ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยูเอชเอฟ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ZeroSixTwo (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนกลับไปรุ่นที่ 8141235 โดย 118.209.249.55ด้วยสจห.
ป้ายระบุ: ทำกลับ
บรรทัด 16: บรรทัด 16:
ในการออกอากาศวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ มีช่วงเลขประจำช่อง ระหว่าง 14-83 (470-890 [[เมกะเฮิร์ทซ์]])
ในการออกอากาศวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ มีช่วงเลขประจำช่อง ระหว่าง 14-83 (470-890 [[เมกะเฮิร์ทซ์]])


ส่วนใน[[ประเทศไทย]] มีช่องสัญญาณอยู่ที่ช่อง 21 ถึง 69 แต่ในกรณีช่อง 21 ถึง 25 และ 61 ถึง 69 [[กรมไปรษณีย์โทรเลข]] (ปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาเป็น สำนักงาน [[คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ|กสทช.]]) ได้สงวนช่องสัญญาณไว้ดังกล่าว เพื่อใช้ในระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ ระบบ Cellular Mobile System จึงทำให้ประเทศไทย สามารถใช้ช่องสัญญาณไว้ตั้งแต่ที่ 26 ถึง 60 เพื่อออกอากาศส่งทางวิทยุโทรทัศน์ เท่านั้น
ส่วนใน[[ประเทศไทย]] มีช่องสัญญาณอยู่ที่ช่อง 21 ถึง 69 แต่ในกรณีช่อง 21 ถึง 25 และ 61 ถึง 69 [[กรมไปรษณีย์โทรเลข]] (ปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาเป็น สำนักงาน [[คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ|กสทช.]]) ได้สงวนช่องสัญญาณไว้ดังกล่าว เพื่อใช้ในระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ ระบบ Cellular Mobile System จึงทำให้ประเทศไทย สามารถใช้ช่องสัญญาณไว้ตั้งแต่ที่ 26 ถึง 60 เพื่อออกอากาศส่งทางวิทยุโทรทัศน์เท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา สำนักงาน กสทช. ได้ทำการปรับเปลี่ยนการใช้งานระบบยูเอชเอฟ สำหรับการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยให้ดำเนินการออกอากาศโดยปรับลดไปยังช่องความถี่ที่ต่ำลงกว่าเดิม นับตั้งแต่ช่องที่ 21 ถึง 48 ทั้งนี้ เนื่องจากจะต้องนำคลื่นความถี่ 700 เมกกะเฮิร์ตซ์เป็นต้นไป จัดสรรและมอบให้แก่ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายต่างๆ เพื่อให้นำไปใช้และให้บริการเครือข่ายการสื่อสาร[[5 จี]] ซึ่งจะได้มีการเริ่มทดลองและให้บริการจริง ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2563


=== ตัวอย่างการใช้ระบบในประเทศไทย ===
=== ตัวอย่างการใช้ระบบในประเทศไทย ===
[[สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี]] (สปน.) เริ่มดำเนินโครงการ [[สถานีโทรทัศน์]]ระบบยูเอชเอฟ เมื่อปี [[พ.ศ. 2538]] โดยมีการเปิดประมูลรับ[[สัมปทาน]] เมื่อวันที่ [[4 เมษายน]] พ.ศ. 2538 โดย กลุ่มสยามทีวีแอนด์คอมมิวนิเคชั่น (แปรรูปเป็น บริษัท สยามอินโฟเทนเมนท์ จำกัด เมื่อได้รับอนุมัติสัมปทานแล้ว และเปลี่ยนชื่อเป็น [[บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)]] เมื่อวันที่ [[2 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2541]]) เป็นผู้ได้รับอนุมัติสัมปทานดังกล่าว โดยใช้ชื่อสถานีว่า '''[[สถานีโทรทัศน์ไอทีวี]]''' (ITV-Independent Television) นับเป็น สถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟแห่งแรกของประเทศไทย แพร่ภาพออกอากาศทางช่อง 26 และเปลี่ยนมาเป็นช่อง 29 ในภายหลัง โดยมีอายุสัมปทาน 30 ปี เริ่มต้นออกอากาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ [[1 กรกฎาคม]] พ.ศ. 2539 และได้เปลี่ยนแปลงเป็น [[สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี]]ในปี 2550 และ [[สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส]] ตามลำดับ ในปี 2551
[[สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี]] (สปน.) เริ่มดำเนินโครงการ [[สถานีโทรทัศน์]]ระบบยูเอชเอฟ เมื่อปี [[พ.ศ. 2538]] โดยมีการเปิดประมูลรับ[[สัมปทาน]] เมื่อวันที่ [[4 เมษายน]] พ.ศ. 2538 โดย กลุ่มสยามทีวีแอนด์คอมมิวนิเคชั่น (แปรรูปเป็น บริษัท สยามอินโฟเทนเมนท์ จำกัด เมื่อได้รับอนุมัติสัมปทานแล้ว และเปลี่ยนชื่อเป็น [[บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)]] เมื่อวันที่ [[2 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2541]]) เป็นผู้ได้รับอนุมัติสัมปทานดังกล่าว โดยใช้ชื่อสถานีว่า '''[[สถานีโทรทัศน์ไอทีวี]]''' (ITV-Independent Television) นับเป็น สถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟแห่งแรกของประเทศไทย แพร่ภาพออกอากาศทางช่อง 26 และเปลี่ยนมาเป็นช่อง 29 ในภายหลัง โดยมีอายุสัมปทาน 30 ปี เริ่มต้นออกอากาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ [[1 กรกฎาคม]] พ.ศ. 2539 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น [[สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี]]ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2550 และ [[สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส]] ตามลำดับ ในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:21, 21 มีนาคม 2563

ยูเอชเอฟ (UHF) เป็นคลื่นความถี่สูงยิ่ง (Ultra-High Frequency) เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2491

ยูเอชเอฟในการสื่อสาร

โทรทัศน์

ยูเอชเอฟ เป็นคลื่นความถี่ที่ใช้คู่ขนานกับระบบ วีเอชเอฟ ของเครื่องส่งโทรทัศน์และเสาส่งระบบอนาล็อก และอาจจะเป็นคลื่นความถี่ที่ถูกบังคับให้ส่งสัญญาณของโทรทัศน์ระบบดิจิตอล คาดว่าทั่วโลกจะต้องเปลี่ยนแปลงมาเป็นโทรทัศน์ระบบดิจิทัลให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2558

ยูเอชเอฟในวิทยุกระจายเสียง

หรือเรียกอีกอย่างว่า วิทยุสื่อสาร มีใช้ในประเทศไทยเกือบร้อยปีแล้ว ส่วนใหญ่ใช้ในราชการทหาร นับแต่สงครามโลกครั้งที่ 1-2 และ สงครามมหาเอเชียบูรพา หลังภาวะสงคราม กิจการวิทยุสื่อสารมีใช้ภายในกิจการราโดยเฉพาะฝ่ายปราบปรามและปกครอง และแพร่หลายมากข้นในหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ พลเรือน ในช่วง 40 ปีย้อนหลังจากนี้ ฉันไม่ใด้อาศัยที่เมืองไทยทั้งอเมริกา แล้วก็ยุโรป กรุณาอย่าแชร์ข้อมูลผิดไป ลบด้วยนะคะ

ยูเอชเอฟในวิทยุโทรทัศน์

ในการออกอากาศวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ มีช่วงเลขประจำช่อง ระหว่าง 14-83 (470-890 เมกะเฮิร์ทซ์)

ส่วนในประเทศไทย มีช่องสัญญาณอยู่ที่ช่อง 21 ถึง 69 แต่ในกรณีช่อง 21 ถึง 25 และ 61 ถึง 69 กรมไปรษณีย์โทรเลข (ปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาเป็น สำนักงาน กสทช.) ได้สงวนช่องสัญญาณไว้ดังกล่าว เพื่อใช้ในระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ ระบบ Cellular Mobile System จึงทำให้ประเทศไทย สามารถใช้ช่องสัญญาณไว้ตั้งแต่ที่ 26 ถึง 60 เพื่อออกอากาศส่งทางวิทยุโทรทัศน์เท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นมา สำนักงาน กสทช. ได้ทำการปรับเปลี่ยนการใช้งานระบบยูเอชเอฟ สำหรับการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล โดยให้ดำเนินการออกอากาศโดยปรับลดไปยังช่องความถี่ที่ต่ำลงกว่าเดิม นับตั้งแต่ช่องที่ 21 ถึง 48 ทั้งนี้ เนื่องจากจะต้องนำคลื่นความถี่ 700 เมกกะเฮิร์ตซ์เป็นต้นไป จัดสรรและมอบให้แก่ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายต่างๆ เพื่อให้นำไปใช้และให้บริการเครือข่ายการสื่อสาร5 จี ซึ่งจะได้มีการเริ่มทดลองและให้บริการจริง ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2563

ตัวอย่างการใช้ระบบในประเทศไทย

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เริ่มดำเนินโครงการ สถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ เมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยมีการเปิดประมูลรับสัมปทาน เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2538 โดย กลุ่มสยามทีวีแอนด์คอมมิวนิเคชั่น (แปรรูปเป็น บริษัท สยามอินโฟเทนเมนท์ จำกัด เมื่อได้รับอนุมัติสัมปทานแล้ว และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541) เป็นผู้ได้รับอนุมัติสัมปทานดังกล่าว โดยใช้ชื่อสถานีว่า สถานีโทรทัศน์ไอทีวี (ITV-Independent Television) นับเป็น สถานีโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟแห่งแรกของประเทศไทย แพร่ภาพออกอากาศทางช่อง 26 และเปลี่ยนมาเป็นช่อง 29 ในภายหลัง โดยมีอายุสัมปทาน 30 ปี เริ่มต้นออกอากาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2550 และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ตามลำดับ ในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551

ดูเพิ่ม