ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิฉงเจิน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Armonthap (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 18: บรรทัด 18:
}}
}}


'''จักรพรรดิฉงเจิน''' ([[6 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1610]]-[[25 เมษายน]] [[ค.ศ. 1644]]) จักรพรรดิองค์ที่ 17 และองค์สุดท้ายแห่ง[[ราชวงศ์หมิง]] เป็นพระราชโอรสใน[[จักรพรรดิไท่ชาง]] และเป็นพระราชอนุชาใน[[จักรพรรดิเทียนฉี]] เมื่อพระเชษฐาสวรรคตในปี ค.ศ. 1627 พระองค์จึงขึ้นครองราชย์สืบต่อมา จักรพรรดิฉงเจินมุ่งมั่นที่จะกอบกู้สถานการณ์ระส่ำระสายยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในราชสำนักจากความขัดแย้งระหว่างขันทีกับขุนนางราชสำนัก ทรงขับไล่[[ขันที]][[เว่ย์ จงเสียน]]ที่กำลังเรืองอำนาจยิ่งออกจากตำแหน่ง และเริ่มลดทอนอิทธิพลของขันที แต่งตั้งแม่ทัพนายกองที่มีความสามารถกลับสู่ตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะกรณีแม่ทัพ[[หยวน ชงหวน]] ที่มีชัยชนะต่อกองทัพแมนจูมาก่อนหน้า อย่างไรก็ตามจีนต้องประสบภาวะภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ความไม่พอใจของประชาชนแผ่ขยายอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ราชสำนักไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ขุนนางในหัวเมืองฉ้อฉล ขูดรีดทรัพย์สิน กลั่นแกล้งประชาชนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปี ค.ศ. 1644 [[หลี่จื้อเฉิง]] อดีตนายทหารผู้น้อย เริ่มรวบรวมสมัครพรรคพวกก่อการต่อต้านราชสำนักขึ้นจนสามารถยึดเมือง[[ซีอาน]]ได้ตั้งตนเป็นจักรพรรดิแห่ง[[ราชวงศ์ซุ่น]] กองกำลังหลี่จื้อเฉิงเคลื่อนทัพไปปิดล้อมปักกิ่งได้อย่างรวดเร็วโดยที่กองทหารของราชสำนักไม่อาจต้านทานได้เลย หลี่จื้อเฉิงยื่นคำขาดให้จักรพรรดิฉงเจินยอมจำนนบรรดาขุนนางและแม่ทัพนายกองส่วนมากยอมแพ้หรือไม่ก็หลบหนีออกจากเมืองหลวงไปก่อนหน้านั้น ในที่สุดขันทีผู้หนึ่งได้ลอบเปิดประตูเมืองให้กองทัพของหลี่จื้อเฉิงเข้าสู่เมืองหลวงได้ จักรพรรดิฉงเจินเสด็จหนีขึ้นไปยังเขาเจียงซาน ด้านเหนือของพระราชวังหลวง และผูกพระศอพระองค์เองกับต้นไม้ เสด็จสวรรคตขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 34 พรรษา
'''จักรพรรดิฉงเจิน''' ([[6 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1610]]-[[25 เมษายน]] [[ค.ศ. 1644]]) จักรพรรดิองค์ที่ 17 และองค์สุดท้ายแห่ง[[ราชวงศ์หมิง]] เป็นพระราชโอรสใน[[จักรพรรดิไท่ชาง]] และเป็นพระราชอนุชาใน[[จักรพรรดิเทียนฉี]] เมื่อพระเชษฐาสวรรคตในปี ค.ศ. 1627 พระองค์จึงขึ้นครองราชย์สืบต่อมา
จักรพรรดิฉงเจินทรงมุ่งมั่นที่จะกอบกู้สถานการณ์ระส่ำระสายยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในราชสำนักจากความขัดแย้งระหว่างขันทีกับขุนนางราชสำนัก ทรงขับไล่[[ขันที]][[เว่ยจงเสียน]]ที่กำลังเรืองอำนาจยิ่งออกจากตำแหน่ง และทรงเริ่มลดทอนอิทธิพลของขันที ทรงแต่งตั้งแม่ทัพนายกองที่มีความสามารถกลับสู่ตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะกรณีแม่ทัพ[[หยวนชงหวน]] ที่มีชัยชนะต่อกองทัพแมนจูมาก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม จีนต้องประสบภาวะภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ความไม่พอใจของประชาชนแผ่ขยายอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ราชสำนักไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ขุนนางในหัวเมืองฉ้อฉล ขูดรีดทรัพย์สิน กลั่นแกล้งประชาชนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปี ค.ศ. 1644 [[หลี่จื้อเฉิง]] อดีตนายทหารผู้น้อย เริ่มรวบรวมสมัครพรรคพวกก่อการต่อต้านราชสำนักขึ้นจนสามารถยึดเมือง[[ซีอาน]]ได้ ตั้งตนเป็นจักรพรรดิแห่ง[[ราชวงศ์ซุ่น]] กองกำลังหลี่จื้อเฉิงเคลื่อนทัพไปปิดล้อมปักกิ่งได้อย่างรวดเร็วโดยที่กองทหารของราชสำนักไม่อาจต้านทานได้เลย หลี่จื้อเฉิงยื่นคำขาดให้จักรพรรดิฉงเจินยอมจำนน บรรดาขุนนางและแม่ทัพนายกองส่วนมากยอมแพ้หรือไม่ก็หลบหนีออกจากเมืองหลวงไปก่อนหน้านั้น ในที่สุดขันทีผู้หนึ่งได้ลอบเปิดประตูเมืองให้กองทัพของหลี่จื้อเฉิงเข้าสู่เมืองหลวงได้ จักรพรรดิฉงเจินเสด็จหนีขึ้นไปยังเขาเจียงซาน ด้านเหนือของพระราชวังหลวง และผูกพระศอพระองค์เองกับต้นไม้ เสด็จสวรรคตขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 34 พรรษา


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:41, 21 มิถุนายน 2564

จักรพรรดิฉงเจิน
จักรพรรดิจีน
ไฟล์:Ming Chongzhen.jpg
จักรพรรดิพระองค์ที่ 17 แห่ง ราชวงศ์หมิง
ครองราชย์2 ตุลาคม 2170 - 25 เมษายน 2186 (15 ปี 205 วัน)
รัชสมัย15 ปี
ก่อนหน้าจักรพรรดิเทียนฉี
ถัดไปจักรพรรดิซุ่นจื้อ (ราชวงศ์ชิง)
ประสูติ6 กุมภาพันธ์ 2153
สวรรคต25 เมษายน 2186 (33 ชันษา)
พระนามเต็ม
ราชสกุล: จู
ราชทินนาม: ยู่เจี้ยน
รัชศก
ฉงเจิน (Chongzhen): 5 กุมภาพันธ์ 2171 - 25 เมษายน 2186
วัดประจำรัชกาล
หมิงซื่อจง
ราชวงศ์หมิง
พระราชบิดาจักรพรรดิไท่ชาง
พระราชมารดาเสี่ยวชุ่นไทเฮา

จักรพรรดิฉงเจิน (6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1610-25 เมษายน ค.ศ. 1644) จักรพรรดิองค์ที่ 17 และองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หมิง เป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิไท่ชาง และเป็นพระราชอนุชาในจักรพรรดิเทียนฉี เมื่อพระเชษฐาสวรรคตในปี ค.ศ. 1627 พระองค์จึงขึ้นครองราชย์สืบต่อมา จักรพรรดิฉงเจินมุ่งมั่นที่จะกอบกู้สถานการณ์ระส่ำระสายยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในราชสำนักจากความขัดแย้งระหว่างขันทีกับขุนนางราชสำนัก ทรงขับไล่ขันทีเว่ย์ จงเสียนที่กำลังเรืองอำนาจยิ่งออกจากตำแหน่ง และเริ่มลดทอนอิทธิพลของขันที แต่งตั้งแม่ทัพนายกองที่มีความสามารถกลับสู่ตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะกรณีแม่ทัพหยวน ชงหวน ที่มีชัยชนะต่อกองทัพแมนจูมาก่อนหน้า อย่างไรก็ตามจีนต้องประสบภาวะภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก ความไม่พอใจของประชาชนแผ่ขยายอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ราชสำนักไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ขุนนางในหัวเมืองฉ้อฉล ขูดรีดทรัพย์สิน กลั่นแกล้งประชาชนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปี ค.ศ. 1644 หลี่จื้อเฉิง อดีตนายทหารผู้น้อย เริ่มรวบรวมสมัครพรรคพวกก่อการต่อต้านราชสำนักขึ้นจนสามารถยึดเมืองซีอานได้ตั้งตนเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ซุ่น กองกำลังหลี่จื้อเฉิงเคลื่อนทัพไปปิดล้อมปักกิ่งได้อย่างรวดเร็วโดยที่กองทหารของราชสำนักไม่อาจต้านทานได้เลย หลี่จื้อเฉิงยื่นคำขาดให้จักรพรรดิฉงเจินยอมจำนนบรรดาขุนนางและแม่ทัพนายกองส่วนมากยอมแพ้หรือไม่ก็หลบหนีออกจากเมืองหลวงไปก่อนหน้านั้น ในที่สุดขันทีผู้หนึ่งได้ลอบเปิดประตูเมืองให้กองทัพของหลี่จื้อเฉิงเข้าสู่เมืองหลวงได้ จักรพรรดิฉงเจินเสด็จหนีขึ้นไปยังเขาเจียงซาน ด้านเหนือของพระราชวังหลวง และผูกพระศอพระองค์เองกับต้นไม้ เสด็จสวรรคตขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 34 พรรษา

อ้างอิง

Wu Luxing. 100 จักรพรรดิจีนที่โลกไม่ลืม แปลโดย ปรียานุช ปาริ. กรุงเทพฯ:ดอกหญ้า,2541.

ก่อนหน้า จักรพรรดิฉงเจิน ถัดไป
จักรพรรดิเทียนฉี จักรพรรดิจีน
(พ.ศ. 2163 - พ.ศ. 2170)
จักรพรรดิซุ่นจื้อ (ราชวงศ์ชิง)|}