ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราชพฤกษ์"
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ |
Just Sayori (คุย | ส่วนร่วม) ล ย้อนการแก้ไขที่ 9085355 สร้างโดย 182.232.51.152 (พูดคุย) ป้ายระบุ: ทำกลับ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ชื่ออื่น|พรรณไม้||}} |
|||
{{Taxobox |
{{Taxobox |
||
| color = lightgreen |
| color = lightgreen |
||
บรรทัด 22: | บรรทัด 23: | ||
[[ไฟล์:Cassia fistula MHNT.BOT.2007.26.54.jpg|thumb|ผลของต้นราชพฤกษ์]] |
[[ไฟล์:Cassia fistula MHNT.BOT.2007.26.54.jpg|thumb|ผลของต้นราชพฤกษ์]] |
||
'''ราชพฤกษ์''', '''คูน''', '''ลมแล้ง''' ({{ชื่อวิทยาศาสตร์|Cassia fistula}}) เป็นไม้ดอกในตระกูล [[Fabaceae]] เป็นพืชพื้นเมืองของ[[เอเชียใต้]] ตั้งแต่ทางตอนใต้ของ[[ปากีสถาน]] ไปจนถึง[[อินเดีย]] [[ศรีลังกา]] [[พม่า]] และ[[ไทย]] นอกจากนี้ดอกราชพฤกษ์ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติไทยอีกด้วย |
|||
ดอกไม้ที่เรียกว่า "ดอกราชพฤกษ์ (ต้นพระราชา)" ในภาษาไทย โดยทั่วไปเป็นคำที่ประกอบด้วย |
|||
== ลักษณะ == |
|||
ราช (ราชา) พฤกษ์ (กลีบ) จึงเรียกว่า "ดอกไม้ประจำชาติ" ในความเป็นจริงมันถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยในปี 2552 |
|||
ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 10–20 เมตร ดอกขึ้นเป็นช่อยาว 20–40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4–7 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30–62 เซนติเมตร และกว้าง 1.5–2.5 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน และมีเมล็ดที่มีพิษเป็นจำนวนมาก |
|||
== ลักษณะ ('''ดอกไม้สีเหลืองอันงดงาม)''' == |
|||
ลักษณะของดอกราชพฤกษ์คือช่อดอกห้อยลงคล้ายดอกวิสทีเรียญี่ปุ่น แต่ดอกราชพฤกษ์ให้ความรู้สึกสวยงามมากแตกต่างจากดอกวิสทีเรียญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกสงบมากกว่า ชื่อภาษาอังกฤษ คือ “Golden Shower” ลักษณะเหมือนฝนตกสีทอง |
|||
ช่วงเวลาออกดอกจะใกล้เคียงกับดอกซากุระของญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม นอกจากนี้ช่วงที่ใบไม้ร่วงหล่น และช่วงที่ดอกไม้บานก็คล้ายกับดอกซากุระ เมื่อโตขึ้น ต้นจะสูงประมาณ 10 เมตร ลำต้นมีสีขาวเทาหรือดำและดูเหมือนว่ากิ่งก้านที่เรียวยาวจะมีใบไม้รูปไข่ 4 ถึง 8 ใบทางซ้ายและขวา ดอกไม้มีลักษณะเฉพาะอยู่ในฝักและมีกลิ่นที่รุนแรง |
|||
[[ไฟล์:Cassia fistula-flower-detail.jpg|thumb|ลักษณะดอกของต้นราชพฤกษ์]] |
[[ไฟล์:Cassia fistula-flower-detail.jpg|thumb|ลักษณะดอกของต้นราชพฤกษ์]] |
||
== เกี่ยวกับชื่อ == |
|||
'''สีเหลือง : สีที่เชื่อมระหว่างดอกราชพฤกษ์และประเทศไทย''' |
|||
ชื่อของราชพฤกษ์นั้นมีการเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะเรียกราชพฤกษ์ว่า คูน เนื่องจากจำง่ายกว่า (แต่มักจะเขียนผิดเป็น คูณ) ทาง[[ภาคเหนือ]]เรียกว่า ลมแล้ง ทาง[[ภาคใต้]]เรียกว่า ราชพฤกษ์ ลักเกลือ หรือลักเคย [[ชาวกะเหรี่ยง]]และใน[[กาญจนบุรี]]เรียกว่า กุเพยะ |
|||
สาเหตุหนึ่งที่ "ดอกราชพฤกษ์" ได้รับเลือกให้เป็นดอกไม้ประจำชาติ ดูเหมือนว่าสีของดอก "สีเหลือง" จะเกี่ยวข้องกับศาสนาและราชวงศ์ของไทย ศาสนาที่คนไทยนับถือมากที่สุด คือ "ศาสนาพุทธ" เมื่อพูดถึงศาสนาพุทธของไทยจะนึกถึงพระสงฆ์ห่มจีวรสีเหลือง ดังนั้นสีเหลืองจึงเป็นสีสำคัญในพระพุทธศาสนา |
|||
ความสัมพันธ์กับราชวงศ์ คือ สีที่เป็นสัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร คือ “สีเหลือง” ในประเทศไทยมีการกำหนดสีสำหรับแต่ละวันเกิดและสีประจำวันเกิดของกษัตริย์ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 คือ “สีเหลือง” |
|||
[[ไฟล์:Amaltas (Cassia fistula) leaves in Hyderabad, AP W 289.jpg|thumb|ลักษณะใบของต้นราชพฤกษ์]] |
|||
'''ดอกราชพฤกษ์ที่คอยแต่งแต้มสีสันให้กับชีวิตประจำวันของคนไทย''' |
|||
== การปลูกและการดูแลรักษา == |
|||
ดอกราชพฤกษ์ดูเหมือนจะปลูกได้ในพื้นที่ใดก็ตามของประเทศไทย ความคุ้นเคยที่สามารถพบเห็นได้ทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะตามสวนสาธารณะและตลอดทาง ดังนั้นจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ดอกราชพฤกษ์ได้รับเลือกให้เป็น “ดอกไม้ประจำชาติ” |
|||
=== การปลูก === |
|||
ในช่วงแรก ๆ ต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตได้ช้าในระยะเวลาประมาณ 1–3 ปีแรก หลังจากนั้นต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตเร็วขึ้น เปลือกจะเป็นสีน้ำตาลเรียบ มีรากแก้วยาวสีเหลือง และ มีรากแขนงเป็นจำนวนมาก เมื่อต้นราพฤกษ์มีอายุ 4–5 ปี จึงออกดอกและเมล็ดและเจริญเติบโตต่อไป |
|||
การดูแลรักษา |
=== การดูแลรักษา === |
||
* '''แสง''' ต้นราชพฤกษ์ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง |
* '''แสง''' ต้นราชพฤกษ์ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง |
||
* '''น้ำ''' ต้นราชพฤกษ์ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7–10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้ |
* '''น้ำ''' ต้นราชพฤกษ์ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7–10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้ |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:17, 4 ตุลาคม 2563
ราชพฤกษ์ | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Rosopsida |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
วงศ์ย่อย: | Caesalpinioideae |
เผ่า: | Cassieae |
สกุล: | Cassia |
สปีชีส์: | C. fistula |
ชื่อทวินาม | |
Cassia fistula L. | |
ชื่อพ้อง[1] | |
|
ราชพฤกษ์, คูน, ลมแล้ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cassia fistula) เป็นไม้ดอกในตระกูล Fabaceae เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียใต้ ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถาน ไปจนถึงอินเดีย ศรีลังกา พม่า และไทย นอกจากนี้ดอกราชพฤกษ์ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติไทยอีกด้วย
ลักษณะ
ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 10–20 เมตร ดอกขึ้นเป็นช่อยาว 20–40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4–7 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30–62 เซนติเมตร และกว้าง 1.5–2.5 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน และมีเมล็ดที่มีพิษเป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับชื่อ
ชื่อของราชพฤกษ์นั้นมีการเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะเรียกราชพฤกษ์ว่า คูน เนื่องจากจำง่ายกว่า (แต่มักจะเขียนผิดเป็น คูณ) ทางภาคเหนือเรียกว่า ลมแล้ง ทางภาคใต้เรียกว่า ราชพฤกษ์ ลักเกลือ หรือลักเคย ชาวกะเหรี่ยงและในกาญจนบุรีเรียกว่า กุเพยะ
การปลูกและการดูแลรักษา
การปลูก
ในช่วงแรก ๆ ต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตได้ช้าในระยะเวลาประมาณ 1–3 ปีแรก หลังจากนั้นต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตเร็วขึ้น เปลือกจะเป็นสีน้ำตาลเรียบ มีรากแก้วยาวสีเหลือง และ มีรากแขนงเป็นจำนวนมาก เมื่อต้นราพฤกษ์มีอายุ 4–5 ปี จึงออกดอกและเมล็ดและเจริญเติบโตต่อไป
การดูแลรักษา
- แสง ต้นราชพฤกษ์ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
- น้ำ ต้นราชพฤกษ์ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7–10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้
- ดิน ต้นราชพฤกษ์เจริยเติบโตได้ดีดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว
- ปุ๋ย ต้นราชพฤกษ์นิยมใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในการบำรุงรักษา อัตรา 2–3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3–4 ครั้ง
- การขยายพันธุ์ ต้นราชพฤกษ์นิยมขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ด
- โรค ต้นราชพฤกษ์ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
- ศัตรู ต้นราชพฤกษ์มีศัตรูหนอนเจาะลำต้น (Stem boring caterpillars) จะมีอาการลำต้นหรือยอดเป็นรู เป็นรอยเจาะทำให้กิ่งหักงอ
- การป้องกัน ต้นราชพฤกษ์ควรปลูกโดยรักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก หรือกำจัดแมลงพาหะ ใช้ยาเช่นเดียวกับการกำจัด
- การกำจัด ต้นราชพฤกษ์นิยมใช้ยาไดเมทโธเอท หรือ เมโธมิล อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
สรรพคุณ
ส่วนต่าง ๆ ของต้นราชพฤกษ์มีประโยชน์ดังนี้
- ฝักแก่ เนื้อสีน้ำตาลดำและชื้นตลอดเวลา มีรสหวาน สามารถใช้เป็นยาระบายได้ โดยนำฝักมาต้มกับน้ำ และเติมเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนนอนหรือก่อนรับประทานอาหาร นอกจากนั้น ฝักแก่ยังมีสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมน้ำแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2–3 วัน สารละลายที่กรองได้สามารถฉีดพ่นกำจัดแมลงและหนอนในแปลงผักได้ ฝักแก่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจ มีขนาดที่พอเหมาะ ไม่ต้องผ่า เลื่อยหรือตัด เนื้อของฝักแก่ใช้แทนกากน้ำตาลในการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์และจุลินทรีย์ขยาย
- ฝักอ่อน สามารถใช้ขับเสมหะได้
- ใบ สามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้
- ดอก ช่วยแก้แผลเรื้อรัง ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ช่วยหล่อลื่นลำไส้ รักษาโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
นอกจากนั้น ราชพฤกษ์ยังเป็นพืชที่มีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที สารสกัดจากฝักด้วยเอทานอลสามารถยับยั้งการเจริญของคะน้าได้[2]
ความเชื่อ
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้มงคลนิยมใช้ประกอบพีธีที่สำคัญ เช่น พีธีเสาไม้หลักเมือง เป็นส่วนประกอบในการทำคฑาจอมพล และ ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ทำพิธีปลูกบ้าน ฯลฯ
คนไทยในสมัยโบราณเชื่อว่า ควรปลูกต้นราชพฤกษ์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเรือนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ ซึ่งความเป็นจริงคือทิศดังกล่าวจะได้รับแดดจัดตลอดช่วงบ่าย จึงควรปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ลดความร้อนและทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น[3]
คนไทยในสมัยโบราณยังมีความเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ด้วยคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย นอกจากนี้มีความเชื่อว่า ใบของต้นราชพฤกษ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะในพิธีทางไสยศาสตร์ให้ใบทำน้ำพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีดังนั้นจึงถือว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนาม[4]
อ้างอิง
- ↑ จาก itis.gov
- ↑ ศานิต สวัสดิกาญจน์ สุวิทย์ เฑียรทอง เนาวรัตน์ ประดับเพ็ชร์ สิริวรรณ สมิทธิอาภรณ์ และวริสรา ปลื้มฤดี. 2553. ผลของสารสกัดจากพืชบางชนิดต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของคะน้า. เรื่องเต็มการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 48. 3-5 ก.พ. 2553 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน้า 412-421
- ↑ หลักการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับทิศ
- ↑ การเป็นมงคล