ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โจโฉ"
Just Sayori (คุย | ส่วนร่วม) ย้อนกลับไปรุ่นที่ 9238224 โดย Rameshe999ด้วยสจห. ป้ายระบุ: ทำกลับ |
ล การสะกด ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 170: | บรรทัด 170: | ||
* '''บอกสุ้น''' ขันทีในราชสำนักที่ส่งจดหมายลับของ[[ฮกเฮา|พระนางฮกเฮา]]ไปให้[[ฮกอ้วน]] |
* '''บอกสุ้น''' ขันทีในราชสำนักที่ส่งจดหมายลับของ[[ฮกเฮา|พระนางฮกเฮา]]ไปให้[[ฮกอ้วน]] |
||
* '''เกงจี''' |
* '''เกงจี''' |
||
*คนถือผัก |
|||
* '''เอียวสิ้ว''' |
* '''เอียวสิ้ว''' |
||
* '''[[ฮัวโต๋]]''' หมอเทวดา |
* '''[[ฮัวโต๋]]''' หมอเทวดา |
||
*คนรับดาบ |
|||
*คนอีก12คน |
|||
{{คอมมอนส์|曹操}} |
{{คอมมอนส์|曹操}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:05, 20 กุมภาพันธ์ 2564
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
โจโฉ (เฉา เชา) 曹操 | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ภาพโจโฉจาก สมุดภาพไตรภูมิ (三才圖會) ซึ่งเผยแพร่ในราชวงศ์หมิงเมื่อ ค.ศ. 1609 | |||||||||||||
อ๋องแห่งวุยก๊ก (魏王) | |||||||||||||
รัชกาล | ค.ศ. 216 – 15 มีนาคม ค.ศ. 220 | ||||||||||||
ถัดไป | โจผี | ||||||||||||
ก๋งแห่งวุยก๊ก (魏公) | |||||||||||||
วาระ | ค.ศ. 213–216 | ||||||||||||
อัครมหาเสนาบดี (丞相) | |||||||||||||
วาระ | ค.ศ. 208 – 15 มีนาคม ค.ศ. 220 | ||||||||||||
ถัดไป | โจผี | ||||||||||||
จักรพรรดิ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ | ||||||||||||
เจ้ากรมโยธา (司空) | |||||||||||||
วาระ | ค.ศ. 196–208 | ||||||||||||
ประสูติ | ค.ศ. 155 ปั๋วโจว (亳州) มณฑลอานฮุย ประเทศจีน | ||||||||||||
สวรรคต | 15 มีนาคม ค.ศ. 220 (65 ปี) ลั่วหยาง (洛阳) มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน | ||||||||||||
ฝังพระศพ | สุสานหลวง | ||||||||||||
คู่อภิเษก |
| ||||||||||||
พระราชบุตร | |||||||||||||
| |||||||||||||
พระราชบิดา | เฉา ซง/โจโก๋ (曹嵩) |
เฉา เชา ตามสำเนียงมาตรฐาน หรือ โจโฉ ตามสำเนียงฮกเกี้ยน (จีน: 曹操; พินอิน: Cáo Cāo; เวด-ไจลส์: Ts'ao² Ts'ao¹; ค.ศ. 155 – 15 มีนาคม ค.ศ. 220)[1] ชื่อรองว่า เมิ่งเต๋อ (孟德) ชื่อเล่นว่า อาหมาน (阿瞞) และ จี๋ลี่ (吉利)[2] เป็นขุนศึกและอัครมหาเสนาบดีลำดับรองสุดท้ายแห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออกผู้เถลิงอำนาจช่วงปลายราชวงศ์ ทั้งเป็นบุคคลหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในสมัยสามก๊ก และเป็นผู้วางรากฐานรัฐเว่ย์/วุย (魏) เมื่อสิ้นชีวิตแล้วได้รับการสถาปนาเป็น พระเจ้าอู่ (武王) หรือ จักรพรรดิอู่ (武帝)
วรรณกรรมมักแสดงภาพของเฉา เชา (โจโฉ) ว่า เป็นทรราชโหดร้ายป่าเถื่อน แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้ปกครองที่ชาญฉลาด และเป็นนายทัพที่ปรีชาสามารถ รักและดูแลผู้ใต้บัญชาประหนึ่งครอบครัวตัวเอง ในช่วงที่ราชวงศ์ฮั่นตะวันออกกำลังล่มสลายนั้น เฉา เชา สามารถสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่ภาคกลางและภาคเหนือของจีน ซึ่งเป็นส่วนที่มีประชากรมากที่สุดและเจริญรุ่งเรืองที่สุดของประเทศ แม้เขาสร้างชื่อในฐานะอัครมหาเสนาบดี แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการปฏิบัติต่อพระมหากษัตริย์หลิว เสีย (劉協) หรือหองจูเหียบ จนนำไปสู่สงครามกลางเมืองหลายครั้ง ฝ่ายค้านของเขามีผู้นำหลัก คือ หลิว เป้ย์/เล่าปี่ (劉備) หรือและซุน เฉวียน/ซุนกวน (孫權) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เขามิอาจปราบปรามลงได้ นอกจากนี้ เขายังมีฝีมือในทางโคลงกลอนและศิลปะการต่อสู้ ปรากฏว่า เขาได้ฝากผลงานเป็นพิชัยสงครามไว้มากมาย
พระราชประวัติ
ในบทความนี้ หรือส่วนของบทความนี้ ยังคลุมเครือว่า เนื้อหาที่ใดเป็นเรื่องจริง ที่ใดเป็นเรื่องสมมุติ (เรื่องเล่าขาน, นิยาย, ภาพยนตร์ ฯลฯ) โปรดเรียบเรียงใหม่โดยแยกแยะให้ชัดเจน ตามแนวทางการแยกเรื่องจริงกับเรื่องสมมุติ |
โจโฉเป็นบุตรชายของโจโก๋ ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของมหาขันทีโจเท้ง ซึ่งเดิมทีโจโก๋เป็นคนในสกุลแฮหัว ดังนั้นโจโฉกับคนสกุลแฮหัวจึงเป็นญาติใกล้ชิดกัน โจโฉเริ่มต้นรับราชการเมื่ออายุ 20 ปี ในตำแหน่ง เป้ยตู้เว่ย หรือผู้บังคับการกองทหารนครบาลเหนือ ภายหลังได้เขาได้เข้ามาอยู่ในสังกัดอ้วนเสี้ยว โดยมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกรมทหารม้าเร็ว แล้วได้รับตำแหน่งให้เป็นแม่ทัพของฝ่ายราชวงศ์ฮั่นที่ออกปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลืองซึ่งมีเตียวก๊กเป็นหัวหน้า ซึ่งมี พระเจ้าเลนเต้เป็นจักรพรรดิ เชื่อกันว่าโจโฉเป็นคนรูปร่างเล็ก บุคลิกมีนิสัยฉลาดแกมโกง เอาตัวรอดเก่ง เชี่ยวชาญตำราพิชัยสงคราม ชื่นชอบศิลปะ นิสัยรอบคอบ ภายหลังจากปราบโจรโพกผ้าเหลืองได้สำเร็จและได้รับความดีความชอบเป็นอย่างมาก แต่ภายหลังเกิดเหตุการณ์ตั๋งโต๊ะยึดอำนาจและตั้งตนเป็นใหญ่ โจโฉจึงร่วมรับราชการอยู่กับตั๋งโต๊ะเพื่อคอยหาโอกาสสังหาร แต่ภายหลังลงมือลอบสังหารไม่สำเร็จ จึงรีบหนีออกจากวัง ระหว่างหลบหนีโจโฉได้ถูกจับตัวและพบกับตันก๋งเจ้าเมืองจงพวน ซึ่งชื่นชมในลักษณะนิสัยใจคอจึงขอร่วมเดินทางไปด้วย โดยที่โจโฉมุ่งหน้าไปหาแปะเฉียซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบานของโจโฉ ด้วยความหวาดระแวงในการหลบหนี ทำให้โจโฉสังหารแปะเฉียและคนในครอบครัว ด้วยความเข้าใจผิดที่คิดว่าแปะเฉียสั่งให้คนใช้จับตนเพื่อส่งกลับยังเมืองหลวง ความโหดเหี้ยมของโจโฉทำให้ตันก๋งขอแยกทาง ซึ่งโจโฉได้กล่าวกับตันก๋งว่า ข้ายอมทรยศคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า ต่อมาโจโฉได้รวบรวมพรรคพวกเพื่อบุกเข้าเมืองหลวงและร่วมมือกับเจ้าเมือง 18 หัวเมือง ตั้งเป็นกองทัพสิบแปดหัวเมืองในภายหลัง โดยมี อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพใหญ่ในการปราบตั๋งโต๊ะ ต่อมาภายหลังโจโฉเริ่มเบื่อหน่ายกับความแตกแยกในกองทัพ จึงรวบรวมกองกำลังทหารที่เห็นด้วยกับตนหลบหนีไป
ภายหลังจากรวมรวมกองกำลังทหารและปราบตั๋งโต๊ะได้สำเร็จ โจโฉเกิดความทะเยอทะยานในอำนาจของตน เข้าทำการข่มขี่ฮ่องเต้วัยเยาว์ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นสมุหนายก (ในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลังแปลตำแหน่งว่าเป็นมหาอุปราชและทำให้คนไทยคุ้นกับตำแหน่งนี้ของโจโฉมากกว่า) และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระเจ้าเหี้ยนเต้ สร้างความคับแค้นใจให้พระเจ้าเหี้ยนเต้จนต้องแอบเขียนหนังสือด้วยโลหิตถึงเล่าปี่ เพื่อช่วยปราบโจโฉ ต่อมาได้ครองเมืองลกเอี๋ยง ซึ่งมีฐานะเป็นเมืองหลวง และสถาปนาวุยก๊กซึ่งมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์มากที่สุด แต่ด้วยนิสัยหวาดระแวงของโจโฉ ทำให้สั่งประหารบุคคลสำคัญของวุยก๊กจำนวนมากโดยที่ไม่มีความผิด
ภายหลังโจโฉสามารถปราบความวุ่นวายและขุนศึกกองกำลังต่าง ๆ ในภาคกลางและเหนือได้ ไม่ว่าจะเป็น ลิโป้ อ้วนสุด เตียวซิ่ว อ้วนเสี้ยว เล่าเปียว โดยเฉพาะศึกกับอ้วนเสี้ยวที่กัวต๋อซึ่งฝ่ายโจโฉมีกำลังทัพด้อยกว่าทุกด้านแต่กลับพลิกสถานการณ์จนสามารถเอาชัยชนะมาได้ ทำให้เขากลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเหนือแผ่นดินจงหยวน จากนั้นจึงระดมกองทัพหลายแสนบุกภาคใต้เพื่อปราบปรามเล่าปี่และซุนกวนซึ่งจับมือเป็นพันธมิตรกัน และด้วยความประมาทบวกกับปัจจัยต่าง ๆ ทำให้กองทัพของโจโฉไปพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่ผาแดง ซึ่งศึกที่ผาแดงนี้เป็น 1 ใน 3 สงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามก๊ก และทำให้ดุลย์อำนาจในแผ่นดินถูกแบ่งเป็นสามฝ่าย แต่แม้ว่าจะพ่ายแพ้โจโฉก็ยังคงมีกองกำลังที่เข้มแข็งที่สุดในแผ่นดิน และพยายามแผ่ขยายอิทธิพลของตนเพื่อปราบปรามเล่าปี่และซุนกวนต่อไป
ต่อมาพระเจ้าเหี้ยนเต้ได้แต่งตั้งให้โจโฉขึ้นเป็นวุยอ๋อง ทำให้มีอำนาจประดุจฮ่องเต้ และตั้งเมืองเย่ขึ้นเป็นเมืองหลวงของแคว้นวุย สร้างอิทธิพลและบารมีจนยิ่งใหญ่ในแผ่นดินและกลายเป็นหนึ่งในสามผู้นำที่คานอำนาจในแผ่นดินร่วมกับเล่าปี่และซุนกวน ซึ่งโจโฉเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการรวบรวมดินแดนได้กว้างไกลที่สุด มีแสนยานุภาพทางทหารเข้มแข็งที่สุดและรวบรวมบุคลากรที่เก่งกาจในยุคนั้นไว้ได้มากที่สุดในแผ่นดิน
โจโฉมีบุตรชายทั้งหมด 5 คน คนแรกชื่อโจงั่ง ซึ่งเกิดจากนางเล่าฮูหยิน แต่เสียชีวิตเมื่อครั้งเกิดศึกสงครามกับเตียวสิ้วพร้อมกับภรรยาอีกคนหนึ่งคือนางเอียนสี โจโฉยังมีบุตรชายกับภรรยาคนที่สองซึ่งภายหลังกลายเป็นภรรยาเอกคือนางเปี้ยนสี อีก 4 คนคือโจผี โจเจียง โจสิด และ โจหิม โจหิมป่วยหนัก และเสียชีวิตแต่ยังหนุ่ม บุตรชายที่เหลือทั้ง 3 ได้รับราชการและสร้างผลงานเอาไว้ชัดเจน ในบั้นปลายชีวิตโจโฉป่วยเป็นโรคประสาท มักปวดหัวเป็นประจำ ว่ากันว่าเกิดขึ้นหลังจากแม่ทัพกวนอูแห่งจ๊กก๊กได้ถูกตัดหัวด้วยฝีมือของซุนกวนแห่งง่อก๊ก ซุนกวนก็คิดที่จะส่งหัวของกวนอูไปให้โจโฉเพื่อให้เล่าปี่หันไปล้างแค้นกับโจโฉแทนที่จะมาล้างแค้นตน เมื่อกล่องใส่หัวของกวนอูมาถึงมือโจโฉ โจโฉเปิดกล่องมองดูหัวของกวนอูก็หัวเราะและทักทายแต่แล้วจู่ ๆ หัวของกวนอูก็เบิกตาโพลงอ้าปากค้างทำให้โจโฉตกใจจนตกจากเก้าอี้ หลังจากนั้นเมื่อได้ฟังเรื่องลิบองถูกวิญญาณของกวนอูเข้าสิงลุกขึ้นด่าซุนกวนจนกระอักเลือดตายก็เกิดความกลัวจนพูดว่า "ขนาดกวนอูตอนเป็นยังดูน่ากลัว ตอนตายก็ดูน่ากลัวเข้าไปใหญ่อีก" (และโจโฉก็รู้แผนของซุนกวนว่าปัดภัยมาให้ตน) จึงสั่งให้สลักร่างกายด้วยไม้หอมให้แก่กวนอูและฝังศพกวนอูทางทิศใต้ของเมืองลกเอี๋ยงและแต่งตั้งกวนอูเป็นอ๋องแห่งเกงจิ๋ว ตนก็จะไปเซ่นไหว้ให้แก่กวนอู หลังจากงานศพของกวนอูผ่านไป จิตใจของโจโฉก็อยู่ไม่เป็นสุขทุกคืนจึงคิดจะสร้างตำหนักใหม่แต่ขาดเสาเอก แต่ก็ได้พบมีศาลแห่งหนึ่งที่มีต้นสาลี่ใหญ่สูงกว่า 100 ศอกเหมาะที่จะเอามาทำเป็นเสาเอก โจโฉสั่งให้โค่นลงแต่คนตัดไม้ไม่สามารถโค่นลงได้จึงไปรายงานให้กับโจโฉ โจโฉจึงไปดูต้นสาลี่ด้วยตัวเอง เมื่อสำรวจแล้วก็สั่งให้คนตัดไม้โค่นอีกแต่ก็ได้รับเสียงค้ดคานจากชาวบ้านว่าต้นสาลี่นั้นศักดิ์สิทธิ์มีเทพคุ้มครองอยู่โค่นไม่ได้ แต่โจโฉหาได้ใส่ใจไม้และบอกกับชาวบ้านว่า "ข้ากร่ำศึกมากกว่าสี่สิบปี ไม่เคยกลัวผู้ใด มีแต่ไพร่สามัญจนถึงฮ่องเต้ล้วนเกรงกลัวข้า ภูตผีที่ไหนกล้าขวางข้า" จึงชักดาบฟันต้นสาลี่ทำให้มียางไม้ที่มีสีคล้ายเลือดพ่นออกมาถูกเสื้อ โจโฉก็เผ่นหนีไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็อาการปวดหัวหนักขึ้น ต่อมาหมอฮัวโต๋ได้มาทำการตรวจอาการของโจโฉก็พบว่าลมในสมองมันตีบซึ่งต้นเหตุมันอยู่ในกะโหลกและเสนอการรักษาด้วยการให้ผ่ากะโหลกศีรษะ โจโฉกลับคิดว่าฮัวโต๋จะฆ่าตนจึงสั่งให้จับไปขังคุกและทรมานสอบสวน แม้จะได้รับการคัดค้านจากที่ปรึกษาก็ไม่ฟัง ฮัวโต๋ก็ถูกจับขังคุกจนตาย ต่อมาโจโก็ได้จัดงานเลี้ยงแม้จะปวดหัวก็ยังทนได้และได้รับจดหมายจากซุนกวนว่าขอให้โจโฉขึ้นมาเป็นฮ่องเต้ ปราบปรามเล่าปี่พิชิตเสฉวน เมื่อปราบได้ก็จะมาสวามิภักดิ์แต่โจโฉกลับไม่เชื่อ แต่เหล่าที่ปรึกษาและทหารของท่านก็กลับเห็นด้วยได้พากันอ้อนวอนขอให้ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้แต่โจโฉไม่รับและขอเป็นวุยอ๋องก็พอแล้ว หลังจากนั้นอาการของโจโฉก็ทรุดหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนซบเซานอนลงบนเตียง แต่ในขณะที่หลับฝันเห็นวิญญาณที่ตนเคยฆ่ามาก่อนตามทวงเอาชีวิตจนสะดุ้งตื่นขึ้นชักดาบจนทำให้เหล่านางกำนัลต้องเผ่นหนีกระเจิงไป ที่ปรึกษาก็ได้แนะนำให้เชิญนักพรตลัทธิเต๋ามาช่วยทำพิธีปัดรังควาน แต่โจโฉก็ได้พูดว่าฟ้าได้ลงโทษแล้ว ไม่อาจฏีกาหรือขอขมาได้เลย ตนหมดบุญเพียงเท่านี้แล้วไม่อาจช่วยได้แล้ว
โจโฉก็ได้สั่งเสียกับเหล่าที่ปรึกษาและทหารของตนว่าให้ช่วยค้ำจุนโจผีบุตรชายคนรองผู้เป็นทายาทต่อจากตนและทำการใหญ่ด้วยการรวบรวมแผ่นดินจีนให้ได้และก็ได้สั่งให้สร้างสุสานไว้ 72 แห่งที่นอกจวนเตียวเต้งและเกียงบู๋ และสั่งให้ฝังตนไว้ในสุสานใดสุสานหนึ่งใน 72 แห่งเพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังมาพบเจอ มีแต่เพียงคนที่เชื่อใจได้เท่านั้นที่รู้ว่าตนอยู่หลุมไหน และหลังจากนั้นท่านก็ได้เชิญเหล่าบรรดาภรรยาของท่านมาหาตนเพื่อสั่งเสีย แต่ช่วงนั้นตาของโจโฉเกิดบอดมองไม่เห็นก็ได้ใช้มือจับลูบคล้ำใบหน้าของเหล่าบรรดาภรรยาเพื่อจดจำว่าเป็นใครและได้มอบถุงเงินจำหนวนหนึ่งให้แก่พวกนางเพื่อให้พวกนางหัดทำงานปัดด้ายทอเกือกขายแลกเอาเงินเลี้ยงตัวเอง และสั่งให้พวกนางอาศัยในหอตั่งเซ็กต้องเซ่นไหว้ตนทุกวันและให้นางกำนัลขับกล่อมตนด้วย หลังจากนั้นโจโฉก็ได้เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 66 ปี ภายหลังจากโจโฉเสียชีวิต โจผีได้ถอดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากตำแหน่งและสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าโจผีแห่งราชวงศ์วุย รวมทั้งยกย่องโจโฉขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งราชวงศ์วุย พร้อมถวายพระนามย้อนหลังว่าพระเจ้าเว่ยบู๊ตี้
สุสานโจโฉ
ในวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ทางการจีนประกาศว่าได้ขุดค้นพบสุสานที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของโจโฉ ที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ตอนกลางของประเทศจีน โดยสุสานมีอาณาบริเวณ 740 ตารางเมตร มีโครงกระดูกของชายที่น่าจะเสียชีวิตในอายุราว 60 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโจโฉ และโครงกระดูกของผู้หญิงอีก 2 ซึ่งน่าจะเป็นมเหสี และป้ายศิลาจารึกพระนามของโจโฉ[3]
พระราชวงศ์
- พระราชบิดา โจโก๋
- พระปิตุลา โจเต๊ก
- พระมเหสี
- เต็งฮูหยิน
- เล่าชี
- เล่าฮูหยิน
- พระนางเปียนซี (武宣卞皇后) พระมารดาของ โจผี และ โจเซี่ย
- พระมเหสีหลิง (丁夫人
- พระมเหสีหลิว (劉夫人)
- พระมเหสีอัน (環夫人)
- พระมเหสีหลู (杜夫人)
- พระมเหสีฉิน (秦夫人)
- พระมเหสีซิน(尹夫人)
- พระมเหสีหวัง (王昭儀)
- พระสนมซุน (孫姬)
- พระสนมหลี่ (李姬)
- พระสนมโซว (周姬)
- พระสนมเล่า (劉姬)
- พระสนมซ่ง (宋姬)
- พระสนมโซว (趙姬)
- พระสนมเฉิน (陳妾)
พระราชโอรส
พระราชธิดา
ความนิยมในรูปแบบอื่น ๆ
ภาพยนตร์
- ในภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ของจีน สามก๊ก ขุนศึกเลือดมังกร กำกับโดย แดเนียล ลี และ สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ กำกับโดยจอห์น วู โจโฉได้มีบทบาทสำคัญในเรื่อง
- ในภาพยนตร์เรื่อง สามก๊ก ขุนศึกเลือดมังกร โจโฉรับบทโดยหลิวสงเหยิน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ โจโฉได้ปรากฏตัวครั้งเดียวในศึกทุ่งเตียงปัน ขณะที่มองจูล่งที่กำลังฝ่าทัพของตนเพื่อช่วยเหลือลูกชายของเล่าปี่อย่างชื่นชม
- ในภาพยนตร์เรื่อง สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ โจโฉรับบทโดยจางเฟิงอี้ โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้ โจโฉปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่ขอพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าเหี้ยนเต้ในการปราบปรามเล่าปี่และซุนกวน โจโฉได้นำทัพไปรบกับพันธมิตรเล่า-ซุนที่ผาแดง แต่พ่ายแพ้ จึงล่าถอยหนี ระหว่างทางถูกทหารข้าศึกล้อมจะจับตัวทุกเส้นทาง แต่ในเส้นทางถอยหนีสุดท้าย แม่ทัพกวนอูได้ไว้ชีวิตให้กลับไป เพราะสำนึกในบุญคุณที่โจโฉเคยรับอุปการะเลี้ยงเลี้ยงดูไว้เป็นอย่างดี
- ในภาพยนตร์เรื่อง สามก๊ก ตอน โจโฉ มหาอุปราชผู้หวังครองแผ่นดิน ซึ่งเคอ จุ้นสงได้รับบทนี้ และภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กล่าวถึงชีวประวัติของโจโฉตั้งแต่ต้นจนถึงตอนเสียชีวิต
- ภาพยนตร์เรื่อง โจโฉ The Assassins (铜雀台) นำแสดงโดย โจว เหวินฟะ ซึ่งรับบทเป็นโจโฉ และมีเนื้อหาในช่วงเหตุการณ์ที่ พระเจ้าเหี้ยนเต้กับนางฮกเฮาคิดกำจัดโจโฉ
ละครโทรทัศน์
- สามก๊ก ฉบับละครโทรทัศน์ ของประเทศจีน ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเชิดชูและยกย่องวรรณกรรมอมตะของจีนเรื่องสามก๊ก ในปี พ.ศ. 2537 ได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวของโจโฉตั้งแต่รับราชการเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยจนกระทั่งเสียชีวิต โดย เปากั๊วอัน นักแสดงชาวจีนที่รับบทโจโฉ
- สามก๊ก (ละครโทรทัศน์ชุดใหม่) เป็นละครที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2553 มีการถ่ายทอดเรื่องราวของโจโฉตั้งแต่รับราชการและคิดฆ่าตั๋งโต๊ะไปจนถึงเสียชีวิต แสดงโดยเฉินเจี้ยนปิน
การ์ตูนไทย
- ในการ์ตูน สามก๊ก มหาสนุก ผลงานการ์ตูนสามก๊กของสุชาติ พรหมรุ่งโรจน์ ได้มีการกล่าวถึงโจโฉด้วยเช่นกัน โดยโจโฉในสามก๊กมหาสนุกมีลักษณะรูปร่างเตี้ย และมักชอบพูดว่า "ความคิดอันสูงส่งมักตรงกันเสมอ"
วิดีโอเกม
- โจโฉเป็นตัวละครในเกมซีรีส์ Dynasty Warriors โดยจัดเป็นหัวหน้าแห่งวุยก๊ก และปรากฏในทุกๆเกมของซีรีส์ อาทิ Dynasty Warriors 1 ถึง Dynasty Warriors 8 ในเกมทุกซีรีส์ที่กล่าวมา ฝ่ายโจโฉจะเป็นฝ่ายสีน้ำเงิน
- โจโฉเป็นตัวละครในเกมซีรีส์ Romance of the Three Kingdoms ซึ่งสามารถเล่นบงการตัวละครโจโฉได้ สามารถอยู่ในตำแหน่งต่างกันออกไปได้ อาทิ เจ้าเมือง ผู้ครองแคว้น ไปตลอดจนถึงฮ่องเต้ ซึ่งฝ่ายโจโฉมักปรากฏเป็นสีฝ่ายน้ำเงิน ในตัวเกมนั้น โจโฉถือว่ามีความสามารถสูงกว่าตัวละครอื่นๆอย่างมาก ทั้งในด้านการรบ มนุษย์สัมพันธ์ ความรู้ และกลยุทธ์ต่างๆ
รายชื่อบุคคลที่ถูกสังหารโดยโจโฉ
- แปะเฉีย พี่น้องร่วมสาบานของโจโก๋บิดาของโจโฉ ตอนแรกสังหารคนที่บ้านแปะเฉียเพราะเข้าใจผิด เมื่อหนีจากบ้านแปะเฉีย พบกับแปะเฉียระหว่างทาง จึงฆ่าแปะเฉียเสีย
- โฮงี โจรโพกผ้าเหลือง
- อุยเซียว โจรโพกผ้าเหลือง
- หันอิ้น ขุนนางของอ้วนสุด ที่ลิโป้ส่งให้มาตัดสินโทษ
- อองเฮา นายกองเสบียงของตนเอง
- ลิฮอง
- งักจิว ขุนพลอ้วนสุด
- เลียงกอง ขุนพลอ้วนสุด
- ตันกี๋ ขุนพลอ้วนสุด
- หลันเป้ง ขุนพลลิโป้
- โกซุ่น ขุนพลของลิโป้
- ตันก๋ง ที่ปรึกษาของลิโป้
- ลิโป้
- เอียวงัน
- เกียดเป๋ง แพทย์ประจำราชสำนัก คิดคบกับตังสินคิดฆ่าโจโฉ จึงวางแผนวางยาโจโฉ แต่โจโฉรู้ตัวก่อน เพราะบ่าวของตังสินมาบอกความลับ
- ตังสิน
- จูฮก ผู้ร่วมก่อการกับตังสิน
- จูลัน ผู้ร่วมก่อการกับตังสิน
- ตันอิบ ผู้ร่วมก่อการกับตังสิน
- โงห้วน ผู้ร่วมก่อการกับตังสิน
- พระสนมตังกุยฮุยและพระราชบุตรในครรภ์ น้องสาวของตังสิน พระสนมในสมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นเซี่ยนเต้ ซึ่งโจโฉกำจัดเพื่อไม่ให้เหลือไว้เป็นเสี้ยนหนามรวมถึงลูกในท้องที่ยังไม่เกิด แม้สมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นเซี่ยนเต้ขอชีวิตเด็กไว้ แต่โจโฉไม่ยอมละเว้นให้
- ชีสิว ที่ปรึกษาของอ้วนเสี้ยว
- สิมโพย ที่ปรึกษาของอ้วนเสี้ยว
- ขงหยง
- ชัวมอ แม่ทัพของเล่าเปียวที่มาสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ ถูกโจโฉสั่งประหารด้วยอุบายของจิวยี่
- เตียวอุ๋น แม่ทัพของเล่าเปียวที่มาสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ ถูกโจโฉสั่งประหารด้วยอุบายของจิวยี่เช่นเดียวกับชัวมอ
- ม้าฮิว บุตรชายของม้าเท้ง น้องชายของม้าเฉียว
- ม้าเท้ง
- อุยกุ๋ย
- เบียวเต๊ก
- ฮกอ้วน คิดก่อการสังหารโจโฉ แต่แผนรั่วไหลเสียก่อน
- พระนางฮกเฮา บุตรสาวของฮกอ้วน พระอัครมเหสี (ฮองเฮา) สมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นเซี่ยนเต้
- บอกสุ้น ขันทีในราชสำนักที่ส่งจดหมายลับของพระนางฮกเฮาไปให้ฮกอ้วน
- เกงจี
- คนถือผัก
- เอียวสิ้ว
- ฮัวโต๋ หมอเทวดา
- คนรับดาบ
- คนอีก12คน
อ้างอิง
- หนังสือ คุยเฟื่องเรื่องสามก๊ก โดย โกวิท ตั้งตรงจิตร, พ.ศ. 2550 สำนักพิมพ์ชมรมเด็ก
- ↑ de Crespigny, Rafe (2007). A biographical dictionary of Later Han to the Three Kingdoms (23–220 AD). Brill. pp. 35, 38. ISBN 978-90-04-15605-0.
- ↑ (太祖一名吉利,小字阿瞞。) Pei Songzhi. Annotations to Chen Shou's Records of the Three Kingdoms, Volume 1, Biography of Cao Cao.
- ↑ จีนขุดพบสุสาน'โจโฉ'อายุ 2 พันปี
- เจาะลึกเหล่าขุนพลสามก๊ก http://writer.dek-d.com/eagle/story/view.php?id=10590
- โจโฉ The Assassins (铜雀台Tong que tai 2012)
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | โจโฉ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
- | จักรพรรดิจีน (แต่งตั้งหลังสิ้นพระชนม์แล้ว) |
พระเจ้าโจผี |