ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แบรด พิตต์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เพิ่มเนื้อหา แก้ไขการสะกดคำ
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
JBot (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่อาจเป็นการทดลอง หรือก่อกวนด้วยบอต ไม่ควรย้อน? แจ้งที่นี่
ป้ายระบุ: ย้อนด้วยมือ
บรรทัด 4: บรรทัด 4:
| image = Brad Pitt Fury 2014.jpg
| image = Brad Pitt Fury 2014.jpg
| imagesize = 200px
| imagesize = 200px
| caption = แบรด พิตต์ที่[[วอชิงตัน ดี.ซี.]]ในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง ''Fury'' ในปี 2557
| caption = แบรด พิตต์ ในปี 2014
| birth_name = วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์
| birthname = วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์
| nickname =
| nickname =
| birth_date = {{วันเกิด-อายุ|2506|12|18}}
| birthdate = {{วันเกิด-อายุ|2506|12|18}}
| location =
| birth_place = [[รัฐโอคลาโฮมา]] [[สหรัฐอเมริกา]]
| deathdate =
| alma_mater = มหาวิทยาลัยมิสซูรี
| death_date =
| deathplace =
| spouse = [[เจนนิเฟอร์ อนิสตัน]] (2000–2005)<br />[[แอนเจลีนา โจลี]] (2005–2016)
| death_place =
| othername =
| home_town = สปริงฟิลด์ [[รัฐมิสซูรี]] [[สหรัฐอเมริกา]]
| occupation = นักแสดง โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์
| spouse = {{ubl
| yearsactive =
|{{marriage|[[เจนนิเฟอร์ อนิสตัน]]|2000|2005|reason=divorced}}
| notable role = ''Fury (2014)'' - '''ดอน''' <br />''Ocean's Thirteen''(2007) - '''รัสตี้ ไรอัน''' <br />''Babel''(2007) - '''ริชาร์ด''' <br />''Mr. & Mrs. Smith''(2005) - '''จอห์น สมิธ''' <br />''Troy''(2004) - '''อคิลลิส''' <br />''Fight Club''(1999) - '''ไทเลอร์''' <br />''Meet Joe Black''(1998) - '''โจ แบล็ค''' <br />''Interview with the Vampire: The Vampire Chronicles''(1994) - '''หลุยส์''' <br />''Legends of the Fall''(1994) - '''ทริสตัน'''
|{{marriage|[[แอนเจลีนา โจลี]]|2014|2019|reason=divorced}}
}}
| children = 6
| other_name =
| occupation = {{hlist|นักแสดง|ผู้ผลิตภาพยนตร์}}
| years_active = 2530-ปัจจุบัน
| notable role =
| homepage =
| homepage =
| academyawards =
| academyawards = '''ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม '''<br />ค.ศ. 2014 -''[[ปลดแอก คนย่ำคน|12 Years a Slave]]'' <br /> '''นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม'''<br />ค.ศ. 2020 ''Once Upon a Time in Hollywood''
| emmyawards =
| emmyawards =
| tonyawards =
| tonyawards =
| goldenglobeawards = '''นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม''' <br />ค.ศ. 1996 - ''Twelve Monkeys'' <br /> '''ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดรามา''' <br /> ค.ศ. 2014 -''[[ปลดแอก คนย่ำคน|12 Years a Slave]]''<br />'''นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม'''<br />ค.ศ. 2020 ''Once Upon a Time in Hollywood''
| goldenglobeawards = '''นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม''' <br />[[ค.ศ. 1996]] - Twelve Monkeys
| baftaawards =
| baftaawards = '''นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม'''<br />ค.ศ. 2020 ''Once Upon a Time in Hollywood''
| cesarawards =
| cesarawards =
| goyaawards =
| goyaawards =
บรรทัด 33: บรรทัด 27:
| filmfareawards =
| filmfareawards =
| olivierawards =
| olivierawards =
| ตุ๊กตาทอง =
| สุพรรณหงส์ =
| ชมรมวิจารณ์บันเทิง =
| โทรทัศน์ทองคำ =
| เมขลา =
| imdb_id =
| thaifilmdb_id =
}}
}}


'''วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์''' ({{Lang-en|William Bradley Pitt}}) เป็นนักแสดงชาย[[ชาวอเมริกัน]] เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิง[[รางวัลออสการ์]]จากภาพยนตร์เรื่อง ''[[12 Monkeys]]'' (1995) ปีเดียวกับที่[[นิตยสารพีเพิ่ล]]ยกให้เป็น "ผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด (ที่ยังมีชีวิตอยู่)" และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างในนาม Plan B Entertainment ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง พิตต์เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง[[รางวัลลูกโลกทองคำ]] สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม โดยประกบ[[เคท แบลนเช็ต]] ใน BABEL ของอเลแจนโดร กอนซาเลซ อินาริตู และเป็นหนึ่งในคณะนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Screen Actors Guild Award สาขา Outstanding Performance by a Motion Picture Cast ด้วย
'''วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์''' ({{Lang-en|William Bradley Pitt}}) เป็นนักแสดงและผู้ผลิตภาพยนตร์[[ชาวอเมริกัน]] เขาได้รับรางวัลมากมาย รวมถึง[[รางวัลลูกโลกทองคำ]] 2 รางวัลและ[[รางวัลออสการ์]] นอกเหนือจากนั้นเขายังได้รับ[[รางวัลไพรม์ไทม์เอมมี]]ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ภายใต้บริษัทผลิตภาพยนตร์ Plan B Entertainments ของเขา

พิตต์ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและมีอำนาจมากที่สุดคนหนึ่งในวงการบันเทิงอเมริกัน หลายปีที่ผ่านมาเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูดที่สุดในโลกจากสื่อต่าง ๆ และชีวิตส่วนตัวของเขาเป็นที่สนใจในวงกว้างของสังคม ตั้งแต่ปี 2543 ถึงปี 2548 เขาแต่งงานกับนักแสดงชาวอเมริกัน [[เจนนิเฟอร์ อนิสตัน]] และตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2562 เขาแต่งงานกับนักแสดงชาวอเมริกัน [[แอนเจลีนา โจลี]] พิตต์และโจลีมีลูกทั้งหมดหกคนด้วยกัน โดยสามคนเป็นลูกบุญธรรมจากต่างประเทศ

==ชีวิตในวัยเด็ก==
พิตต์เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2506 ที่เมืองชอว์นีย์ [[รัฐโอคลาโฮมา]] โดยเป็นลูกคนโตในจำนวนทั้งหมด 3 คน บิดาเป็นเจ้าของบริษัทขนส่งรถบรรทุก ชื่อ วิลเลียม อัลวิน พิตต์ และ มารดาเป็นที่ปรึกษานักเรียน ชื่อ เจน เอ็ตตา ฮิลล์เฮาส์<ref>{{cite book|url=https://books.google.com/?id=mQhjzHbUEyoC&pg=PA81|title=Celebutards|first=Andrea|last=Peyser|page=81|publisher=Citadel Press|year=2010|isbn=978-0806533841}}</ref><ref>{{cite news|last=Bunbury|first=Stephanie|title=The business of being Brad|url=https://www.smh.com.au/news/entertainment/film/the-business-of-being-brad/2008/12/13/1228585167094.html|newspaper=Sydney Morning Herald|date=December 14, 2008|access-date=May 13, 2009|archive-url=https://web.archive.org/web/20090603061437/http://www.smh.com.au/news/entertainment/film/the-business-of-being-brad/2008/12/13/1228585167094.html|archive-date=June 3, 2009|url-status=live}}</ref> หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวเขาได้ย้ายไปยังเมืองสปริงฟิลด์ [[รัฐมิสซูรี]]<ref name="slipping four">{{cite news|title=Slippin' around on the road with Brad Pitt |author=Chris Mundy |date=December 1, 1994|work=Rolling Stone}}</ref> ครอบครัวของเขาเป็น[[คริสต์ศาสนิกชน]]ที่อนุรักษ์นิยม<ref name="Blair2019">{{cite web |last1=Blair |first1=Leonardo |title=Brad Pitt no longer identifies as atheist, says he was just being 'rebellious' |url=https://www.christianpost.com/news/brad-pitt-no-longer-identifies-as-atheist-says-he-was-just-being-rebellious.html |publisher=[[The Christian Post]] |accessdate=October 3, 2019 |language=English |date=September 30, 2019 |archive-url=https://web.archive.org/web/20191004010333/https://www.christianpost.com/news/brad-pitt-no-longer-identifies-as-atheist-says-he-was-just-being-rebellious.html |archive-date=October 4, 2019 |url-status=live }}</ref><ref name="Parents">{{cite news|url=https://theprovince.com/entertainment/movie-guide/Brad+Pitt+mother+bashes+Obama+local+paper/6894885/story.html |title=Brad Pitt's Mother Bashes Obama in Local Paper |accessdate=July 6, 2012 |date=July 6, 2012 |author=Alexander C. Kaufman |agency=The Wrap |work=The Providence|url-status=dead |archiveurl=https://web.archive.org/web/20120707195733/http://www.theprovince.com/entertainment/movie-guide/Brad%2BPitt%2Bmother%2Bbashes%2BObama%2Blocal%2Bpaper/6894885/story.html |archivedate=July 7, 2012 }}</ref>

หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม พิตต์ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี ในปี 2525 สาขาวารสารศาสตร์โดยเน้นที่การโฆษณา<ref>{{cite news |url=http://www.biography.com/people/brad-pitt-9441989 |archive-url=https://web.archive.org/web/20111004005938/http://www.biography.com/people/brad-pitt-9441989 |url-status=live |archive-date=October 4, 2011 |title=Brad Pitt – Film Actor, Producer, Actor |date=March 1, 2018 |publisher=[[Biography (TV series)|A & E Television Networks]] |accessdate=October 9, 2018 }}</ref> เมื่อการสำเร็จการศึกษาใกล้เข้ามา พิตต์ไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นอาชีพ เขาหลงรักภาพยนตร์และได้กล่าวว่าเป็น "ประตูสู่โลกที่แตกต่างสำหรับผม" และเนื่องจาก[[รัฐมิสซูรี]]ไม่ใช่แหล่งที่ผลิตภาพยนตร์ เขาจึงตัดสินใจไปที่ที่ภาพยนตร์ถูกผลิตขึ้น<ref name="parade">{{cite web|title=Interview With Brad Pitt|url=http://parade.condenast.com/50120/parade/interview-with-brad-pitt/|publisher=Parade|accessdate=August 28, 2014|date=September 18, 2007|archive-url=https://web.archive.org/web/20140906114921/http://parade.condenast.com/50120/parade/interview-with-brad-pitt/|archive-date=September 6, 2014|url-status=live}}</ref><ref>{{cite magazine|author1=Tom Junod|title=Brad Pitt: A Life So Large|url=http://www.esquire.com/features/brad-pitt-cover-interview-0613|magazine=Esquire|accessdate=August 28, 2014|date=May 20, 2013|archive-url=https://web.archive.org/web/20140906114320/http://www.esquire.com/features/brad-pitt-cover-interview-0613|archive-date=September 6, 2014|url-status=live}}</ref> หลังจากพิตต์ออกจากมหาวิทยาลัยและย้ายไปยัง[[ลอสแองเจลิส]] 2 สัปดาห์ เขาได้เริ่มเรียนการแสดงและหางานทำ


== ประวัติ ==
==อาชีพ==
แบรดลีย์ พิตต์ เกิดเมื่อวันที่ [[18 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2506]] ที่เมือง[[ชอว์นีย์]] [[รัฐโอคลาโฮมา]] เป็นคนโตในจำนวนทั้งหมด 3 คน บิดาเป็นผู้บริหารธุรกิจขนส่งทางรถบรรทุก ชื่อ บิล พิตต์ และ มารดาชื่อ เจน พิตต์
ที่ปรึกษาผู้ปกครอง แบรด ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเด็ก ๆ ในแถบตะวันตกตอนกลางของอเมริกา รูปร่างหน้าตาของเขาก็ไม่ได้ทำให้เขามีอะไรพิเศษไปกว่าคนอื่น ๆ
สมัยที่เรียนไฮสคูล พิตต์เล่นกีฬาหลายประเภทและเคยโต้วาทีในชั้นเรียน นอกจากนี้เขายังทำกิจกรรมเกี่ยวกับทางด้านดนตรีด้วย


พอจบไฮสคูล แบรดย้ายไปเรียนวารสารศาสตร์ที่[[มหาวิทยาลัยมิสซูรี่]]ในสาขาเกี่ยวกับ[[หนังสือพิมพ์]]และ[[โฆษณา]] ก่อนจบการศึกษาจนเหลืออีกเพียงสองหน่วยกิต ในช่วงที่เรียนอยู่พิตต์ไปสมัครเป็นนายแบบที่บริษัทโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง แล้วก็ได้รับการติดต่อให้โฆษณา[[กางเกงยีนส์]][[ลีวายส์]]ลงใน[[นิตยสาร]] หลังจากนั้นก็มีงานโฆษณาติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วก็ย้ายไปที่[[แคลิฟอร์เนีย]]
[[File:BradPittBAR08.jpg|thumb|upright|left| พิตต์ในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง ''[[ยกขบวนป่วนซีไอเอ|Burn After Reading]]'' เดือนสิงหาคม 2551]]


แบรดต้องขับ[[รถลิมูซีน]] ในช่วงที่ยังไม่มีชื่อเสียง หรือไม่ก็สวมชุดเป็นการ์ตูนมาสค็อต ต้อนรับเด็ก ๆ ให้เครือร้านไก่ทอดชื่อดังร้านหนึ่ง และแล้วชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้รับบทจอมโจรผู้ฉกปล้นหัวใจและเงินตรา ในเรื่อง Thelma & Louise และมีผลงานออกมามากมาย ทั้ง A River Runs Through It, Interview with a Vampire และ Seven
พิตต์ได้รับบทบาทครั้งแรกในฐานะนักโบกรถคาวบอยในภาพยนตร์เรื่อง '''Thelma & Louise''' (2534) บทบาทนำครั้งแรกของเขาในการถ่ายทำที่มีงบประมาณมหาศาลมาในภาพยนตร์ดรามาเรื่อง '''A River Runs Through It''' (2535) และ '''Legends of the Fall''' (2537) และภาพยนตร์สยองขวัญ '''Interview with the Vampire''' (2537) การแสดงของเขาได้รับการยกย่องอย่างมากในภาพยนตร์อาชญากรรมระทึกขวัญเรื่อง '''[[เซเว่น เจ็ดข้อต้องฆ่า|Seven]]''' (2538) และภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์เรื่อง '''12 Monkeys''' (2538) ทำให้เขาได้รับ[[รางวัลลูกโลกทองคำ]]สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมและได้รับการเสนอชื่อชิง[[รางวัลออสการ์]]


พิตต์เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ จากบททริสตั้น ชายหนุ่มเลือดร้อนที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าใน Legends of the Fall เมื่อปี 1994 สองปีหลังจากนั้นเขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
นอกจากนี้ พิตต์ยังได้แสดงในเรื่อง ''Fight Club'' (2542) และภาพยนตร์ปล้นเรื่อง ''Ocean's Eleven'' (2544) รวมถึงภาคต่อ ''Ocean's Twelve'' (2547) และ ''Ocean's Thirteen'' (2550) ความสำเร็จด้านรายได้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ได้แก่ เรื่อง ''Ocean's Eleven'' (2544), ''Troy'' (2547), ''Mr. & Mrs.Smith'' (2548), ''[[มหาวิบัติสงคราม Z|World War Z]]'' (2556) และ ''Once Upon a Time in Hollywood'' (2562) ซึ่งเขาได้รับรางวัล [[รางวัลลูกโลกทองคำ]]ครั้งที่สองและ[[รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม]] ผลงานการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์อื่น ๆ ของพิตต์ ได้แก่ เรื่อง ''[[เบนจามิน บัตตัน อัศจรรย์ฅนโลกไม่เคยรู้|The Curious Case of Benjamin Button]]'' (2551) และ ''Moneyball'' (2554) เขายังได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง ''[[ภารกิจโหด แฝงตัวโค่นเจ้าพ่อ|The Departed]]'' (2549) และ ''[[ปลดแอก คนย่ำคน|12 Years a Slave]]'' (2556) ซึ่งทั้งสองเรื่องได้รับ[[รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม]] นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่อง ''The Tree of Life'' (2554), ''Moneyball'' (2554) และ ''The Big Short'' (2558) ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย


เขาได้รับ[[รางวัลออสการ์]] จากบทบาทในภาพยนตร์ เรื่อง 12 Monkeys (1995) ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ [[นิตยสารพีเพิล]] ระบุชื่อเขาเป็น “ผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด (ที่ยังมีชีวิตอยู่)” แบรด พิตต์ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นพิตต์ก็เป็นยกย่องจากบทบาทนำแสดงของเขาใน Se7en กับ Fight Club ของ[[เดวิด ฟินเชอร์]], Seven Years in Tibet ของ[[ฌ็อง ชาร์ค แอนนัด]], และ Snatch ของ[[กาย ริทชี่]] เขายังร่วมแสดงกับ[[จอร์จ คลูนี่]], [[จูเลีย โรเบิตส์]], [[แม็ทต์ เดม่อน]], [[ดอน ชี้ดเดิ้ล]], และ[[เบอร์นี่ แม็ค]] ใน Ocean's Eleven ภาพยนตร์รวมดาวดาราที่[[สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก]] หยิบหนังเก่ามาปัดฝุ่นสร้างขึ้นใหม่และได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งพิตต์ก็กลับมารับบทเดิมใน Ocean's Twelve ซึ่งนักแสดงจากภาคแรกยังคงกลับมาร่วมแสดงให้สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก กำกับกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
==ชีวิตส่วนตัว==
[[File:Angelina Jolie Brad Pitt Cannes.jpg|thumb|alt=A Caucasian man and woman in the foreground of the image, while others are visible behind them. The woman has brown hair, which is tied back. The man has his dark brown hair parted. He is wearing a black suit and bow-tie with a white shirt.|[[แอนเจลีนา โจลี]]และพิตต์ที่[[เทศกาลภาพยนตร์กาน|เทศกาลภาพยนตร์กานครั้งที่ 60]]]]


นอกจากนั้นพิตต์ยังร่วมแสดงใน Spy Game ของโทนี่ สก็อต ที่นำแสดงโดย[[โรเบิร์ต เรดฟอร์ด]], The Mexican ของ[[กอร์ เวอร์บินสกี้]] ที่นำแสดงกับจูเลีย โรเบิร์ต และ[[เจมส์ แกนดอลฟินี่]] นำแสดงใน Meet Joe Black ของ[[มาร์ติน เบรสท์]], The Devil's Own ของ[[อลัน เจ แพ็คคิวล่า]], Sleepers ของ[[แบร์รี่ เลวินสัน]], True romance ของ[[โทนี่ สก็อต]], Cool World ของ[[ราล์ฟ บาคชี่]], และ Johnny Suede ที่ได้รับรางวัล Best Picture จาก Locarno International Film Festival เมื่อปี 1991 ด้วย พิตต์ยังยอมรับแสดงบทเล็ก ๆ ใน Full Frontal ของโซเดอร์เบิร์ก, และ Confessions of a Dangerous Mind ของจอร์จ คลูนี่ ด้วย
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และต้นทศวรรษที่ 1990 พิตต์มีความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกับผู้ร่วมแสดงของเขาหลายคนรวมถึงรอบิน กิฟเวนส์<ref name="love lost">{{cite news |url=http://www.people.com/people/archive/article/0,,20122540,00.html |title=Love Lost |first=Tom |last=Gliatto |date=June 30, 1997 |work=[[People (magazine)|People]] |accessdate=February 25, 2009 |archive-url=https://web.archive.org/web/20090301041953/http://www.people.com/people/archive/article/0,,20122540,00.html |archive-date=March 1, 2009 |url-status=live }}</ref> นอกจากนี้พิตต์ยังมีความสัมพันธ์กับ[[กวินเน็ธ พัลโทรว์]] นักแสดงร่วมจากเรื่อง ''[[เซเว่น เจ็ดข้อต้องฆ่า|Seven]]'' ซึ่งทั้งคู่ได้คบหากันตั้งแต่ปี 2537 ถึง 2540<ref name="love lost" />


พิตต์ ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่ต่างกันสุดขั้วสองเรื่องคือ Ocean's Thirteen ซึ่งเขากลับมารับบทเดิมเป็นรัสตี้ ไรอั้น, กับ The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford ของ[[แอนดรู โดมินิค]] ซึ่งเขารับบทนำแสดงเป็นเจสซี่ เจมส์ และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย หลังจากนั้นเขาก็จะนำแสดงใน The Curious Case of Benjamin Button ผลงานสุดโรแมนติคหลุดโลกแฟนตาซีที่จะได้ร่วมแสดงกับเคท แบลนเช็ต อีกครั้ง และจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับภาพยนตร์เดวิด ฟินเชอร์ เป็นเรื่องที่สามด้วย โดยวางแผนไว้ว่าจะออกฉายในเดือนพฤษภาคมปี 2008 ช่วงปลายปีนี้เขาก็ยังจะไปร่วมแสดงใน Burn After Reading ผลงานตลกร้ายของพี่น้องโคเอ็น ที่จะนำแสดงโดยจอร์จ คลูนี่ และฟรานเซส แม็คดอร์มานด์ แล้วเขาก็ยังจะเข้ากล้องร่วมแสดงใน State of Play ที่สร้างอ้างอิงจากภาพยนตร์ชุดของ BBC ชื่อเดียวกันอีกด้วย
ในปี 2541 พิตต์ได้พบกับ[[เจนนิเฟอร์ อนิสตัน]] จากซีรีส์เรื่อง ''[[เฟรนส์|Friends]]'' และทั้งคู่แต่งงานกันในพิธีแต่งงานส่วนตัวที่[[แมลิบู]] เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2543<ref>{{cite news |url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/americas/4156907.stm |title=Pitt and Aniston announce split |date=January 8, 2005 |work=BBC News |accessdate=March 19, 2009 |archive-url=https://web.archive.org/web/20090301153537/http://news.bbc.co.uk/2/hi/americas/4156907.stm |archive-date=March 1, 2009 |url-status=live }}</ref> ในเดือนมกราคมปี 2548 พิตต์และอนิสตันประกาศว่าพวกเขาตัดสินใจแยกทางกัน สองเดือนต่อมาอนิสตันฟ้องหย่าโดยเธอกล่าวถึงความแตกต่างของทั้งคู่ที่เข้ากันไม่ได้<ref name="divorce final">{{cite news |url=https://www.usatoday.com/life/people/2005-08-22-aniston-pitt-divorce_x.htm |title=Judge signs Aniston-Pitt divorce papers |date=August 22, 2005 |agency=Associated Press |work=USA Today |accessdate=November 14, 2008 |archive-url=https://web.archive.org/web/20120113125723/http://www.usatoday.com/life/people/2005-08-22-aniston-pitt-divorce_x.htm |archive-date=January 13, 2012 |url-status=live }}</ref> แม้จะมีรายงานจากสื่อว่าพิตต์และอนิสตันมีความสัมพันธ์ที่รุนแรง พิตต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2552 ว่าเขาและอนิสตัน "เป็นห่วงซึ่งกันและกัน" และเสริมว่าทั้งคู่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของกันและกัน<ref name="check in">{{cite news|url=http://www.wmagazine.com/celebrities/2009/02/brad_pitt |title=Brad Pitt |author=Kevin West |accessdate=February 24, 2009 |date=February 2009 |work=[[W (magazine)|W]] |page=1 |archiveurl=https://web.archive.org/web/20101226033305/http://www.wmagazine.com/celebrities/2009/02/brad_pitt |archivedate=December 26, 2010}}</ref>


== ชีวิตส่วนตัว ==
ระหว่างการฟ้องหย่าของพิตต์ ความสัมพันธ์กับเขาและนักแสดงร่วม [[แอนเจลีนา โจลี]] จากเรื่อง ''Mr. & Mrs. Smith'' ดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชน โจลีและพิตต์ระบุว่าพวกเขาตกหลุมรักกันในกองถ่าย<ref name="Harris"/><ref name="Binelli">{{cite web|author=Mark Binelli|title=Brad Pitt: The Rolling Stone Interview|work=[[Rolling Stone]]|date=December 25, 2008|accessdate=August 27, 2017|url=https://www.rollingstone.com/movies/features/the-rolling-stone-interview-brad-pitt-20081225|archive-url=https://web.archive.org/web/20171018214958/http://www.rollingstone.com/movies/features/the-rolling-stone-interview-brad-pitt-20081225|archive-date=October 18, 2017|url-status=dead}}</ref> และเขายืนยันว่าไม่มีการนอกใจอนิสตันในระหว่างที่ทั้งคู่คบกันแน่นอน<ref name="Harris">{{Cite news|author=Mark Harris|title=The Mommy Track|work=[[The New York Times]]|date=October 15, 2008|accessdate=August 27, 2017|url=https://www.nytimes.com/2008/10/19/movies/19harr.html|archive-url=https://web.archive.org/web/20150504103549/http://www.nytimes.com/2008/10/19/movies/19harr.html|archive-date=May 4, 2015|url-status=live}}</ref> ในเดือนเมษายน ปี 2548 หนึ่งเดือนหลังจากที่อนิสตันฟ้องหย่า [[ปาปารัสซี]]ได้ถ่ายภาพของพิตต์ โจลีและแมดด็อกซ์ลูกชายของเธอที่ชายหาดใน[[ประเทศเคนยา]] โดยสื่อต่างตีความภาพว่าเป็นหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างพิตต์และโจลี ในช่วงปี 2548 ทั้งสองได้พบเจอกันบ่อยมากขึ้น จนทำให้สื่อบันเทิงต่างขนานนามทั้งคู่ว่า "แบรนเจลีนา"<ref>{{cite news |author=Robin Stummer |url=https://www.independent.co.uk/news/world/africa/to-brad-and-angelina-a-csection-and-the-keys-to-a-hysterical-nation-480063.html |title=To Brad and Angelina: a C-section (and the keys to a hysterical nation) |accessdate=February 21, 2010 |date=May 28, 2006 |work=The Independent |location=UK}}</ref> เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2549 โจลียืนยันกับนิตยสาร ''People'' ว่าเธอตั้งครรภ์กับพิตต์ และยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นครั้งแรก พิตต์และโจลีประกาศการหมั้นในเดือนเมษายน 2555 หลังจากคบหากันนานถึง 7 ปี<ref>{{cite news|url=https://www.reuters.com/article/2012/04/13/entertainment-us-angelinajolie-idUSBRE83C1BI20120413|title=Angelina Jolie and Brad Pitt engaged: official|work=Reuters|date=April 13, 2012|accessdate=April 13, 2012|archive-url=https://web.archive.org/web/20141129065259/http://www.reuters.com/article/2012/04/13/entertainment-us-angelinajolie-idUSBRE83C1BI20120413|archive-date=November 29, 2014|url-status=live}}</ref> ทั้งคู่แต่งงานกันในวันที่ 23 สิงหาคม 2014 ในพิธีส่วนตัวที่[[ประเทศฝรั่งเศส]]<ref>{{cite web|author1=Michael Rothman|title=All the Details: Brad Pitt and Angelina Jolie Are Married|url=https://abcnews.go.com/Entertainment/brad-pitt-angelina-jolie-married-france/story?id=25157846|publisher=ABC News|accessdate=August 28, 2014|date=August 28, 2014|archive-url=https://web.archive.org/web/20150108233049/http://abcnews.go.com/Entertainment/brad-pitt-angelina-jolie-married-france/story?id=25157846|archive-date=January 8, 2015|url-status=live}}</ref> เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 โจลีฟ้องหย่าพิตต์โดยกล่าวถึงความแตกต่างที่เข้ากันไม่ได้<ref>{{cite news|title=Angelina Jolie files for divorce from Brad Pitt 'for the health of the family'|url=https://www.telegraph.co.uk/news/2016/09/20/angelina-jolie-and-brad-pitt-to-divorce/|accessdate=September 20, 2016|work=The Daily Telegraph|date=September 20, 2016|archive-url=https://web.archive.org/web/20160920171052/http://www.telegraph.co.uk/news/2016/09/20/angelina-jolie-and-brad-pitt-to-divorce/|archive-date=September 20, 2016|url-status=live}}</ref>
ด้านชีวิตส่วนตัว แบรด พิตต์เคยหมั้นอยู่กับ[[กวินเน็ธ พัลโทรว์]] เป็นเวลาสามปี ต่อมาใช้ชีวิตคู่กับ [[เจนนิเฟอร์ อนิสตัน]] เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2000 และต่อมาก็เลิกรากันในเดือนมกราคม 2005 ปัจจุบันใช้ชีวิตร่วมกับ[[แอนเจลีนา โจลี]] มีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน มีลูกบุญธรรม 3 คนอย่างแม็ดด็อกซ์ , แพ็กซ์ เทียน และสะฮารา รวมถึงลูกสาวคนโตแท้ๆ อย่างไชโลห์ และฝาแฝดหญิง น็อกซ์ และ วิเวียน อีกสองคนที่เกิดจากเขาและแองเจลินา โจลี<ref>[http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000099019 "เจนนิเฟอร์ อนิสตัน" เตรียมเป็นคุณแม่มือใหม่คริสต์มาสนี้!] โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 สิงหาคม 2550 19:48 น.</ref>


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:27, 17 สิงหาคม 2563

แบรด พิตต์
แบรด พิตต์ ในปี 2014
แบรด พิตต์ ในปี 2014
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด18 ธันวาคม พ.ศ. 2506 (60 ปี)
วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์
คู่สมรสเจนนิเฟอร์ อนิสตัน (2000–2005)
แอนเจลีนา โจลี (2005–2016)
อาชีพนักแสดง โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์
ผลงานเด่นFury (2014) - ดอน
Ocean's Thirteen(2007) - รัสตี้ ไรอัน
Babel(2007) - ริชาร์ด
Mr. & Mrs. Smith(2005) - จอห์น สมิธ
Troy(2004) - อคิลลิส
Fight Club(1999) - ไทเลอร์
Meet Joe Black(1998) - โจ แบล็ค
Interview with the Vampire: The Vampire Chronicles(1994) - หลุยส์
Legends of the Fall(1994) - ทริสตัน
ลูกโลกทองคำนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
ค.ศ. 1996 - Twelve Monkeys

วิลเลียม แบรดลีย์ พิตต์ (อังกฤษ: William Bradley Pitt) เป็นนักแสดงชายชาวอเมริกัน เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง 12 Monkeys (1995) ปีเดียวกับที่นิตยสารพีเพิ่ลยกให้เป็น "ผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด (ที่ยังมีชีวิตอยู่)" และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างในนาม Plan B Entertainment ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง พิตต์เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม โดยประกบเคท แบลนเช็ต ใน BABEL ของอเลแจนโดร กอนซาเลซ อินาริตู และเป็นหนึ่งในคณะนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Screen Actors Guild Award สาขา Outstanding Performance by a Motion Picture Cast ด้วย

ประวัติ

แบรดลีย์ พิตต์ เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2506 ที่เมืองชอว์นีย์ รัฐโอคลาโฮมา เป็นคนโตในจำนวนทั้งหมด 3 คน บิดาเป็นผู้บริหารธุรกิจขนส่งทางรถบรรทุก ชื่อ บิล พิตต์ และ มารดาชื่อ เจน พิตต์ ที่ปรึกษาผู้ปกครอง แบรด ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเด็ก ๆ ในแถบตะวันตกตอนกลางของอเมริกา รูปร่างหน้าตาของเขาก็ไม่ได้ทำให้เขามีอะไรพิเศษไปกว่าคนอื่น ๆ สมัยที่เรียนไฮสคูล พิตต์เล่นกีฬาหลายประเภทและเคยโต้วาทีในชั้นเรียน นอกจากนี้เขายังทำกิจกรรมเกี่ยวกับทางด้านดนตรีด้วย

พอจบไฮสคูล แบรดย้ายไปเรียนวารสารศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี่ในสาขาเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์และโฆษณา ก่อนจบการศึกษาจนเหลืออีกเพียงสองหน่วยกิต ในช่วงที่เรียนอยู่พิตต์ไปสมัครเป็นนายแบบที่บริษัทโมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง แล้วก็ได้รับการติดต่อให้โฆษณากางเกงยีนส์ลีวายส์ลงในนิตยสาร หลังจากนั้นก็มีงานโฆษณาติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วก็ย้ายไปที่แคลิฟอร์เนีย

แบรดต้องขับรถลิมูซีน ในช่วงที่ยังไม่มีชื่อเสียง หรือไม่ก็สวมชุดเป็นการ์ตูนมาสค็อต ต้อนรับเด็ก ๆ ให้เครือร้านไก่ทอดชื่อดังร้านหนึ่ง และแล้วชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้รับบทจอมโจรผู้ฉกปล้นหัวใจและเงินตรา ในเรื่อง Thelma & Louise และมีผลงานออกมามากมาย ทั้ง A River Runs Through It, Interview with a Vampire และ Seven

พิตต์เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ จากบททริสตั้น ชายหนุ่มเลือดร้อนที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าใน Legends of the Fall เมื่อปี 1994 สองปีหลังจากนั้นเขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์

เขาได้รับรางวัลออสการ์ จากบทบาทในภาพยนตร์ เรื่อง 12 Monkeys (1995) ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ นิตยสารพีเพิล ระบุชื่อเขาเป็น “ผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุด (ที่ยังมีชีวิตอยู่)” แบรด พิตต์ ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นพิตต์ก็เป็นยกย่องจากบทบาทนำแสดงของเขาใน Se7en กับ Fight Club ของเดวิด ฟินเชอร์, Seven Years in Tibet ของฌ็อง ชาร์ค แอนนัด, และ Snatch ของกาย ริทชี่ เขายังร่วมแสดงกับจอร์จ คลูนี่, จูเลีย โรเบิตส์, แม็ทต์ เดม่อน, ดอน ชี้ดเดิ้ล, และเบอร์นี่ แม็ค ใน Ocean's Eleven ภาพยนตร์รวมดาวดาราที่สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก หยิบหนังเก่ามาปัดฝุ่นสร้างขึ้นใหม่และได้รับความนิยมอย่างสูง ซึ่งพิตต์ก็กลับมารับบทเดิมใน Ocean's Twelve ซึ่งนักแสดงจากภาคแรกยังคงกลับมาร่วมแสดงให้สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก กำกับกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

นอกจากนั้นพิตต์ยังร่วมแสดงใน Spy Game ของโทนี่ สก็อต ที่นำแสดงโดยโรเบิร์ต เรดฟอร์ด, The Mexican ของกอร์ เวอร์บินสกี้ ที่นำแสดงกับจูเลีย โรเบิร์ต และเจมส์ แกนดอลฟินี่ นำแสดงใน Meet Joe Black ของมาร์ติน เบรสท์, The Devil's Own ของอลัน เจ แพ็คคิวล่า, Sleepers ของแบร์รี่ เลวินสัน, True romance ของโทนี่ สก็อต, Cool World ของราล์ฟ บาคชี่, และ Johnny Suede ที่ได้รับรางวัล Best Picture จาก Locarno International Film Festival เมื่อปี 1991 ด้วย พิตต์ยังยอมรับแสดงบทเล็ก ๆ ใน Full Frontal ของโซเดอร์เบิร์ก, และ Confessions of a Dangerous Mind ของจอร์จ คลูนี่ ด้วย

พิตต์ ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่ต่างกันสุดขั้วสองเรื่องคือ Ocean's Thirteen ซึ่งเขากลับมารับบทเดิมเป็นรัสตี้ ไรอั้น, กับ The Assassination of Jesse James by the Coward Robert Ford ของแอนดรู โดมินิค ซึ่งเขารับบทนำแสดงเป็นเจสซี่ เจมส์ และยังเป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย หลังจากนั้นเขาก็จะนำแสดงใน The Curious Case of Benjamin Button ผลงานสุดโรแมนติคหลุดโลกแฟนตาซีที่จะได้ร่วมแสดงกับเคท แบลนเช็ต อีกครั้ง และจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับภาพยนตร์เดวิด ฟินเชอร์ เป็นเรื่องที่สามด้วย โดยวางแผนไว้ว่าจะออกฉายในเดือนพฤษภาคมปี 2008 ช่วงปลายปีนี้เขาก็ยังจะไปร่วมแสดงใน Burn After Reading ผลงานตลกร้ายของพี่น้องโคเอ็น ที่จะนำแสดงโดยจอร์จ คลูนี่ และฟรานเซส แม็คดอร์มานด์ แล้วเขาก็ยังจะเข้ากล้องร่วมแสดงใน State of Play ที่สร้างอ้างอิงจากภาพยนตร์ชุดของ BBC ชื่อเดียวกันอีกด้วย

ชีวิตส่วนตัว

ด้านชีวิตส่วนตัว แบรด พิตต์เคยหมั้นอยู่กับกวินเน็ธ พัลโทรว์ เป็นเวลาสามปี ต่อมาใช้ชีวิตคู่กับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2000 และต่อมาก็เลิกรากันในเดือนมกราคม 2005 ปัจจุบันใช้ชีวิตร่วมกับแอนเจลีนา โจลี มีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน มีลูกบุญธรรม 3 คนอย่างแม็ดด็อกซ์ , แพ็กซ์ เทียน และสะฮารา รวมถึงลูกสาวคนโตแท้ๆ อย่างไชโลห์ และฝาแฝดหญิง น็อกซ์ และ วิเวียน อีกสองคนที่เกิดจากเขาและแองเจลินา โจลี[1]

อ้างอิง