ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Famefill (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว
บรรทัด 98: บรรทัด 98:
* '''26 กรกฎาคม 1958 - ปัจจุบัน''': [[เจ้าชายแห่งเวลส์]] (His Royal Highness The Prince of Wales)
* '''26 กรกฎาคม 1958 - ปัจจุบัน''': [[เจ้าชายแห่งเวลส์]] (His Royal Highness The Prince of Wales)
**''ในสก็อตแลนด์'': '''2000 - 2001''': ''พระกรุณา'' ข้าหลวงพระองค์ใหญ่แห่งสมัชชาใหญ่แห่งคริสตจักรแห่งสก็อตแลนด์
**''ในสก็อตแลนด์'': '''2000 - 2001''': ''พระกรุณา'' ข้าหลวงพระองค์ใหญ่แห่งสมัชชาใหญ่แห่งคริสตจักรแห่งสก็อตแลนด์

* '''9 เมษายน 2021 - ปัจจุบัน''': ฮิส[[รอยัลไฮเนส]] [[ดยุกแห่งเอดินบะระ]] (His Royal Highness The Duke of Edinburgh)
* '''9 เมษายน 2021 - ปัจจุบัน''': ฮิส[[รอยัลไฮเนส]] [[ดยุกแห่งเอดินบะระ]] (His Royal Highness The Duke of Edinburgh)
** ''ในสกอตแลนด์'': '''9 เมษายน 2021 - ปัจจุบัน''': ฮิส[[รอยัลไฮเนส]] เอิร์ลแห่งแมริโอเน็ธ (His Royal Highness The Earl of Merioneth)
** ''ในไอร์แลนด์เหนือ'': '''9 เมษายน 2021 - ปัจจุบัน''': ฮิส[[รอยัลไฮเนส]] บารอนกรีนิช (His Royal Highness The Baron Greenwich)


พระอิสริยยศเต็ม<ref>พระอิสริยยศเต็ม (ใช้น้อยมาก): '''His Royal Highness The Prince Charles Philip Arthur George, Prince of Wales, Duke of Cornwall and Earl of Chester, Duke of Rothesay, Earl of Carrick, Baron of Renfrew, Lord of the Isles, Prince and Great Steward of Scotland, Knight Companion of the Most Noble Order of the Garter, Knight of the Most Ancient and Most Noble Order of the Thistle, Great Master and First and Principal Knight Grand Cross of the Most Honourable Order of the Bath, Member of the Order of Merit, Knight of the Order of Australia, Companion of the Queen's Service Order, Member of Her Majesty's Most Honourable Privy Council, Aide-de-Camp to Her Majesty'''.</ref> ''เจ้าชายชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ เจ้าชายแห่งเวลส์ ดยุกแห่งคอร์นวอลล์และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์ ดยุกแห่งรอธซี ดยุกแห่งเอดินบะระ เอิร์ลแห่งคาร์ริก เอิร์ลแห่งแมริโอเน็ธ บารอนกรีนิช บารอนแห่งเร็นฟริว ลอร์ดแห่งไอเลส เจ้าชายและธนารักษ์ใหญ่แห่งสก็อตแลนด์ อัศวินกัลยาณมิตรแห่งราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ อัศวินแห่งราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลและสูงส่งยิ่งทริสเทิล ปรีชากรและหัวหน้าอัศวินสายสะพายแห่งราชอิสริยาภรณ์อันทรงเกียรติบาธ สมาชิกราชอิสริยาภรณ์เมริท อัศวินแห่งราชอิสริยาภรณ์ออสเตรเลีย กัลยาณมิตรแห่งราชอิสริยาภรณ์ควีนเซอร์วิส สมาชิกคณะองคมนตรีอันทรงเกียรติยิ่งในสมเด็จฯ นายทหารคนสนิทในสมเด็จฯ''
พระอิสริยยศเต็ม<ref>พระอิสริยยศเต็ม (ใช้น้อยมาก): '''His Royal Highness The Prince Charles Philip Arthur George, Prince of Wales, Duke of Cornwall and Earl of Chester, Duke of Rothesay, Earl of Carrick, Baron of Renfrew, Lord of the Isles, Prince and Great Steward of Scotland, Knight Companion of the Most Noble Order of the Garter, Knight of the Most Ancient and Most Noble Order of the Thistle, Great Master and First and Principal Knight Grand Cross of the Most Honourable Order of the Bath, Member of the Order of Merit, Knight of the Order of Australia, Companion of the Queen's Service Order, Member of Her Majesty's Most Honourable Privy Council, Aide-de-Camp to Her Majesty'''.</ref> ''เจ้าชายชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ เจ้าชายแห่งเวลส์ ดยุกแห่งคอร์นวอลล์และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์ ดยุกแห่งรอธซี ดยุกแห่งเอดินบะระ เอิร์ลแห่งคาร์ริก เอิร์ลแห่งแมริโอเน็ธ บารอนกรีนิช บารอนแห่งเร็นฟริว ลอร์ดแห่งไอเลส เจ้าชายและธนารักษ์ใหญ่แห่งสก็อตแลนด์ อัศวินกัลยาณมิตรแห่งราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ อัศวินแห่งราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลและสูงส่งยิ่งทริสเทิล ปรีชากรและหัวหน้าอัศวินสายสะพายแห่งราชอิสริยาภรณ์อันทรงเกียรติบาธ สมาชิกราชอิสริยาภรณ์เมริท อัศวินแห่งราชอิสริยาภรณ์ออสเตรเลีย กัลยาณมิตรแห่งราชอิสริยาภรณ์ควีนเซอร์วิส สมาชิกคณะองคมนตรีอันทรงเกียรติยิ่งในสมเด็จฯ นายทหารคนสนิทในสมเด็จฯ''

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:45, 12 เมษายน 2564

ชาลส์
เจ้าชายแห่งเวลส์
ดำรงพระยศ26 กรกฎาคม ค.ศ. 1958 – ปัจจุบัน
ก่อนหน้าเจ้าชายเอดเวิร์ด
ประสูติ14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 (75 ปี)
เจ้าชายชาลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ
พระชายาไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (2524 - 2539)
คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ (2548 - ปัจจุบัน)
พระบุตรเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์
เจ้าชายเฮนรี ดยุกแห่งซัสเซกซ์
ราชวงศ์วินด์เซอร์
พระบิดาเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ
พระมารดาสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร
ศาสนาคริสตจักรแห่งอังกฤษ
ลายพระอภิไธยไฟล์:Signature of Prince Charles.png

เจ้าชายชาลส์[1] เจ้าชายแห่งเวลส์ (อังกฤษ: HRH The Prince Charles, Prince of Wales) พระนามเต็ม ชาลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ; พระราชสมภพ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491) เป็นพระราชโอรสพระองค์โตในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และ เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 ส่วนที่สกอตแลนด์พระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น "ดยุกแห่งโรธเซย์" นอกจากนี้ยังมีพระอิสริยยศ ดยุกแห่งคอร์นวอลล์ ที่ทรงใช้บ่อยครั้งในความเกี่ยวเนื่องกับแคว้นคอร์นวอลล์ พระองค์เป็นรัชทายาทลำดับที่ 1 หากแต่มีลำดับพระอิสริยยศเป็นที่ 3 ในลำดับโปเจียมต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ

เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะว่าที่กษัตริย์พระองค์ต่อไปของสหราชอาณาจักรและประเทศในเครือจักรภพ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนับตั้งแต่ได้ทรงเจริญพระชนม์พอสมควร อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักจากการทรงเสกสมรสกับเลดีไดอานา สเปนเซอร์และความรักอันอื้อฉาวของพระองค์กับคามิลลา ปากเกอร์โบลส์

วัยเด็ก

เจ้าชายชาลส์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 ที่พระราชวังบักกิงแฮม พระบิดาคือเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระมารดาคือเจ้าหญิงเอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งเอดินบะระ รัชทายาทของราชบัลลังก์อังกฤษในขณะนั้น เจ้าชายทรงรับบัพติศมาที่ห้องดนตรี พระราชวังบักกิงแฮมเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2491 พระองค์มีพระบิดาและพระมารดาทูนหัวคือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 สมเด็จพระราชินีแมรี เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต มาชันเนสเนสมิลฟอร์ด ฮาเวน เดวิด โบวส์-ลีออน (พระอนุชาในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี) เลดีบราบรูน สมเด็จพระราชาธิบดีโฮกุนที่ 7 แห่งนอร์เวย์ และเจ้าชายจอร์จแห่งกรีก

ตามพระราชโองการของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 สมเด็จพระปัยกา (ปู่ทวดหรือตาทวด) ของเจ้าชาย สั่งว่าผู้ที่จะดำรงอิสริยยศเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งอังกฤษนั้น ถ้าเป็นชั้นพระราชนัดดาแล้ว จะต้องผ่านทางสายพระราชโอรสเท่านั้น[2] ในขณะที่ชาลส์เป็นพระราชนัดดาผ่านทางสายพระราชธิดา พระองค์ควรจะดำรงยศเป็นเอิร์ลแห่งมารีออนเน็ต (ซึ่งเป็นยศสำหรับทายาทผู้จะสืบตำแหน่งดยุกแห่งเอดินบะระ) อย่างไรก็ตามสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 สมเด็จพระอัยกา (ปู่หรือตา) ของเจ้าชายมีพระราชโองการใหม่ เฉพาะพระโอรสและพระธิดาของเจ้าหญิงเอลิซาเบธ ให้ดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งสหราชอาณาจักรได้ตั้งแต่ประสูติ พระราชโองการฉบับนี้ไม่มีผลครอบคลุมถึงพระราชธิดาอีกพระองค์หนึ่งคือเจ้าหญิงมากาเร็ต และจากพระราชโองการฉบับดังกล่าวทำให้ชาลส์มีพระยศตั้งแต่แรกประสูติว่า เจ้าชายชาลส์แห่งเอดินบะระ

เจ้าชายชาลส์มีพระกนิษฐาและพระอนุชา 4 พระองค์ดังนี้

  1. เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์
  2. เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี
  3. เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก
  4. เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กซ์

ในปี พ.ศ. 2495 พระมารดาของพระองค์เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เจ้าชายชาลส์ได้รับพระอิสริยยศเป็นดยุกแห่งคอร์นวอลล์ทันที (ในสก็อตแลนด์ คือดยุกแห่งโรเตสเซย์) นอกจากนี้ยังทรงดำรงพระอิสริยยศ เอิร์ลแห่งแคร์ริก บารอนแห่งเรนเฟรว ลอร์ดแห่งไอเซิล เจ้าชายและจอมทัพแห่งสก็อตแลนด์อีกด้วย

ในวันพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ เจ้าชายชาลส์ได้เสด็จไปร่วมพระราชพิธีด้วย (ในขณะที่เจ้าหญิงแอนน์ไม่ได้ตามเสด็จ) โดยพระองค์ทรงประทับนั่งระหว่างสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธ พระราชชนนี (พระอัยยิกา (ยาย)) และเจ้าหญิงมากาเร็ต (พระมาตุจฉา (น้า) และพระมารดาทูนหัวของพระองค์))

ไฟล์:Cscrown.JPG
มงกุฎของ เจ้าชายแห่งเวลส์

การศึกษา

โดยปกติแล้วพระราชวงศ์ที่มีพระชนม์ระหว่าง 5-8 พรรษานั้นจะได้รับการศึกษาส่วนพระองค์ที่พระอาจารย์เข้ามาจัดการสอนถวายที่พระราชวังบัคกิ้งแฮม หากแต่เจ้าชายชาลส์เป็นพระราชวงศ์พระองค์แรก (และรัชทายาทของอังกฤษพระองค์แรก) ที่เสด็จเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียน โดยทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนฮิลล์ เฮ้าส์ในเมืองลอนดอน และต่อมาที่โรงเรียนเตรียมความพร้อมด้านวิชาเคมีในเมืองเบิร์คแชร์ ซึ่งเจ้าชายฟิลิปส์พระบิดาของพระองค์ได้เสด็จเข้าศึกษาด้วยเช่นกัน

เจ้าชายทรงสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เกียรตินิยม

เจ้าชายแห่งเวลส์

เจ้าชายชาลส์ ดยุกแห่งคอร์นวอลล์และโรเตสเซย์ได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์เมื่อพระชนมายุ 10 พรรษา หากแต่ได้มีพระราชพิธีขึ้นในอีก 11 ปีต่อมา เจ้าชายชาลส์ได้กลายเป็นพระรัชทายาทลำดับที่ 1 ในการจะทรงสืบสันตติวงศ์ของอังกฤษโดยไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงได้สืบมานับตั้งแต่บัดนั้น

อภิเษกสมรส

ไฟล์:Dianaandcharlesinwed.JPG
พระราชพิธีอภิเษกสมรส

ครอบครัวสเปนเซอร์ใกล้ชิดกับพระราชวงศ์มานานแล้ว เลดีฟรอยเมยซึ่งเป็นคุณยายของเจ้าหญิงนั้น เป็นพระสหายและนางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระราชชนนีอลิซาเบธ มาเป็นเวลานาน ประกอบกับการที่เจ้าชายแห่งเวลส์เคยทรงคบหาอยู่กับเลดีซาราห์และเลดีเจน พี่สาวของเลดีไดอานา ทำให้พระองค์ทรงคุ้นเคยกับไดอานาพอสมควร และเมื่อเจ้าชายชาลส์พระชนม์ได้ราว 30 พรรษา พระองค์ได้รับการร้องขอให้ทรงเสกสมรส ตามกฎหมายพระองค์จะต้องเสกสมรสกับสตรีที่ไม่ได้นับถือนิกายโรมันคาทอลิก แต่ต้องนับถือคริสตจักรแห่งอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำให้พระองค์เสกสมรสกับหญิงบริสุทธิ์ด้วย อีกทั้งการที่สมเด็จพระราชชนนีมีพระราชประสงค์จะให้พระองค์เองกับเลดีฟรอมเมยได้เป็น "ทองแผ่นเดียวกัน" เจ้าชายผู้ทรงรักสมเด็จยายมากจึงทรงยอมตามพระทัย และพยายามทำพระองค์ให้คิดว่าไดอานานี้แหละ คือสุดยอดผู้หญิงที่เหมาะสมกับพระองค์ และเป็นผู้หญิงที่พระองค์รัก

มีคำร่ำลือว่า นอกจากสมเด็จพระราชชนนีแล้ว คามิลลา ปากเกอร์ โบลส์ คนรักเก่าของเจ้าชาย (และพระชายาพระองค์ปัจจุบัน) ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่สนับสนุนพระองค์ให้เลือกหญิงสาววัย 19 ปี เลดี ไดอานา ผู้ช่วยครูโรงเรียนอนุบาลมาเป็นพระชายา

สำนักพระราชวังประกาศเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 ว่าพระราชพิธีอภิเษกสมรสจะจัดขึ้นที่มหาวิหารเซนต์พอล ในลอนดอน ในวันที่ 29 กรกฎาคม ปีเดียวกัน แขกจำนวน 3,500 คนถูกเชิญมาในขณะที่ผู้ชมนับพันล้านคนทั่วโลกเฝ้ารอดูพระราชพิธี

ไดอานาเป็นหญิงคนแรกในรอบหลายศตวรรษที่สมรสกับรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ [3] หลังการอภิเษกสมรสไดอานาได้รับยศเป็น เจ้าหญิงแห่งเวลส์ และมีลำดับพระอิสริยยศเป็นลำดับที่ 3 แห่งพระราชวงศ์ฝ่ายในของอังกฤษ ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และสมเด็จพระราชชนนีอลิซาเบธ[4]

นอกจากนี้ไดอานายังเป็นสตรีสามัญชนคนแรกที่เสกสมรสกับเจ้าชายแห่งเวลส์ และได้ดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ด้วย [5]

พระโอรส

เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ มีพระโอรส 2 พระองค์ คือ

  1. เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ประสูติ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2525
  2. เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ ประสูติ 15 กันยายน พ.ศ. 2527

ทรงหย่า

ไฟล์:Cddvrc.JPG
หนังสือสำคัญการหย่าของเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์

เหตุการณ์ไม่เป็นไปอย่างความคาดหมายของทุกคน ในระยะแรกเจ้าหญิงไม่สามารถทรงปรับพระองค์ให้เข้ากับชีวิตของความเป็นเจ้าหญิงได้ และทรงทุกข์ทรมานจากพระโรค bulimia (น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว) หลังจากหายจากพระโรค เจ้าหญิงได้มีพระประสูติกาลเจ้าชายวิลเลียม หลังจากนั้นอีก 3 ปี พระองค์ได้มีพระประสูติกาลอีกครั้ง เจ้าชายแฮร์รี ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับเจ้าชายชาลส์มาก เนื่องจากพระองค์ทรงหวังว่าพระองค์น่าจะได้พระธิดาจากการประสูติกาลครั้งที่ 2 นี้ เนื่องจากโปรดลูกสาวของคามิลลามากอีกทั้งยังมีข่าวลือว่า แท้จริงแล้วเจ้าชายแฮร์รีอาจไม่ใช่พระโอรสของพระองค์ รายงานข่าวส่วนหนึ่งเชื่อว่าทั้งสองพระองค์เริ่มแยกกันอยู่หลังจากการเสกสมรสเพียง 5 ปี บางคนเชื่อว่าเนื่องจากเจ้าชายชาลส์ไม่สามารถทนได้ที่พระชายาได้รับความชื่นชมมากกว่าพระองค์ (คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ของเจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารีแห่งญี่ปุ่นในปัจจุบัน) ภาระทั้งหมดกลับตกไปที่ไดอานาในฐานะที่ควรจะ "ทรงทนให้ได้" เจ้าหญิงพยายามอย่างยิ่งที่จะพยายามเชื่อมความสัมพันธ์ของพระองค์กับชาลส์ไว้ให้นานที่สุด แต่ไม่เป็นผล สื่อมวลชนประโคมข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเจ้าชายชาลส์กับคามิลลาอย่างครึกโครม รวมทั้งประโคมข่าวระหว่างเจ้าหญิงกับผู้ชายอีกหลายคน นั่นทำให้ทั้ง 2 พระองค์คิดว่า เรื่องราวทั้งหมดควรจะจบลงเสียที ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ในขณะนั้น สื่อมวลชนเรียกว่า "สงครามแห่งเวลส์" (War of Waleses)

ไดอาน่าสิ้นพระชนม์

ดูรายละเอียดเพิ่มที่ การสิ้นพระชนม์ของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์

ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์สิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2540

มีบางแหล่งข่าวระบุว่าเจ้าชายชาลส์ทรงอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุที่ปลงพระชนม์ไดอาน่า ตำรวจเริ่มการสืบสวนเมื่อปี 2004 หากแต่หยุดการสืบสวนลงเนื่องจากคำขอร้องของเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮร์รี่

อภิเษกสมรสครั้งที่สอง

คลาเรนซ์เฮ้าส์ประกาศเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ว่าเจ้าชายชาลส์และคามิลลา ปากเกอร์ โบลส์ จะเสกสมรสกันในวันที่ 8 เมษายน ปีเดียวกันนั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 การเสกสมรสต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 เมษายน แทนเพราะเจ้าชายชาลส์ต้องเสด็จฯ ไปในการพระศพ

รวมทั้งได้มีการประกาศเพิ่มเติมด้วยว่าหลังจากเสกสมรสแล้ว คามิลลาจะดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ (Her Royal Highness The Duchess of Cornwall) และหลังจากชาลส์เสด็จขึ้นครองราชย์ จะดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงพระชายา (Her Royal Highness The Princess Consort)[6] เชื่อกันว่าเนื่องจากอ้างอิงตามพระอิสริยยศของเจ้าชายอัลเบิร์ตพระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าชายพระราชสวามี (His Royal Highness The Prince Consort)[7]

พระอิสริยยศ

ธรรมเนียมพระยศของ
เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์
ธงประจำพระอิสริยยศ
ตราประจำพระองค์
การทูลฮิส รอยัล ไฮเนส
การขานรับยัวร์ รอยัล ไฮเนส
ลำดับโปเจียม2 (ฝ่ายหน้า)
  • 14 พฤศจิกายน 1948 – 6 กุมภาพันธ์ 1952: เจ้าชายชาร์ลส์แห่งเอดินบะระ (His Royal Highness Prince Charles of Edinburgh)
  • 6 กุมภาพันธ์ 1952 - ปัจจุบัน: ดยุกแห่งคอร์นวอลล์ (His Royal Highness The Duke of Cornwall)
  • 26 กรกฎาคม 1958 - ปัจจุบัน: เจ้าชายแห่งเวลส์ (His Royal Highness The Prince of Wales)
    • ในสก็อตแลนด์: 2000 - 2001: พระกรุณา ข้าหลวงพระองค์ใหญ่แห่งสมัชชาใหญ่แห่งคริสตจักรแห่งสก็อตแลนด์
  • 9 เมษายน 2021 - ปัจจุบัน: ฮิสรอยัลไฮเนส ดยุกแห่งเอดินบะระ (His Royal Highness The Duke of Edinburgh)
    • ในสกอตแลนด์: 9 เมษายน 2021 - ปัจจุบัน: ฮิสรอยัลไฮเนส เอิร์ลแห่งแมริโอเน็ธ (His Royal Highness The Earl of Merioneth)
    • ในไอร์แลนด์เหนือ: 9 เมษายน 2021 - ปัจจุบัน: ฮิสรอยัลไฮเนส บารอนกรีนิช (His Royal Highness The Baron Greenwich)

พระอิสริยยศเต็ม[8] เจ้าชายชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ เจ้าชายแห่งเวลส์ ดยุกแห่งคอร์นวอลล์และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์ ดยุกแห่งรอธซี ดยุกแห่งเอดินบะระ เอิร์ลแห่งคาร์ริก เอิร์ลแห่งแมริโอเน็ธ บารอนกรีนิช บารอนแห่งเร็นฟริว ลอร์ดแห่งไอเลส เจ้าชายและธนารักษ์ใหญ่แห่งสก็อตแลนด์ อัศวินกัลยาณมิตรแห่งราชอิสริยาภรณ์การ์เทอร์ อัศวินแห่งราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลและสูงส่งยิ่งทริสเทิล ปรีชากรและหัวหน้าอัศวินสายสะพายแห่งราชอิสริยาภรณ์อันทรงเกียรติบาธ สมาชิกราชอิสริยาภรณ์เมริท อัศวินแห่งราชอิสริยาภรณ์ออสเตรเลีย กัลยาณมิตรแห่งราชอิสริยาภรณ์ควีนเซอร์วิส สมาชิกคณะองคมนตรีอันทรงเกียรติยิ่งในสมเด็จฯ นายทหารคนสนิทในสมเด็จฯ

พระราชวงศ์

ดูเพิ่ม

เชิงอรรถ

  1. เทียบจากประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่พระราชวงศ์เดนมาร์ก. ราชกิจจานุเบกษา เรียกรัชทายาทว่าเจ้าชายเท่านั้น
  2. (สำหรับชั้นพระราชปนัดดา (เหลน) มีกรณีเดียวคือต้องเป็นพระโอรสและพระธิดาในพระโอรสพระองค์ใหญ่ของเจ้าชายแห่งเวลส์)
  3. หลังจากที่เมื่อราว 400 ปีก่อนเลดีแอนน์ ไฮด์ได้เสกสมรสกับเจ้าชายดยุกแห่งยอร์กและอัลบานี หากแต่ความแตกต่างคือชาลส์เป็น “รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง” แต่เจมส์เป็น“รัชทายาทโดยสันนิษฐาน” รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงคือรัชทายาทลำดับแรกผู้ที่ดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ ตามพระราชโองการจากกษัตริย์ ในขณะที่ รัชทายาทโดยสันนิษฐาน คือรัชทายาทลำดับรองของการสืบสันตติวงศ์ และลำดับอาจถูกลดลงไปก็ได้เมื่อมีพระราชกุมารพระองค์ใหม่ที่ทรงสิทธิ์สูงกว่าประสูติ เช่นปัจจุบันเจ้าชายแฮร์รี่เป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 หากแต่ถ้าเจ้าชายวิลเลี่ยมมีพระโอรสหรือพระธิดา เจ้าชายหรือเจ้าหญิงพระองค์นั้นจะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 แทน และเจ้าชายแฮร์รี่จะกลายเป็นรัชทายาทลำดับที่ 4
  4. ธรรมเนียมของฝั่งยุโรปนั้นหญิงที่แต่งงานกับชายโดยถูกต้องตามกฎหมายจะ "ต้อง" ได้รับยศทั้งหมดของสามีมา แม้ว่าหญิงนั้นจะมียศเดิมของตัวเองสูงกว่าก็จะไม่เสียยศเดิมของตนไป (เช่นเจ้าหญิงอเลกซานดร้า ไม่ได้ทรงเสียยศเจ้าหญิงของพระองค์เองไป และทรงเป็นเลดีโอกิลวี่จากการสมรสกับเซอร์โอกิลวี่ด้วย) ในที่นี้ชาลส์เป็น "เจ้าชาย" เพราะเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าแผ่นดิน ไดอาน่าผู้เป็นพระสุณิสา (Daughter-in-law) ก็ย่อมต้องเป็นเจ้าด้วยตามพระราชสวามี
  5. ไดอานาเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์คนแรกที่มาจากสามัญชน เจ้าหญิงแห่งเวลส์พระองค์ก่อนเช่นสมเด็จพระราชินีแมรีนั้น ทรงเป็นเจ้าหญิงตั้งแต่ประสูติอยู่แล้ว หลังจากทรงเสกสมรสจึงสามารถใช้พระนามว่า Her Royal Highness the Princess Mary, the Princess of Wales ได้ แต่สำหรับไดอานาซึ่งมิใช่เจ้าหญิงจากราชตระกูลนั้น ไม่สามารถที่จะใช้พระนามว่า เจ้าหญิงไดอานาได้
  6. หากจะแปลยศ Her Royal Highness the Princess Consort ให้ใกล้เคียงกับยศพระภรรยาเจ้าของไทยให้มากที่สุดแล้ว น่าจะแปลเป็นพระอิสริยยศ พระนางเจ้า พระราชเทวี ตามที่สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวีทรงใช้แทนพระนามพระองค์เองในสมัยรัชกาลที่ 5
  7. เจ้าชายฟิลิป ในปัจจุบันมิได้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น Prince Consort หากแต่ทรงใช้พระอิสริยยศเสมือนเจ้าพระราชโอรสที่ทรงกรมเป็นดยุกแห่งเอดินบะระ ยศ เจ้าชายพระราชสวามี ที่มีใช้ในปัจจุบันคือเจ้าชายเฮนริก พระราชสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถมาเกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์กเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น
  8. พระอิสริยยศเต็ม (ใช้น้อยมาก): His Royal Highness The Prince Charles Philip Arthur George, Prince of Wales, Duke of Cornwall and Earl of Chester, Duke of Rothesay, Earl of Carrick, Baron of Renfrew, Lord of the Isles, Prince and Great Steward of Scotland, Knight Companion of the Most Noble Order of the Garter, Knight of the Most Ancient and Most Noble Order of the Thistle, Great Master and First and Principal Knight Grand Cross of the Most Honourable Order of the Bath, Member of the Order of Merit, Knight of the Order of Australia, Companion of the Queen's Service Order, Member of Her Majesty's Most Honourable Privy Council, Aide-de-Camp to Her Majesty.


ก่อนหน้า สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ถัดไป
ไม่มี (พระองค์แรก) ลำดับการสืบสันตติวงศ์สหราชอาณาจักร
เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์
ไม่มี (พระองค์แรก) ลำดับโปเจียม (ฝ่ายหน้า)
เจ้าชายแอนดรูว์
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์
(1958–ปัจจุบัน)
ยังครองพระยศ
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งคอร์นวอลล์
ดยุกแห่งรอธซี

(1952–ปัจจุบัน)
ยังครองพระยศ
เอิร์ลเมานต์แบ็ทแตนแห่งพม่า ประธานสหวิทยาลัยโลก
(1978–1995)
สมเด็จพระราชินีนูร์แห่งจอร์แดน