ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัลแบร์ท โฮฟมัน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Anonimeco (คุย | ส่วนร่วม)
revised.
Waniosa Amedestir (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{เพิ่มอ้างอิง}}
{{Infobox scientist
[[ไฟล์:Albert Hofmann Oct 1993.jpg|thumb|200px|ดร.อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ เมื่ออายุ 87 ปี]]
| name = อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์
| image = Albert Hofmann Oct 1993.jpg
| image_size =
| caption = อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ ในปีค.ศ.1993
| birth_date = {{birth date|1906|1|11|df=y}}
| birth_place = [[Baden, ประเทศสวิสเซอร์แลนด์]]
| death_date = {{death date and age|2008|4|29|1906|1|11|df=y}}
| death_place = [[Burg im Leimental]], ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
| spouse = Anita Hofmann (?–2007) (เธอเสียชีวิต)
| children = 4
| nationality = สวิตเซอร์แลนด์
| field = [[เคมี]]
| erdos_number =
| work_institution =
| alma_mater = [[มหาวิทยาลัยซือริช]]
| doctoral_advisor =
| doctoral_students =
| known_for = ผู้ค้นพบสาร[[แอลเอสดี]], ผู้ตั้งชื่อและสังเคราะห์[[ไซโลซิน]] (psilocin)
| societies =
| prizes =
}}
[[ไฟล์:Albert Hofmann.jpg|thumb|200px|ดร.อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ เมื่ออายุ 100 ปีเมื่อ พ.ศ. 2549]]
[[ไฟล์:Albert Hofmann.jpg|thumb|200px|ดร.อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ เมื่ออายุ 100 ปีเมื่อ พ.ศ. 2549]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:01, 20 พฤศจิกายน 2562

อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์
อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ ในปีค.ศ.1993
เกิด11 มกราคม ค.ศ. 1906(1906-01-11)
Baden, ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
เสียชีวิต29 เมษายน ค.ศ. 2008(2008-04-29) (102 ปี)
Burg im Leimental, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยซือริช
มีชื่อเสียงจากผู้ค้นพบสารแอลเอสดี, ผู้ตั้งชื่อและสังเคราะห์ไซโลซิน (psilocin)
คู่สมรสAnita Hofmann (?–2007) (เธอเสียชีวิต)
บุตร4
อาชีพทางวิทยาศาสตร์
สาขาเคมี
ดร.อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ เมื่ออายุ 100 ปีเมื่อ พ.ศ. 2549

อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ (เยอรมัน: Albert Hofmann; 11 มกราคม พ.ศ. 2449 - 29 เมษายน พ.ศ. 2551) เป็นนักเคมีคนสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่งแอลเอสดี" เกิดที่เมืองบาเดิน สวิสเซอร์แลนด์ จบการศึกษาด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยซูริก ขณะเรียนมีความสนใจเคมีที่เกี่ยวกับพืชและสัตว์ ซึ่งต่อมาได้นำไปสู่การค้นคว้าวิจัยงานสำคัญในโครงสร้างของสารที่มีอยู่ทั่วไปในสัตว์ คือ "ไคทิน" (สารหลักในเปลือกกุ้ง ปูและสัตว์ที่คล้ายกัน) ซึ่งเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของฮอฟมานน์

ดร.อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์ ได้เข้าทำงานในแผนกเภสัช-เคมีในสถานีทดลองของบริษัทแซนดอส (ปัจจุบันคือบริษัทโนวาร์ติส) เมืองบาเซิล โดยทำการวิจัยพืชหัวที่ใช้ทำยา และเออร์กอตของพวกเห็ดรา เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสังเคราะห์และทำความบริสุทธิ์ให้กับตัวยาสำคัญที่จะนำมาใช้ทางเภสัชกรรม

อัลเบิร์ต ฮอฟมานน์เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มในปี พ.ศ. 2551 ขณะมีอายุได้ 102 ปี[1]

ชีวิตการทำงาน

งานค้นคว้าเกี่ยวกับกรดไลเซอร์จิกของฮอฟมานน์นำไปสู่การสังเคราะห์แอลเอสดี – 25 เมื่อ พ.ศ. 2481 ซึ่งในอีกห้าปีต่อมาหลังจากถูกลืม ฮอฟมานน์ก็ได้กลับมาค้นพบผลโดยความบังเอิญว่าสารแอลเอสดีเป็นตัวก่ออาการโรคจิต โดยฮอฟมานน์รับรู้ผลของอาการได้หลังจากการซึมของสารเข้าสู่ร่างกายของเขาทางปลายนิ้ว เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2486 อีก 3 วันต่อมาในวันที่ 19 เมษายน (ต่อมาเรียกวันนี้กันว่า “วันจักรยาน” หลังจากที่ฮอฟมานน์ขี่จักรยานกลับบ้านภายใต้อิทธิพลของแอลเอสดี) ดร.ฮอฟมานน์จงใจเสพย์สารนี้เป็นจำนวน 250 ไมโครกรัมและได้ประสบกับอิทธิพลของสารในระดับที่เข้มขึ้น หลังจากได้ทดลองกับตนเองอีกหลายครั้ง ฮอฟมานน์จึงได้เขียนรายงานผลการทดลองนี้เมื่อวันที่ 22 เมษายน ปีเดียวกัน

ฮอฟมานน์ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการแผนกผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของบริษัทแซนดอสและได้ทำการทดลองสารหลอนประสาทที่พบในเห็ดเม็กซิกันและพืชชนิดอื่นที่ชนพื้นเมืองใช้เสพ ทำให้นำไปสู่การสังเคราะห์ “ไซโลไซบิน” (psilocybin) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของ “เห็ดวิเศษ” ดังกล่าว

นอกจากนี้ ฮอฟมานน์ยังสนใจในเมล็ดของต้นคริสต์มาสไวน์ (Turbina corymbosa) ซึ่งได้พบอย่างน่าแปลกใจว่าสารที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของมล็ดพืชชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกับแอลเอสดีเป็นอย่างมาก

ในปี พ.ศ. 2505 ฮอฟมานน์และภริยาได้เดินทางไปเยือนเม็กซิโกตอนใต้เพื่อเสาะหาต้นไม้ชื่อ “เซจออฟเดอะดิไวเนอส์” (Salvia divinorum) แม้จะขออนุญาตนำกลับประเทศได้ แต่ฮอฟมานน์ก็ไม่สามารถแยกและบ่งชี้องค์ประกอบหลักทางเคมีที่สำคัญของพืชชนิดนี้ได้

ฮอฟมานน์เรียกแอลเอสดีว่า “ยาแห่งจิตวิญญาณ” และหงุดหงิดจากการที่ประชาคมโลกพากันถือว่าสารนี้เป็นสิ่งต้องห้าม ทำให้สารนี้หายไปจากบนดินกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ฮอฟมานน์กล่าวว่า “สารนี้ได้ถูกใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ทางจิตอย่างระมัดระวังมานานถึง 10 ปี” ก่อนที่จะถูกกลุ่มเยาวชนยุคทศวรรษ 1960 มายึดไปใช้ในทางที่ผิด ทำให้สารนี้กลายเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ถูกต่อต้าน แต่อย่างไรก็ดี ฮอฟมานน์ยอมรับว่าหากสารนี้ตกอยู่ในมือของคนไม่ดีก็มีอันตรายมากได้

ฮอฟมานน์ได้เขียนบทความทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 100 บทความและหนังสืออีกหลายเล่มรวมทั้ง “แอลเอสดี ลูกเจ้าปัญหาของข้าพเจ้า” ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นอัตชีวประวัติและการบรรยายถึงการขี่จักรยานที่โด่งดังของตน

ในโอกาสครบอายุ 100 ปีเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2549 ฮอฟมานน์กลับมาเป็นจุดเด่นของ “การประชุมเอกสารัตถ์นานาชาติว่าด้วยแอลเอสดี เนื่องในวาระครบอายุ 100 ปีของอัลเบิร์ต ฮอฟมานน์” ในเมืองบาเซลที่ทำให้สื่อต่าง ๆ ให้ความสนใจในการค้นพบแอลเอสดีของเขาอีกครั้งหนึ่ง

อ้างอิง

  1. Craig S Smith (30 April 2008). "Albert Hofmann, the Father of LSD, Dies at 102". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2 May 2013.

แหล่งข้อมูลอื่น