ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (นวนิยาย)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
ใส่ลิงก์ข้ามภาษาด้วยบอต
บรรทัด 41: บรรทัด 41:
[[ar:قلعة هاول المتحركة]]
[[ar:قلعة هاول المتحركة]]
[[cs:Hauru no ugoku širo]]
[[cs:Hauru no ugoku širo]]
[[da:Det levende slot]]
[[de:Das wandelnde Schloss]]
[[de:Das wandelnde Schloss]]
[[el:Το Κινούμενο Κάστρο]]
[[el:Το Κινούμενο Κάστρο]]
[[en:Howl's Moving Castle (film)]]
[[en:Howl's Moving Castle (film)]]
[[es:El castillo ambulante]]
[[eo:Hauru no ugoku shiro]]
[[es:Hauru no Ugoku Shiro]]
[[fa:قصر متحرک هاول]]
[[fi:Liikkuva linna]]
[[fr:Le Château ambulant]]
[[fr:Le Château ambulant]]
[[he:הטירה הנעה (סרט)]]
[[he:הטירה הנעה (סרט)]]
บรรทัด 51: บรรทัด 55:
[[it:Il castello errante di Howl]]
[[it:Il castello errante di Howl]]
[[ja:ハウルの動く城]]
[[ja:ハウルの動く城]]
[[nl:Howl's Moving Castle]]
[[no:Det levende slottet]]
[[no:Det levende slottet]]
[[pl:Ruchomy zamek Hauru]]
[[pl:Ruchomy zamek Hauru]]
[[pt:Hauru no ugoku shiro]]
[[pt:Hauru no ugoku shiro]]
[[ru:Ходячий замок (аниме)]]
[[ru:Ходячий замок (аниме)]]
[[fi:Liikkuva linna]]
[[sv:Det levande slottet]]
[[sv:Det levande slottet]]
[[zh:哈尔移动城堡]]
[[zh:哈尔移动城堡]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:49, 14 กุมภาพันธ์ 2551

ไฟล์:Howls hard us2001 sm.jpg

ฮาวล์สมูฟวิงแคสเสิล (Howl's Moving Castle) เป็นนิยายสำหรับเด็กแนวแฟนตาซี เขียนโดยนักเขียนชาวอังกฤษ ไดแอนา ไวนน์ โจนส์ (Diana Wynne Jones) ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1986 และมีการดัดแปลงทำเป็นภาพยนตร์อะนิเมะชั่นในปี ค.ศ. 2004 โดยผู้กำกับชาวญี่ปุ่น ฮายาโอะ มิยาซากิในสตูดิโอจิบลิ

ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทยครั้งแรกในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 โดยสำนักพิมพ์มติชน แปลโดยเศรษฐศิริ วงศ์ศรานนท์ และใช้ชื่อภาษาไทยว่า ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์

ภาพยนตร์แอนิเมชัน

ไฟล์:Howls moving castle.jpg

ได้มีการทำเป็นภาพยนตร์การ์ตูนโดยสตูดิโอจิบลิ ภายใต้การกำกับโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ ซึ่งดัดแปลงจากเนื้อหาในหนังสือของไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ ใช้ชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า ฮาอุรุโนะอุโงะกุชิโระ (ハウルの動く城, ハウルのうごくしろ) และในชื่อภาษาอังกฤษว่า ฮาวล์สมูฟวิงแคสเสิล (Howl's Moving Castle)

ในตอนแรก ผู้กำกับดิจิมอนในภาคที่ฉายทางทีวีและในภาพยนตร์ มาโมรุ โฮโซดะ (Mamoru Hosoda) ได้รับการคัดเลือกให้มากำกับภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ แต่ภายหลังได้ออกจากการเข้าร่วมโปรเจคนี้ และมิยาซากิได้เข้ามารับหน้าที่แทน ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2004 และฉายสู่สายตาชาวโลกในงาน เทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส (Venice Film Festival) ในวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2004 และจัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือโดย บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส และได้ออกฉายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาประมาณวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2005

ไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ ผู้แต่ง ได้พบกับตัวแทนของสตูดิโอจิบลิ แต่ไม่ได้มีส่วนในการสร้างภาพยนตร์ เธอได้กล่าวว่า 'มันเยี่ยมมาก ไม่ ฉันไม่ได้ออกความเห็นในภาพยนตร์ ฉันเขียนหนังสือ ไม่ใช่ภาพยนตร์ ใช่ มันจะต่างจากในหนังสือ จริงๆแล้วก็แตกต่างมากทีเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรจะเป็น มันจะเป็นหนังที่เยี่ยมมาก' มิยาซากิได้เดินทางไปอังกฤษในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2004 เพื่อให้โจนส์ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการส่วนตัวด้วย

อย่างที่โจนส์ได้กล่าวไว้ เนื้อหาในภาพยนตร์แตกต่างจากในหนังสือมากทีเดียว ภาพยนตร์ยังเน้นไปที่โซฟี และการผจญภัยต่างๆของเธอในขณะที่ถูกสาปเป็นหญิงชราเหมือนในหนังสือ แต่เหตุการณ์ในภาพยนตร์เกิดขึ้นในช่วงสงคราม ซึ่งทำให้นึกถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และอยู่ในประเทศเยอรมนี ฮาวล์ก็พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมสงครามเพื่อพระราชา และต้องจัดการกับการตัดสินใจต่างๆของเขา ภาพยนตร์ นอกจากนี้ ฉากต่างๆในภาพยนตร์ได้รวมฉากของสงครามและฉากตามในหนังสือ

โครงเรื่อง

ไฟล์:HowlsMovingCastleMoviePosterJapan.jpg
โซฟี โดนสาปให้เป็นยายแก่ และผจญภัยในโลกใหม่

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้หญิง ชื่อ โซฟี แฮตเตอร์ (Sophie Hatter) ซึ่งเป็นพี่คนโตของน้องสาวอีกสองคน อาศัยอยู่ในอาณาจักรที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์และเรื่องราวของเทพนิยายแห่งอินการี (Ingary) น้องสาวคนรองของโซฟีชื่อ เล็ตตี้ เป็นคนที่สวย ในขณะที่น้องคนเล็กชื่อ มาร์ทา เป็นคนที่ฉลาด โซฟีจึงมักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่น่าสนใจและไม่ฉลาด โซฟีได้สืบทอดกิจการร้านขายหมวกของครอบครัว จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อแม่มดแห่งทุ่งร้าง ได้สาปให้โซฟีกลายเป็นหญิงชราอายุ 90 ปี เพราะไปทำให้แม่มดโกรธ โซฟีเลยต้องออกจากบ้าน และได้ไปพบกับปราสาทเคลื่อนที่ของพ่อมดฮาวล์ ผู้ซึ่งถูกร่ำลือว่าชอบสะสมหัวใจของเด็กผู้หญิง แต่โซฟีในสภาพหญิงชราก็ได้เป็นแม่บ้านในปราสาทแห่งนี้ และได้เรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วพ่อมดฮาวล์เป็นคนดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่ก็เป็นคนเจ้าชู้ และชอบปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับตัวเองในแง่ลบ เพื่อความเป็นส่วนตัวของตัวเองโดยป้องกันไม่ให้ผู้คนมาให้ความสนใจมากนัก ปราสาทของฮาวล์ประกอบด้วยประตูสี่ด้าน ซึ่งแต่ละประตูเปิดออกสู่สถานที่ต่างกันถึงสี่แห่ง คือ ส่วนที่โซฟีเข้ามา บ้านเกิดของฮาวล์ในเวลส์ (ชื่อจริงของฮาวล์คือ โฮเวลล์ เจนกินส์) เมืองชายทะเลซึ่งฮาวล์ได้ค่าจ้างจากการทำมนตร์วิเศษต่างๆ และด้านที่เปิดออกสู่เมืองหลวงของอาณาจักร

โซฟีได้ต่อรองกับปิศาจไฟ ชื่อ คาลซิเฟอร์ (Calcifer) ว่า ถ้าโซฟีสามารถทำลายสัญญาระหว่างคาลซิเฟอร์และฮาวล์ได้ คาลซิเฟอร์จะต้องทำให้โซฟีกลับไปเป็นเด็กดังเดิม แต่ในสัญญาระบุว่าทั้งฮาวล์และคาลซิเฟอร์ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในสัญญาให้บุคคลอื่นรับรู้ได้ โซฟีจึงต้องเดาเอาเองว่าสัญญานั้นเป็นอย่างไร

ไมเคิล (Michael) เด็กฝึกงานของฮาวล์ เป็นผู้ทำหน้าที่จัดการกิจการต่างๆ ของฮาวล์ ซึ่งได้มาหลงรักผู้หญิงคนเดียวกับฮาวล์ คือ เล็ตตี้ (Lettie) น้องสาวคนรองของโซฟี ซึ่งเล็ตตี้ของไมเคิลจริงๆ แล้วคือ มาร์ทา (Martha) น้องสาวคนเล็กของโซฟี ที่ได้ใช้เวทมนตร์ให้ตัวเองดูคล้ายเล็ตตี้

เมื่อเจ้าชายจัสติน (Prince Justin) ได้หายสาบสูญไปจากการตามหาตัวพ่อมดซูลิมาน (Wizard Suliman) พระราชาจึงแต่งตั้งให้ฮาวล์ไปตามหาตัวทั้งสองคน พร้อมกับกำจัดแม่มดแห่งทุ่่งร้าง แต่ฮาวล์พยายามหลีกเลี่ยงภารกิจนี้ โดยการให้โซฟีแสร้งเป็นแม่ของฮาวล์และไปพูดกับพระราชาเพื่อเปลี่ยนแปลงการแต่งตั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ฮาวล์มีเหตุผลที่จะตามหาบุคคลทั้งสามอยู่แล้ว เนื่องจากแม่มดแห่งการทำลายได้สาปฮาวล์ให้เป็นคนมากรักและฆ่าอาจารย์ของฮาวล์

ฮาวล์ได้สู้กับแม่มดแห่งการทำลาย และชนะในที่สุด โซฟีก็คืนร่างเป็นเด็กดังเดิมและแต่งงานกับฮาวล์ โซฟีก็ได้ช่วยให้คาลซิเฟอร์หลุดพ้นจากสัญญาได้ด้วย

แหล่งข้อมูลอื่น