ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอโมจิ"
ย้อนกลับไปรุ่นที่ 8947936 โดย 2001:44C8:4304:A7EC:1:2:916:F95A: ย้อนการก่อกวนด้วยสจห. ป้ายระบุ: ทำกลับ |
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
[[ไฟล์:Noto Emoji KitKat 263a.svg|thumb|180px|เอโมจิรูปหนึ่ง ประดิษฐ์โดยโครงการ[[ฟอนต์โนโต|โนโต]]]] |
[[ไฟล์:Noto Emoji KitKat 263a.svg|thumb|180px|เอโมจิรูปหนึ่ง ประดิษฐ์โดยโครงการ[[ฟอนต์โนโต|โนโต]]]] |
||
'''อีโมจิ''' ( |
'''อีโมจิ''' () หรือ '''อิโมจี''' () คือตัวหนังสือความคิดและสไมลีย์ที่ใช้กันในข้อความอิเล็กทรอนิกส์และเว็บเพจ เอโมจิปรากฏในหลายรูปแบบ เช่น การแสดงสีหน้าและกิริยาอาการ วัตถุ สถานที่ ลมฟ้าอากาศ สัตว์ เป็นต้น อีโมจิมีลักษณะเหมือนสัญรูปอารมณ์มาก แต่มาจากรูปภาพจริงแทนที่จะมาจากตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายวรรคตอนประสมกันอย่างสัญรูปอารมณ์ เดิมคำ ''เอโมจิ'' มีความหมายว่า ตัวหนังสือภาพ โดยมาจากคำ ''เอะ'' ({{lang|ja|絵}}, "ภาพ") ประสมกับคำ ''โมจิ'' ({{lang|ja|文字}}, "ตัวหนังสือ") ความคล้ายคลึงระหว่างรูปอักษรโรมันของคำนี้ (คือ {{lang|ja|''emoji''}}) กับคำ {{lang|en|''emotion''}} และ {{lang|en|''emoticon''}} ในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น |
||
เอโมจิมีต้นกำเนิดมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2542 โดยนายชิเกตากะ คูริตะ ผู้มีอาชีพนักออกแบบของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเพื่อช่วยให้การสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นง่ายขึ้น ในครั้งนั้นเขาได้คิดค้นเอโมจิรวมทั้งหมด 176 แบบ |
เอโมจิมีต้นกำเนิดมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2542 โดยนายชิเกตากะ คูริตะ ผู้มีอาชีพนักออกแบบของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเพื่อช่วยให้การสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นง่ายขึ้น ในครั้งนั้นเขาได้คิดค้นเอโมจิรวมทั้งหมด 176 แบบ |
||
ในคริสต์ทศวรรษ 2010 อีโมจิได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกหลังจากที่มีการเพิ่มเอโมจิเข้าไปใน |
ในคริสต์ทศวรรษ 2010 อีโมจิได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกหลังจากที่มีการเพิ่มเอโมจิเข้าไปในระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่หลายระบบ ปัจจุบันถือว่าเอโมจิเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประชานิยมในโลกตะวันตก ในปี พ.ศ. 2558 ''[[ออกซฟอร์ดดิกชันนารีส์]]'' ประกาศให้เอโมจิรูปใบหน้ากับน้ำตาแห่งความยินดี (Face with Tears of Joy emoji) เป็นคำแห่งปี |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:32, 24 กรกฎาคม 2563
อีโมจิ () หรือ อิโมจี () คือตัวหนังสือความคิดและสไมลีย์ที่ใช้กันในข้อความอิเล็กทรอนิกส์และเว็บเพจ เอโมจิปรากฏในหลายรูปแบบ เช่น การแสดงสีหน้าและกิริยาอาการ วัตถุ สถานที่ ลมฟ้าอากาศ สัตว์ เป็นต้น อีโมจิมีลักษณะเหมือนสัญรูปอารมณ์มาก แต่มาจากรูปภาพจริงแทนที่จะมาจากตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายวรรคตอนประสมกันอย่างสัญรูปอารมณ์ เดิมคำ เอโมจิ มีความหมายว่า ตัวหนังสือภาพ โดยมาจากคำ เอะ (絵, "ภาพ") ประสมกับคำ โมจิ (文字, "ตัวหนังสือ") ความคล้ายคลึงระหว่างรูปอักษรโรมันของคำนี้ (คือ [emoji] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) กับคำ [emotion] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [emoticon] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น
เอโมจิมีต้นกำเนิดมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2542 โดยนายชิเกตากะ คูริตะ ผู้มีอาชีพนักออกแบบของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเพื่อช่วยให้การสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นง่ายขึ้น ในครั้งนั้นเขาได้คิดค้นเอโมจิรวมทั้งหมด 176 แบบ
ในคริสต์ทศวรรษ 2010 อีโมจิได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกหลังจากที่มีการเพิ่มเอโมจิเข้าไปในระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่หลายระบบ ปัจจุบันถือว่าเอโมจิเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประชานิยมในโลกตะวันตก ในปี พ.ศ. 2558 ออกซฟอร์ดดิกชันนารีส์ ประกาศให้เอโมจิรูปใบหน้ากับน้ำตาแห่งความยินดี (Face with Tears of Joy emoji) เป็นคำแห่งปี
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- Unicode Technical Report #51: Unicode emoji
- The Unicode FAQ – Emoji & Dingbats
- Emoji Symbols – The original proposals for encoding of Emoji symbols as Unicode characters.
- Background data for Unicode proposal
- emojitracker – List of most popularly used emoji on the Twitter platform; updated in real-time.