ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การละลาย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 6: | บรรทัด 6: | ||
ในตัวทำละลายแต่ละชนิดจะมีสภาพขั้วของสารชนิดนั้นๆ โดยโมเลกุลที่มีขั้วจะสามารถละลายสารประกอบไอออนิกและสารประกอบโควาเลนต์ที่มีขั้วได้ ส่วนโมเลกุลที่ไม่มีขั้วจะสามารถละลายสารประกอบโควาเลนต์ที่ไม่มีขั้วได้ ตัวอย่างเช่น เกลือแกง เป็นสารประกอบไอออนิก สารมารถละลายในน้ำซึ่งเป็นโมเลกุลมีขั้ว แต่ไม่สามารถละลายในเอทานอลได้ แต่น้ำกับสารที่ไม่มีขั้วจะไม่สามารถรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันได้ แต่จะแยกออกเป็นชั้นๆ หรือรวมกันเป็น[[คอลลอยด์]]แบบ[[อิมัลชั่น]]ดังเช่นในน้ำนม |
ในตัวทำละลายแต่ละชนิดจะมีสภาพขั้วของสารชนิดนั้นๆ โดยโมเลกุลที่มีขั้วจะสามารถละลายสารประกอบไอออนิกและสารประกอบโควาเลนต์ที่มีขั้วได้ ส่วนโมเลกุลที่ไม่มีขั้วจะสามารถละลายสารประกอบโควาเลนต์ที่ไม่มีขั้วได้ ตัวอย่างเช่น เกลือแกง เป็นสารประกอบไอออนิก สารมารถละลายในน้ำซึ่งเป็นโมเลกุลมีขั้ว แต่ไม่สามารถละลายในเอทานอลได้ แต่น้ำกับสารที่ไม่มีขั้วจะไม่สามารถรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันได้ แต่จะแยกออกเป็นชั้นๆ หรือรวมกันเป็น[[คอลลอยด์]]แบบ[[อิมัลชั่น]]ดังเช่นในน้ำนม |
||
ตัวทำละลายที่นิยมใช้กับสารอินทรีย์ ได้แก่ [[อะซีโตน]] [[เอทานอล]] [[น้ำ_(โมเลกุล)|น้ำ]] [[ |
ตัวทำละลายที่นิยมใช้กับสารอินทรีย์ ได้แก่ [[อะซีโตน]] [[เอทานอล]] [[น้ำ_(โมเลกุล)|น้ำ]]และ [[เบนซีน]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:40, 26 ธันวาคม 2548
เมื่อเกิดการละลายของสารชนิดหนึ่งในของเหลว เราจะเรียกสารผสมนั้นว่า สารละลาย โดยเรียกสารที่ละลายอยู่ในของเหลวนั้นว่าตัวถูกละลาย และเรียกของเหลวนั้นว่าตัวทำละลาย สารละลายที่ไม่สามารถใส่ตัวถูกละลายลงไปเพิ่มได้อีกแล้ว จะเรียกว่า สารละลายอิ่มตัว แต่ในบางสภาพ ตัวถูกละลายนั้นก็อาจละลายในตัวทำละลายชนิดเดียวกันได้มากกว่าปกติจนอิ่มตัว จะเรียกสารละลายที่อิ่มตัวนั้นว่า สารละลายอิ่มตัวยวดยิ่ง
ความสามารถในการละลายของสารชนิดหนึ่งในสารอีกชนิดหนึ่งนั้นสามารถหาได้จากอัตราส่วนระหว่างตัวถูกละลาย กับตัวทำละลาย หรือ อัตราส่วนระหว่างตัวถูกละลาย กับสารละลาย ในสภาวะที่สารละลายนั้นเป็นสารละลายอิ่มตัว ซึ่งสามาถรบอกเป็นความหนาแน่นสูงสุดของสารละลายนั้นได้อีกด้วยซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น แรงระหว่างโมเลกุลของตัวทำละลายกับตัวถูกละลาย อุณหภูมิ ความดัน และปัจจัยอื่นๆ
ในตัวทำละลายแต่ละชนิดจะมีสภาพขั้วของสารชนิดนั้นๆ โดยโมเลกุลที่มีขั้วจะสามารถละลายสารประกอบไอออนิกและสารประกอบโควาเลนต์ที่มีขั้วได้ ส่วนโมเลกุลที่ไม่มีขั้วจะสามารถละลายสารประกอบโควาเลนต์ที่ไม่มีขั้วได้ ตัวอย่างเช่น เกลือแกง เป็นสารประกอบไอออนิก สารมารถละลายในน้ำซึ่งเป็นโมเลกุลมีขั้ว แต่ไม่สามารถละลายในเอทานอลได้ แต่น้ำกับสารที่ไม่มีขั้วจะไม่สามารถรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันได้ แต่จะแยกออกเป็นชั้นๆ หรือรวมกันเป็นคอลลอยด์แบบอิมัลชั่นดังเช่นในน้ำนม
ตัวทำละลายที่นิยมใช้กับสารอินทรีย์ ได้แก่ อะซีโตน เอทานอล น้ำและ เบนซีน
คนส่วนใหญ่มักคิดว่า สารละลายต้องเกิดจากของแข็งละลายในของเหลวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว สารละลายสามารถเกิดจากสารได้ทุกสถานะ เช่น น้ำอัดลม เกิดจากแก๊สละลายในของเหลว แก๊สไฮโดรเจน สารมารถละลายในแพลลาเดียมที่เป็นของแข็งได้ หรือเหล็กกล้าปลอดสนิมที่เรียกกันว่า สเตนเลส ก็เกิดจากการผสมกันระหว่างของแข็งหลายชนิดที่เรียกว่า อัลลอยด์
การละลายของสารพันธะต่างๆ ในน้ำ
ชนิดของพันธะ | ความสามารถในการละลายน้ำ | ตัวอย่าง |
---|---|---|
ไอออนิก | ส่วนใหญ่ละลายได้ | ดูรายละเอียด ด้านล่าง |
โลหะ | ไม่ละลาย | เหล็ก |
ทำปฏิกิริยากับน้ำ | โพแทสเซียม | |
โมเลกุลโควาเลนต์มีขั้ว | ละลายถ้ามีพันธะไฮโดรเจน | กลูโคส |
ละลายโดยปฏิกิริยา | กรดเกลือ | |
ไม่ละลาย | อีเทอร์ | |
โมเลกุลโควาเลนต์ไม่มีขั้ว | ส่วนใหญ่ไม่ละลาย | เบนซีน |
ละลายได้เล็กน้อย | ออกซิเจน | |
โควาเลนต์โครงผลึกร่างตาข่าย | ไม่ละลาย | เพชร |
การละลายน้ำของสารประกอบไอออนิก
ละลาย | ไม่ละลาย |
---|---|
โลหะแอลคาไลน์ และ สารประกอบ NH4+ | คาร์บอเนต ยกเว้นสารประกอบของโลหะแอลคาไลน์ และ สารประกอบ NH4+ |
สารประกอบไนเตรต | สารประกอบซัลไฟต์ (ยกเว้นสารประกอบของโลหะแอลคาไลน์ และ สารประกอบ NH4+) |
อะซีเตต (CH3COO-) | สารประกอบฟอสเฟต (ยกเว้นสารประกอบของโลหะแอลคาไลน์ และ สารประกอบ NH4+) |
คลอไรด์ โบรไมด์ และ ไอโอไดด์ (ยกเว้น Ag+, Pb2+, Cu+ และ Hg22+) | ไฮดรอกไซด์ และ ออกไซด์ (ยกเว้นสารประกอบของโลหะแอลคาไลน์ สารประกอบ NH4+ Ba2+ Sr2+ และ Ca2+) |
ซัลเฟต (ยกเว้น Ag+, Pb2+, Ba2+, Sr2+ และ Ca2+) | ซัลไฟด์ (ยกเว้นสารประกอบของโลหะแอลคาไลน์ โลหะแอลคาไลน์เอิร์ท สารประกอบ NH4+) |