังในฤดูแล้งปีเดียวกัน พระเจ้าราชาธิราชทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ประหารชีวิตพ่อลาวแก่นท้าวตอนพระชนมายุ 7 พรรษา เนื่องจากกังวลว่าพระราชโอรสอาจแก้แค้นจากการอัตวินิบาตกรรมของตะละแม่ท้าว พระราชมารดาของพ่อลาวแก่นท้าว[8])

หมายเหตุ

[แก้]
  1. (Pan Hla 2005: 47, footnote 6): Baw Ngan-Mohn ตามพงศาวดารมอญฉบับปากลัด; Baw Khon-Hmaing ตามราชาธิราช
  2. ราชาธิราช (Pan Hla 2005: 185) ระบุว่าพ่อขุนเมืองทรงหนุ่มกว่าพญาน้อย (พระเจ้าราชาธิราช) ผู้เสด็จพระราชสมภพใน ค.ศ. 1368

อ้างอิง

[แก้]
  1. Pan Hla 2005: 44–45, 47
  2. Pan Hla 2005: 47–48
  3. Pan Hla 2005: 64
  4. Pan Hla 2005: 81
  5. Pan Hla 2005: 94
  6. 1 2 Pan Hla 2005: 158
  7. 1 2 Pan Hla 2005: 185
  8. Pan Hla 2005: 194–195

บรรณานุกรม

[แก้]
  • Pan Hla, Nai (2005) [1968]. Razadarit Ayedawbon (ภาษาพม่า) (8th printing ed.). Yangon: Armanthit Sarpay.