ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม"
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 5: | บรรทัด 5: | ||
| death_style = สิ้นพระชนม์ |
| death_style = สิ้นพระชนม์ |
||
| death_date = {{วันตายและอายุ|2467|1|25|2399|4|5}} |
| death_date = {{วันตายและอายุ|2467|1|25|2399|4|5}} |
||
| succession = [[รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย|เสนาบดีกระทรวงกลาโหม]] |
|||
| succession = [[องคมนตรี]] <ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/006/45.PDF ข่าวตั้งปริวีเคาน์ซิลเลอร์], เล่ม 4, หน้า 45</ref><ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/006/47.PDF สัญญาบัตรปริวีเคาน์ซิลเลอร์], เล่ม 4, หน้า 47-48</ref> |
|||
| reign-type = ดำรงตำแหน่ง |
| reign-type = ดำรงตำแหน่ง |
||
| reign = |
| reign = พ.ศ. 2442 — 2444 |
||
| predecessor = [[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์|เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์]] |
|||
| successor = [[สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช|สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระภาณุพันธุวงศ์วรเดช]] |
|||
| father1 = [[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] |
| father1 = [[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] |
||
| mother1 = [[เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ในรัชกาลที่ 4]] |
| mother1 = [[เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ในรัชกาลที่ 4]] |
||
บรรทัด 15: | บรรทัด 17: | ||
| dynasty = [[ราชวงศ์จักรี|จักรี]] |
| dynasty = [[ราชวงศ์จักรี|จักรี]] |
||
}} |
}} |
||
นายพลตรี |
นายพลตรี '''พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม''' (5 เมษายน พ.ศ. 2399 – 25 มกราคม พ.ศ. 2467) อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม เป็นพระราชโอรสใน[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ประสูติแต่[[เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ในรัชกาลที่ 4|เจ้าจอมมารดาสังวาลย์]] และเป็นต้น[[:หมวดหมู่:ราชสกุลทองใหญ่|ราชสกุลทองใหญ่]] |
||
== พระประวัติ == |
== พระประวัติ == |
||
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม มีพระนามเดิมว่า'''พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่''' เป็นพระราชโอรสใน[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ที่ประสูติแต่[[เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ในรัชกาลที่ 4|เจ้าจอมมารดาสังวาลย์]] ธิดานายศัลยวิชัย หุ้มแพร (ทองคำ ณ ราชสีมา) <ref>กรมศิลปากร, จดหมายเหตุนครราชสีมา 11 กันยายน พ.ศ. 2497, พิมพ์สนองคุณ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) และ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินท์ ณ ราชสีมา), กรุงเทพฯ: ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ป.ป.)</ref><ref>[http://koratdaily.com/blog.php?id=6834 ต้นสกุล ณ ราชสีมา ย้อนเรื่อง เมืองโคราช]</ref><ref>หากนับทางสายสกุลพระมารดา กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมทรงเป็นผู้สืบสายสกุล “ณ ราชสีมา” ชั้น 5 สาย "พระยาสุริยเดช (ทัศน์ รายณสุข ณ ราชสีมา)" และ ชั้น 4 สาย "เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา)"</ref> เป็นพระเจ้าลูกเธอองค์ที่ 25 และเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 13 ในรัชกาลที่ 4 ประสูติใน[[พระบรมมหาราชวัง]] เมื่อวันเสาร์ |
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม มีพระนามเดิมว่า'''พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่''' เป็นพระราชโอรสใน[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ที่ประสูติแต่[[เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ในรัชกาลที่ 4|เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ พระสนมโท]] ธิดานายศัลยวิชัย หุ้มแพร (ทองคำ ณ ราชสีมา) <ref>กรมศิลปากร, จดหมายเหตุนครราชสีมา 11 กันยายน พ.ศ. 2497, พิมพ์สนองคุณ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) และ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินท์ ณ ราชสีมา), กรุงเทพฯ: ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ป.ป.)</ref><ref>[http://koratdaily.com/blog.php?id=6834 ต้นสกุล ณ ราชสีมา ย้อนเรื่อง เมืองโคราช]</ref><ref>หากนับทางสายสกุลพระมารดา กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมทรงเป็นผู้สืบสายสกุล “ณ ราชสีมา” ชั้น 5 สาย "พระยาสุริยเดช (ทัศน์ รายณสุข ณ ราชสีมา)" และ ชั้น 4 สาย "เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา)"</ref> เป็นพระเจ้าลูกเธอองค์ที่ 25 และเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 13 ในรัชกาลที่ 4 ประสูติใน[[พระบรมมหาราชวัง]] เมื่อวันเสาร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง จุลศักราช 1218 ตรงกับวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2399 เมื่อสมโภชเดือนแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ เพราะในวันประสูติมีผู้นำทองคำก้อนใหญ่ ซึ่งขุดได้ที่ตำบลบางสะพานในเวลานั้นได้เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงถือว่าเป็นศุภนิมิตมงคลสำหรับพระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้ |
||
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ มีพระอนุชา พระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 3 พระองค์คือ |
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ มีพระอนุชา พระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 3 พระองค์คือ |
||
บรรทัด 25: | บรรทัด 27: | ||
* '''พระองค์เจ้าหญิงกาญจนากร''' |
* '''พระองค์เจ้าหญิงกาญจนากร''' |
||
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ทรงเริ่มการศึกษาวิชาอักษรไทย และ[[บาลี]] กับพระองค์เจ้ากฤษณา หม่อมเจ้าหญิงจอ และพระยาปริยัติธรรมธาดา (เปี่ยม) และทรงศึกษาภาษาต่างประเทศกับ นางเลียวโนเว็น และ นายแป็ตเตอสัน จนสามารถตรัส และเขียนภาษาอังกฤษได้ดี |
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ทรงเริ่มการศึกษาวิชาอักษรไทย และ[[ภาษาบาลี]] กับพระองค์เจ้ากฤษณา หม่อมเจ้าหญิงจอ และพระยาปริยัติธรรมธาดา (เปี่ยม) และทรงศึกษาภาษาต่างประเทศกับ นางเลียวโนเว็น และ นายแป็ตเตอสัน จนสามารถตรัส และเขียนภาษาอังกฤษได้ดี |
||
[[ไฟล์:สุริยุปราคาเต็มดวง๒๔๑๘.jpg|thumb|200px|right|ภาพวาดสุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418]] |
[[ไฟล์:สุริยุปราคาเต็มดวง๒๔๑๘.jpg|thumb|200px|right|ภาพวาดสุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418]] |
||
ผนวชเป็นสามเณรที่[[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] เมื่อ พ.ศ. 2411 และเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร]] ผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2418 และประทับที่[[วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม]] และได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับสมเด็จพระ |
ผนวชเป็นสามเณรที่[[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] เมื่อ พ.ศ. 2411 และเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร]] ผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2418 และประทับที่[[วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร]] และได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับ[[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว)]] เมื่อลาสิกขาแล้วทรงศึกษาวิชากฎหมายจากขุนหลวงไกรศรี (หนู) แล้วเข้ารับราชการเป็นนักเรียนศาลฎีกาในสมัย[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์]] เป็นอธิบดี[[ศาลฎีกา]] |
||
[[ไฟล์:Prince Prachak.jpg|thumb|200px|right|นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม แม่ทัพฝ่ายใต้ (ฉายก่อนหน้าที่จะยกกองทัพไปปราบฮ่อวันหนึ่ง)]] |
[[ไฟล์:Prince Prachak.jpg|thumb|200px|right|นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม แม่ทัพฝ่ายใต้ (ฉายก่อนหน้าที่จะยกกองทัพไปปราบฮ่อวันหนึ่ง)]] |
||
เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418 ได้เกิด[[สุริยุปราคาเต็มดวง]] ขึ้นในประเทศไทยพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ได้ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะนักดาราศาสตร์อังกฤษได้ตั้งค่ายสังเกตสุริยุปราคาที่แหลมเจ้าลาย [[จังหวัดเพชรบุรี]] นักดาราศาสตร์เหล่านี้ไม่สามารถถ่ายภาพสุริยุปราคาไว้ได้ คงมีแต่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ และถูกบันทึกอยู่ในตำราดาราศาสตร์ ในนามของ Prince Tong |
เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418 ได้เกิด[[สุริยุปราคาเต็มดวง]] ขึ้นในประเทศไทยพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ได้ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะนักดาราศาสตร์อังกฤษได้ตั้งค่ายสังเกตสุริยุปราคาที่แหลมเจ้าลาย [[จังหวัดเพชรบุรี]] นักดาราศาสตร์เหล่านี้ไม่สามารถถ่ายภาพสุริยุปราคาไว้ได้ คงมีแต่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ และถูกบันทึกอยู่ในตำราดาราศาสตร์ ในนามของ Prince Tong |
||
[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรมเมื่อ พ.ศ. 2424 เป็นกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นกำลังสำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการรักษาดินแดนไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในกรณีพิพาทกับ[[ฝรั่งเศส]]ครั้ง[[วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112]] ทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ปราบปราม[[สงครามปราบฮ่อ|กบฏจีนฮ่อ]]ในมณฑลลาวพวนจนสงบราบคาบ |
[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรมเมื่อ พ.ศ. 2424 เป็นกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นกำลังสำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการรักษาดินแดนไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในกรณีพิพาทกับ[[ประเทศฝรั่งเศส]]ครั้ง[[วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112]] ทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ปราบปราม[[สงครามปราบฮ่อ|กบฏจีนฮ่อ]]ในมณฑลลาวพวนจนสงบราบคาบ และได้รับแต่งตั้งเป็น[[องคมนตรี]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/006/45.PDF ข่าวตั้งปริวีเคาน์ซิลเลอร์], เล่ม 4, หน้า 45</ref><ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2430/006/47.PDF สัญญาบัตรปริวีเคาน์ซิลเลอร์], เล่ม 4, หน้า 47-48</ref> |
||
ในเวลาต่อมาทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ พ.ศ. 2436 ทรงตั้งกองบัญชาการมณฑลลาวพวนที่บ้านหมากแข้ง ทรงสร้างความเจริญจากหมู่บ้านชนบทจนเป็นเมืองอุดรซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็น[[จังหวัดอุดรธานี]] |
ในเวลาต่อมาทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ พ.ศ. 2436 ทรงตั้งกองบัญชาการมณฑลลาวพวนที่บ้านหมากแข้ง ทรงสร้างความเจริญจากหมู่บ้านชนบทจนเป็นเมืองอุดรซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็น[[จังหวัดอุดรธานี]] |
||
พ.ศ. 2442 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ |
พ.ศ. 2442 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/001/4.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งผู้บัญชาการกรมทหารเรือและผู้บังคับการกรมต่าง ๆ]</ref> |
||
ภายหลังเกิด[[คดีพญาระกา]]ขึ้นในปี พ.ศ. 2452 - พ.ศ. 2453 |
ภายหลังเกิด[[คดีพญาระกา]]ขึ้นในปี พ.ศ. 2452 - พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกระทำปัพพานียกรรม ขับกรมหลวงประจักษ์ฯ และพระโอรส-ธิดาออกจากพระราชสำนัก พระองค์เองทรงถูกห้ามมิให้เข้าเฝ้าในที่รโหฐาน ให้เฝ้าได้แต่ในท้องพระโรงหรือในที่มีผู้เฝ้าอยู่มากเท่านั้น ห้ามหม่อมเจ้าไศลทองโดยเฉพาะมิให้เข้าในเขตพระราชฐาน และห้ามหม่อมเจ้าหญิงชายอื่น ๆ ในกรมหลวงประจักษ์ฯ มิให้ขึ้นสู่พระราชมณเฑียร ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2453 เป็นต้นมาจนตลอดรัชกาลก็มิได้พ้นพระราชอาญาจนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สวรรคต |
||
== สิ้นพระชนม์ == |
|||
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม สิ้นพระชนม์ ณ [[วังตรอกสาเก]] เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467 จากโรคอันตะ (ไส้ใหญ่ ) พิการ สิริพระชันษาได้ 67 ปี |
|||
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม สิ้นพระชนม์ด้วยโรคพระอันตะ (ไส้ใหญ่ ) พิการ ณ [[วังตรอกสาเก]] เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2468) เวลา 18.00 น. สิริพระชันษาได้ {{อายุปีและวัน|2399|4|5|2467|1|25}} วันต่อมา เวลา 17.00 น. [[สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช|สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช]] เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ เจ้าพนักงานเชิญพระศพขึ้นรถพระวอวิมานไป[[พระที่นั่งทรงธรรม]] [[วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร]] เชิญพระศพขึ้นตั้งบนแว่นฟ้าสองชั้น ประกอบโกศมณฑป แวดล้อมด้วยเครื่องสูง สมเด็จกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชทรงทอดผ้าไตรถวายพระภิกษุ 20 รูป มี[[สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต)]] เป็นประธาน<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|title=ข่าวสิ้นพระชนม์|pages=3849|publisher=[[สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา]]|issue=ง |volume=41 |url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2467/D/3849.PDF|date=1 กุมภาพันธ์ 2467|accessdate=8 กรกฎาคม 2563}}</ref> |
|||
== พระโอรสและพระธิดา == |
== พระโอรสและพระธิดา == |
||
บรรทัด 309: | บรรทัด 312: | ||
*พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายในพื้นที่ค่ายประจักษ์ศิลปาคม '''กรมทหารราบที่13 มณฑลทหารบกที่24 อุดรธานี''' เป็นพระอนุสาวรีย์ทรงยืนขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของทหารในสังกัดมณฑลทหารบกที่24 |
*พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายในพื้นที่ค่ายประจักษ์ศิลปาคม '''กรมทหารราบที่13 มณฑลทหารบกที่24 อุดรธานี''' เป็นพระอนุสาวรีย์ทรงยืนขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของทหารในสังกัดมณฑลทหารบกที่24 |
||
*พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกกรมหลวงประจักษ์ ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของประชาชนทั่วไป แต่เดิมประดิษฐานอยู่ที่ สนาม[[ทุ่งศรีเมือง]] ต่อมาจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ '''ห้าแยกกรมหลวงประจักษ์''' |
*พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกกรมหลวงประจักษ์ ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของประชาชนทั่วไป แต่เดิมประดิษฐานอยู่ที่ สนาม[[ทุ่งศรีเมือง]] ต่อมาจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ '''ห้าแยกกรมหลวงประจักษ์''' |
||
*พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายใน[[โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม |
*พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายใน[[โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม]] [[อำเภอประจักษ์ศิลปาคม]] |
||
== วันก่อตั้งเมือง |
== วันก่อตั้งเมืองอุดรธานี == |
||
วันที่18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ยกทัพมาสร้างบ้านแปลงเมือง ณ บ้านเดื่อหมากแข้ง ทางจังหวัดอุดรธานีจึงได้เลือกวันดังกล่าวเป็นวัดเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งเมืองอุดรธานีและจะมีการรำบวงสรวงทุกปีเพื่อแสดงออกถึงความรักและความสามัคคีของคนอุดรธานี |
วันที่18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ยกทัพมาสร้างบ้านแปลงเมือง ณ บ้านเดื่อหมากแข้ง ทางจังหวัดอุดรธานีจึงได้เลือกวันดังกล่าวเป็นวัดเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งเมืองอุดรธานีและจะมีการรำบวงสรวงทุกปีเพื่อแสดงออกถึงความรักและความสามัคคีของคนอุดรธานี |
||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
* [http://thaiastro.nectec.or.th/royal/rama5.html สุริยุปราคาเต็มดวงในประเทศไทย 6 เมษายน 2418] |
* [http://thaiastro.nectec.or.th/royal/rama5.html สุริยุปราคาเต็มดวงในประเทศไทย 6 เมษายน 2418] |
||
บรรทัด 334: | บรรทัด 338: | ||
| ช่วงเวลา = 2 กันยายน พ.ศ. 2442 - 15 มกราคม พ.ศ. 2443 |
| ช่วงเวลา = 2 กันยายน พ.ศ. 2442 - 15 มกราคม พ.ศ. 2443 |
||
}} |
}} |
||
{{สืบตำแหน่ง |
{{สืบตำแหน่ง |
||
| สี1 = #e9e9eb |
| สี1 = #e9e9eb |
||
บรรทัด 364: | บรรทัด 367: | ||
[[หมวดหมู่:กรมหลวง]] |
[[หมวดหมู่:กรมหลวง]] |
||
[[หมวดหมู่:พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4]] |
[[หมวดหมู่:พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4]] |
||
[[หมวดหมู่:องคมนตรีในรัชกาลที่ 5]] |
|||
[[หมวดหมู่:ราชสกุลทองใหญ่| ]] |
[[หมวดหมู่:ราชสกุลทองใหญ่| ]] |
||
[[หมวดหมู่:รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย]] |
[[หมวดหมู่:รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย]] |
||
บรรทัด 378: | บรรทัด 382: | ||
[[หมวดหมู่:ผู้ได้รับเหรียญจักรมาลา]] |
[[หมวดหมู่:ผู้ได้รับเหรียญจักรมาลา]] |
||
[[หมวดหมู่:ผู้ได้รับเหรียญจักรพรรดิมาลา]] |
[[หมวดหมู่:ผู้ได้รับเหรียญจักรพรรดิมาลา]] |
||
[[หมวดหมู่:สกุล ณ ราชสีมา |
[[หมวดหมู่:สกุล ณ ราชสีมา]] |
||
[[หมวดหมู่:เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินอาหาร]] |
[[หมวดหมู่:เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินอาหาร]] |
||
[[หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัยชั้นที่ 1]] |
[[หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัยชั้นที่ 1]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:22, 8 กรกฎาคม 2563
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม | |
---|---|
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4 พระองค์เจ้าชั้นเอก | |
เสนาบดีกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง | พ.ศ. 2442 — 2444 |
ก่อนหน้า | เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ |
ถัดไป | สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระภาณุพันธุวงศ์วรเดช |
ประสูติ | 5 เมษายน พ.ศ. 2399 |
สิ้นพระชนม์ | 25 มกราคม พ.ศ. 2467 (67 ปี) |
หม่อม | 9 คน |
พระบุตร | 25 องค์ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ในรัชกาลที่ 4 |
นายพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (5 เมษายน พ.ศ. 2399 – 25 มกราคม พ.ศ. 2467) อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหม เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ และเป็นต้นราชสกุลทองใหญ่
พระประวัติ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม มีพระนามเดิมว่าพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ พระสนมโท ธิดานายศัลยวิชัย หุ้มแพร (ทองคำ ณ ราชสีมา) [1][2][3] เป็นพระเจ้าลูกเธอองค์ที่ 25 และเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 13 ในรัชกาลที่ 4 ประสูติในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันเสาร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง จุลศักราช 1218 ตรงกับวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2399 เมื่อสมโภชเดือนแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ เพราะในวันประสูติมีผู้นำทองคำก้อนใหญ่ ซึ่งขุดได้ที่ตำบลบางสะพานในเวลานั้นได้เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงถือว่าเป็นศุภนิมิตมงคลสำหรับพระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ มีพระอนุชา พระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 3 พระองค์คือ
- พระองค์เจ้าชายทองแถมถวัลยวงศ์ (ภายหลังได้รับสถาปนาเป็นกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ต้นราชสกุลทองแถม)
- พระองค์เจ้าชายเจริญรุ่งราษี
- พระองค์เจ้าหญิงกาญจนากร
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ทรงเริ่มการศึกษาวิชาอักษรไทย และภาษาบาลี กับพระองค์เจ้ากฤษณา หม่อมเจ้าหญิงจอ และพระยาปริยัติธรรมธาดา (เปี่ยม) และทรงศึกษาภาษาต่างประเทศกับ นางเลียวโนเว็น และ นายแป็ตเตอสัน จนสามารถตรัส และเขียนภาษาอังกฤษได้ดี
ผนวชเป็นสามเณรที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2411 และเสด็จไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ผนวชที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อ พ.ศ. 2418 และประทับที่วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (สา ปุสฺสเทโว) เมื่อลาสิกขาแล้วทรงศึกษาวิชากฎหมายจากขุนหลวงไกรศรี (หนู) แล้วเข้ารับราชการเป็นนักเรียนศาลฎีกาในสมัยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์ เป็นอธิบดีศาลฎีกา
เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2418 ได้เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ขึ้นในประเทศไทยพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ ได้ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะนักดาราศาสตร์อังกฤษได้ตั้งค่ายสังเกตสุริยุปราคาที่แหลมเจ้าลาย จังหวัดเพชรบุรี นักดาราศาสตร์เหล่านี้ไม่สามารถถ่ายภาพสุริยุปราคาไว้ได้ คงมีแต่ภาพวาดฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ และถูกบันทึกอยู่ในตำราดาราศาสตร์ ในนามของ Prince Tong
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรมเมื่อ พ.ศ. 2424 เป็นกรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นกำลังสำคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการรักษาดินแดนไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือในกรณีพิพาทกับประเทศฝรั่งเศสครั้งวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ปราบปรามกบฏจีนฮ่อในมณฑลลาวพวนจนสงบราบคาบ และได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรี[4][5]
ในเวลาต่อมาทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ พ.ศ. 2436 ทรงตั้งกองบัญชาการมณฑลลาวพวนที่บ้านหมากแข้ง ทรงสร้างความเจริญจากหมู่บ้านชนบทจนเป็นเมืองอุดรซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็นจังหวัดอุดรธานี
พ.ศ. 2442 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ[6]
ภายหลังเกิดคดีพญาระกาขึ้นในปี พ.ศ. 2452 - พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกระทำปัพพานียกรรม ขับกรมหลวงประจักษ์ฯ และพระโอรส-ธิดาออกจากพระราชสำนัก พระองค์เองทรงถูกห้ามมิให้เข้าเฝ้าในที่รโหฐาน ให้เฝ้าได้แต่ในท้องพระโรงหรือในที่มีผู้เฝ้าอยู่มากเท่านั้น ห้ามหม่อมเจ้าไศลทองโดยเฉพาะมิให้เข้าในเขตพระราชฐาน และห้ามหม่อมเจ้าหญิงชายอื่น ๆ ในกรมหลวงประจักษ์ฯ มิให้ขึ้นสู่พระราชมณเฑียร ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2453 เป็นต้นมาจนตลอดรัชกาลก็มิได้พ้นพระราชอาญาจนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สวรรคต
สิ้นพระชนม์
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม สิ้นพระชนม์ด้วยโรคพระอันตะ (ไส้ใหญ่ ) พิการ ณ วังตรอกสาเก เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467 (นับแบบปัจจุบันเป็น พ.ศ. 2468) เวลา 18.00 น. สิริพระชันษาได้ 67 ปี 295 วัน วันต่อมา เวลา 17.00 น. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ เจ้าพนักงานเชิญพระศพขึ้นรถพระวอวิมานไปพระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เชิญพระศพขึ้นตั้งบนแว่นฟ้าสองชั้น ประกอบโกศมณฑป แวดล้อมด้วยเครื่องสูง สมเด็จกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชทรงทอดผ้าไตรถวายพระภิกษุ 20 รูป มีสมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) เป็นประธาน[7]
พระโอรสและพระธิดา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม มีหม่อม 9 คน ได้แก่
- หม่อมสุวรรณ (สกุลเดิม นาครทรรพ)
- หม่อมพริ้ง (สกุลเดิม นาครทรรพ)
- หม่อมแจ่ม (สกุลเดิม นาครทรรพ)
- หม่อมจันทร์ (สกุลเดิม นาครทรรพ)
- หม่อมนวม (สกุลเดิม นาครทรรพ)
- หม่อมเปลี่ยน
- หม่อมทองสุก หรือศุข (สกุลเดิม สุริยวงศ์)
- หม่อมเติม (สกุลเดิม นาครทรรพ)
- หม่อมแก้ว (สกุลเดิม นาครทรรพ)
มีพระโอรส 11 องค์ และมีพระธิดา 15 องค์ รวม 26 องค์ ได้แก่
ลำดับ | พระรูปและพระนาม | เพศ | พระมารดา | ประสูติ | สิ้นชีพตักษัย | คู่สมรส |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | หม่อมเจ้าสุพรรณ์พิมพ์ | ญ. | หม่อมสุวรรณ | ไม่มีข้อมูล | 11 ธันวาคม พ.ศ. 2432 | |
2 | หม่อมเจ้าประสบสุวรรณ | ญ. | หม่อมสุวรรณ | 7 ธันวาคม พ.ศ. 2419 | พ.ศ. 2422 | |
3 | หม่อมเจ้าทองฑีฆายุ ทองใหญ่ | ช. | หม่อมพริ้ง | 4 มิถุนายน พ.ศ. 2429[8] | 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2486 | หม่อมลุดมิลา ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
4 | หม่อมเจ้าอุไรวรรณ ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมจันทร์ | 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2431[8] | 10 เมษายน พ.ศ. 2520 | |
5 | หม่อมเจ้าทองอนุวัติ ทองใหญ่ | ช. | หม่อมพริ้ง | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2431[8] | 9 เมษายน พ.ศ. 2496 | หม่อมเยื้อน ทองใหญ่ ณ อยุธยา หม่อมจรูญ ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
6 | หม่อมเจ้าพันธ์สิหิงค์ ทองแถม | ญ. | หม่อมนวม | 18 ธันวาคม พ.ศ. 2433[8] | 20 มกราคม พ.ศ. 2476 | หม่อมเจ้าทองเชื้อธรรมชาติ ทองแถม |
7 | หม่อมเจ้าสอิ้งมาศ ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมจันทร์ | 16 กันยายน พ.ศ. 2435[8] | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 | |
8 | หม่อมเจ้านาฏนพคุณ ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมนวม | พ.ศ. 2435 | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2456 | หม่อมเจ้าพันธุคำนพคุณ ทองแถม |
9 | หม่อมเจ้าทองมุ่นใหญ่ ทองใหญ่ | ช. | หม่อมเปลี่ยน | 5 มกราคม พ.ศ. 2437[8] | พ.ศ. 2506 | |
10 | หม่อมเจ้าไศลทอง ทองใหญ่ | ช. | หม่อมนวม | 9 มีนาคม พ.ศ. 2437[8] | 30 ตุลาคม พ.ศ. 2512 | หม่อมฟ้อน ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
11 | หม่อมเจ้าก่องกาญจนา ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมทองสุก | 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2438[8] | พ.ศ. 2506 | |
12 | หม่อมเจ้ามาลากนก ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมจันทร์ | 5 มีนาคม พ.ศ. 2439[8] | 1 เมษายน พ.ศ. 2483 | |
13 | หม่อมเจ้ามาลกสุวรรณ ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมเปลี่ยน | มีนาคม พ.ศ. 2439 | 1 เมษายน พ.ศ. 2468
ถึง 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468[8] |
|
14 | หม่อมเจ้ากรัณฑ์คำ ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมทองสุก | 13 สิงหาคม พ.ศ. 2439[8] | 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2528 | |
15 | หม่อมเจ้าลำทองแร่ ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมนวม | 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440[8] | 15 มิถุนายน พ.ศ. 2493 | ไต๋ ปาณิกบุตร |
16 | หม่อมเจ้าแพร่ทองทราย ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมนวม | 22 มิถุนายน พ.ศ. 2441[8] | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2527 | เภตรา ณ หนองคาย |
17 | หม่อมเจ้าข่ายทองถัก ทองแถม | ญ. | หม่อมเปลี่ยน | 10 สิงหาคม พ.ศ. 2441[8] | 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 | หม่อมเจ้าทองเชื้อธรรมชาติ ทองแถม |
18 | สลักทองนูน คเนจร | ญ. | หม่อมนวม | 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2443[8] | 26 สิงหาคม พ.ศ. 2531 | หลวงคัคณจรเสนีย์ (หม่อมหลวงอารี คเนจร) |
19 | หม่อมเจ้าโหล | ช. | ไม่มีข้อมูล | ไม่มีข้อมูล | ก่อน 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468[8] | |
20 | หม่อมเจ้าลายฉลุทอง ทองใหญ่ | ช. | หม่อมจันทร์ | 19 กันยายน พ.ศ. 2444[8] | 13 มีนาคม พ.ศ. 2534 | หม่อมเจ้านงลักษณ์ทัศนีย์ ทองใหญ่ หม่อมพริ้ม ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
21 | หม่อมเจ้าทองทูลถวาย ทองใหญ่ | ช. | หม่อมนวม | 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446[8] | 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 | หม่อมสำเนียง ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
22 | หม่อมเจ้าเถาทองตรา ทองใหญ่ | ญ. | หม่อมจันทร์ | 17 มิถุนายน พ.ศ. 2448[8] | พ.ศ. 2496 | |
23 | หม่อมเจ้าทองประทาศรี ทองใหญ่ | ช. | หม่อมนวม | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2449[8] | 2 มกราคม พ.ศ. 2526 | หม่อมราชวงศ์วลี ทองใหญ่ หม่อมคำนวณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
24 | หม่อมเจ้าทองแกมแก้ว ทองใหญ่ | ช. | หม่อมแก้ว | 11 กันยายน พ.ศ. 2449[8] | 15 เมษายน พ.ศ. 2533 | หม่อมประกายคำ ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
25 | หม่อมเจ้าทองคำเปลว ทองใหญ่ | ช. | หม่อมนวม | 1 เมษายน พ.ศ. 2455[8] | 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 | หม่อมอรพิน ทองใหญ่ ณ อยุธยา |
26 | หม่อมเจ้าแดง | ช. | ไม่มีข้อมูล | ไม่มีข้อมูล | ก่อน 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468[8] |
พระเกียรติยศ
พระอิสริยยศ
- พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ (5 เมษายน พ.ศ. 2399 - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411)
- พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 - พ.ศ. 2424)
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม (พ.ศ. 2424 - 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442)
- พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453)
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 - 25 มกราคม พ.ศ. 2467)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2430 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[9]
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. ๒๔๓๐ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[10]
- พ.ศ. 2447 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 2 (ม.ป.ร.2)[11]
- พ.ศ. ไม่ปรากฎ – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 2 (จ.ป.ร.2)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มราชการแผ่นดิน (ร.ด.ม.(ผ))
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))
- พ.ศ. 2440 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[12]
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
- พ.ศ. ๒๔๒๕ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)[13]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- พ.ศ. 2431 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย ชั้นที่ 1 จักรวรรดิญี่ปุ่น[14]
- พ.ศ. 2432 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎเหล็ก ชั้นที่ 1 จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี[15]
- พ.ศ. 2434 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์แอน ชั้นที่ 1, ประเทศรัสเซีย[16]
- พ.ศ. 2445 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์แดนเนอโบร ชั้นที่ 3 ประเทศเดนมาร์ก[17]
พระอนุสรณ์
- พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายในพื้นที่ค่ายประจักษ์ศิลปาคม กรมทหารราบที่13 มณฑลทหารบกที่24 อุดรธานี เป็นพระอนุสาวรีย์ทรงยืนขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของทหารในสังกัดมณฑลทหารบกที่24
- พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกกรมหลวงประจักษ์ ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานที่สักการะของประชาชนทั่วไป แต่เดิมประดิษฐานอยู่ที่ สนามทุ่งศรีเมือง ต่อมาจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ห้าแยกกรมหลวงประจักษ์
- พระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภายในโรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม อำเภอประจักษ์ศิลปาคม
วันก่อตั้งเมืองอุดรธานี
วันที่18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ยกทัพมาสร้างบ้านแปลงเมือง ณ บ้านเดื่อหมากแข้ง ทางจังหวัดอุดรธานีจึงได้เลือกวันดังกล่าวเป็นวัดเฉลิมฉลองครบรอบการก่อตั้งเมืองอุดรธานีและจะมีการรำบวงสรวงทุกปีเพื่อแสดงออกถึงความรักและความสามัคคีของคนอุดรธานี
แหล่งข้อมูลอื่น
อ้างอิง
- ↑ กรมศิลปากร, จดหมายเหตุนครราชสีมา 11 กันยายน พ.ศ. 2497, พิมพ์สนองคุณ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) และ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินท์ ณ ราชสีมา), กรุงเทพฯ: ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ป.ป.)
- ↑ ต้นสกุล ณ ราชสีมา ย้อนเรื่อง เมืองโคราช
- ↑ หากนับทางสายสกุลพระมารดา กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมทรงเป็นผู้สืบสายสกุล “ณ ราชสีมา” ชั้น 5 สาย "พระยาสุริยเดช (ทัศน์ รายณสุข ณ ราชสีมา)" และ ชั้น 4 สาย "เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา)"
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวตั้งปริวีเคาน์ซิลเลอร์, เล่ม 4, หน้า 45
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, สัญญาบัตรปริวีเคาน์ซิลเลอร์, เล่ม 4, หน้า 47-48
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งผู้บัญชาการกรมทหารเรือและผู้บังคับการกรมต่าง ๆ
- ↑ "ข่าวสิ้นพระชนม์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา. 41 (ง): 3849. 1 กุมภาพันธ์ 2467. สืบค้นเมื่อ 8 กรกฎาคม 2563.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 8.00 8.01 8.02 8.03 8.04 8.05 8.06 8.07 8.08 8.09 8.10 8.11 8.12 8.13 8.14 8.15 8.16 8.17 8.18 8.19 8.20 8.21 8.22 นราธิปประพันธ์พงศ์, กรมพระ, 2404-2474, ผู้รวบรวม. บาญชีมหามกุฏราชสันตติวงศ์ พุทธศก 2468 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงรวบรวม. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, พ.ศ. 2468. 167 หน้า.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชพิธีฉัตรมงคล, เล่ม 4, ตอน 32, 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2430, หน้า 258
- ↑ พระราชทานบำเหน็จความชอบแม่ทัพนายกอง และเจ้านครหลวงพระบางทูลลา (หน้า ๒๖๓)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๔, เล่ม 21, ตอน 32, 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447, หน้า 564
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม 14, ตอน 1, 4 เมษายน พ.ศ. 2440, หน้า 24
- ↑ พระราชทานตราเครื่องราชอิสริยยศ
- ↑ "พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยยศญี่ปุ่น" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 5 (ตอน 22): หน้า 179. 1 ตุลาคม 2431. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ออสเตรีย" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 6 (ตอน 21): หน้า 175. 25 สิงหาคม 2432. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์รุสเซีย, เล่ม ๘, ตอน ๔๖, ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๑๘๙๑, หน้า ๔๑๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานพระบรมราชานุญาตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๑๙, ตอน ๔๖, ๒o กรกฎาคม พ.ศ. ๑๒๑ , หน้า ๓๑๕
- Jeffy Finestone. 2542. สมุดพระรูป พระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. ปรียนันทนา รังสิต,ม.ร.ว. โลมาโฮลดิ้ง
ก่อนหน้า | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ | รั้งตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ (2 กันยายน พ.ศ. 2442 - 15 มกราคม พ.ศ. 2443) |
พระยาชลยุทธโยธินทร์ (อองเดร ดู เปลซี เดอ ริเชอลิเออ) | ||
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ | เสนาบดีกระทรวงกลาโหม (พ.ศ. 2442 - พ.ศ. 2444) |
สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2399
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2467
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 4
- พระองค์เจ้าชาย
- กรมหลวง
- พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4
- องคมนตรีในรัชกาลที่ 5
- ราชสกุลทองใหญ่
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย
- นักดาราศาสตร์ชาวไทย
- ทหารเรือชาวไทย
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.จ.ก. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.
- ผู้ได้รับเหรียญ ร.ด.ม.(ผ)
- ผู้ได้รับเหรียญ ร.ด.ม.(ศ)
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ ม.ป.ร.2
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ จ.ป.ร.2
- ผู้ได้รับเหรียญจักรมาลา
- ผู้ได้รับเหรียญจักรพรรดิมาลา
- สกุล ณ ราชสีมา
- เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินอาหาร
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัยชั้นที่ 1