ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ษุลฮิจญ์ญะฮ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Waniosa Amedestir (คุย | ส่วนร่วม)
Waniosa Amedestir ย้ายหน้า ซุลหิจญะฮฺ ไปยัง ซุลฮิจญะฮ์: ตามเสียงอาหรับ
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{เดือนมุสลิม}}
{{เดือนมุสลิม}}
'''ซุลฮิจญะฮ์''' ({{lang-ar|ذُو ٱلْحِجَّة}}) เป็นเดือนที่ 12 ใน[[ปฏิทินฮิจญ์เราะฮ์]]เป็นเดือนที่ชาว[[มุสลิม]]เดินทางไป[[มักกะฮฺ]]เพื่อประกอบพิธี[[หัจญ์]] ในเดือนนี้มีวันสำคัญคือ [[วันอีดุลอัฏฮา]] นอกจากนี้สิบวันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺยังเป็นช่วงเวลาที่มีความประเสริฐอย่างยิ่งสำหรับชาวมุสลิม ซึ่งอัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานมีความหมายว่า และจงประกาศแก่มนุษย์ทั่วไปเพื่อการทำหัจญ์ พวกเขาจะมาหาเจ้าโดยทางเท้าและโดยทางอูฐเพรียวทุกตัว จะมาจากทางไกลทุกทิศทาง เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา(ด้านโลกและด้านศาสนา) และกล่าวพระนามอัลลอฮ ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว (คือวันเชือด) ตามที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า ดังนั้นพวกเธอจงกินเนื้อของมัน และจงให้อาหารแก่ผู้ยากจนขัดสน” (ซูเราะฮฺอัลหัจญ์ อายะฮฺ 27-28)
'''ษุลฮิจญ์ญะฮ์''' ({{lang-ar|ذُو ٱلْحِجَّة}}) เป็นเดือนที่ 12 ใน[[ปฏิทินฮิจเราะห์]] เป็นเดือนที่ชาว[[มุสลิม]]เดินทางไป[[มักกะฮ์]]เพื่อประกอบพิธี[[ฮัจญ์]] ในเดือนนี้มีวันสำคัญคือ [[วันอีดุลอัฎฮา]] นอกจากนี้สิบวันแรกของเดือนษุลฮิจญ์ญะฮ์ยังเป็นช่วงเวลาที่มีความประเสริฐอย่างยิ่งสำหรับชาวมุสลิม ซึ่งอัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานมีความหมายว่า "และจงประกาศแก่มนุษย์ทั่วไปเพื่อการทำฮัจญ์ พวกเขาจะมาหาเจ้าโดยทางเท้าและโดยทางอูฐเพรียวทุกตัว จะมาจากทางไกลทุกทิศทาง เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา (ด้านโลกและด้านศาสนา) และกล่าวพระนามอัลลอฮ ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว (คือวันเชือด) ตามที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า ดังนั้นพวกเธอจงกินเนื้อของมัน และจงให้อาหารแก่ผู้ยากจนขัดสน" (ซูเราะฮ์อัลฮัจญ์ อายะฮ์ 27-28)


และในการบันทึกของอิมามบุคอรีย์และอบูดาวูด รายงานโดยท่านอิบนุอับบาสจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ไม่มีวันใดๆ การกระทำอันดีงามที่อัลลอฮฺโปรดจะถูกกระทำในวันนั้นดีกว่าการกระทำสิ่งดีๆในบรรดาวันนี้(คือสิบวันแรกของซุลหิจญะฮฺ) ศ่อฮาบะฮฺได้กล่าวว่า แม้กระทั่ง(ดีกว่า)การทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺกระนั้นหรือ” ท่านนบีตอบว่า แม้กระทั่งการทำญิฮาด(หมายถึงจะไม่ดีกว่าการทำความดีในสิบวันแรกของซุลหิจญะฮฺ) เว้นแต่ชายคนหนึ่งออก(จากบ้าน)ด้วยชีวิตและทรัพย์สิน(เพื่อทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺ) และไม่มีสิ่งใดจากนั้น(ชีวิตและทรัพย์สิน)ได้กลับมาเลย”
และในการบันทึกของอิหม่ามบุคอรีย์และอบูดาวูด รายงานโดยท่านอิบนุอับบาสจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ไม่มีวันใด ๆ การกระทำอันดีงามที่อัลลอฮ์โปรดจะถูกกระทำในวันนั้นดีกว่าการกระทำสิ่งดี ๆ ในบรรดาวันนี้ (คือสิบวันแรกของษุลฮิจญ์ญะฮ์)" เศาะฮาบะฮ์ได้กล่าวว่า "แม้กระทั่ง (ดีกว่า) การทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ" ท่านนบีตอบว่า "แม้กระทั่งการทำญิฮาด (หมายถึงจะไม่ดีกว่าการทำความดีในสิบวันแรกของษุลฮิจญ์ญะฮ์) เว้นแต่ชายคนหนึ่งออก (จากบ้าน) ด้วยชีวิตและทรัพย์สิน (เพื่อทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์) และไม่มีสิ่งใดจากนั้น (ชีวิตและทรัพย์สิน) ได้กลับมาเลย"


ท่านหญิงอาอิชะฮฺรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ไม่มีวันใดที่อัลลอฮฺทรงปลดปล่อยบรรดาบ่าวของพระองค์จากนรกมากกว่า[[วันอะรอฟะฮ]](วันที่ 9 ซุลหิจญะฮฺ) และแท้จริงพระองค์จะทรงอยู่ใกล้ชิดและทรงภูมิใจ(ด้วยการขยันทำความดีของบ่าวของพระองค์)ต่อมะลาอิกะฮฺ โดยพระองค์จะตรัส(ด้วยความภูมิใจ)ว่า คนเหล่านี้ประสงค์อะไรกัน(หมายถึงกล่าวถึงความปรารถนาอันทรงเกียรติของบ่าวของอัลลอฮฺที่แสวงบุญในวันอะรอฟะฮฺ) บันทึกโดยอิมามมุสลิม
ท่านหญิงอาอิชะฮฺรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ไม่มีวันใดที่อัลลอฮ์ทรงปลดปล่อยบรรดาบ่าวของพระองค์จากนรกมากกว่า[[วันอะเราะฟะฮ์]] (วันที่ 9 ษุลฮิจญ์ญะฮ์) และแท้จริงพระองค์จะทรงอยู่ใกล้ชิดและทรงภูมิใจ (ด้วยการขยันทำความดีของบ่าวของพระองค์) ต่อมะลาอิกะฮ์ โดยพระองค์จะตรัส (ด้วยความภูมิใจ) ว่า คนเหล่านี้ประสงค์อะไรกัน (หมายถึงกล่าวถึงความปรารถนาอันทรงเกียรติของบ่าวของอัลลอฮ์ที่แสวงบุญในวันอะเราะฟะฮ์)" บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม


'''การทำความดีในสิบวันแรกของซุลหิจญะฮฺ'''
'''การทำความดีในสิบวันแรกของษุลฮิจญ์ญะฮ์'''


* การสรรเสริญสดุดีต่ออัลลอฮฺ : บรรดามุสลิมรุ่นแรก ๆ จะขยันในการรำลึกถึงอัลลอฮฺด้วยเสียงเบาและเสียงดัง
* การสรรเสริญสดุดีต่ออัลลอฮ์ : บรรดามุสลิมรุ่นแรก ๆ จะขยันในการรำลึกถึงอัลลอฮ์ด้วยเสียงเบาและเสียงดัง
* การละหมาดซุนนะฮฺให้มากๆ
* การละหมาดซุนนะฮฺให้มาก ๆ
* การเชือด[[กุรบาน]] (อุฎฮิยะฮฺ)
* การเชือด[[กุรบาน]] (อุฎฮิยะฮ์)
* การบริจาคทานให้มากมาย
* การบริจาคทานให้มากมาย
* การถือศีลอด : ในการบันทึกของท่านอิมามดาวู้ดจากภรรยานบีบางท่าน กล่าวว่า ท่านนบี (ศ) มักจะถือศีลอด 9 วันของซุลหิจญะฮฺ (วันอะรอฟะฮฺ) และสามวันจากทุกเดือน
* การถือศีลอด : ในการบันทึกของท่านอิหม่ามดาวู้ดจากภรรยานบีบางท่าน กล่าวว่า ท่านนบี (ศ) มักจะถือศีลอด 9 วันของษุลฮิจญ์ญะฮ์ (วันอะเราะฟะฮ์) และสามวันจากทุกเดือน
* การละหมาดกลางคืน (กิยามุลลัยลฺ)
* การละหมาดกลางคืน (กิยามุลลัยล์)
* การกลับเนื้อกลับตัวและสำรวมตนให้อยู่ในกรอบหลักการของอัลอิสลามอย่างสม่ำเสมอ
* การกลับเนื้อกลับตัวและสำรวมตนให้อยู่ในกรอบหลักการของอัลอิสลามอย่างสม่ำเสมอ



รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:31, 7 ธันวาคม 2563

ปฏิทินฮิจเราะห์

  1. มุฮัรร็อม
  2. เศาะฟัร
  3. เราะบีอุลเอาวัล
  4. เราะบีอุษษานี
  5. ญุมาดัลอูลา
  6. ญุมาดัษษานี
  7. เราะญับ
  8. ชะอ์บาน
  9. เราะมะฎอน
  10. เชาวาล
  11. ษุลเกาะอ์ดะฮ์
  12. ษุลฮิจญ์ญะฮ์

ษุลฮิจญ์ญะฮ์ (อาหรับ: ذُو ٱلْحِجَّة) เป็นเดือนที่ 12 ในปฏิทินฮิจเราะห์ เป็นเดือนที่ชาวมุสลิมเดินทางไปมักกะฮ์เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ ในเดือนนี้มีวันสำคัญคือ วันอีดุลอัฎฮา นอกจากนี้สิบวันแรกของเดือนษุลฮิจญ์ญะฮ์ยังเป็นช่วงเวลาที่มีความประเสริฐอย่างยิ่งสำหรับชาวมุสลิม ซึ่งอัลลอฮ์ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอานมีความหมายว่า "และจงประกาศแก่มนุษย์ทั่วไปเพื่อการทำฮัจญ์ พวกเขาจะมาหาเจ้าโดยทางเท้าและโดยทางอูฐเพรียวทุกตัว จะมาจากทางไกลทุกทิศทาง เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา (ด้านโลกและด้านศาสนา) และกล่าวพระนามอัลลอฮ ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว (คือวันเชือด) ตามที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาจากสัตว์สี่เท้า ดังนั้นพวกเธอจงกินเนื้อของมัน และจงให้อาหารแก่ผู้ยากจนขัดสน" (ซูเราะฮ์อัลฮัจญ์ อายะฮ์ 27-28)

และในการบันทึกของอิหม่ามบุคอรีย์และอบูดาวูด รายงานโดยท่านอิบนุอับบาสจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ไม่มีวันใด ๆ การกระทำอันดีงามที่อัลลอฮ์โปรดจะถูกกระทำในวันนั้นดีกว่าการกระทำสิ่งดี ๆ ในบรรดาวันนี้ (คือสิบวันแรกของษุลฮิจญ์ญะฮ์)" เศาะฮาบะฮ์ได้กล่าวว่า "แม้กระทั่ง (ดีกว่า) การทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์กระนั้นหรือ" ท่านนบีตอบว่า "แม้กระทั่งการทำญิฮาด (หมายถึงจะไม่ดีกว่าการทำความดีในสิบวันแรกของษุลฮิจญ์ญะฮ์) เว้นแต่ชายคนหนึ่งออก (จากบ้าน) ด้วยชีวิตและทรัพย์สิน (เพื่อทำญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์) และไม่มีสิ่งใดจากนั้น (ชีวิตและทรัพย์สิน) ได้กลับมาเลย"

ท่านหญิงอาอิชะฮฺรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ไม่มีวันใดที่อัลลอฮ์ทรงปลดปล่อยบรรดาบ่าวของพระองค์จากนรกมากกว่าวันอะเราะฟะฮ์ (วันที่ 9 ษุลฮิจญ์ญะฮ์) และแท้จริงพระองค์จะทรงอยู่ใกล้ชิดและทรงภูมิใจ (ด้วยการขยันทำความดีของบ่าวของพระองค์) ต่อมะลาอิกะฮ์ โดยพระองค์จะตรัส (ด้วยความภูมิใจ) ว่า คนเหล่านี้ประสงค์อะไรกัน (หมายถึงกล่าวถึงความปรารถนาอันทรงเกียรติของบ่าวของอัลลอฮ์ที่แสวงบุญในวันอะเราะฟะฮ์)" บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม

การทำความดีในสิบวันแรกของษุลฮิจญ์ญะฮ์

  • การสรรเสริญสดุดีต่ออัลลอฮ์ : บรรดามุสลิมรุ่นแรก ๆ จะขยันในการรำลึกถึงอัลลอฮ์ด้วยเสียงเบาและเสียงดัง
  • การละหมาดซุนนะฮฺให้มาก ๆ
  • การเชือดกุรบาน (อุฎฮิยะฮ์)
  • การบริจาคทานให้มากมาย
  • การถือศีลอด : ในการบันทึกของท่านอิหม่ามดาวู้ดจากภรรยานบีบางท่าน กล่าวว่า ท่านนบี (ศ) มักจะถือศีลอด 9 วันของษุลฮิจญ์ญะฮ์ (วันอะเราะฟะฮ์) และสามวันจากทุกเดือน
  • การละหมาดกลางคืน (กิยามุลลัยล์)
  • การกลับเนื้อกลับตัวและสำรวมตนให้อยู่ในกรอบหลักการของอัลอิสลามอย่างสม่ำเสมอ

อ้างอิง