ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดิเรก อิงคนินันท์"
Suphakorn343 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพิ่มเครื่องอิสริยาภรณ์ไทยไม่มีอ้างอิง |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 25: | บรรทัด 25: | ||
== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ == |
== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ == |
||
{{ม.ป.ช.|2542}}<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2542/B/020V001/1.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย], เล่ม ๑๑๖ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๔, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๐</ref> |
|||
{{ม.ป.ช.}} |
|||
{{ม.ว.ม.}} |
{{ม.ว.ม.}} |
||
{{ร.จ.พ.}} |
{{ร.จ.พ.}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:44, 26 กรกฎาคม 2564
ดิเรก อิงคนินันท์ | |
---|---|
ประธานศาลฎีกา คนที่ 42 | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 – 30 กันยายน พ.ศ. 2558 | |
ก่อนหน้า | ไพโรจน์ วายุภาพ |
ถัดไป | วีระพล ตั้งสุวรรณ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 31 ตุลาคม พ.ศ. 2493 |
ศาสนา | พุทธ |
ดิเรก อิงคนินันท์ (31 ตุลาคม พ.ศ. 2493 - ) ประธานศาลฎีกาคนที่ 42 เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2493[1] สำเร็จการศึกษา นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2515 และเนติบัณฑิตไทย (สอบไล่ได้ลำดับที่ 1)จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา 2517[2]
การทำงาน
รับราชการครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2520 ในตำแหน่งอัยการผู้ช่วย เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา ได้เป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพิษณุโลก ผู้พิพากษาศาลจังหวัดอ่างทอง ผู้พิพากษาศาลแขวงพระนครใต้ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเบตง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงราชบุรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดราชบุรี ผู้พิพากษาศาลแรงงานกลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพระนครใต้ และผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่งกรุงเทพใต้ตามลำดับ ได้ทำงานในศาลฎีกาครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2537 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ต่อมาย้ายไปเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 แล้วกลับมาทำงานในศาลอุธรณ์ในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 9 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ และประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลอุทธรณ์ภาค 6 ตามลำดับ ได้กลับมาทำงานในศาลฎีกาอีกครั้งเมื่อพ.ศ. 2548 เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา เลื่อนขึ้นเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา และรองประธานศาลฎีกาตามลำดับ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา เมื่อพ.ศ. 2556[3] แทนไพโรจน์ วายุภาพ และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นกรรมการกฤษฎีกาตั้งแต่ พ.ศ. 2558
รางวัลที่ได้รับ
- ได้รับปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2555 จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2542 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[4]
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
อ้างอิง
- ↑ ดิเรก อิงคนินันท์ จากเว็บไซต์ www.supremecourt.or.th
- ↑ ประวัติประธานศาลฎีกา. สำนักประธานศาลฎีกา
- ↑ “ดิเรก อิงคนินันท์”ผงาดนั่งประธานศาลฎีกาคนที่ 42. จากเดลินิวส์. วันศุกร์ 19 กรกฎาคม 2556
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๑๖ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๔, ๒ ธันวาคม ๒๕๔๐
ก่อนหน้า | ดิเรก อิงคนินันท์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ไพโรจน์ วายุภาพ | ประธานศาลฎีกา (คนที่ 42) (1 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 30 กันยายน พ.ศ. 2558) |
วีระพล ตั้งสุวรรณ |