ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ธนาคารพาณิชย์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2: บรรทัด 2:


== บริการของธนาคารพาณิชย์ ==
== บริการของธนาคารพาณิชย์ ==
* การรับฝากเงินประเภทต่างๆจากประชาชน และจ่ายให้ผลตอบแทนแก่เจ้าของเงินตามพันธะผูกพ
* การรับฝากเงินประเภทต่างๆจากประชาชน และจ่ายให้ผลตอบแทนแก่เจ้าของเงินตามพันธะผูกพัน
** เงินฝากออมทรัพย์ มีจุดประสงค์ที่จะส่งเสริมให้ประชาชนเก็บออม
** เงินฝากแบบประจำ มีกำหนดแน่นอนให้เจ้าของเงินทวงถาม ผู้ฝากจะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาและตามที่ธนาคารแต่ละที่กำหนดไว้ ซึ่งจะแบ่งระยะเวลาการฝากเป็น 3, 6, และ 12 เดือน
** เงินฝากกระแสรายวัน มีการจ่ายเงินแก่เจ้าของเงินทวงถามได้ทุกเมื่อ ผู้ฝากจะได้สมุดเช็ค แต่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยจากเงินฝาก
** ฝากเผื่อเรียก การจ่ายเงินแก่เจ้าของเงินเมื่อไรก็ตามที่ทวงถาม
** เงินฝากประเภทอื่น ๆ เป็นเงินฝากที่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของธนาคาร หรือกลยุทธ์ในด้านการส่งเสริมด้านการตลาดของธนาคาร
* บริการเงินกู้
** การเบิกเงินเกินบัญชี
** การใช้เงินกู้ระยะสั้น - ระยะยาว ต้องตกลงกับธนาคารโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันการชำระเงิน อาจทำได้โดยการผ่อนชำระเป็นงวด ๆ
** การรับซื้อลดตั๋ว เมื่อผู้ส่งตั๋วมีความประสงค์จะใช้เงินก่อนตั๋วนั้นถึงกำหนดเวลา
** การรับรองตั๋ว หมายถึง การรับรองจากธนาคารว่าผู้ทรงตั๋วจะได้รับเงินแน่นอน
** การอาวัล หมายถึง การที่ธนาคารรับประกันการจ่ายเงินแทนเจ้าของตั๋วทั้งหมดหรือบางส่วน
* บริการด้านการต่างประเทศ
** การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
** การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตลาดต่างประเทศ
** การเปิด[[เลตเตอร์ออฟเครดิต]] (Letter of Credit) การส่งสินค้า L/C จะช่วยให้เกิดความมั่นใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่นิยมใช้กันแพร่หลายมี 2 ชนิดคือ
*** เลตเตอร์ออฟเครดิตประเภทเพิกถอนได้ ผู้เกี่ยวข้องสามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ได้ทุกเวลา แต่ต้องก่อนที่จะมีการรับซื้อเอกสารนั้น
*** เลตเตอร์ออฟเครดิตประเภทเพิกถอนไม่ได้ ธนาคารผู้เปิด L/C มีพันธะผูกพันแน่นอน ตาม L/C ที่เปิดจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขไม่ได้นอกจากจะได้รับการยินยอม
* บริการอื่น ๆ
** การใช้บริการ[[บัตรเครดิต]]
** การใช้บริการเงินด่วนทางเครื่อง[[เอทีเอ็ม]]
** การให้บริการคุ้มครองอุบัติเหตุ
** การให้บริการเช่าตู้นิรภัย
** การให้บริการรับชำระค่า[[สาธารณูปโภค]] เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
** การรับชำระ[[ภาษีเงินได้]]ประจำปี
** การโอนเงินระหว่างธนาคารในท้องถิ่นและระหว่างประเทศ
** การเรียกเก็บเงิน [[เช็ค]] [[ดราฟต์]] และตราสารทางการเงินที่ครบกำหนดให้แก่ลูกค้า
** การบริการเช็คของขวัญ
** การเป็นผู้จัดการ[[มรดก]]
** การให้คำแนะนำด้านการลงทุน
** การให้ข้อมูลทางเครดิต
** การออกใบค้ำประกันการซื้อขาย
** การเป็นตัวแทนจำหน่าย[[พันธบัตรรัฐบาล]]

== ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ==
ธนาคารพาณิชย์เริ่มมีในประเทศไทยครั้งแรกในสมัย[[รัชกาลที่ 4]] แห่ง[[กรุงรัตนโกสินทร์]] โดยชาว[[อังกฤษ]] ได้เข้ามาเปิดสาขาของ[[ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้]] ขึ้นในประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2431ซึ่งเน้นการให้บริการในด้านการค้าระหว่างประเทศ จนกระทั่งพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ทรงดำริให้มีการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทย คือ บริษัทแบงค์สยามกัมมาจลทุน จำกัด เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2449 และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น [[ธนาคารไทยพาณิชย์]] เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2482

== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{เริ่มอ้างอิง}}
* พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522 มาตรา 4
* http://www.bp-smakom.org/BP_School/Social/administer-natural.htm {{ลิงก์เสีย}}
* [http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/pechburi/lamom_m/bussiness.htm ความหมายของสถาบันทางธุรกิจ] {{th}}

{{จบอ้างอิง}}


[[หมวดหมู่:ธนาคาร]]
[[หมวดหมู่:ธนาคาร]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:03, 24 มกราคม 2563

ธนาคารพาณิชย์ (อังกฤษ: Commercial bank) หมายถึง การประกอบธุรกิจประเภทรับฝากเงินที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถาม หรือเมื่อสิ้นระยะเวลาอันได้กำหนดไว้ และใช้ประโยชน์จากเงินนั้นในทางหนึ่งหรือหลายทาง เช่น การให้กู้ยืม ซื้อขายหรือเก็บเงินตามตั๋วเงิน หรือตราสารเปลี่ยนมืออื่นใด ซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้จะประกอบธุรกิจประเภทอื่นๆ อันเป็นประเพณีของธนาคารพาณิชย์ด้วยก็ได้ สำหรับธนาคารพาณิชย์ คือธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ และหมายความรวมถึงสาขาของธนาคารต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ด้วย

บริการของธนาคารพาณิชย์

  • การรับฝากเงินประเภทต่างๆจากประชาชน และจ่ายให้ผลตอบแทนแก่เจ้าของเงินตามพันธะผูกพัน
    • เงินฝากออมทรัพย์ มีจุดประสงค์ที่จะส่งเสริมให้ประชาชนเก็บออม
    • เงินฝากแบบประจำ มีกำหนดแน่นอนให้เจ้าของเงินทวงถาม ผู้ฝากจะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาและตามที่ธนาคารแต่ละที่กำหนดไว้ ซึ่งจะแบ่งระยะเวลาการฝากเป็น 3, 6, และ 12 เดือน
    • เงินฝากกระแสรายวัน มีการจ่ายเงินแก่เจ้าของเงินทวงถามได้ทุกเมื่อ ผู้ฝากจะได้สมุดเช็ค แต่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยจากเงินฝาก
    • ฝากเผื่อเรียก การจ่ายเงินแก่เจ้าของเงินเมื่อไรก็ตามที่ทวงถาม
    • เงินฝากประเภทอื่น ๆ เป็นเงินฝากที่ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของธนาคาร หรือกลยุทธ์ในด้านการส่งเสริมด้านการตลาดของธนาคาร
  • บริการเงินกู้
    • การเบิกเงินเกินบัญชี
    • การใช้เงินกู้ระยะสั้น - ระยะยาว ต้องตกลงกับธนาคารโดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันการชำระเงิน อาจทำได้โดยการผ่อนชำระเป็นงวด ๆ
    • การรับซื้อลดตั๋ว เมื่อผู้ส่งตั๋วมีความประสงค์จะใช้เงินก่อนตั๋วนั้นถึงกำหนดเวลา
    • การรับรองตั๋ว หมายถึง การรับรองจากธนาคารว่าผู้ทรงตั๋วจะได้รับเงินแน่นอน
    • การอาวัล หมายถึง การที่ธนาคารรับประกันการจ่ายเงินแทนเจ้าของตั๋วทั้งหมดหรือบางส่วน
  • บริการด้านการต่างประเทศ
    • การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
    • การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตลาดต่างประเทศ
    • การเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต (Letter of Credit) การส่งสินค้า L/C จะช่วยให้เกิดความมั่นใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่นิยมใช้กันแพร่หลายมี 2 ชนิดคือ
      • เลตเตอร์ออฟเครดิตประเภทเพิกถอนได้ ผู้เกี่ยวข้องสามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ได้ทุกเวลา แต่ต้องก่อนที่จะมีการรับซื้อเอกสารนั้น
      • เลตเตอร์ออฟเครดิตประเภทเพิกถอนไม่ได้ ธนาคารผู้เปิด L/C มีพันธะผูกพันแน่นอน ตาม L/C ที่เปิดจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขไม่ได้นอกจากจะได้รับการยินยอม
  • บริการอื่น ๆ
    • การใช้บริการบัตรเครดิต
    • การใช้บริการเงินด่วนทางเครื่องเอทีเอ็ม
    • การให้บริการคุ้มครองอุบัติเหตุ
    • การให้บริการเช่าตู้นิรภัย
    • การให้บริการรับชำระค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
    • การรับชำระภาษีเงินได้ประจำปี
    • การโอนเงินระหว่างธนาคารในท้องถิ่นและระหว่างประเทศ
    • การเรียกเก็บเงิน เช็ค ดราฟต์ และตราสารทางการเงินที่ครบกำหนดให้แก่ลูกค้า
    • การบริการเช็คของขวัญ
    • การเป็นผู้จัดการมรดก
    • การให้คำแนะนำด้านการลงทุน
    • การให้ข้อมูลทางเครดิต
    • การออกใบค้ำประกันการซื้อขาย
    • การเป็นตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล

ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย

ธนาคารพาณิชย์เริ่มมีในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยชาวอังกฤษ ได้เข้ามาเปิดสาขาของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ขึ้นในประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2431ซึ่งเน้นการให้บริการในด้านการค้าระหว่างประเทศ จนกระทั่งพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ทรงดำริให้มีการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทย คือ บริษัทแบงค์สยามกัมมาจลทุน จำกัด เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2449 และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2482

อ้างอิง