ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Dukeadinbera (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Dukeadinbera (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 56: บรรทัด 56:
}}
}}
[[ไฟล์:Waithayakon2.jpg|thumb|พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์]]
[[ไฟล์:Waithayakon2.jpg|thumb|พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์]]
ศาสตราจารย์ พลตรี '''พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์''' (25 สิงหาคม พ.ศ. 2434 - 5 กันยายน พ.ศ. 2519) อดีต[[รองนายกรัฐมนตรี]] อดีต[[สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ|ประธานสมัชชาองค์การสหประชาชาติ]] และอดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน รวมถึงเป็นผู้ร่วมสถาปนา[[สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์]] และทรงเสนอให้คณะรัฐมนตรีจัดตั้งโรงเรียนการเมืองชั้นสูง(เป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดการก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง) พระปรีชาสามารถในด้านการทูตและการต่างประเทศเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และทรงมีชื่อเสียงการบัญญัติศัพท์ในภาษาไทย ทั้งยังทรงเป็นผู้วางกฎเกณฑ์ในการบัญญัติศัพท์ภาษาต่างประเทศด้วยคำบาลีและสันสกฤต สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2519 สิริพระชันษา 85 ปี
ศาสตราจารย์ พลตรี '''พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์''' (25 สิงหาคม พ.ศ. 2434 - 5 กันยายน พ.ศ. 2519) อดีต[[รองนายกรัฐมนตรี]] อดีต[[สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ|ประธานสมัชชาองค์การสหประชาชาติ]] และอดีตนายก[[ราชบัณฑิตยสถาน]] รวมถึงเป็นผู้ร่วมสถาปนา[[สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์]] และทรงเสนอให้คณะรัฐมนตรีจัดตั้งโรงเรียนการเมืองชั้นสูง(เป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดการก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง) พระปรีชาสามารถในด้านการทูตและการต่างประเทศเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และทรงมีชื่อเสียงการบัญญัติศัพท์ในภาษาไทย ทั้งยังทรงเป็นผู้วางกฎเกณฑ์ในการบัญญัติศัพท์ภาษาต่างประเทศด้วยคำบาลีและสันสกฤต สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2519 สิริพระชันษา 85 ปี


== พระประวัติและการศึกษา ==
== พระประวัติและการศึกษา ==
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ มีพระนามเดิมว่า '''หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ''' หรือ ''พระองค์วรรณ'' เป็นพระโอรสใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์]] และ หม่อมหลวงต่วนศรี (มนตรีกุล) วรวรรณ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ มีพระนามเดิมว่า '''หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ''' หรือ ''พระองค์วรรณ'' เป็นพระโอรสใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์]] และ หม่อมหลวงต่วนศรี (มนตรีกุล) วรวรรณ


หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร ทรงเริ่มศึกษาที่[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย]] และย้ายมาที่[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]]สมัยบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในปีพ.ศ. 2442 ต่อมาเมื่อเกิดโรคระบาด โรงเรียนปิดชั่วคราว จึงย้ายไปเรียน[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย]] 1 ปี (ที่จริงคือตามไปใช้สถานที่เรียน) ต่อมาเมื่อ[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]] สมัยสายสาวลี เปิดทำการจึงย้ายมาศึกษาต่อ และสอบได้ทุน King's scholarship ได้เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ โดยเข้าอยู่ประจำที่ 'วิทยาลัยแบเลียล' (Balliol College) [[มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด]] [[ประเทศอังกฤษ]] และสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในระดับเกียรตินิยมและปริญญาโท จากคณะบูรพคดีศึกษา (Oriental Studies) สาขาวิชา[[ภาษาบาลี]]และ[[ภาษาสันสกฤต]] ที่สถาบันตะวันออก [[มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด]] ท่านจึงมีความสามารถในการบัญญัติศัพท์ กระทั่งเป็นผู้วางกฎเกณฑ์การบัญญัติศัพท์โดยใช้คำบาลีและสันสกฤตให้[[ราชบัณฑิตยสถาน]] และใช้มาจนกระทั่งทุกวันนี้
หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร ทรงเริ่มศึกษาที่[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย]] และย้ายมาที่[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]]สมัยบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในปี พ.ศ. 2442 ต่อมาเมื่อเกิดโรคระบาด โรงเรียนปิดชั่วคราว จึงย้ายไปเรียน[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย]] 1 ปี (ที่จริงคือตามไปใช้สถานที่เรียน) ต่อมาเมื่อ[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]] สมัยสายสาวลี เปิดทำการจึงย้ายมาศึกษาต่อ และสอบได้ทุน King's scholarship ได้เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ โดยเข้าอยู่ประจำที่ 'วิทยาลัยแบเลียล' (Balliol College) [[มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด]] [[ประเทศอังกฤษ]] และสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในระดับเกียรตินิยมและปริญญาโท จากคณะบูรพคดีศึกษา (Oriental Studies) สาขาวิชา[[ภาษาบาลี]]และ[[ภาษาสันสกฤต]] ที่สถาบันตะวันออก [[มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด]] ท่านจึงมีความสามารถในการบัญญัติศัพท์ กระทั่งเป็นผู้วางกฎเกณฑ์การบัญญัติศัพท์โดยใช้คำบาลีและสันสกฤตให้[[ราชบัณฑิตยสถาน]] และใช้มาจนกระทั่งทุกวันนี้


มีคำศัพท์มากมายที่ทรงบัญญัติและยังคงใช้อยู่ในปัจจุบันเช่น
มีคำศัพท์มากมายที่ทรงบัญญัติและยังคงใช้อยู่ในปัจจุบันเช่น
บรรทัด 72: บรรทัด 72:
== เสกสมรส ==
== เสกสมรส ==
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เสกสมรสกับ[[หม่อมเจ้าพิบูลเบญจางค์ กิติยากร]] พระธิดาใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ]] กับ[[หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร]] มีบุตร คือ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เสกสมรสกับ[[หม่อมเจ้าพิบูลเบญจางค์ กิติยากร]] พระธิดาใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ]] กับ[[หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร]] มีบุตร คือ
# หม่อมราชวงศ์วิบูลย์เกียรติ วรวรรณ สมรสกับหม่อมราชวงศ์หญิงทิพพากร อาภากร
# หม่อมราชวงศ์[[วิบูลย์เกียรติ วรวรรณ]] สมรสกับหม่อมราชวงศ์หญิง[[ทิพพากร อาภากร]]
## หม่อมหลวงเกียรติกร วรวรรณ
## หม่อมหลวงเกียรติกร วรวรรณ
## หม่อมหลวงสุทธิ์ธรทิพย์ วรวรรณ
## หม่อมหลวงสุทธิ์ธรทิพย์ วรวรรณ
และต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ สมรสอีกครั้งกับหม่อมพร้อยสุพิณ (บุนนาค) วรวรรณ มีธิดา คือ
และต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ สมรสอีกครั้งกับหม่อมพร้อยสุพิณ (บุนนาค) วรวรรณ มีธิดา คือ
* ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร ''(หม่อมราชวงศ์หญิงวิวรรณ วรวรรณ)''
* [[ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร]] ''(หม่อมราชวงศ์หญิงวิวรรณ วรวรรณ)''


== พระอิสริยยศ ==
== พระอิสริยยศ ==
บรรทัด 85: บรรทัด 85:


== ลำดับตำแหน่งหน้าที่การงาน ==
== ลำดับตำแหน่งหน้าที่การงาน ==
* พ.ศ. 2460 - เลขานุการตรี ประจำสถานทูตไทย ณ กรุงปารีสและเลขานุการคณะทูตไทย ที่ประชุมสันติภาพ ภายหลังมหาสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
* พ.ศ. 2460 - เลขานุการตรี ประจำสถานทูตไทย ณ กรุงปารีส และเลขานุการคณะทูตไทย ที่ประชุมสันติภาพ ภายหลังมหาสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
* พ.ศ. 2463 - หัวหน้ากองบัญชาการ กระทรวงการต่างประเทศ
* พ.ศ. 2463 - หัวหน้ากองบัญชาการ กระทรวงการต่างประเทศ
* พ.ศ. 2465 - [[องคมนตรี]] ในรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
* พ.ศ. 2465 - [[องคมนตรี]] ในรัชกาล[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
บรรทัด 92: บรรทัด 92:
* พ.ศ. 2473 - ศาสตราจารย์ประจำ[[คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] และ ศาสตราจารย์ประจำ[[มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]]<ref>http://www.royin.go.th/?parties=%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD-%E0%B8%81</ref><ref>http://www.komchadluek.net/news/politic/107028</ref><ref>http://cwweb2.tu.ac.th/emc/ShelfTU/@tubookshelf3/pdf/5_wanwitayakorn.pdf</ref>
* พ.ศ. 2473 - ศาสตราจารย์ประจำ[[คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] และ ศาสตราจารย์ประจำ[[มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]]<ref>http://www.royin.go.th/?parties=%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD-%E0%B8%81</ref><ref>http://www.komchadluek.net/news/politic/107028</ref><ref>http://cwweb2.tu.ac.th/emc/ShelfTU/@tubookshelf3/pdf/5_wanwitayakorn.pdf</ref>
* พ.ศ. 2477 - พ.ศ. 2490 - นายก[[ราชบัณฑิตยสถาน]]
* พ.ศ. 2477 - พ.ศ. 2490 - นายก[[ราชบัณฑิตยสถาน]]
* พ.ศ. 2484 - หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพฝ่ายไทยในกรณีพิพาทอินโดจีน
* พ.ศ. 2484 - หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาสันติภาพฝ่ายไทยใน[[กรณีพิพาทอินโดจีน]]
* พ.ศ. 2486 - นายกสมาคมราชวิทยาลัย เป็นสมาคมนักเรียนเก่าของ[[โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์]] (เดิมคือ[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]])
* พ.ศ. 2486 - นายกสมาคม[[ราชวิทยาลัย]] เป็นสมาคมนักเรียนเก่าของ[[โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์]] (เดิมคือ[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]])
* พ.ศ. 2489 - นายกสมาคมนิสิตเก่า[[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นพระองค์แรก
* พ.ศ. 2489 - นายกสมาคมนิสิตเก่า[[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นพระองค์แรก
* พ.ศ. 2495 - พ.ศ. 2501 - รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงการต่างประเทศ]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา,[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2500/A/033/1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๓๐ ราย)] เล่ม 74 ตอน 33ก วันที่ 1 เมษายน 2500</ref><ref>[http://www.cabinet.thaigov.go.th/cab_26.htm คณะรัฐมนตรีคณะที่ 26 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี]</ref>
* พ.ศ. 2495 - พ.ศ. 2501 - รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงการต่างประเทศ]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา,[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2500/A/033/1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๓๐ ราย)] เล่ม 74 ตอน 33ก วันที่ 1 เมษายน 2500</ref><ref>[http://www.cabinet.thaigov.go.th/cab_26.htm คณะรัฐมนตรีคณะที่ 26 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี]</ref>
บรรทัด 99: บรรทัด 99:
* พ.ศ. 2499 - พ.ศ. 2500 - ประธานสมัชชา[[สหประชาชาติ]] สมัยประชุมที่ 11
* พ.ศ. 2499 - พ.ศ. 2500 - ประธานสมัชชา[[สหประชาชาติ]] สมัยประชุมที่ 11
* พ.ศ. 2501 - ประธานราชวิทยาลัยมูลนิธิเพื่อการศึกษา เป็นองค์กรที่ฟื้นฟูและก่อตั้ง[[โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์]]ในปัจจุบัน(เดิมคือ[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]])
* พ.ศ. 2501 - ประธานราชวิทยาลัยมูลนิธิเพื่อการศึกษา เป็นองค์กรที่ฟื้นฟูและก่อตั้ง[[โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์]]ในปัจจุบัน(เดิมคือ[[โรงเรียนราชวิทยาลัย]])
* พ.ศ. 2502 - พ.ศ. 2513 - รองนายกรัฐมนตรี<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2506/A/119/1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๑๙ ราย)]</ref>
* พ.ศ. 2502 - พ.ศ. 2513 - [[รองนายกรัฐมนตรี]]<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2506/A/119/1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๑๙ ราย)]</ref>
* พ.ศ. 2506 - พ.ศ. 2514 - อธิการบดี[[มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]]
* พ.ศ. 2506 - พ.ศ. 2514 - อธิการบดี[[มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์]]
* พ.ศ. 2512 - พ.ศ. 2516 - นายก[[ราชบัณฑิตยสถาน]]
* พ.ศ. 2512 - พ.ศ. 2516 - นายก[[ราชบัณฑิตยสถาน]]
* พ.ศ. 2516 - ประธานสมัชชาแห่งชาติ
* พ.ศ. 2516 - ประธาน[[สมัชชาแห่งชาติ]]


== พระเกียรติคุณ ==
== พระเกียรติคุณ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:52, 1 กรกฎาคม 2563

พระเจ้าวรวงศ์เธอ
กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
ประสูติ25 สิงหาคม พ.ศ. 2434
สิ้นพระชนม์5 กันยายน พ.ศ. 2519 (85 ปี)
ชายา
หม่อม
หม่อมเจ้าพิบูลเบญจางค์ กิติยากร
หม่อมพร้อยสุพิณ (บุนนาค) วรวรรณ
พระบุตรหม่อมราชวงศ์วิบูลย์เกียรติ วรวรรณ
ท่านผู้หญิงวิวรรณ เศรษฐบุตร (หม่อมราชวงศ์หญิงวิวรรณ วรวรรณ)
ราชสกุลวรวรรณ
ราชวงศ์จักรี
พระบิดาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์
พระมารดาหม่อมหลวงต่วนศรี วรวรรณ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
ประธานสมัชชาองค์การสหประชาชาติ
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2499 – พ.ศ. 2500
ก่อนหน้าRudecindo Ortega
ถัดไปLeslie Munro
รองนายกรัฐมนตรี
ดำรงตำแหน่ง
1 มกราคม พ.ศ. 2501 – 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501
นายกรัฐมนตรีพลเอก ถนอม กิตติขจร
ก่อนหน้าจอมพลเรือ หลวงยุทธศาสตร์โกศล
ถัดไปพลโท ประภาส จารุเสถียร
ดำรงตำแหน่ง
9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 – 8 ธันวาคม พ.ศ. 2506
นายกรัฐมนตรีจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
ก่อนหน้าพลเอก ถนอม กิตติขจร
ดำรงตำแหน่ง
9 ธันวาคม พ.ศ. 2506 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2512
นายกรัฐมนตรีจอมพล ถนอม กิตติขจร
ถัดไปพลเอก ประภาส จารุเสถียร
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ดำรงตำแหน่ง
19 ธันวาคม พ.ศ. 2506 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2514
ก่อนหน้าพลเอก ถนอม กิตติขจร
ถัดไปศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
สังกัดกองทัพบกไทย
ทหารรักษาพระองค์
ยศ พลตรี[1]
ไฟล์:Waithayakon2.jpg
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์

ศาสตราจารย์ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ (25 สิงหาคม พ.ศ. 2434 - 5 กันยายน พ.ศ. 2519) อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตประธานสมัชชาองค์การสหประชาชาติ และอดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน รวมถึงเป็นผู้ร่วมสถาปนาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และทรงเสนอให้คณะรัฐมนตรีจัดตั้งโรงเรียนการเมืองชั้นสูง(เป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดการก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง) พระปรีชาสามารถในด้านการทูตและการต่างประเทศเป็นที่ยอมรับในระดับโลก และทรงมีชื่อเสียงการบัญญัติศัพท์ในภาษาไทย ทั้งยังทรงเป็นผู้วางกฎเกณฑ์ในการบัญญัติศัพท์ภาษาต่างประเทศด้วยคำบาลีและสันสกฤต สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2519 สิริพระชันษา 85 ปี

พระประวัติและการศึกษา

พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ หรือ พระองค์วรรณ เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ และ หม่อมหลวงต่วนศรี (มนตรีกุล) วรวรรณ

หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร ทรงเริ่มศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และย้ายมาที่โรงเรียนราชวิทยาลัยสมัยบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในปี พ.ศ. 2442 ต่อมาเมื่อเกิดโรคระบาด โรงเรียนปิดชั่วคราว จึงย้ายไปเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย 1 ปี (ที่จริงคือตามไปใช้สถานที่เรียน) ต่อมาเมื่อโรงเรียนราชวิทยาลัย สมัยสายสาวลี เปิดทำการจึงย้ายมาศึกษาต่อ และสอบได้ทุน King's scholarship ได้เดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ โดยเข้าอยู่ประจำที่ 'วิทยาลัยแบเลียล' (Balliol College) มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีในระดับเกียรตินิยมและปริญญาโท จากคณะบูรพคดีศึกษา (Oriental Studies) สาขาวิชาภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต ที่สถาบันตะวันออก มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ท่านจึงมีความสามารถในการบัญญัติศัพท์ กระทั่งเป็นผู้วางกฎเกณฑ์การบัญญัติศัพท์โดยใช้คำบาลีและสันสกฤตให้ราชบัณฑิตยสถาน และใช้มาจนกระทั่งทุกวันนี้

มีคำศัพท์มากมายที่ทรงบัญญัติและยังคงใช้อยู่ในปัจจุบันเช่น

  • อัตโนมัติ (Automatic)
  • รัฐธรรมนูญ (Constitution)
  • ประชาธิปไตย (democracy)
  • โทรทัศน์ (television)
  • วิทยุ (radio)

เสกสมรส

พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เสกสมรสกับหม่อมเจ้าพิบูลเบญจางค์ กิติยากร พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ กับหม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร มีบุตร คือ

  1. หม่อมราชวงศ์วิบูลย์เกียรติ วรวรรณ สมรสกับหม่อมราชวงศ์หญิงทิพพากร อาภากร
    1. หม่อมหลวงเกียรติกร วรวรรณ
    2. หม่อมหลวงสุทธิ์ธรทิพย์ วรวรรณ

และต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ สมรสอีกครั้งกับหม่อมพร้อยสุพิณ (บุนนาค) วรวรรณ มีธิดา คือ

พระอิสริยยศ

  • พ.ศ. 2434 - หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ
  • พ.ศ. 2482 - พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร[2]
  • พ.ศ. 2486 - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร
  • พ.ศ. 2495 - พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์[3]

ลำดับตำแหน่งหน้าที่การงาน

พระเกียรติคุณ

  • พลตรี โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานยศทหาร และเป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์และราชองครักษ์พิเศษ ในปี พ.ศ. 2496[10]
  • ผู้มีผลงานดีเด่น ด้านวัฒนธรรมระดับโลก โดยองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศพระเกียรติคุณในฐานะปูชนียบุคคลสำคัญประจำปี พ.ศ. 2534
  • รางวัลนราธิป โดยสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2544 ในโอกาสสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยก่อตั้งครบ 30 ปี และครบรอบ 100 ปีแห่งชาตะกาลของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
  • ห้องประชุมวรรณไวทยากร โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ปรับปรุงตึกโดม ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่เป็นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และตั้งชื่อห้องประชุมที่ปรับปรุงใหม่เพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์ ในปี พ.ศ. 2548

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

ประเทศ ปีที่ได้รับ เครื่องอิสริยาภรณ์ แพรแถบ อ้างอิง
 ไรช์เยอรมัน พ.ศ. 2481 เครื่องอิสริยาภรณ์อินทรีเยอรมัน ชั้นสูงสุด [22]
 เนเธอร์แลนด์ พ.ศ. 2507 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา ชั้นประถมาภรณ์ [23]
 มาเลเซีย พ.ศ. 2507 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ปังควนเนการา ชั้นที่ 1 [23]
 นอร์เวย์ พ.ศ. 2510 เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์โอลาฟ ชั้นประถมาภรณ์ [24]
 ออสเตรีย พ.ศ. 2510 เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย ชั้นที่ 1 (ทอง) [24]

พงศาวลี

อ้างอิง

  1. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2496/D/029/2047.PDF
  2. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/D/1794.PDF
  3. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2495/A/028/644.PDF
  4. http://www.royin.go.th/?parties=%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD-%E0%B8%81
  5. http://www.komchadluek.net/news/politic/107028
  6. http://cwweb2.tu.ac.th/emc/ShelfTU/@tubookshelf3/pdf/5_wanwitayakorn.pdf
  7. ราชกิจจานุเบกษา,พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๓๐ ราย) เล่ม 74 ตอน 33ก วันที่ 1 เมษายน 2500
  8. คณะรัฐมนตรีคณะที่ 26 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
  9. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๑๙ ราย)
  10. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2496/D/029/2047.PDF
  11. ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หน้า ๒๙๒๐ เล่ม ๖๐ ตอนที่ ๔๙, ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๖
  12. ราชกิจจานุเบกษา,เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หน้า ๑๘๐๓ เล่ม ๕๖, ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๒
  13. ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาถรณ์ หน้า ๑๙๔๕ เล่ม ๕๘, ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๔
  14. ราชกิจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หน้า ๑๘๒๔ เล่ม ๕๗ , ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓
  15. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา, เล่ม ๓๘, ตอน ๐ ง, ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๔, หน้า ๓๒๑๑
  16. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มราชการแผ่นดิน, ตอนที่ 0 ง, เล่ม 55, 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481, หน้า 4032
  17. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม 79, ตอน 85 ง, 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2505, หน้า 9
  18. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี, เล่ม 84, ตอน 80 ง, 29 สิงหาคม พ.ศ. 2510, หน้า 2446
  19. ราชกิจจานุเบกษา,พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ หน้า ๒๓๘๓ เล่ม ๓๘, ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๔
  20. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม 55, ตอน 0 ง, 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481, หน้า 2958
  21. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม 70, ตอน 17 ง, 10 มีนาคม พ.ศ. 2496, หน้า 1010
  22. "Hitler Honours Siamese". The Straits Times. 3 April 1938. p. 3.
  23. 23.0 23.1 แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๘๑, ตอน ๙๐ง, ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ , หน้า ๒๔๕๐
  24. 24.0 24.1 ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม ๘๔, ตอน ๖๖ ง ฉบับพิเศษ, ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๐, หน้า ๑๓

แหล่งข้อมูลอื่น

  • http://web.archive.org/20080823234406/www.geocities.com/thaibooks_100/a-74.htm
  • มูลนิธินราธิปประพันธ์พงศ์-วรวรรณ "วิทยทัศน์พระองค์วรรณฯ ครบ 110 ปี วันประสูติ 25 สิงหาคม 2544" กรุงเทพฯ:มูลนิธินราธิปประพันธ์พงศ์-วรวรรณ, พิมพ์ครั้งที่1 2544
  • ธารา กนกมณี (บรรณาธิการ) “100 ปี พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์” กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ, พิมพ์ครั้งที่ 1 2534
  • นราธิปพงศ์ประพันธ์, พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่น "งานบัญญัติศัพท์ ของ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์" ธนาคารกรุงเทพ จำกัด พิมพ์ถวายเป็นอนุสรณ์ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ณ เมรุพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 28 ตุลาคม 2519 กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์พิฆเณศ, 2519
  • นราธิปพงศ์ประพันธ์, พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่น "บัญญัติศัพท์.คณะกรรมการบัญญัติศัพท์" กรุงเทพฯ: สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2516
  • [Wan 1970] Wan Waithayakon, Prince "Coining Thai Words" in: Tej Bunnag und Michael Smithies (Hg.) In Memoriam Phya Anuman Rajadhon. Bangkok: Siam Society, 1970
  • มานวราชเสวี, พระยา (ผู้รวบรวม) "ชุมนุมนิพนธ์ เพื่อถวายพระเกียรติแด่ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์" กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์พระจันทร์, 2506
  • นราธิปพงศ์ประพันธ์, พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่น "บัญญัติศัพท์ ของ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์" ประทานให้พิมพ์เป็นอนุสรณ์ ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระประมวลวินิจฉัย (ชัติ สุวรรณทัต) ณ เมรุวัดโสมนัสวิหาร วันที่ 3 มิถุนายน 2499