ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โสดาบัน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
GeonuchBot (คุย | ส่วนร่วม)
change cats
บรรทัด 7: บรรทัด 7:
# '''สักกายทิฏฐิ''' (กา-ยะ-) คือ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน
# '''สักกายทิฏฐิ''' (กา-ยะ-) คือ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน
# '''[[วิจิกิจฉา]]''' (กิด-) คือ ความสงสัยในพระรัตนตรัย และในกุศลธรรมทั้งหลาย
# '''[[วิจิกิจฉา]]''' (กิด-) คือ ความสงสัยในพระรัตนตรัย และในกุศลธรรมทั้งหลาย
# '''สีลัพพตปรามาส''' (ลับ-พะ-ตะ-ปะ-รา-มาด) คือ ความยึดมั่นในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่เข้าใจว่าเป็นข้อปฏิบัติที่บริสุทธิ์หลุดพ้น เป็นมิจฉาทิฏฐิ เช่น การประพฤติวัตรอย่างโค การนอนบนหนามของพวกโยคี เป็นต้น
# '''สีลัพพตปรามาส''' (ลับ-พะ-ตะ-ปะ-รา-มาด) คือ ความยึดมั่นในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่เข้าใจว่าเป็นข้อปฏิบัติที่บริสุทธิ์หลุดพ้น เป็นมิจฉาทิฏฐิ เช่น การประพฤติวัตรอย่างโค การนอนบนหนามของพวกโยคี เป็นต้น


การบรรลุมรรคผลเป็นพระอริยบุคคลมิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต (นักบวช) เท่านั้น แม้แต่[[คฤหัสถ์]]ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ ผู้บรรลุโสดาบันที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ [[นางวิสาขา]]มหาอุบาสิกา [[อนาถบิณฑิกเศรษฐี]] [[พระเจ้าพิมพิสาร]] เป็นต้น
การบรรลุมรรคผลเป็นพระอริยบุคคลมิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต (นักบวช) เท่านั้น แม้แต่[[คฤหัสถ์]]ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ ผู้บรรลุโสดาบันที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ [[นางวิสาขา]]มหาอุบาสิกา [[อนาถบิณฑิกเศรษฐี]] [[พระเจ้าพิมพิสาร]] เป็นต้น
บรรทัด 24: บรรทัด 24:
# [[นางสิริมา]]
# [[นางสิริมา]]
# [[พระนางสามาวดี]]
# [[พระนางสามาวดี]]
# [[พระเจ้าพิมพิสาร]]
# [[พระเจ้าพิมพิสาร]]


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
บรรทัด 31: บรรทัด 31:


[[หมวดหมู่:โสดาบัน| ]]
[[หมวดหมู่:โสดาบัน| ]]
[[หมวดหมู่:อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ]]
[[หมวดหมู่:คำศัพท์ศาสนาพุทธ]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:26, 7 พฤศจิกายน 2562

โสดาบัน ([Sotāpanna โสตาปนฺน] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) แปลว่า ผู้แรกถึงกระแสธรรม (แห่งพระนิพพาน) ถือเป็นอริยบุคคลระดับแรกใน 4 ระดับ คือ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์[1]

การละสังโยชน์

โสดาบัน ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการคือ

  1. สักกายทิฏฐิ (กา-ยะ-) คือ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน
  2. วิจิกิจฉา (กิด-) คือ ความสงสัยในพระรัตนตรัย และในกุศลธรรมทั้งหลาย
  3. สีลัพพตปรามาส (ลับ-พะ-ตะ-ปะ-รา-มาด) คือ ความยึดมั่นในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่เข้าใจว่าเป็นข้อปฏิบัติที่บริสุทธิ์หลุดพ้น เป็นมิจฉาทิฏฐิ เช่น การประพฤติวัตรอย่างโค การนอนบนหนามของพวกโยคี เป็นต้น

การบรรลุมรรคผลเป็นพระอริยบุคคลมิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต (นักบวช) เท่านั้น แม้แต่คฤหัสถ์ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ ผู้บรรลุโสดาบันที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ นางวิสาขามหาอุบาสิกา อนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร เป็นต้น

ประเภท

โสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้[1]

  1. เอกพีชี (เอ-กะ-) ผู้มีพืชคืออัตตภาพอันเดียว ก็จะบรรลุเป็นอรหันต์
  2. โกลังโกละ ผู้ไปจากสกุลสู่สกุล คือจะมาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นอรหันต์
  3. สัตตักขัตตุงปรมะ (ปะ-ระ-) ผู้มีเจ็ดครั้งเป็นอย่างยิ่ง คือจะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

การที่โสดาบันแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่เพราะว่าอินทรีย์ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา แก่กล้าแตกต่างกัน ผู้ที่อินทรีย์ 5 ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว โสดาบันประเภทนี้เอกพีชีโสดาบัน

ตัวอย่างบุคคลผู้บรรลุโสดาปัตติผลในพุทธกาล

  1. นางวิสาขา
  2. ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
  3. นางสิริมา
  4. พระนางสามาวดี
  5. พระเจ้าพิมพิสาร

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "โสดาบัน 3". พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. 4 มกราคม 2548. สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)