พูดคุย:รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
|
|
รถไฟเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ[แก้]
รถไฟเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ
สยามรัฐ ฉบับวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552
สุกัญญา เงาสุรัชนี
สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และวิเคราะห์ความเสี่ยงThe Institute of Strategies and Analysis of Risk
www.theistar.org
ในที่สุดโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) ก็มีกำหนดการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนเมษายน 2553 หลังจากที่มีการเลื่อนหลายครั้ง โดยมีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นเจ้าของและเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าวิ่งบนทางยกระดับเลียบทางรถไฟสายตะวันออก เริ่มแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน2550 แต่เนื่องจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าของ ร.ฟ.ท. ภาวะน้ำท่วมและภาวะเศรษฐกิจ ทำให้โครงการนี้ล่าช้าไป 2 ปีกว่า (โดยผู้รับเหมาไม่เสียค่าปรับใดๆ) ส่งผลให้ต้นทุนของโครงการที่เริ่มจาก25,907 ล้านบาท กลายเป็น 29,746 ล้านบาท (รวมค่าชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ หรือค่าเค 721 ล้านบาทและค่าก่อสร้างทางเดินยกระดับเชื่อมต่อกับสถานีพญาไทของบีทีเอสและสถานีเพชรบุรีของรถไฟฟ้ามหานคร 98 ล้านบาท)
โครงการนี้ให้บริการเดินรถ 2 แบบ คือรถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยาน (Express Line) เป็นรถคาดสีแดง วิ่งระหว่างสถานีสุวรรณภูมิ(อยู่ใต้อาคารผู้โดยสารของสนามบิน) กับสถานีมักกะสันโดยไม่จอดระหว่างทาง ระยะทาง 25.7 กม. ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 15 นาทีโดยมีสถานีมักกะสันเป็นสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมืองหรือ City Air Terminal (CAT) หมายความว่าผู้ที่จะขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิสามารถเช็กอินเพื่อขึ้นเครื่องบินได้ที่สถานีมักกะสัน หลังจากเช็กอินแล้ว กระเป๋าเดินทางจะถูกส่งเข้าตู้รถขนกระเป๋าเดินทางเพื่อแยกขึ้นเครื่องบินต่อไป ดังนั้นขบวนรถจะต่อเป็นแบบ 4 ตู้ต่อขบวน โดยมีตู้สุดท้ายเป็นตู้ขนกระเป๋าเดินทาง อีก3 ตู้เป็นตู้รถโดยสาร ที่นั่งภายในตู้รถโดยสารเป็นเบาะกำมะหยี่ตั้งตำแหน่งตามความกว้างของรถ แบ่งเป็น 2 แถวๆ ละ 2 ที่นั่ง ส่วนราคาคาดว่าจะเป็น 150 บาทต่อเที่ยว
แบบที่สองเรียกว่ารถไฟฟ้าท่าอากาศยาน (City Line) เป็นรถคาดสีน้ำเงิน วิ่งระหว่างสถานีสุวรรณภูมิกับสถานีพญาไท จอดแวะระหว่างทางรวม 6 สถานี ได้แก่ สถานีลาดกระบัง สถานีบ้านทับช้าง สถานีหัวหมาก สถานีรามคำแหง สถานีมักกะสันและสถานีราชปรารภ ระยะทาง 28.5 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (ความเร็วเฉลี่ยน้อยกว่าแบบรถไฟฟ้าด่วน) ราคาคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 15-45 บาทต่อเที่ยว รถขบวนนี้จะต่อแบบ 3 ตู้รถโดยสารต่อขบวน ที่นั่งภายในเหมือนบีทีเอส จุผู้โดยสารได้ 745 คน (นั่ง 150 ยืน 595)คาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวน 14,000-50,000 คนต่อวันต่อทิศทาง
ถึงแม้จะล่าช้ามา 2 ปีกว่า แต่ในหลายๆ เรื่องก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี เหมือนทำไป คิดไป เช่นการทำทางเชื่อมกับระบบรถไฟฟ้าอื่นที่จอดรถก็จัดทำไว้ที่สถานีมักกะสันจำนวน 300 คัน แต่สถานีอื่นยังไม่ปรากฏ คงจะทำให้การ "จอดแล้วจร" (Park and ride)เหมือนรถไฟฟ้าระบบอื่นเป็นไปได้ลำบากแต่ก็อาจทำให้เอกชนที่มีอาคารจอดรถใกล้ๆ สถานีได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ ที่สำคัญใครจะเป็นผู้บริหารโครงการนี้เมื่อเปิดเชิงพาณิชย์ก็ยังไม่มีความชัดเจนแต่ที่แน่ๆ ร.ฟ.ท.จ้างบริษัทรถไฟจากเยอรมนีในวงเงิน 85 ล้านบาทให้มาเป็นที่ปรึกษาและบริหารจัดการเดินรถ มีสัญญาคราวละ 3 ปีแทนการก่อตั้งบริษัทลูกที่ยังตกลงกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจไม่ได้และยังต้องรออนุมัติจาก รมต.คมนาคม
แม้จะมีการคาดการณ์ว่าระยะเวลาคืนทุนของโครงการนี้จะยาว (ไปมาก) ถึง 15 ปี โดยคาดว่าปีแรกที่เปิดบริการจะขาดทุนและจะเริ่มชำระคืนเงินต้นได้บางส่วนในปีที่ 5 ทั้งนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทหลังจากปีที่ 10 ขึ้นไป แต่โครงการนี้เป็นรถไฟฟ้าสายแรกที่วิ่งออกชานเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ทำงานในสนามบินสุวรรณภูมิและตามเส้นทางรถไฟ หรือผู้ที่อยู่ชานเมืองเข้าไปทำธุระหรือทำงานในเมืองสามารถเดินทางได้รวดเร็วและกำหนดเวลาได้ อันจะทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นรถติดน้อยลง นอกจากนี้ยังทำให้นักท่องเที่ยวสามารถยืดเวลาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯได้นานขึ้น (อีกหน่อย) โดยสามารถไปเช็กอินกระเป๋าที่สถานีมักกะสันก่อน แล้วค่อยไปขึ้นเครื่องทีหลังได้ และนักท่องเที่ยว หรือคนไทยสามารถเดินทางออกจากสนามบินได้สะดวกมากขึ้นไม่ต้องง้อแท็กซี่ (ที่ชอบทำหน้าผิดหวังเวลาได้ลูกค้าคนไทย) แล้วล่ะ
แยกบทความ[แก้]
ควรแยกส่วนที่เป็นรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาเป็นบทความต่างหาก เพื่อไม่ให้ผู้อ่านเกิดความสับสน เนื่องจากเป็นชื่อสายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนการต่อขยายที่จะไปรวมกับรถไฟความเร็วสูงนั้นยังเป็นเพียงโครงการ ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างด้วยซ้ำ --Portalian (คุย) 22:52, 27 กันยายน 2561 (ICT)
ส่วนที่นำออกจากบทความ[แก้]
เนื่องจากการประมูลได้เสร็จสิ้นลงอย่างเป็นทางการ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติสัญญาสัมปทานระหว่างกลุ่ม CPH รฟท. และ EECO แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเก็บส่วนนี้ไว้ในบทความอีกต่อไป--Magnamonkun (คุย) 16:10, 28 พฤษภาคม 2562 (ICT)
ผู้เข้าร่วมยื่นข้อเสนอการลงทุน[แก้]
การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เปิดให้เอกชนที่สนใจเข้าซื้อเอกสารประกวดราคาสำหรับเข้าร่วมประมูลโครงการตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 โดยมีเอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการทั้งหมด 31 ราย และได้ยื่นเอกสารเข้าร่วมการประมูลในนามกิจการร่วมค้าทั้งหมด 2 ราย จากเอกชน 8 รายดังต่อไปนี้
ชื่อบริษัทฯ | ประเทศ | ผลการยื่นข้อเสนอ | |||
---|---|---|---|---|---|
คุณสมบัติทั่วไป | ข้อเสนอทางเทคนิค | ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน (เงินที่รัฐฯ ร่วมลงทุนในโครงการ) (ล้านบาท) |
ข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม | ||
กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ | ผ่าน | ผ่าน | 169,934 (+50,509) |
| |
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) | ไทย | ||||
บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) | ไทย | ||||
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) | ไทย | ||||
กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตรร่วมค้า | ผ่าน | ผ่าน | 117,227 (-2,198) |
ข้อเสนอที่ผ่านการพิจารณา
| |
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด | ไทย | ||||
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) | ไทย | ||||
บริษัท ไชน่า เรลเวยส์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชัน จำกัด | จีน | ||||
บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) | ไทย | ||||
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) | ไทย |
แผนการปฏิบัติงาน[แก้]
- ประกาศเชิญชวนนักลงทุน : 30 พฤษภาคม - 17 มิถุนายน พ.ศ. 2561
- ขายเอกสารประกวดราคาแก่นักลงทุน : 18 มิถุนายน - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
- เปิดรับคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงทุนจากเอกชน : 10 กรกฎาคม - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2561
- จัดการประชุมชี้แจงเงื่อนไขการประมูลแก่เอกชนที่สนใจ ครั้งที่ 1 : 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
- พาเอกชนที่สนใจลงพื้นที่สำรวจโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสำรวจแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก : 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
- จัดการประชุมชี้แจงเงื่อนไขการประมูลแก่เอกชนที่สนใจ ครั้งที่ 2 : 24 กันยายน พ.ศ. 2561
- ให้เอกชนยื่นข้อเสนอการลงทุน : 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
- พิจารณาข้อเสนอการลงทุน
- เอกชนยื่นข้อเสนอการลงทุน : 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
- ประเมินซองที่ 1 (คุณสมบัติทั่วไป) : 13 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
- ประเมินซองที่ 2 (ข้อเสนอทางเทคนิค) : 20 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561
- ประเมินซองที่ 3 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) : 12 - 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561
- ประกาศผลผู้ได้รับคัดเลือกเบื้องต้น : 18 ธันวาคม - 1 มกราคม พ.ศ. 2562
- อัยการสูงสุด ตรวจร่างสัญญาสัมปทาน : 2 - 14 มกราคม พ.ศ. 2562
- นำเสนอผลการคัดเลือกต่อ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) : 15 - 17 มกราคม พ.ศ. 2562
- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) นำเสนอผลการคัดเลือกต่อ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) : 18 - 28 มกราคม พ.ศ. 2562
- นำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ : 28 - 31 มกราคม พ.ศ. 2562
- ลงนามในสัญญาสัมปทาน : 31 มกราคม พ.ศ. 2562
- เริ่มก่อสร้าง : พ.ศ. 2562
- เปลี่ยนถ่ายผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ : พ.ศ. 2564 - พ.ศ. 2565
- เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ : ภายใน พ.ศ. 2567 --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ Magnamonkun (พูดคุย • หน้าที่เขียน) 16:10, 28 พฤษภาคม 2562 (ICT)