ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดเพชรบูรณ์"

พิกัด: 16°25′N 101°10′E / 16.42°N 101.16°E / 16.42; 101.16
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Soponwit Sangsai (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 389: บรรทัด 389:
== การขนส่ง ==
== การขนส่ง ==
[[ไฟล์:PhetchabunHw12-20090514a.jpg|250px|thumbnail|ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 เส้นทางพาดผ่าน[[อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว]] ใน[[อำเภอน้ำหนาว]] ]]
[[ไฟล์:PhetchabunHw12-20090514a.jpg|250px|thumbnail|ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 เส้นทางพาดผ่าน[[อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว]] ใน[[อำเภอน้ำหนาว]] ]]
การขนส่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่จะใช้ระบบถนน เนื่องจากไม่มีทางรถไฟ และมีท่าอากาศยาน 1 แห่ง คือ [[ท่าอากาศยานเพชรบูรณ์]] การขนส่งทางถนนในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 เป็นทางหลวงสายหลักพาดผ่านในแนวเหนือ-ใต้ ผ่านเขตจังหวัดเป็นระยะทาง 114.834 กิโลเมตร การเดินทางจาก[[กรุงเทพมหานคร]]มายังจังหวัด สามารถใช้[[ถนนพหลโยธิน]] จากนั้นเลี้ยวเข้า[[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21]] ที่แยกพุแค (ประมาณกิโลเมตรที่ 123 ของถนนพหลโยธิน) ผ่าน[[จังหวัดลพบุรี]] แล้วเข้ามายังจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านตัวจังหวัด แล้วออกไปยัง[[จังหวัดเลย]] ระยะทางจากกรุงเทพมหานครมายังตัวจังหวัดอยู่ห่างประมาณ 346 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมี[[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12]] เชื่อมต่อไปยัง[[จังหวัดพิษณุโลก]]และ[[จังหวัดขอนแก่น]], [[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 113]] เชื่อมต่อจังหวัดไปยัง[[จังหวัดพิจิตร]], [[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225]] เชื่อมต่อไปยัง[[จังหวัดนครสวรรค์]] และ[[จังหวัดชัยภูมิ]] <!--และทางหลวงแผ่นดินอื่นๆ ที่เชื่อมการเดินทางภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัด ดังต่อไปนี้-->
การขนส่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่จะใช้ระบบถนน เนื่องจากไม่มีทางรถไฟ และมีท่าอากาศยาน 1 แห่ง คือ [[ท่าอากาศยานเพชรบูรณ์]] การขนส่งทางถนนในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 เป็นทางหลวงสายหลักพาดผ่านในแนวเหนือ-ใต้ ผ่านเขตจังหวัดเป็นระยะทาง 114.834 กิโลเมตร การเดินทางจาก[[กรุงเทพมหานคร]]มายังจังหวัด สามารถใช้[[ถนนพหลโยธิน]] จากนั้นเลี้ยวเข้า[[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21]] ที่แยกพุแค (ประมาณกิโลเมตรที่ 123 ของถนนพหลโยธิน) ผ่าน[[จังหวัดลพบุรี]] แล้วเข้ามายังจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านตัวจังหวัด แล้วออกไปยัง[[จังหวัดเลย]] ระยะทางจากกรุงเทพมหานครมายังตัวจังหวัดอยู่ห่างประมาณ 346 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมี[[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12]] เชื่อมต่อไปยัง[[จังหวัดพิษณุโลก]]และ[[จังหวัดขอนแก่น]], [[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 113]] เชื่อมต่อจังหวัดไปยัง[[จังหวัดพิจิตร]], [[ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225]] เชื่อมต่อไปยัง[[จังหวัดนครสวรรค์]] และ[[จังหวัดชัยภูมิ]]

=== ระยะทางจาก[[เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์|ตัวจังหวัด]]ไปอำเภอต่างๆ ===

* [[อำเภอหล่มสัก]] 45 กิโลเมตร
* [[อำเภอชนแดน]] 51 กิโลเมตร
* [[อำเภอเขาค้อ]] 55 กิโลเมตร
* [[อำเภอหล่มเก่า]] 58 กิโลเมตร
* [[อำเภอหนองไผ่]] 58 กิโลเมตร
* [[อำเภอวังโป่ง]] 71 กิโลเมตร
* [[อำเภอบึงสามพัน]] 81 กิโลเมตร
* [[อำเภอวิเชียรบุรี]] 106 กิโลเมตร
* [[อำเภอศรีเทพ]] 120 กิโลเมตร
* [[อำเภอน้ำหนาว|อำเภอนํ้าหนาว]] 134 กิโลเมตร<!--และทางหลวงแผ่นดินอื่นๆ ที่เชื่อมการเดินทางภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัด ดังต่อไปนี้-->


== วัฒนธรรมและประเพณี ==
== วัฒนธรรมและประเพณี ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:15, 29 มกราคม 2564

จังหวัดเพชรบูรณ์
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันChangwat Phetchabun
คำขวัญ: 
เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดเพชรบูรณ์เน้นสีแดงประเทศมาเลเซียประเทศพม่าประเทศลาวประเทศเวียดนามประเทศกัมพูชาจังหวัดนราธิวาสจังหวัดยะลาจังหวัดปัตตานีจังหวัดสงขลาจังหวัดสตูลจังหวัดตรังจังหวัดพัทลุงจังหวัดกระบี่จังหวัดภูเก็ตจังหวัดพังงาจังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดระนองจังหวัดชุมพรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดเพชรบุรีจังหวัดราชบุรีจังหวัดสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสาครกรุงเทพมหานครจังหวัดสมุทรปราการจังหวัดฉะเชิงเทราจังหวัดชลบุรีจังหวัดระยองจังหวัดจันทบุรีจังหวัดตราดจังหวัดสระแก้วจังหวัดปราจีนบุรีจังหวัดนครนายกจังหวัดปทุมธานีจังหวัดนนทบุรีจังหวัดนครปฐมจังหวัดกาญจนบุรีจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจังหวัดอ่างทองจังหวัดสิงห์บุรีจังหวัดสระบุรีจังหวัดลพบุรีจังหวัดนครราชสีมาจังหวัดบุรีรัมย์จังหวัดสุรินทร์จังหวัดศรีสะเกษจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดอุทัยธานีจังหวัดชัยนาทจังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดยโสธรจังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดมหาสารคามจังหวัดขอนแก่นจังหวัดชัยภูมิจังหวัดเพชรบูรณ์จังหวัดนครสวรรค์จังหวัดพิจิตรจังหวัดกำแพงเพชรจังหวัดตากจังหวัดมุกดาหารจังหวัดกาฬสินธุ์จังหวัดเลยจังหวัดหนองบัวลำภูจังหวัดหนองคายจังหวัดอุดรธานีจังหวัดบึงกาฬจังหวัดสกลนครจังหวัดนครพนมจังหวัดพิษณุโลกจังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดสุโขทัยจังหวัดน่านจังหวัดพะเยาจังหวัดแพร่จังหวัดเชียงรายจังหวัดลำปางจังหวัดลำพูนจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดเพชรบูรณ์เน้นสีแดง
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดเพชรบูรณ์เน้นสีแดง
ประเทศ ไทย
การปกครอง
 • ผู้ว่าราชการ กฤษณ์ คงเมือง[1]
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2563)
พื้นที่[2]
 • ทั้งหมด12,668.416 ตร.กม. (4,891.303 ตร.ไมล์)
อันดับพื้นที่อันดับที่ 9
ประชากร
 (พ.ศ. 2562)[3]
 • ทั้งหมด992,451 คน
 • อันดับอันดับที่ 21
 • ความหนาแน่น78.34 คน/ตร.กม. (202.9 คน/ตร.ไมล์)
 • อันดับความหนาแน่นอันดับที่ 63
รหัส ISO 3166TH-67
ชื่อไทยอื่น ๆเพชบุระ
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
 • ต้นไม้มะขาม
 • ดอกไม้มะขาม
 • สัตว์น้ำแมงกะพรุนน้ำจืดชนิด [Craspedacusta sowerbii] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
ศาลากลางจังหวัด
 • ที่ตั้งภายในศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ หมู่ที่ 5 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67000
เว็บไซต์http://www.phetchabun.go.th/
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางตอนบนของประเทศไทย[4] มีพื้นที่ประมาณ 12,668 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของประเทศ มีประชากร 994,397 คน[3] แบ่งการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ และมีเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์เป็นศูนย์กลางของจังหวัด เป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก

ศัพท์มูลวิทยา

ชื่อของจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อสมัยก่อนน่าจะชื่อว่าเมือง "เพชบุระ" ตามที่ปรากฏในจารึกลานทองคำ ที่พบจากเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ วัดมหาธาตุ ซึ่งหมายถึงเมืองแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร แต่ในระยะหลังต่อมาได้เพื้ยนหรือเปลี่ยนเป็นชื่อ "เพ็ชร์บูรณ์"[5] และเปลี่ยนเป็น "เพชรบูรณ์" กลายความหมายเป็นเมืองที่อุดมด้วยเพชร และได้นำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัด

เพชรบูรณ์ แปลว่าเมืองพระหรือเมืองวิถีพุทธ หมายถึง เมืองที่ประชาชนดำเนินชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนา คำว่า "เพชร" ในคำว่า เพชรบูรณ์ เป็นศัพท์ทางศาสนา ไม่ได้หมายถึงเพชรที่เป็นอัญมณี (diamond) แต่มาจากคำว่า สัพพัญญู แปลว่า ผู้รู้ทุกอย่าง (หมายถึงพระพุทธเจ้า) แล้วทำให้เหลือสองพยางค์ตามหลักอักขระวิธีเป็น สรรเพชญ์ และเอาคำว่า เพชญ์ คำเดียวมาสนธิกับคำว่า ปุระ รวมกันเป็น เพ็ชญปุระ เพี้ยนมาเป็นเพชรบูรณ์ในปัจจุบัน คล้ายกับชื่อเมือง จันทบูร แผลงมาเป็น จันทบุรี,

เพชรบูรณ์ แปลว่า เมืองพระ, พิษณูโลก แปลว่า เมืองพระวิษณะ, สวรรคโลก แปลว่า เมืองสวรรค์

ประวัติศาสตร์

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการรวบรวมหัวเมืองตามชายแดนที่สำคัญตั้งเป็นเขตการปกครองใหม่ ขึ้นเป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล ในปี พ.ศ. 2442 มณฑลเพชรบูรณ์ได้ตั้งขึ้นเป็นอิสระ เนื่องจากท้องที่มีภูเขาล้อมรอบ มีการเชื่อมต่อคมนาคมกับมณฑลอื่นไม่สะดวก ลำบากแก่การติดต่อราชการ และโอนเมืองหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า อำเภอวังสะพุง มาขึ้นกับมณฑลเพชรบูรณ์ ยุบเมืองวิเชียรบุรีเป็นอำเภอ โอนอำเภอบัวชุม (ปัจจุบันเป็นตำบล) อำเภอชัยบาดาลขึ้นกับเมืองเพชรบูรณ์ มณฑลเพชรบูรณ์จึงมีสองเมือง คือ หล่มสัก กับ เพชรบูรณ์[6]

พ.ศ. 2447 ได้ยุบมณฑลเพชรบูรณ์ และได้ตั้งเป็นมณฑลอีกในปี พ.ศ. 2450 และได้ยุบอีกครั้งในปี พ.ศ. 2459 จังหวัดเพชรบูรณ์ในขณะนั้นมี 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอวัดป่า (ปัจจุบันคือตำบลในอำเภอหล่มสัก) อำเภอวิเชียรบุรี และกิ่งอำเภอชนแดน[6] จนกระทั่ง พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกมณฑลต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ภูมิศาสตร์

ที่ตั้ง

จังหวัดเพชรบูรณ์มีตำแหน่งทางอุตุนิยมวิทยาในเขตภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย โดยเกณฑ์การแบ่งภาคของราชบัณฑิตยสถาน ได้กำหนดให้เพชรบูรณ์เป็นจังหวัดในภาคกลาง[4] จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่มีแนวเขตติดต่อระหว่างภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประมาณเส้นรุ้งที่ 16 องศาเหนือ กับเส้นแวง 101 องศาตะวันออก ส่วนที่กว้างที่สุดวัดจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาว 55 กิโลเมตร ส่วนที่ยาวที่สุดวัดจากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาว 296 กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 346 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21

อาณาเขต

ภูมิประเทศ

จังหวัดเพชรบูรณ์มีพื้นที่ประมาณ 12,668.416 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 7,917,760 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 114 เมตร มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของประเทศ ลักษณะทางกายภาพของจังหวัดเพชรบูรณ์นั้นเป็นพื้นที่ราบลุ่มแบบท้องกระทะ ประกอบด้วยเนินเขา ป่า และที่ราบเป็นตอน ๆ สลับกันไป พื้นที่มีลักษณะลาดชันจากเหนือลงไปใต้ ตอนเหนือมีทิวเขาสูง ตอนกลางเป็นพื้นที่ราบและมีเทือกเขาขนาบกันไปทั้งสองข้างมีลักษณะเป็นรูปเกือกม้า[6] มีแม่น้ำป่าสักเป็นแม่น้ำสายสำคัญโดยไหลจากจังหวัดเลย เพชรบูรณ์ ผ่านไปสู่จังหวัดในภาคกลาง แล้วลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ตามลำดับ จึงส่งผลให้พื้นที่ดีมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ดินมีสภาพอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชทำการเกษตร

ทิวเขาเพชรบูรณ์ในพื้นที่อำเภอเขาค้อ

ภูมิอากาศ

เนื่องจากสภาพภูมิประเทศล้อมรอบด้วยภูเขา ทำให้สภาพภูมิอากาศแตกต่างกันมากในแต่ละฤดูกาล คือ อากาศจะร้อนมากในฤดูร้อน และหนาวจัดในฤดูหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอน้ำหนาว อำเภอเขาค้อ และอำเภอหล่มเก่า ส่วนพื้นที่บนภูเขาจะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูฝนมีฝนตกชุก และมีน้ำป่าไหลหลากมาท่วมในที่ราบ โดยเฉพาะบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักตอนใต้ของจังหวัด ในฤดูแล้งน้ำจะขาดแคลนไม่เพียงพอกับการเกษตรกรรม ในฤดูร้อนและฤดูฝน จะมีอุณหภูมิ 20-24 องศาเซลเซียส[7]

ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดเพชรบูรณ์
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 31.9
(89.4)
34.4
(93.9)
36.3
(97.3)
37.2
(99)
35.0
(95)
32.9
(91.2)
32.3
(90.1)
31.8
(89.2)
32.0
(89.6)
32.2
(90)
31.6
(88.9)
31.0
(87.8)
33.22
(91.79)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 15.9
(60.6)
18.9
(66)
21.8
(71.2)
24.1
(75.4)
24.5
(76.1)
24.2
(75.6)
23.8
(74.8)
23.8
(74.8)
23.6
(74.5)
22.6
(72.7)
19.5
(67.1)
16.1
(61)
21.57
(70.82)
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) 7.0
(0.276)
17.4
(0.685)
34.5
(1.358)
70.3
(2.768)
157.4
(6.197)
153.1
(6.028)
168.5
(6.634)
189.3
(7.453)
211.9
(8.343)
98.3
(3.87)
13.2
(0.52)
3.8
(0.15)
1,124.7
(44.28)
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย 1 2 4 7 15 17 18 21 18 11 3 1 118
แหล่งที่มา: Thai Meteorological Department

ทรัพยากรธรรมชาติ

จังหวัดเพชรบูรณ์ มีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหลายชนิด ดังนี้

  • แหล่งน้ำธรรมชาติ ประกอบด้วยแม่น้ำป่าสัก ลุ่มน้ำเชิญ ลุ่มน้ำเข็ก ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำสายต่าง ๆ
  • ป่าไม้ในจังหวัดเพชรบูรณ์มีเนื้อที่ 2,006.51 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 100.00 ของพื้นที่จังหวัด เป็นป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 13 แห่ง อุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 2 แห่ง เขตห้ามล่าสัตว์ป่า 2 แห่ง สวนรุกขชาติ 3 แห่ง วนอุทยาน 1 แห่ง สามารถจำแนกตามเขตการ ใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ ได้แก่ เขตเพื่อการอนุรักษ์ คิดเป็นร้อยละ 58.59 ของพื้นที่ป่าไม้ทั้งหมด เขตเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 28.67 และเขตพื้นที่เหมาะสมแก่การเกษตร ร้อยละ 6.67

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

หน่วยการปกครอง

การปกครองส่วนภูมิภาค

แผนที่อำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์

จังหวัดเพชรบูรณ์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ 117 ตำบล 1,430 หมู่บ้าน ซึ่งอำเภอทั้ง 11 อำเภอมีดังนี้

การปกครองส่วนท้องถิ่น

จังหวัดเพชรบูรณ์มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 128 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง (องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์), เทศบาลเมือง 3 แห่ง, เทศบาลตำบล 22 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 102 แห่ง[8] รายชื่อเทศบาลทั้งหมดในจังหวัดเพชรบูรณ์มีดังนี้

ประชากรศาสตร์

สถิติประชากร

      หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
      หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
อันดับ
(ปีล่าสุด)
อำเภอ พ.ศ. 2557[9] พ.ศ. 2556[10] พ.ศ. 2555[11] พ.ศ. 2554[12] พ.ศ. 2553[13] พ.ศ. 2552[14] พ.ศ. 2551[15]
1 เมืองเพชรบูรณ์ 210,822 210,730 210,420 210,023 211,046 211,055 210,967
2 หล่มสัก 157,720 157,576 157,595 157,494 158,535 158,352 158,431
3 วิเชียรบุรี 132,542 132,456 132,572 132,299 135,235 135,274 136,538
4 หนองไผ่ 112,757 112,885 113,164 112,911 113,370 113,305 113,403
5 ชนแดน 79,780 79,685 79,679 79,267 79,494 79,621 80,026
6 บึงสามพัน 71,998 71,859 71,770 71,511 71,851 71,626 71,579
7 ศรีเทพ 70,608 70,454 70,472 70,143 69,772 69,654 69,670
8 หล่มเก่า 66,995 66,885 66,800 66,611 66,741 66,577 66,417
9 วังโป่ง 37,393 37,545 37,584 37,552 37,629 37,722 37,873
10 เขาค้อ 37,082 36,494 36,043 35,551 35,081 34,762 34,325
11 น้ำหนาว 18,110 17,828 17,603 17,445 17,277 17,177 17,003
รวม 995,807 994,397 993,702 990,807 996,031 995,125 996,231

เศรษฐกิจ

สภาพทางเศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบูรณ์ในปี พ.ศ. 2539 พบว่า ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 28,982 บาทต่อปี เป็นอันดับ 56 ของประเทศ โดยทั้งจังหวัดมีผลิตภัณฑ์มวลรวม 26,576.729 ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสาขาการเกษตรมากที่สุดถึงร้อยละ 33.30 คิดเป็นมูลค่า 8,849.064 ล้านบาท รองลงมาเป็นสาขาค้าส่ง และค้าปลีกร้อยละ 20.64 คิดเป็นมูลค่า 5,486.151 ล้านบาท และสาขาบริการร้อยละ 12.52 คิดเป็นมูลค่า 3,327.126 ล้านบาท อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 8.03

การเกษตรและอุตสาหกรรม

ภาวะเศรษฐกิจจังหวัด ภาวะการค้าของจังหวัดโดยทั่วไป เศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบูรณ์ปี พ.ศ. 2543 ปรับตัวดีขึ้นจากภาคการเกษตร โดยผลผลิตที่สำคัญเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเขียวผิวมัน และข้าวฟ่าง เนื่องจากราคาปีก่อนจูงใจให้ขยายพื้นที่ปลูก ประกอบกับสภาพอากาศเอื้ออำนวย มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนการอุตสาหากรรมขยายตัวตามการลงทุนด้านอุตสาหกรรมการเกษตร เช่น โรงสีข้าว ไซโลอบเมล็ดพืช ซึ่งเป็นโรงงานขนาดกลางใช้เงินทุน ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จังหวัดเพชรบูรณ์มีผลไม้ที่ขึ้นชื่อ คือ มะขามหวาน ซึ่งนิยมเป็นของฝาก

การท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นมากในช่วงฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัด เนื่องจากภาครัฐบาลและเอกชนได้จัดรายการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทำให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้นเป็นอย่างมาก

การก่อสร้าง การเงิน และการจัดเก็บภาษีอากร

การก่อสร้างชะลอตัวลดจากปีก่อน โดยการก่อสร้างการให้สินเชื่อเพื่อการลงทุนยังคงหดตัว จากการจดทะเบียนนิติบุคคลของบุคคลของผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างลดลงร้อยละ 17.64 เงินทุนลดลงร้อยละ 41.56 ตามลำดับภาวะการค้าของจังหวัดในปี พ.ศ. 2543 ยังคงทรงตัวต่อเนื่องจากปีก่อน จะมีการใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงฤดูท่องเที่ยว

ในปี พ.ศ. 2543 จังหวัดเพชรบูรณ์ มีสถาบันการเงินที่ให้บริการแก่ประชาชนทั้งสิ้น 46 แห่ง ซึ่งสถาบันการเงินที่สำคัญ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และบริษัทประกันชีวิต

จังหวัดเพชรบูรณ์มีการจัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดา นิติบุคคล อากรแสตมป์ มูลค่าเพิ่ม ธุรกิจเฉพาะและอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 346,963 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนจัดเก็บได้ 394,292 ล้านบาท หรือการจัดเก็บภาษีอากรลดลง ร้อยละ 12.00 ส่วนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต จำนวนทั้งสิ้น 8,591.38 บาท

การศึกษา

การศึกษาแบ่งเป็นระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 546 แห่ง และระดับอุดมศึกษา 10 แห่ง

การขนส่ง

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 เส้นทางพาดผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ในอำเภอน้ำหนาว

การขนส่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่จะใช้ระบบถนน เนื่องจากไม่มีทางรถไฟ และมีท่าอากาศยาน 1 แห่ง คือ ท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ การขนส่งทางถนนในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 เป็นทางหลวงสายหลักพาดผ่านในแนวเหนือ-ใต้ ผ่านเขตจังหวัดเป็นระยะทาง 114.834 กิโลเมตร การเดินทางจากกรุงเทพมหานครมายังจังหวัด สามารถใช้ถนนพหลโยธิน จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 ที่แยกพุแค (ประมาณกิโลเมตรที่ 123 ของถนนพหลโยธิน) ผ่านจังหวัดลพบุรี แล้วเข้ามายังจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านตัวจังหวัด แล้วออกไปยังจังหวัดเลย ระยะทางจากกรุงเทพมหานครมายังตัวจังหวัดอยู่ห่างประมาณ 346 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 เชื่อมต่อไปยังจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดขอนแก่น, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 113 เชื่อมต่อจังหวัดไปยังจังหวัดพิจิตร, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 เชื่อมต่อไปยังจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดชัยภูมิ

ระยะทางจากตัวจังหวัดไปอำเภอต่างๆ

วัฒนธรรมและประเพณี

ภาษาถิ่น

จังหวัดเพชรบูรณ์ มีประชากรที่เป็นคนพื้นถิ่นพูดภาษาถิ่นที่แตกต่างกันแต่ละท้องที่ นอกจากนี้ยัง มีประชากรที่อพยพจากส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทยใช้ภาษาถิ่นเดิมของตน และชาวไทยภูเขาที่พูดภาษาของ เผ่าม้ง จึงทำให้วัฒนธรรมทางภาษาถิ่นของเพชรบูรณ์มีความหลากหลาย ภาษาถิ่นที่ใช้กันในจังหวัดเพชรบูรณ์ สรุปได้ดังนี้

๑. กลุ่มภาษาหล่ม(ลาวหลวงพระบาง) เป็นภาษาถิ่นที่ใช้กันในเขตอำเภอตอนบน ได้แก่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก อำเภอน้ำหนาว ประชากรในเขตพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นเดิม ภาษาพูดเป็นภาษาถิ่นดั้งเดิมครั้งอพยพ มาจากเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ภาษาหล่มมีการใช้ศัพท์คล้ายกับภาษาไทยอิสาน แต่แตกต่างกันที่ สำเนียง ภาษาหล่มจะมีสำเนียงคล้ายกับภาษาลาวที่ใช้พูดในเมืองหลวงพระบาง ในตำบลต่าง ๆ ในแต่ละ อำเภอ สำเนียงพูดจะแตกต่างกัน เล็กน้อย แต่ภาษาสื่อสารกันได้เพราะใช้ศัพท์ใกล้เคียงกัน ปัจจุบันความ สะดวกทางการคมนาคมและการใช้ภาษาไทยถิ่นกลาง จึงทำให้ภาษาไทยถิ่นกลางปะปนกับภาษาหล่ม เช่น พูดสำเนียงภาษาหล่มโดยใช้ศัพท์ภาษาไทยถิ่นภาคกลาง

๒. กลุ่มภาษาเพชรบูรณ์ กลุ่มภาษานี้จะพูดกันในเขตอำเภอเมืองเป็นภาษาที่มีสำเนียงเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว คำศัพท์ที่ใช้มีทั้งภาษาถิ่นไทยกลาง และภาษาลาวหล่ม

๓. กลุ่มภาษาเพชรบูรณ์ตอนใต้ คือ ภาษาที่ใช้กันในเขตอำเภอตอนใต้ซึ่งได้แก่ อำเภอบึงสามพัน อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอศรีเทพ ภาษาที่ใช้พูดจะแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม คือ ภาษาถิ่นไทยภาคกลางซึ่งส่วนใหญ่จะ เป็นคนท้องถิ่นเดิม และภาษาพูดอีกกลุ่มหนึ่งคือ ภาษาอีสาน ผู้พูดภาษานี้ส่วนใหญ่เป็นประชากรที่อพยพมาจากจังหวัดต่าง ๆ ของภาคอีสาน แต่ประชากรส่วนใหญ่สามารพูดภาษาเพชรบูรณ์ตอนใต้ได้ทั้งสองกลุ่มภาษาคือภาษาไทยกลางและภาษาอีสาน

๔. กลุ่มภาษาถิ่นไทยกลาง เป็นภาษาที่ใช้พูดทั่วไปในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะเพชรบูรณ์เป็นเมืองที่มีประชากรมาจากหลายท้องที่อพยพเข้ามา จึงใช้ภาษาถิ่นไทยกลางในการสื่อสาร แต่การใช้ภาษาจะมี ศัพท์ภาษาเดิมผสมผสานกันบ้าง

๕. ภาษากลุ่มชาวบน ชาวบนเป็นกลุ่มชนดั้งเดิมของเพชรบูรณ์ สืบเชื้อสายมาจากละว้า มีภาษาพูด เป็นภาษาชาวบน ซึ่งคำศัพท์แตกต่างไปจากภาษากลุ่มอื่น ๆ ปัจจุบันประชากรเชื้อสายชาวบนเป็นชนกลุ่มน้อย มีชุมชนอยู่ที่บ้านน้ำเลา บ้านห้วยไคร้ อำเภอเมือง และบ้านท่าด้วง อำเภอหนองไผ่

๖. ภาษากลุ่มชาวเขา ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดเพชรบูรณ์มีรูปร่างคล้ายกะทะ มีภูเขาล้อมรอบทุกด้าน จึงมีประชากรส่วนหนึ่งอาศัยอยู่บนเขา ชาวเขาในจังหวัดเพชรบูรณ์ประกอบด้วยชาวเขาเผ่าม้งเป็น ส่วนใหญ่ และเผ่าอื่น ๆ เช่น ลีซอ เป็นต้น ซึ่งอาศัยบริเวณภูทับเบิกและเขาค้อเป็นส่วนใหญ่ หมู่บ้านชาวเขาได้แก่ บ้านเข็กน้อย หมู่บ้านม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บ้านเล่าลือ บ้านเล่าน้ง บ้านเพชรดำ อำเภอเขาค้อ และ บ้านทับเบิก บ้านนาสะอุ้ง บ้านดอยน้ำเพียงดิน บ้านภูโปด อำเภอหล่มเก่า

สถานที่สำคัญ

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
ทิวทัศน์บริเวณอำเภอเขาค้อ

1.อำเภอเมืองเพชรบูรณ์

  • ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์
  • วัดมหาธาตุ
  • วัดไตรภูมิ
  • วัดช้างเผือก
  • วัดเพชรวรารามพระอารามหลวง
  • พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ
  • วัดถ้ำน้ำบัง
  • อ่างเก็บน้ำห้วยท่าพล
  • อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่
  • อ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลา
  • อ่างเก็บน้ำคลองห้วยนา
  • อ่างเก็บน้ำคลองเฉลียงลับ
  • อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง
  • อุทยานแห่งชาติตาดหมอก
  • น้ำตกธาราเอราวัณ
  • ถนนคนเดินคนเด็ดซะบูน
  • หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์
  • หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย
  • หอเกียรติยศเพชบุระ
  • สวนสาธารณะหนองนารี
  • ตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์
  • ไร่กำนันจุล

2.อำเภอหล่มสัก

  • อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง
  • วัดถ้ำสมบัติ
  • ศาลเจ้าพ่อผาแดง
  • อ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น
  • อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำก้อ
  • อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชุนใหญ่
  • อ่างเก็บน้ำโคกเดิ่นฤๅษี
  • ผาแดง (แหล่งรอยเลื่อนเพชรบูรณ์)
  • สะพานห้วยตอง (เชื่อมแผ่นโลก)
  • จุดชมวิวผาหงษ์
  • โนนหัวโล้น (แพะเมืองผีหล่มสัก)
  • น้ำตกธารทิพย์
  • น้ำตกตาดฟ้า
  • วังหินลาด
  • ตีมีดโบราณบ้านใหม่
  • ถนนคนเดินไทหล่ม
  • พิพิธภัณฑ์หล่มศักดิ์
  • สวนสาธารณะหนองแค
  • ตลาดสดเทศบาลเมืองหล่มสัก

3.อำเภอศรีเทพ

4.อำเภอเขาค้อ

  • พระตำหนักเขาค้อ
  • ไร่บีเอ็น
  • วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
  • วัดกองเนียม
  • จุดชมทะเลหมอกไปรษณีย์เขาค้อ
  • เขาตะเคียนโง๊ะ
  • กังหันลมเขาค้อ
  • เข็กน้อย (หมู่บ้านม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย)
  • ไร่สตรอเบอรี่เขาค้อ
  • พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ)
  • อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ
  • พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก
  • ดอยตั๋วเพ่ง
  • น้ำตกศรีดิษฐ์
  • น้ำตกวังตุ้ม
  • น้ำตกสันติสุข
  • แก่งบางระจัน
  • อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (หน่วยสนสวย)
  • อุทยานแห่งชาติเขาค้อ

5.อำเภอน้ำหนาว

  • อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
  • น้ำตกตาดพรานบ่า
  • น้ำตกทรายทอง
  • น้ำตกตาดฟ้า และ น้ำตกตาดทิดมี (เชื่อมต่อกับจังหวัดขอนแก่น)
  • น้ำตกเหวทราย
  • ภูผาจิต
  • ผาล้อมผากอง
  • จุดชมวิวภูค้อ
  • สวนสนบ้านแปก
  • สวนสนภูกุ่มข้าว
  • แคนยอนน้ำหนาว
  • เลยดั้น (สามพันโบกเพชรบูรณ์)
  • ถ้ำใหญ่น้ำหนาว
  • ผารอยตีนอาร์คอโซร์
  • แปลงสัปปะรดบ้านซำม่วง

6.อำเภอหล่มเก่า

  • ภูทับเบิก
  • วัดตาล
  • วัดทุ่งธงไชย
  • น้ำตกตาดโดด
  • น้ำตกวังฮาง
  • น้ำตกวังใหญ่
  • น้ำตกซำบุ่น
  • ต้นแม่น้ำป่าสักบ้านสักง่า
  • ตลาดหล่มเก่า
  • แปลงต้นพญาเสือโคร่งบ้านทับเบิก (ซากุระเมืองไทย)
  • ถนนลอยฟ้า (ช่วงตาดกลอย - วังสะพุง)

7.อำเภอวิเชียรบุรี

  • วัดวิเชียรบำรุง
  • วัดถ้ำเทพบันดาล
  • น้ำพุร้อนพุเตย
  • น้ำผุดบ้านน้ำเดือด
  • น้ำตกซับพลู เสาอัคนี
  • สุสานหอย 15 ล้านปี
  • ท้องทะเลดึกดำบรรพ์ภูน้ำหยด
  • ถนนสายไก่ย่างวิเชียรบุรี

8.อำเภอชนแดน

  • วัดพระพุทธบาทเขาน้อย (หลวงพ่อทบองค์ใหญ่)
  • อ่างเก็บน้ำหนองตาด
  • อ่างเก็บน้ำกุฏิพระ
  • น้ำตกแสนสมบูรณ์
  • ผาทอง
  • เขาหินปะการัง
  • ตลาดชนแดน

9.อำเภอวังโป่ง

  • น้ำตกบ่อหญ้า
  • น้ำตกสาระนิน
  • น้ำตกลาดค่า
  • ผานกนางแอ่น
  • อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำขึ้นน้ำลง
  • ถ้ำผาโค้ง
  • ผาเจ็ดสี
  • ถ้ำปากเสือ
  • เขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง - ชนแดน

10.อำเภอหนองไผ่

  • วัดธรรมยาน
  • วัดโพธิ์เจดีย์ลอย
  • น้ำตกซับชมภู
  • น้ำตกวังเหว
  • น้ำตกพริ้วไสว
  • ท้องทะเลดึกดำบรรพ์บ้านโภชน์
  • อ่างเก็บน้ำคลองลำกง
  • อ่างเก็บน้ำคลองอู่เรือ
  • อ่างเก็บน้ำคลองยาง

11.อำเภอบึงสามพัน

  • วัดซับไพเราะ
  • บึงสามพัน
  • ท้องทุ่งทานตะวันที่บึงสามพัน


บุคคลที่มีชื่อเสียง

อ้างอิง

  1. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
  2. ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
  3. 3.0 3.1 กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_57.pdf 2563. สืบค้น 27 มกราคม 2563.
  4. 4.0 4.1 การแบ่งภูมิภาคในประเทศไทย
  5. ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนชื่ออำเภอ. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 34 ตอนที่ ๐ก วันที่ 29 เมษายน 2460
  6. 6.0 6.1 6.2 คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดเพชรบูรณ์ , (กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว ,2543).
  7. สารสนเทศจังหวัด สภาพทั่วไป เว็บไซต์จังหวัดเพชรบูรณ์
  8. ข้อมูลจำนวน อปท. แยกรายจังหวัด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
  9. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_57.pdf 2558. สืบค้น 1 มีนาคม 2558.
  10. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖, เล่ม ๑๓๑, ตอน ๔๑ ง , ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗, หน้า ๑
  11. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat55.html 2555. สืบค้น 3 เมษายน 2556.
  12. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat54.html 2555. สืบค้น 6 เมษายน 2555.
  13. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/stat/y_stat53.html 2553. สืบค้น 30 มกราคม 2554.
  14. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552."203.113.86.149/stat/y_stat.htmlสืบค้น 30 มีนาคม 2553
  15. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat51.html 2552. สืบค้น 30 มกราคม 2552.

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

16°25′N 101°10′E / 16.42°N 101.16°E / 16.42; 101.16