ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยุทธการที่วอเตอร์ลู"

พิกัด: 50°41′N 4°24′E / 50.683°N 4.400°E / 50.683; 4.400
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "ประสานมิตร" → "สหสัมพันธมิตร" ด้วยสจห.
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{Infobox Military Conflict
{{Infobox Military Conflict
| conflict = ยุทธการวอเตอร์ลู
| conflict = ยุทธการวอเตอร์ลู
| partof = [[สงครามประสานมิตรครั้งที่เจ็ด]]
| partof = [[สมัยร้อยวัน|สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ด]]
| image = [[ไฟล์:Wellington at Waterloo Hillingford.jpg|310px]]
| image = [[ไฟล์:Wellington at Waterloo Hillingford.jpg|310px]]
| caption = ภาพ ''เวลลิงตันที่วอเตอร์ลู''
| caption = ภาพ ''เวลลิงตันที่วอเตอร์ลู''
| date = [[18 มิถุนายน]] [[ค.ศ. 1815]]
| date = [[18 มิถุนายน]] [[ค.ศ. 1815]]
| place = [[วอเตอร์ลู, เบลเยียม|เมืองวอเตอร์ลู]] ทางใต้ของ[[กรุงบรัสเซลส์]] [[ประเทศเบลเยียม]]ปัจจุบัน
| place = เมืองวอเตอร์ลู ประเทศเบลเยียม
| coordinates = {{Coord|50|41|N|4|24|E|region:BE_type:event|display=inline,title}}
| coordinates = {{Coord|50|41|N|4|24|E|region:BE_type:event|display=inline,title}}
| result = พันธมิตรต่อต้านนโปเลียนที่เจ็ดได้ชัยชนะเด็ดขาด
| result = ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ชัยชนะเด็ดขาด
| combatant1 = {{flagicon|France}} [[จักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1|จักรวรรดิฝรั่งเศส]]
| combatant1 = {{flagicon|France}} [[จักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1|จักรวรรดิฝรั่งเศส]]
| combatant2 = '''ฝ่ายประสานมิตร''':<br />{{flagicon|Prussia|1803}} [[ราชอาณาจักรปรัสเซีย]]<br />{{flagicon|UK}} [[สหราชอาณาจักร]]<br />{{flagicon|Netherlands}} [[สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์]]<br />{{flagicon|Hanover|1692}} [[ราชอาณาจักรฮาโนเวอร์]]<br />{{flagicon image|Flagge Herzogtum Nassau (1806-1866).svg}} [[แคว้นดยุคแห่งนัสเซา]]<br />{{flagicon image|Flagge Herzogtum Braunschweig.svg}} [[แคว้นดยุคแห่งบรันสวิก]]
| combatant2 = '''ฝ่ายสหสัมพันธมิตร''':<br />{{flagicon|Prussia|1803}} [[ราชอาณาจักรปรัสเซีย|ปรัสเซีย]]<br />{{flagicon|UK}} [[สหราชอาณาจักร]]<br />{{flagicon|Netherlands}} [[สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์|เนเธอร์แลนด์]]<br />{{flagicon|Hanover|1692}} [[ราชอาณาจักรฮันโนเฟอร์|ฮันโนเฟอร์]]<br />{{flagicon image|Flagge Herzogtum Nassau (1806-1866).svg}} [[ดัชชีนัสเซา|นัสเซา]]<br />{{flagicon image|Flagge Herzogtum Braunschweig.svg}} [[ดัชชีเบราน์ชไวค์|เบราน์ชไวค์]]
| commander1 = {{flagicon|France}} [[นโปเลียน โบนาปาร์ต]]<br /> {{flagicon|France}} [[มีแชล แน]]
| commander1 = {{flagicon|France}} [[นโปเลียน โบนาปาร์ต]]<br /> {{flagicon|France}} [[มีแชล แน]]
| commander2 = {{flagicon|UK}} [[อาร์เธอร์ เวลสลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งเวลลิงตัน|ดยุกแห่งเวลลิงตัน]]<br />{{flagicon|Prussia|1803}} [[แกบฮาร์ด ฟอน บลือเชอร์]]
| commander2 = {{flagicon|UK}} [[อาร์เธอร์ เวลสลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งเวลลิงตัน|ดยุกแห่งเวลลิงตัน]]<br />{{flagicon|Prussia|1803}} [[เก็พฮาร์ท ฟ็อน บลึชเชอร์]]
| strength1 = 72,000<ref name=Hofschroer72-73>Hofschröer, pp. 72–73</ref>
| strength1 = 72,000<ref name=Hofschroer72-73>Hofschröer, pp. 72–73</ref>
| strength2 = อังกฤษ-พันธมิตร: 68,000<ref name=Hofschroer72-73/><br />ปรัสเซีย: 50,000<ref>Chesney, p. 4</ref>
| strength2 = อังกฤษ-พันธมิตร: 68,000<ref name=Hofschroer72-73/><br />ปรัสเซีย: 50,000<ref>Chesney, p. 4</ref>
บรรทัด 17: บรรทัด 17:
| casualties2 = ตาย/บาดเจ็บ 22,000 คน<ref>Barbero, p. 419<br />กองทัพของเวลลิงตัน: ตาย 3,500 คน; บาดเจ็บ 10,200 คน; สูญหาย 3,300 คน<br />Blücher's army: ตาย 1,200 คน; บาดเจ็บ 4,400 คน; สูญหาย 1,400 คน</ref>
| casualties2 = ตาย/บาดเจ็บ 22,000 คน<ref>Barbero, p. 419<br />กองทัพของเวลลิงตัน: ตาย 3,500 คน; บาดเจ็บ 10,200 คน; สูญหาย 3,300 คน<br />Blücher's army: ตาย 1,200 คน; บาดเจ็บ 4,400 คน; สูญหาย 1,400 คน</ref>
}}
}}
'''ยุทธการที่วอเตอร์ลู''' เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 1815 ที่ [[วอเตอร์ลู|เมืองวอเตอร์ลู]] ซึ่งปัจจุบันอยู่ใน[[ประเทศเบลเยี่ยม]], ในขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของ [[สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์]]. กองทัพแห่ง[[First French Empire|ฝรั่งเศสยุคจักรพรรดิที่ 1]] ของ[[จักรพรรดินโปเลียนที่ 1]] ได้ปราชัยแก่กองทัพ[[สงครามประสานมิตรครั้งที่เจ็ด|ประสานมิตรที่เจ็ด]], ภายใต้การนำทัพของ [[Arthur Wellesley, 1st Duke of Wellington|ดยุกแห่งเวลลิงตัน]] รวมกับกองทัพ[[ปรัสเซีย]] ของ[[แกบฮาร์ด ฟอน บลือเชอร์]] ซึ่งเป็นการสู้รบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเคมเปญที่วอเตอร์ลู ผลของการสู้รบทำให้นโปเลียนหมดอำนาจอย่างแท้จริง เป็นจุดสิ้นสุดของ[[สมัยร้อยวัน|รัชสมัยร้อยวัน]] และนโปเลียนถูกเนรเทศไป[[เกาะเซนต์เฮเลนา]]


'''ยุทธการที่วอเตอร์ลู''' ({{lang-en|Battle of Waterloo}}) เกิดขึ้นเมื่อ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1815 ที่หมู่บ้านวอเตอร์ลู ประเทศเบลเยียม (ส่วนหนึ่งของ[[สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์]]) กองทัพฝรั่งเศสภายในบัญชาของ[[จักรพรรดินโปเลียนที่ 1|จักรพรรดินโปเลียน]]พ่ายแพ้ต่อสองกองทัพฝ่ายสหสัมพันธมิตร กองทัพแรกคือกองทัพผสมระหว่างบริเตน, เนเธอร์แลนด์, ฮันโนเฟอร์, เบราน์ชไวค์ และนัสเซา ในบัญชาของจอมพล[[อาร์เธอร์ เวลสลีย์ ดยุกที่ 1 แห่งเวลลิงตัน|ดยุกแห่งเวลลิงตัน]] กองทัพที่สองคือกองทัพปรัสเซียในบัญชาของจอมพล[[เก็พฮาร์ท ฟ็อน บลึชเชอร์]] ยุทธการครั้งนี้เป็นจุดจบของ[[สงครามนโปเลียน]]ที่ดำเนินมากว่า 12 ปี
การหวนคืนสู่แผ่นดินยุโรปของนโปเลียนในปี 1815 ทำให้รัฐต่างๆ รวมกันเป็น[[สงครามประสานมิตรครั้งที่เจ็ด|ประสานมิตรที่เจ็ด]] กองทัพจำนวนมากของดยุกแห่งเวลลิงตันและบลือเชอร์ได้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส นโปเลียนวางแผนเข้าโจมตีเพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพทั้งสอง เข้ารวมกับกองทัพของรัฐต่างๆ การตัดสินใจนี้เรียกว่าเคมเปญที่วอเตอร์ลู (16–19 มิถุนายน 1815) เวลลิงตันเคยกล่าวไว้ว่า สงครามนี้เป็น "the nearest-run thing you ever saw in your life" .<ref>[[q:Arthur Wellesley, 1st Duke of Wellington|Wikiquote:Wellington]] citing ''Creevey Papers'', ch. x, p. 236</ref>


เมื่อนโปเลียนหนีออกจาก[[เกาะเอลบา]]และคืนสู่อำนาจในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศทั้งหลายรีบตัวกันจัดตั้งกองทัพสหสัมพันธมิตรเพื่อต่อต้านนโปเลียน กองทัพเวลลิงตันและกองทัพบลึชเชอร์ตั้งค่ายอยู่ใกล้ชายแดนทางเหนือของฝรั่งเศส นโปเลียนวางแผนทั้งคู่ก่อนที่ทั้งคู่จะรวมตัวกับกองทัพพันธมิตรอื่นและบุกเข้าฝรั่งเศส ในวันที่ 16 มิถุนายน นโปเลียนประสบความสำเร็จในการรุกตีกองทัพปรัสเซียใน[[ยุทธการที่ลิงงี]] (''Ligny'') ด้วยกองหลัก ทำให้ปรัสเซียต้องถอยร่นขึ้นเหนือในวันต่อมา แต่ศึกด้านเวลลิงตันจบลงที่ผลเสมอ นโปเลียนส่งกำลังราวหนึ่งในสามเพื่อไล่ตีกองทัพปรัสเซียจนเกิดเป็น[[ยุทธการที่วาฟ]] (''Wavre'') เมื่อวันที่ 18–19 มิถุนายน ทำให้ทหารฝรั่งเศสกองดังกล่าวติดพันศึกด้านนั้นและมาสมทบที่วอเตอร์ลูไม่ได้
นโปเลียนได้ชะลอการโจมตีถึงตอนเที่ยงวันที่ 18 เพื่อให้พื้นแห้ง ในขณะที่กองทัพของเวลลิงตันได้ประจำตำแหน่งไปตามถนนที่เนินมงต์-แซงต์-ฌอง ตั้งรับการโจมตีของฝรั่งเศสจนถึงตอนเย็น กองทัพของบลือเชอร์ได้มาถึงและเข้าโจมตีทางขวาของกองทัพฝรั่งเศส ร่วมกับกองทัพของดยุกแห่งเวลลิงตันที่ได้เข้าโจมตีกองทัพฝรั่งเศสจนหมดสภาพในการรบ กองกำลังผสมได้เข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสและคืนอำนาจแก่หลุยส์ที่ 18 แห่งฝรั่งเศส นโปเลียนถูกถอดจากอำนาจและถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา


เมื่อดยุกแห่งเวลลิงตันทราบเรื่องดังกล่าวก็มองเห็นโอกาสดี ดยุกแห่งเวลลิงตันตัดสินใจตั้งทัพที่เนินมงแซ็งฌ็อง ({{lang|fr|''Mont-Saint-Jean''}}) บนทางหลวงเชื่อม[[บรัสเซลส์]] ใกล้กับหมู่บ้านวอเตอร์ลู เวลลิงตันรับการโจมตีอย่างต่อเนื่องของฝรั่งเศสตลอดบ่ายวันที่ 18 มิถุนายน เมื่อทหารปรัสเซียมาถึง กองทัพปรัสเซียเข้าตีปีกข้างของกองทัพฝรั่งเศสและสร้างความเสียหายอย่างมาก เมื่อตกค่ำ นโปเลียนสั่งกองพันทหารราบรักษาพระองค์ ({{lang|fr|''Garde Impériale''}}) ซึ่งเป็นทหารกองหนุนหน่วยสุดท้ายที่เหลืออยู่เข้าโจมตีแถวของทหารอังกฤษ อีกด้านหนึ่ง ทหารปรัสเซียรุกฝ่าเข้ามาทางปีกขวาของกองทัพฝรั่งเศส ทหารอังกฤษสามารถยันกองพันทหารราบฝรั่งเศสไว้ได้ กองทัพฝรั่งเศสแพ้ราบคาบ
ปัจจุบันสมรภูมินี้อยู่ในประเทศเบลเยี่ยม ระยะทางประมาณ {{convert|8|mi|km}} จากทิศใต้ไปตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซล และ {{convert|1|mi|km}} จากเมืองวอเตอร์ลู ปัจจุบันมีรูปปั้นไลออนส์โมนด์ตั้งอยู่

นโปเลียนสละราชสมบัติในอีกสี่วันให้หลัง กองทัพผสมเคลื่อนพลเข้าสู่กรุงปารีสในวันที่ 7 กรกฎาคม ความพ่ายแพ้ที่วอเตอร์ลูปิดฉากการปกครองของนโปเลียนในฐานะ[[จักรพรรดิฝรั่งเศส]] เป็นจุดจบของ[[สมัยร้อยวัน]] และเป็นจุดสิ้นสุดของ[[จักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1]]


==ต้นเหตุ==
==ต้นเหตุ==
{{Main|สมัยร้อยวัน}}
{{Main|สมัยร้อยวัน}}
วันที่ 13 มีนาคม 1815, 6 วันก่อนนโปเลียนเดินทางถึงปารีส [[การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา]] ได้ประกาศให้นโปเลียนเป็นคนนอกกฎหมาย<ref>[http://dl.lib.brown.edu/napoleon/time7.html Timeline: The Congress of Vienna, the Hundred Days, and Napoleon's Exile on St Helena], Center of Digital Initiatives, [[Brown University]] Library</ref> สี่วันต่อมา [[สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์|สหราชอาณาจักร]], [[จักรวรรดิรัสเซีย|รัสเซีย]], [[จักรวรรดิออสเตรีย|ออสเตรีย]], และ [[ปรัสเซีย]] ได้ยกกองทัพมาเพื่อกำจัดอำนาจของนโปเลียน<ref>{{Harvnb|Hamilton-Williams|1993|p=59}}</ref> นโปเลียนทราบว่า ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายสหสัมพันธมิตรได้แล้ว เขาต้องโจมตีกองทัพสหสัมพันธมิตรก่อนที่จะยกทัพมาเพื่อรักษาอำนาจที่ตนมี ถ้าหากเขาสามารถโจมตีกองกำลังผสมที่อยู่ทางตอนใต้ของกรุงบรัสเซล ได้สำเร็จแล้ว อาจจะทำให้กองทัพอังกฤษถอยทัพออกไปยังเกาะบริเตน และทำให้กองทัพปรัสเซียพ่ายแพ้
[[ไฟล์:Strategic Situation of Western Europe 1815.jpg|left|thumb|250px|สถานการที่ยุโรปตะวันตกปี 1815 : ทหารฝรั่งเศส 250,000 นาย ต่อสู้กับพันธมิตรต่อต้านนโปเลียน 850,000 นาย โดยนโปเลียนยังต้องแบ่งกำลัง 20,000 นายไว้ที่ฝรั่งเศสตะวันตกเพื่อป้องกันกลุ่ม[[รอยัลลิสต์]] ]]
วันที่ 13 มีนาคม 1815, 6 วันก่อนนโปเลียนเดินทางถึงปารีส [[การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา]] ได้ประกาศให้นโปเลียนเป็นคนนอกกฎหมาย<ref>[http://dl.lib.brown.edu/napoleon/time7.html Timeline: The Congress of Vienna, the Hundred Days, and Napoleon's Exile on St Helena], Center of Digital Initiatives, [[Brown University]] Library</ref> สี่วันต่อมา [[สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์|สหราชอาณาจักร]], [[จักรวรรดิรัสเซีย|รัสเซีย]], [[จักรวรรดิออสเตรีย|ออสเตรีย]], และ [[ปรัสเซีย]] ได้ยกกองทัพมาเพื่อกำจัดอำนาจของนโปเลียน<ref>{{Harvnb|Hamilton-Williams|1993|p=59}}</ref> นโปเลียนทราบว่า ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายประสานมิตรได้แล้ว เขาต้องโจมตีกองทัพประสานมิตรก่อนที่จะยกทัพมาเพื่อรักษาอำนาจที่ตนมี ถ้าหากเขาสามารถโจมตีกองกำลังผสมที่อยู่ทางตอนใต้ของกรุงบรัสเซล ได้สำเร็จแล้ว อาจจะทำให้กองทัพอังกฤษถอยทัพออกไปยังเกาะบริเตน และทำให้กองทัพปรัสเซียพ่ายแพ้


เหตุผลอีกประการหนึ่งคือในเขตนั้นมีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอยู่ (Francophone) ชัยชนะอาจทำให้เกิดการเข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศส อีกประการหนึ่ง กองทัพอังกฤษที่นั่นเป็นทหารใหม่ กองทัพจำนวนมากที่เคยรบ[[สงครามคาบสมุทร]]ได้ถูกส่งไปประจำการที่อเมริกาใน[[สงคราม ค.ศ. 1812|สงครามปี 1812]]<ref>{{Harvnb|Chandler|1966|pp=1016, 1017, 1093}}</ref>การยกพลกองทัพไปผ่าน[[มงส์]]ไปยังบรัสเซลส์ มีจุดประสงค์เพื่อตั้งรับการโจมตีนของนโปเลียน <ref>{{Harvnb|Siborne<!--W-->|1990|p=82}}.</ref> การทำเช่นนี้ทำให้เวลลินตันไม่สามารถติต่อกับฐานบัญชาการที่[[ออสเตนด์]] แต่กองทัพของเขาจะใกล้กับบลือเชอร์มาก ฝั่งซ้ายของกองทัพควบคุมโดย[[มีแชล แน]] ฝั่งขวาควบคุมโดย[[เอ็มมานูเอล, มาร์กีสแห่งกรูชี|มาร์เชลกรูชี]] กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีป้อมของกลุ่มพัทธมิตร ในช่วงรุ่งอรุณของวันที่ 15 มิถุนายน ที่[[ชาร์เลอรัว]]
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือในเขตนั้นมีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอยู่ (Francophone) ชัยชนะอาจทำให้เกิดการเข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศส อีกประการหนึ่ง กองทัพอังกฤษที่นั่นเป็นทหารใหม่ กองทัพจำนวนมากที่เคยรบ[[สงครามคาบสมุทร]]ได้ถูกส่งไปประจำการที่อเมริกาใน[[สงคราม ค.ศ. 1812|สงครามปี 1812]]<ref>{{Harvnb|Chandler|1966|pp=1016, 1017, 1093}}</ref>การยกพลกองทัพไปผ่าน[[มงส์]]ไปยังบรัสเซลส์ มีจุดประสงค์เพื่อตั้งรับการโจมตีนของนโปเลียน <ref>{{Harvnb|Siborne<!--W-->|1990|p=82}}.</ref> การทำเช่นนี้ทำให้เวลลินตันไม่สามารถติต่อกับฐานบัญชาการที่[[ออสเตนด์]] แต่กองทัพของเขาจะใกล้กับบลือเชอร์มาก ฝั่งซ้ายของกองทัพควบคุมโดย[[มีแชล แน]] ฝั่งขวาควบคุมโดย[[เอ็มมานูเอล, มาร์กีสแห่งกรูชี|มาร์เชลกรูชี]] กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีป้อมของกลุ่มพัทธมิตร ในช่วงรุ่งอรุณของวันที่ 15 มิถุนายน ที่[[ชาร์เลอรัว]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:42, 20 ตุลาคม 2563

ยุทธการวอเตอร์ลู
ส่วนหนึ่งของ สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ด

ภาพ เวลลิงตันที่วอเตอร์ลู
วันที่18 มิถุนายน ค.ศ. 1815
สถานที่
เมืองวอเตอร์ลู ประเทศเบลเยียม
50°41′N 4°24′E / 50.683°N 4.400°E / 50.683; 4.400
ผล ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ชัยชนะเด็ดขาด
คู่สงคราม
ฝรั่งเศส จักรวรรดิฝรั่งเศส ฝ่ายสหสัมพันธมิตร:
ราชอาณาจักรปรัสเซีย ปรัสเซีย
สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร
เนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์
จังหวัดฮันโนเฟอร์ ฮันโนเฟอร์
นัสเซา
เบราน์ชไวค์
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
ฝรั่งเศส นโปเลียน โบนาปาร์ต
ฝรั่งเศส มีแชล แน
สหราชอาณาจักร ดยุกแห่งเวลลิงตัน
ราชอาณาจักรปรัสเซีย เก็พฮาร์ท ฟ็อน บลึชเชอร์
กำลัง
72,000[1] อังกฤษ-พันธมิตร: 68,000[1]
ปรัสเซีย: 50,000[2]
ความสูญเสีย
ตาย/บาดเจ็บ 25,000 คน
ตกเป็นเชลย 7,000 คน
สูญหาย 15,000[3]
ตาย/บาดเจ็บ 22,000 คน[4]

ยุทธการที่วอเตอร์ลู (อังกฤษ: Battle of Waterloo) เกิดขึ้นเมื่อ 18 มิถุนายน ค.ศ. 1815 ที่หมู่บ้านวอเตอร์ลู ประเทศเบลเยียม (ส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์) กองทัพฝรั่งเศสภายในบัญชาของจักรพรรดินโปเลียนพ่ายแพ้ต่อสองกองทัพฝ่ายสหสัมพันธมิตร กองทัพแรกคือกองทัพผสมระหว่างบริเตน, เนเธอร์แลนด์, ฮันโนเฟอร์, เบราน์ชไวค์ และนัสเซา ในบัญชาของจอมพลดยุกแห่งเวลลิงตัน กองทัพที่สองคือกองทัพปรัสเซียในบัญชาของจอมพลเก็พฮาร์ท ฟ็อน บลึชเชอร์ ยุทธการครั้งนี้เป็นจุดจบของสงครามนโปเลียนที่ดำเนินมากว่า 12 ปี

เมื่อนโปเลียนหนีออกจากเกาะเอลบาและคืนสู่อำนาจในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศทั้งหลายรีบตัวกันจัดตั้งกองทัพสหสัมพันธมิตรเพื่อต่อต้านนโปเลียน กองทัพเวลลิงตันและกองทัพบลึชเชอร์ตั้งค่ายอยู่ใกล้ชายแดนทางเหนือของฝรั่งเศส นโปเลียนวางแผนทั้งคู่ก่อนที่ทั้งคู่จะรวมตัวกับกองทัพพันธมิตรอื่นและบุกเข้าฝรั่งเศส ในวันที่ 16 มิถุนายน นโปเลียนประสบความสำเร็จในการรุกตีกองทัพปรัสเซียในยุทธการที่ลิงงี (Ligny) ด้วยกองหลัก ทำให้ปรัสเซียต้องถอยร่นขึ้นเหนือในวันต่อมา แต่ศึกด้านเวลลิงตันจบลงที่ผลเสมอ นโปเลียนส่งกำลังราวหนึ่งในสามเพื่อไล่ตีกองทัพปรัสเซียจนเกิดเป็นยุทธการที่วาฟ (Wavre) เมื่อวันที่ 18–19 มิถุนายน ทำให้ทหารฝรั่งเศสกองดังกล่าวติดพันศึกด้านนั้นและมาสมทบที่วอเตอร์ลูไม่ได้

เมื่อดยุกแห่งเวลลิงตันทราบเรื่องดังกล่าวก็มองเห็นโอกาสดี ดยุกแห่งเวลลิงตันตัดสินใจตั้งทัพที่เนินมงแซ็งฌ็อง ([Mont-Saint-Jean] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) บนทางหลวงเชื่อมบรัสเซลส์ ใกล้กับหมู่บ้านวอเตอร์ลู เวลลิงตันรับการโจมตีอย่างต่อเนื่องของฝรั่งเศสตลอดบ่ายวันที่ 18 มิถุนายน เมื่อทหารปรัสเซียมาถึง กองทัพปรัสเซียเข้าตีปีกข้างของกองทัพฝรั่งเศสและสร้างความเสียหายอย่างมาก เมื่อตกค่ำ นโปเลียนสั่งกองพันทหารราบรักษาพระองค์ ([Garde Impériale] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ซึ่งเป็นทหารกองหนุนหน่วยสุดท้ายที่เหลืออยู่เข้าโจมตีแถวของทหารอังกฤษ อีกด้านหนึ่ง ทหารปรัสเซียรุกฝ่าเข้ามาทางปีกขวาของกองทัพฝรั่งเศส ทหารอังกฤษสามารถยันกองพันทหารราบฝรั่งเศสไว้ได้ กองทัพฝรั่งเศสแพ้ราบคาบ

นโปเลียนสละราชสมบัติในอีกสี่วันให้หลัง กองทัพผสมเคลื่อนพลเข้าสู่กรุงปารีสในวันที่ 7 กรกฎาคม ความพ่ายแพ้ที่วอเตอร์ลูปิดฉากการปกครองของนโปเลียนในฐานะจักรพรรดิฝรั่งเศส เป็นจุดจบของสมัยร้อยวัน และเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1

ต้นเหตุ

วันที่ 13 มีนาคม 1815, 6 วันก่อนนโปเลียนเดินทางถึงปารีส การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา ได้ประกาศให้นโปเลียนเป็นคนนอกกฎหมาย[5] สี่วันต่อมา สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, ออสเตรีย, และ ปรัสเซีย ได้ยกกองทัพมาเพื่อกำจัดอำนาจของนโปเลียน[6] นโปเลียนทราบว่า ถ้าเขาไม่สามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายสหสัมพันธมิตรได้แล้ว เขาต้องโจมตีกองทัพสหสัมพันธมิตรก่อนที่จะยกทัพมาเพื่อรักษาอำนาจที่ตนมี ถ้าหากเขาสามารถโจมตีกองกำลังผสมที่อยู่ทางตอนใต้ของกรุงบรัสเซล ได้สำเร็จแล้ว อาจจะทำให้กองทัพอังกฤษถอยทัพออกไปยังเกาะบริเตน และทำให้กองทัพปรัสเซียพ่ายแพ้

เหตุผลอีกประการหนึ่งคือในเขตนั้นมีกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอยู่ (Francophone) ชัยชนะอาจทำให้เกิดการเข้าร่วมกับกองทัพฝรั่งเศส อีกประการหนึ่ง กองทัพอังกฤษที่นั่นเป็นทหารใหม่ กองทัพจำนวนมากที่เคยรบสงครามคาบสมุทรได้ถูกส่งไปประจำการที่อเมริกาในสงครามปี 1812[7]การยกพลกองทัพไปผ่านมงส์ไปยังบรัสเซลส์ มีจุดประสงค์เพื่อตั้งรับการโจมตีนของนโปเลียน [8] การทำเช่นนี้ทำให้เวลลินตันไม่สามารถติต่อกับฐานบัญชาการที่ออสเตนด์ แต่กองทัพของเขาจะใกล้กับบลือเชอร์มาก ฝั่งซ้ายของกองทัพควบคุมโดยมีแชล แน ฝั่งขวาควบคุมโดยมาร์เชลกรูชี กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีป้อมของกลุ่มพัทธมิตร ในช่วงรุ่งอรุณของวันที่ 15 มิถุนายน ที่ชาร์เลอรัว

สมรภูมิ

แผนที่แสดงยุทธการที่วอเตอร์ลู

สมรภูมิวอเตอร์ลูมีแนวสันเขาตามทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก มีถนนไปบรัสเซล์ตัดผ่านตรงกลางในแนวตั้งฉาก ทางยอดเขามีถนนโออังและหุบเหวตื้น ที่จุดตัดของถนนไปบรัสเซล์มีต้นเอม ซึ่งเวลลิงตันได้ควบคุมการรบที่นั่น โดยใช้การรบบนเนินเขา[9]ความยาวของกองทัพนั้นประมาณ 2.5 ไมล์ (4.0 กิโลเมตร) เวลลิงตันจึงสามารถนำกองทัพของเขารุกขึ้นมาได้ ซึ่งเขาทำในช่วงตอนกลางและฝั่งขวาไปยังหมู่บ้านแบรน์-ลาลเลอดโดยหวังใช้กองทัพปรัสเซียมาถึงให้ทันเวลา[10] ด้านหน้าสันเขามีจุดสำตัญที่สามารถใช้ป้องกันการโจมตีได้ ฝั่งขวาสุดมีชาโต สวน และสวมผลไม้ที่อูโกมองต์มีบ้านที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางต้นไม้ซึ่งหันไปทางทิศเหนือ ตามแนวร่องเหว ฝั่งซ้ายสุดมีหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อปาปล็อต(Papelotte) ซึ่งอูโกมองต์และปาปล็อตได้มีทหารประจำการ ซึ่งทำให้การโจมตีตามแนวขอบใช้ไม่ได้ และปาปล็อตยังยึดถนนไปวาเวรอ ซึ่งทหารปรัสเซียใช้เดินทางมา ทิศตะวันตกของถนนไปบรัสเซล์มีฟาร์มชื่อว่าลาแอย์แซงต์มีทหารเบาแห่งกองทหารแห่งกษัตริย์เยอรมัน 400 นายประจำการอยู่.[11] ด้านตรงข้ามของถนนมีเหมืองทราย ที่หน่วยไรเฟิลที่ 95ประจำการเป็นพลแม่นปืน[12] ตำแหน่งของกองทัพเช่นนี้เป็นสิ่งที่ลำบากใจในการโจมตี การโจมตีต้องโจมตีที่อูโกมง ถ้าโจมตีตรงกลางจะถูงยิงทั้งสองด้าน คือทางอูโกมงและลาแอย์แซงต์ ฝั่งซ้ายจะถูกโจมตีที่ลาแอย์แซงต์ และเมืองปาปล็อต [13] กองทัพฝรั่งเศสอยู่ทางใต้ของสันเขา นโปเลียนไม่เห็นตำแหน่งของเวลลิงตัน จึงเดินทัพไปทางถนนบรัสเซล ปีกขวามีกองที่ 1 นำทัพโดยเดอลงมีทหารราบ 1,600 นาย ทหารม้า 1,500 นาย และสำรองอีก 4,700 ปีกซ้ายนำโดยรายยี มีทหารราบ 1,300 นาย ทหารม้า 1,300 นายและสำรองอีก 4,600 นาย ตรงกลางถนนไปยังลา แบล อาลายยังมีกำลังเสริมของโลโบ ประกอบด้วยทหารราบ 6,000 ทหารรักษาพระองค์ 1,300 นาย และทหารท้าอีก 1,200 นาย[14]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 Hofschröer, pp. 72–73
  2. Chesney, p. 4
  3. Barbero, p. 420
  4. Barbero, p. 419
    กองทัพของเวลลิงตัน: ตาย 3,500 คน; บาดเจ็บ 10,200 คน; สูญหาย 3,300 คน
    Blücher's army: ตาย 1,200 คน; บาดเจ็บ 4,400 คน; สูญหาย 1,400 คน
  5. Timeline: The Congress of Vienna, the Hundred Days, and Napoleon's Exile on St Helena, Center of Digital Initiatives, Brown University Library
  6. Hamilton-Williams 1993, p. 59
  7. Chandler 1966, pp. 1016, 1017, 1093
  8. Siborne 1990, p. 82.
  9. Barbero 2005, pp. 78, 79.
  10. Barbero 2005, p. 80.
  11. Barbero 2005, p. 149.
  12. Parry 1900, p. 58.
  13. Barbero 2005, pp. 141, 235.
  14. Barbero 2005, pp. 83–85.