ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร"
บรรทัด 42: | บรรทัด 42: | ||
ในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ที่วัดเริ่มทรุดโทรมอีกครั้ง พระยาสวัสดิวารีได้กราบทูลขอทำการบูรณปฏิสังขรณ์ แต่บูรณปฏิสังขรณ์ยังไม่ทันเสร็จ พระยาสวัสดิวารีก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมเสียก่อน แต่ไม่มีผู้ใดรับบูรณปฏิสังขรณ์ต่อไปตลอดรัชกาลที่ 3 ครั้งถึงสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิศาลศุภผล ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ และได้เพิ่มเติม โดยให้ช่างยกพระพุทธรูปในพระอุโบสถให้สูงขึ้น มีพระทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์ ต่อ[[ชุกชี]]ออกมา ทำเป็นรูปเทวราชถือพุ่มฉัตรดอกไม้ทอง ดอกไม้เงินด้วย 2 องค์<ref>[http://www.watpathumkongka.com/html/history.html ประวัติการสร้างวัด]</ref> |
ในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ที่วัดเริ่มทรุดโทรมอีกครั้ง พระยาสวัสดิวารีได้กราบทูลขอทำการบูรณปฏิสังขรณ์ แต่บูรณปฏิสังขรณ์ยังไม่ทันเสร็จ พระยาสวัสดิวารีก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมเสียก่อน แต่ไม่มีผู้ใดรับบูรณปฏิสังขรณ์ต่อไปตลอดรัชกาลที่ 3 ครั้งถึงสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิศาลศุภผล ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ และได้เพิ่มเติม โดยให้ช่างยกพระพุทธรูปในพระอุโบสถให้สูงขึ้น มีพระทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์ ต่อ[[ชุกชี]]ออกมา ทำเป็นรูปเทวราชถือพุ่มฉัตรดอกไม้ทอง ดอกไม้เงินด้วย 2 องค์<ref>[http://www.watpathumkongka.com/html/history.html ประวัติการสร้างวัด]</ref> |
||
[[การสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์|การสำเร็จโทษ]][[หม่อมไกรสร]]ด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคาฯ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391 (ตรงกับวันพุธ เดือนอ้าย แรม 3 ค่ำ ปีวอก สัมฤทธิศก จ.ศ. 1210) เป็นการสำเร็จโทษด้วยวิธีนี้ครั้งสุดท้ายกับสมาชิกราชวงศ์<ref>[http://www.banprak-nfe.com/webboard/index.php?topic=531.0 การประหารด้วยท่อนจันทน์ครั้งสุดท้าย]</ref> |
|||
วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนและกำหนดให้เขตที่ดินวัดปทุมคงคาราชวรวิหารเป็นเขตที่ดินโบราณสถาน |
วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนและกำหนดให้เขตที่ดินวัดปทุมคงคาราชวรวิหารเป็นเขตที่ดินโบราณสถาน |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:56, 16 มิถุนายน 2564
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร | |
---|---|
ไฟล์:โลโก้วัดปทุมคงคา.gif | |
ที่ตั้ง | เลขที่ 1620 ถนนทรงวาด แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร |
นิกาย | มหานิกาย |
เจ้าอาวาส | พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) |
เว็บไซต์ | http://www.watpathumkongka.org/home.php |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา |
วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร[1] ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระนคร ถนนทรงวาดติดต่อกับถนนสำเพ็ง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อ วัดสำเพ็ง ตามชื่อถนนหน้าวัด ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดปทุมคงคา"
ประวัติ
วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเมื่อครั้งแรกสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ โปรดเกล้าฯ ให้พระยาธรรมาธิกรณ์ (บุญรอด บุณยรัตพันธ์) กับพระวิจิตรนาวี เป็นแม่กองคุมช่างและไพร่ไปกะที่สร้างพระนครใหม่ ณ ฝั่งตะวันออก โปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชาเศรษฐี และพวกคนจีน ย้ายไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่สวน ตั้งแต่คลองวัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิราชาวาส) ไปจนถึงคลองวัดสำเพ็ง (วัดปทุมคงคา) และเห็นว่าเป็นวัดโบราณที่ทรุดโทรมมาก สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทจึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมขึ้นใหม่ทั้งวัด เมื่อกรมพระราชวังบวรสุรมหาสิงหนาททรงปฏิสังขรณ์และสร้างเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดปทุมคงคา"
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่วัดเริ่มทรุดโทรมอีกครั้ง พระยาสวัสดิวารีได้กราบทูลขอทำการบูรณปฏิสังขรณ์ แต่บูรณปฏิสังขรณ์ยังไม่ทันเสร็จ พระยาสวัสดิวารีก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมเสียก่อน แต่ไม่มีผู้ใดรับบูรณปฏิสังขรณ์ต่อไปตลอดรัชกาลที่ 3 ครั้งถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิศาลศุภผล ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ และได้เพิ่มเติม โดยให้ช่างยกพระพุทธรูปในพระอุโบสถให้สูงขึ้น มีพระทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์ ต่อชุกชีออกมา ทำเป็นรูปเทวราชถือพุ่มฉัตรดอกไม้ทอง ดอกไม้เงินด้วย 2 องค์[2]
การสำเร็จโทษหม่อมไกรสรด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคาฯ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2391 (ตรงกับวันพุธ เดือนอ้าย แรม 3 ค่ำ ปีวอก สัมฤทธิศก จ.ศ. 1210) เป็นการสำเร็จโทษด้วยวิธีนี้ครั้งสุดท้ายกับสมาชิกราชวงศ์[3]
วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนและกำหนดให้เขตที่ดินวัดปทุมคงคาราชวรวิหารเป็นเขตที่ดินโบราณสถาน
ลำดับเจ้าอาวาส
- พระวิเชียรมุนี (มาก)
- สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ศรี อโนมสิริ)
- พระครูกัลยาณคุณ (กลิ้ง)
- พระครูธรรมสารโสภณ (โชติ)
- พระปรากรมมุณี (เปลี่ยน)
- พระปรากรมมุณี (จีบ อุคฺคเตโช)
- พระเทพปริยัติบัณฑิต (ดำ อาภารํสี)
- พระวิสุทธิวงศาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) รักษาการ
- สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิธ เขมจารี)
- พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร)
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสังฆการี เรื่อง จัดระเบียบพระอารามหลวง, เล่ม ๓๒, ตอน ๐ ก, ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๘, หน้า ๒๙๐
- ↑ ประวัติการสร้างวัด
- ↑ การประหารด้วยท่อนจันทน์ครั้งสุดท้าย