ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟุตบอลทีมชาติไทย"
Earthpanot (คุย | ส่วนร่วม) |
Earthpanot (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 370: | บรรทัด 370: | ||
|style="text-align:left;"|[[ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน]] |
|style="text-align:left;"|[[ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน]] |
||
|พ.ศ. 2536 |
|พ.ศ. 2536 |
||
|} |
|||
==ผู้ทำประตูสูงสุด== |
|||
* ''สถิติผู้ทำประตูสูงสุดในนามทีมชาติ (แสดงเฉพาะจำนวนประตูได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ บันทึกสถิติโดย RSSSF ข้อมูลบันทึกล่าสุดวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561)''<ref>http://www.rsssf.com/miscellaneous/thai-recintlp.html</ref> |
|||
''แถบสีฟ้าคือผู้เล่นที่ยังคงเล่นให้ทีมชาติอยู่ในปัจจุบัน'' |
|||
{| align=border width=52% border=1 cellpadding="2" cellspacing="0" style="background: #f9f9f9; border: 1px #aaa solid; border-collapse: collapse; font-size: 90%; text-align: center;" |
|||
|- align=center bgcolor=#800000 style="color:white;" |
|||
!อันดับ |
|||
!ชื่อ |
|||
!ช่วงเวลา |
|||
!ประตู |
|||
!จำนวนนัดที่ลงสนาม |
|||
!ค่าเฉลี่ยการยิงต่อหนึ่งนัด |
|||
!สโมสร |
|||
|- |
|||
| 1 || [[ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน|น.ท.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน]] || 1981–1997 || 77 || 104 || 0.74 ||[[สโมสรฟุตบอลทหารอากาศ|ทหารอากาศ]]<br>[[เอฟซีโซล|ลัคกี โกลด์สตาร์]]<br>ปะหัง |
|||
|- |
|||
| 2 || [[เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง|ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง]] || 1993–2007 || 71 || 134 || 0.52 || [[สโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงไทย|ธนาคารกรุงไทย]]<br>[[สโมสรกีฬาราชประชา|ราชประชา]]<br>[[สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ|ตำรวจ]] |
|||
|- bgcolor="#d0e7ff" |
|||
| 3 || [[ธีรศิลป์ แดงดา]] ||2007–ปัจจุบัน || 44 || 94 || 0.47 ||[[สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด|เมืองทอง ยูไนเต็ด]]<br>[[อูเด อัลเมริอา]] |
|||
|- |
|||
| 4 || [[ศรายุทธ ชัยคำดี]] || 2003–2011 || 31 || 49 || 0.63 || [[สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ|การท่าเรือ]]<br>บินห์ ดินห์<br>[[สโมสรฟุตบอลซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ|โอสถสภา]]<br>[[สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส|บางกอกกล๊าส]] |
|||
|- |
|||
| 5 || [[วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์|ร.ต.ต.วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์]] || 1985–1995 || 29 || 84 || 0.34 || [[สมาคมสโมสรถาวรฟาร์ม|ถาวรฟาร์ม]]<br>[[สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ|ตำรวจ]]<br>ปะหัง |
|||
|- |
|||
| rowspan =3|6 || [[นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์]] || 1967–1979 || 28 || 85 || 0.32 || [[สโมสรฟุตบอลราชวิถี|ราชวิถี]]<br>[[สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ|การท่าเรือ]] |
|||
|- |
|||
| [[ดาวยศ ดารา]] || 1975–1986 || 28 || 70 || 0.40 || [[สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ|การท่าเรือ]] |
|||
|- |
|||
| [[วรวุฒิ ศรีมะฆะ]] || 1995–2003 || 28 || 63 || 0.44 || [[สโมสรฟุตบอลธนาคารกสิกรไทย|ธนาคารกสิกรไทย]]<br>[[สโมสรฟุตบอลบีอีซี เทโรศาสน|บีอีซี เทโร ศาสน]] |
|||
|- |
|||
| 9 || เจษฎาภรณ์ ณ พัทลุง || 1971–1981 || 27 || 79 || 0.34 || [[สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ|การท่าเรือ]] |
|||
|- |
|||
| rowspan =3|10 || สุทธา สุดสะอาด || 1978–1988 || 25 || 51 || 0.49 ||[[สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ|การท่าเรือ]] |
|||
|- |
|||
| ชลอ หงษ์ขจร || 1979–1987 || 25 || 67 || 0.37 || [[สโมสรฟุตบอลทหารอากาศ|ทหารอากาศ]] |
|||
|- |
|||
| [[เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์]] || 1995–1997 || 25 || 55 || 0.45 || [[สโมสรฟุตบอลธนาคารกสิกรไทย|ธนาคารกสิกรไทย]] |
|||
|- |
|||
| 13 || ประพนธ์ ตันติยานนท์ || 1971–1980 || 23 || 62 || 0.37 || [[สโมสรกีฬาราชประชา|ราชประชา]] |
|||
|- align=center bgcolor=#800000 style="color:#FFFFFF;" |
|||
|colspan="7"|{{Updated|5 กรกฎาคม, 2561}}<ref>http://www.rsssf.com/miscellaneous/thai-recintlp.html</ref> |
|||
|} |
|} |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:41, 29 กันยายน 2562
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
- หน้านี้สำหรับทีมฟุตบอลชาย สำหรับทีมหญิงดูได้ที่ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
ฉายา | ช้างศึก | |||
---|---|---|---|---|
สมาคม | สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ | |||
สมาพันธ์ย่อย | สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) | |||
สมาพันธ์ | สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (ทวีปเอเชีย) | |||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | อากิระ นิชิโนะ[1] | |||
กัปตัน | ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน | |||
ติดทีมชาติสูงสุด | เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (134) | |||
ทำประตูสูงสุด | เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (71) | |||
สนามเหย้า | ราชมังคลากีฬาสถาน | |||
รหัสฟีฟ่า | THA | |||
| ||||
อันดับฟีฟ่า | ||||
อันดับปัจจุบัน | 101 (4 เมษายน 2024)[2] | |||
อันดับสูงสุด | 42 (กันยายน พ.ศ. 2541) | |||
อันดับต่ำสุด | 165 (ตุลาคม พ.ศ. 2558) | |||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | ||||
สาธารณรัฐจีน 6–1 ไทย (กรุงเทพ, ไทย; 20 สิงหาคม พ.ศ. 2491) [3] | ||||
ชนะสูงสุด | ||||
ไทย 10–0 บรูไน (กรุงเทพ, ไทย; 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2514) | ||||
แพ้สูงสุด | ||||
สหราชอาณาจักร 9–0 ไทย (เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย; 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499) | ||||
เอเอฟซี เอเชียนคัพ | ||||
เข้าร่วม | 7 (ครั้งแรกใน 1972) | |||
ผลงานดีที่สุด | อันดับ 3 (ปี 1972) | |||
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน | ||||
เข้าร่วม | 12 (ครั้งแรกใน 1996) | |||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1996, 2000, 2002, 2014, 2016) |
ฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ และอยู่ภายใต้การบริหารของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยทีมมีประวัติของความสำเร็จในการแข่งขันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือชนะเลิศอาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 5 สมัย และชนะเลิศซีเกมส์ 10 สมัย โดยทีมชาติไทยยังสามารถคว้าอันดับ 3 ในเอเชียนคัพ 1972 และเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อน 2 ครั้ง และในเอเชียนเกมส์ 4 ครั้ง โดยอันดับโลกฟีฟ่าที่ทีมชาติไทยทำอันดับได้ดีที่สุด คือ อันดับที่ 42 ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2541 ปัจจุบันทีมชาติไทยอยู่อันดับที่ 115 ของโลก, อันดับที่ 20 ของเอเชีย และอันดับที่ 2 ของอาเซียน จากการจัดอันดับโดยฟีฟ่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ประวัติ
ปี | สมาคม |
---|---|
2459 | ก่อตั้ง |
2468 | ฟีฟ่า |
2500 | เอเอฟซี |
2537 | เอเอฟเอฟ |
ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2458 ในนามคณะฟุตบอลสำหรับชาติสยาม และเล่นการแข่งขันอย่างไม่เป็นทางการครั้งแรก (พบกับทีมฝ่ายยุโรป) ที่สนามราชกรีฑาสโมสร ในวันที่ 20 ธันวาคม ในปีนั้น จนวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงก่อตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งสยามฯ โดยลงเล่นในการแข่งขันระหว่างประเทศครั้งแรกใน พ.ศ. 2473 พบกับทีมชาติอินโดจีน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เล่นเวียดนามใต้ และ ฝรั่งเศส เพื่อต้อนรับการเสด็จประพาสอินโดจีนของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชื่อของทีมชาติและชื่อของสมาคมได้ถูกเปลี่ยนชื่อในปี พ.ศ. 2482 เมื่อสยามกลายเป็นประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2499 พล.ต.เผชิญ นิมิบุตร ซึ่งเป็นนายกสมาคม ได้มีการหาผู้เล่นจากหลายสโมสรเพื่อจัดตั้งทีมที่จะลงแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1956ที่เมลเบิร์น โดยเป็นครั้งแรกของทางทีมที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิก ในการแข่งขันนั้นเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก ทีมไทยจับฉลากพบกับสหราชอาณาจักร ในวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยทีมไทยพ่ายแพ้ไป 0-9 (ความพ่ายแพ้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์) ตกรอบทันที โดยในรอบที่สอง ทีมสหราชอาณาจักรก็พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติบัลแกเรีย 6 ประตูต่อ 1 โดยทีมชาติบัลแกเรียได้เหรียญทองแดง ทีมชาติยูโกสลาเวีย ได้เหรียญเงิน และสหภาพโซเวียตได้เหรียญทองไปครอง[4] ภายหลังจากการแข่งขัน หนังสือพิมพ์สยามนิกร ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน ได้พาดหัวข่าวหน้ากีฬาว่า "ทีมชาติอังกฤษเฆี่ยนทีมชาติไทย 9 - 0" ซึ่งภายหลังจบการแข่งขัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีรับสั่งถึงสมาคมฟุตบอลฯ ให้ส่ง พล.ต.ดร.สำเริง ไชยยงค์ หนึ่งในนักฟุตบอลชุดโอลิมปิกไปศึกษาพื้นฐานการเล่นฟุตบอลจากประเทศเยอรมนี เพื่อให้กลับมาสอนการเล่นฟุตบอลให้แก่ทีมไทย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2508 ฟุตบอลทีมชาติไทยก็คว้าเหรียญทองในกีฬาแหลมทอง (ปัจจุบันเรียกว่าซีเกมส์) ครั้งที่ 3 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จนถึง พ.ศ. 2552 ประเทศไทยชนะเลิศการแข่งขันทุก ๆ สองปีรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง
ทีมไทยได้เข้าร่วมโอลิมปิกฤดูร้อนอีกครั้งในหาปีพ.ศ. 2511 โดยแพ้ต่อทีมชาติบัลแกเรีย 0-7, ทีมชาติกัวเตมาลา 1-4 และทีมชาติเช็กโกสโลวาเกีย 0-8 ตกรอบแรกในการแข่งขัน ซึ่งผู้ชนะในคราวนี้ คือทีมชาติฮังการี ได้เหรียญทองไปครอง ซึ่งเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันในโอลิมปิกเป็นครั้งสุดท้ายจนถึงปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2515 ประเทศไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอล เอเชียนคัพ 1972 ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันเอเชียนคัพครั้งที่ 5 โดยในการแข่งขันนี้ ทีมชาติไทยได้อันดับที่ 3 โดยยิงลูกโทษชนะทีมชาติกัมพูชา 5 ประตูต่อ 3 ภายหลังจากเสมอกัน 2 ต่อ 2 ซึ่งในการแข่งขันนี้ ทีมชาติอิหร่าน ชนะเลิศ และทีมชาติเกาหลีใต้ ได้รางวัลรองชนะเลิศตามลำดับ
ในปี พ.ศ. 2519 ประเทศไทยได้แชมป์คิงส์คัพครั้งแรก โดยเป็นแชมป์ร่วมกับทีมชาติมาเลเซีย ภายหลังจากที่มีการเริ่มมีการจัดคิงส์คัพในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 โดยต่อมาทีมชาติไทยได้เป็นแชมป์คิงส์คัพอีกหลายครั้งรวมทั้งสิ้น 11 ครั้งด้วยกัน
สำหรับการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ ทีมชาติไทยยังไม่สามารถที่จะชนะเลิศได้ โดยความสำเร็จสูงสุดคือเข้ารอบรองชนะเลิศ ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 2533 เช่นเดียวกับ เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2541 และเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 14 ที่จัดขึ้นที่ ปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในปี พ.ศ. 2545และครั้งล่าสุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่จัดขึ้นที่ โดฮา ในปี พ.ศ. 2549 ทีมชาติไทยก็เป็นทีมเดียวในอาเซียนที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ (8 ทีมสุดท้าย) ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเข้ารอบโดยเป็นที่ 1 ของกลุ่มซี
ในปี พ.ศ. 2537 ไทยได้ร่วมก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) กับอีก 9 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน และนอกจากนี้ ประเทศไทยได้มีการเชิญสโมสรชั้นนำจากทั่วโลก มาแข่งขันกับในประเทศไทยหลายครั้ง ได้แก่ เอฟซีปอร์โต (2540) อินเตอร์มิลาน (2540) โบคาจูเนียร์ (2540) ลิเวอร์พูล (2544) นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (2547) เอฟเวอร์ตัน (2548) โบลตันวันเดอร์เรอร์ (2548) แมนเชสเตอร์ซิตี (2548 ที่ไทย และ 2550 ที่อังกฤษ[5]) และสโมสรชั้นนำอื่น ๆ และในปี 2551 ไทยตกรอบฟุตบอลรอบคัดเลือก รอบ 20 ทีมสุดท้าย โดยได้อยู่สายเดียวกับทีมอย่าง ญี่ปุ่น โอมาน บาห์เรน โดยไทยแข่ง 6 นัด ไม่ชนะใครเลย แพ้ 5 เสมอ 1 ทำให้ชาญวิทย์ ผลชีวิน ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่นาน ปีเตอร์ รีด อดีตนักเตะเอฟเวอร์ตันและทีมชาติอังกฤษก็เข้ามารับตำแหน่งแทนแต่ไทย ก็พลาดแชมป์ อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 2007 โดยการแพ้ทีมชาติเวียดนามรวมผลสองนัด 3-2 และยังพลาดคิงส์คัพอีกรายการหนึ่ง โดยดวลจุดโทษแพ้ ทีมชาติเดนมาร์ก จากเหตุการณ์ดังกล่าว ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ปีเตอร์ รีด จึงถูกปลดออกจากตำแหน่งรวมทั้งอนาคตที่ไม่แน่นอนในการคุมทีมชาติเพราะรีดมีข่าวว่าจะไปทำงานที่สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี โดยเป็นผู้ช่วยของ โทนี พูลิส ผู้จัดการทีมสโตกซิตี
ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552, ไบรอัน ร็อบสัน ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยซึ่งเซ็นสัญญากับทีมชาติไทยไปจนถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014.[6] ต่อมาในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552, ร็อบสันสามารถนำทีมชาติไทยชนะนัดแรกในการคุมทีมของในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2011 รอบคัดเลือก ที่พบกับ ทีมชาตสิงคโปร์ ด้วยสกอร์ 3-1.[7] แต่ในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552, ร็อบสันนำทีมชาติไทยแพ้นัดแรกต่อทีมชาตสิงคโปร์ เช่นกันด้วยสกอร์ 1-0 ด้วยการแพ้ในบ้านที่ประเทศไทย. ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ทีมชาติไทยสามารถยันเสมอกับจอร์แดน และ ทีมชาตอิหร่าน ด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งสองนัดในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมชาติไทยได้เข้ารอบสุดท้ายในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2011 ที่ประเทศกาตาร์ได้ ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ร็อบสันสามารถนำทีมชาติไทยชนะทีมชาติสิงคโปร์ด้วยสกอร์ 1-0 ที่ประเทศไทย ในการแข่งขันกระชับมิตร ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 ร็อบสันนำทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติอินเดีย ได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในการแข่งขันกระชับมิตรเช่นกัน แต่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 ร็อบสันนำทีมชาติไทยตกรอบ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม หลังจากการเสมอ 2 นัดกับ ทีมชาติลาว และ ทีมชาติมาเลเซีย และแพ้ให้กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งช่วงนั้นถือเป็นยุคมืดของทีมชาติไทยอย่างแท้จริง ทำให้ร็อบสันยกเลิกสัญญาจากการเป็นผู้จัดการทีมในวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554.[8]
ต่อมา วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตผู้จัดการทีมเฟาเอฟเบชตุทท์การ์ท กับอดีตแมวมองสโมสรโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัคสโมสรฟุตบอลชื่อดังในบุนเดิสลีกาและอดีตผู้จัดการทีมทีมชาติแคเมอรูนวัย 61 ปีได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยแทนไบรอัน ร็อบสัน ที่มีปัญหาในเรื่องสุขภาพ โดยงานแรกของเชเฟอร์คือการนำทีมชาติไทยไปแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2014 ในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ซึ่งแฟนบอลทุกคนได้สนับสนุนการทำงานของเชเฟอร์มาตลอดไม่ว่าการแข่งขันในบ้านหรือนอกบ้านจะมีแฟนบอลคอยติดตามอยู่ทุกเมื่อ
โดยนัดแรกทีมชาติไทยได้บุกไปแพ้ให้แก่ฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลีย ด้วยสกอร์ 1-2 ซึ่งออกนำไปก่อนจากประตูของธีรศิลป์ แดงดา.[9] แล้วในการแข่งขันต่อมาทีมชาติไทยสามารถเอาชนะฟุตบอลทีมชาติโอมานได้ 3-0 จากประตูของสมปอง สอเหลบ, ธีรศิลป์ แดงดา และการทำเข้าประตูตัวเองของราชิค จูมา อัล-ฟาร์ซี โดยเป็นชัยชนะนัดที่สองของทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ซึ่งนัดแรกคือนัดที่เอาชนะทีมชาติปาเสลสไตน์ได้ 3-2 ในรอบคัดเลือกรอบที่ 2.[10] และสามารถยันเสมอทีมชาติซาอุดีอาระเบียได้ 0-0 ในนัดถัดมาแต่หลังจากนั้นทีมชาติไทยได้แพ้อีกทั้ง 3 นัดในการไปเยือน 2 นัดและเล่นในบ้าน 1 นัดจึงทำให้หยุดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ไว้ที่รอบแบ่งกลุ่ม (คัดเลือกรอบที่ 3 โซนเอเชีย) และในการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ทีมชาติไทยสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ซึ่งต้องไปพบกับทีมชาตสิงคโปร์ด้วยการเอาชนะทีมชาติมาเลเซีย ด้วยสกอร์ 3-1 ในรอบก่อนรอบชิงชนะเลิศ[11] ในรอบชิงชนะเลิศนัดแรกทีมชาติไทยบุกไปแพ้ทีมชาติสิงคโปร์แต่ก็ได้ประตูทีมเยือน (อเวย์โกล์) จากอดุลย์ หละโสะและในนัดที่สองแข่งกันที่กรีฑาสถานแห่งชาติทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติสิงคโปร์ด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูของกีรติ เขียวสมบัติแต่รวมผลสกอร์ทีมชาติไทยแพ้ 3-2 [12] ต่อมาเชเฟอร์ได้นำทีมชาติไทยไปแข่งในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก (แบ่งกลุ่ม) ซึ่งเขานำทีมชาติไทยแพ้ทั้ง 2 นัดและทำให้เขายกเลิกสัญญาระหว่างเขากับทีมชาติไทยในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 โดยทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แต่งตั้ง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยชื่อดังเป็นผู้จัดการทีมชาติคนใหม่ ซึ่งนัดแรกของเกียรติศักดิ์ในการคุมทีมชาติไทยคือในการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมชาติจีน โดยเกียรติศักดิ์สามารถนำทีมชาติไทยบุกไปชนะทีมชาติจีนถึงบ้านด้วยสกอร์ 5-1[13]
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แต่งตั้งให้ สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ อดีตนักฟุตบอลชื่อดังชาวไทย เป็นผู้ฝึกสอนและเตรียมทีมชาติไทยไปแข่งกับทีมชาติอิหร่าน ในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2015 รอบคัดเลือก (แบ่งกลุ่ม)[14] ก่อนที่เกียรติศักดิ์จะมาคุมทีมต่อและสร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี และรองแชมป์คิงส์คัพในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 รวมทั้งในปี พ.ศ. 2559 ก็สามารถพาทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่มเอฟในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 ผ่านเข้าสู่รอบที่ 3 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี และสามารถผ่านเข้าไปเล่นเอเชียนคัพ 2019 ทันที ซึ่งเป็นการผ่านเข้าไปเล่นเอเชียนคัพได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีอีกด้วย และยังสามารถคว้าแชมป์ได้อีก 2 รายการ คือ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 และเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016
แต่ในรอบที่ 3 ของการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ไทยทำผลงานได้แย่มาก โดยนับจนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 ไทยเสมอเพียงนัดเดียว นอกนั้นแพ้รวด ทำให้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ประกาศลาออก หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็ได้แต่งตั้ง มิลอวัน ราเยวัตส์ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติกานาชุดสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยคนใหม่ ซึ่งก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ได้สำเร็จ แต่ผลงานยังถือว่าแย่เช่นเดิมเมื่อจบทั้ง 10 นัดแพ้ถึง 8 นัด เสมออีก 2 นัด ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 ไทยลงแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ไปสองนัด ปรากฏว่านัดแรกเสมอกาบอง 0-0 ก่อนจะชนะจุดโทษไปได้ 4-2 แต่ในนัดชิงชนะเลิศกลับแพ้สโลวาเกีย 2-3 พลาดแชมป์อย่างน่าเสียดาย และนั่นก็ทำให้ทีมชาติไทยฟอร์มตกลงถึงจุดดิ่งเหว โดยตกรอบรองชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2018 และนัดแรกของเอเชียนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทยก็ถูกทีมชาติอินเดียถล่มไปถึง 1-4 และทำให้พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศปลดมิลอวัน ราเยวัตส์ ลงจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และประกาศแต่งตั้ง ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ขึ้นรักษาการตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 4 นาฬิกา 36 นาที[15] แต่ศิริศักดิ์ก็พาทีมชาติไทยทำผลงานดีขึ้นมากกว่าเดิม โดยชนะบาห์เรน 1-0 และเสมอยูเออีซึ่งเป็นเจ้าภาพ 1-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นการเข้ารอบแพ้คัดออกในราการนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1972 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพและคว้าอันดับ 3 ทุกอย่างเหมือนจะดีหลังบุกไปชนะจีน 1-0 ในศึกไชน่าคัพและเข้าไปแพ้อุรุกวัย 0-4 แต่ในคิงส์คัพครั้งที่ 47 ที่บุรีรัมย์พวกเขากลับแพ้เวียดนาม 0-1 ตกรอบอย่างรวดเร็ว ซ้ำร้ายยังไปแพ้อินเดียด้วยสกอร์เดิม จบได้เพียงอันดับ 4 เท่านั้น
ข้อมูลทั่วไป
ชุดที่ใช้สำหรับการแข่งขัน
แต่เดิมชุดแข่งขันของฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดที่หนึ่งประกอบด้วย เสื้อสีแดง กางเกงสีแดง และถุงเท้าสีแดง ส่วนชุดที่สองประกอบด้วย เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีน้ำเงิน และ ถุงเท้าสีน้ำเงิน ต่อมาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทำเรื่องขอเปลี่ยนชุดที่หนึ่ง ไปยัง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เป็นเสื้อ สีเหลือง กางเกงสีเหลือง และถุงเท้าสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ ใน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554 ที่ประชุมกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติให้ทำเรื่องขอเปลี่ยนชุดที่หนึ่งไปยังฟีฟ่า กลับมาเป็นเสื้อสีแดง กางเกงสีแดง และถุงเท้าสีแดงอีกครั้ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2560 สมาคมฯ ได้ ขอทางฟีฟ่า เปลื่ยนสีเสื้อทั้งเหย้าและเยือนเป็นสีดำ และ ขาว เพื่อเป็นการถวายอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นเวลา 1 ปี [16]
ผู้ผลิตชุดแข่งทีมชาติไทย | |||
---|---|---|---|
ปี | ผู้ผลิต | ชุดแข่ง | |
2545–2550 | เอฟบีที |
| |
2550–2554 | ไนกี |
| |
2555–2559 | แกรนด์สปอร์ต |
| |
2560– | วอริกซ์ |
|
สนามเหย้า
ปัจจุบันทีมชาติไทย ได้มีการใช้ราชมังคลากีฬาสถาน เป็นสนามเหย้า โดยมีความจุ 49,722 ที่นั่ง แทนการใช้กรีฑาสถานแห่งชาติ ในอดีต
ราชมังคลากีฬาสถาน เปิดใช้งานเมื่อ พ.ศ. 2541 รองรับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 1998 โดยทีมชาติไทยลงสนามครั้งแรกเสมอกับทีมชาติคาซัคสถาน 1–1 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ซึ่งในยุคสมัยนั้นยังมีการใช้สนามเหย้าทั้งกรีฑาสถานแห่งชาติและราชมังคลากีฬาสถาน สำหรับเกมนานาชาติสลับหมุนเวียนไป ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ราชมังคลากีฬาสถานเป็นสนามเหย้าของทีมชาติไทยในเกมระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการ
การถ่ายทอดสด
ปัจจุบัน การแข่งขันในรายการกระชับมิตรของทีมชาติไทยจะถ่ายทอดสดผ่านไทยรัฐทีวี และรายการระดับเอเชียทางช่อง 7 เอชดี
ทีมงานผู้ฝึกสอน
ตำแหน่ง | ชื่อ |
---|---|
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | อากิระ นิชิโนะ |
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน | ธชตวัน ศรีปาน อนุรักษ์ ศรีเกิด อิสระ ศรีทะโร |
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู | ซาชา โทดิช |
ผู้ฝึกสอนด้านสมรรถภาพทางกาย | เนบอยซา สแตนแมโกวิช |
ผู้เล่น
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
รายชื่อผู้เล่น 23 คน สำหรับการแข่งขันนัดกระชับมิตรกับสาธารณรัฐคองโก และ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
จำนวนนัดที่ลงเล่นให้ทีมชาติและจำนวนประตูที่ยิงได้นับถึงวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562 หลังแข่งขันกับ อินโดนีเซีย
ผู้เล่นที่เคยถูกเรียกตัว
รายชื่อผู้เล่นที่เคยถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยในรอบ 12 เดือนหลังสุด:
หัวหน้าทีม
หมายเลขเสื้อ | ผู้เล่น | ดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|
23 | ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน | พ.ศ. 2562– |
4 | รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 | |
1 | กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ | พ.ศ. 2560–2561 |
10 | ธีรศิลป์ แดงดา | พ.ศ. 2559–รายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016, พ.ศ. 2562– |
3 | ธีราทร บุญมาทัน | พ.ศ. 2558–2560 |
19 | อดุลย์ หละโสะ | พ.ศ. 2557–2558 |
18 | สินทวีชัย หทัยรัตนกุล | พ.ศ. 2556–2557 |
2 | ภานุพงศ์ วงศ์ษา | พ.ศ. 2555–2556 |
6 | ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ | พ.ศ. 2553–2554 |
7 | ดัสกร ทองเหลา | พ.ศ. 2551–2552 |
10 | ตะวัน ศรีปาน | พ.ศ. 2550–2551 |
17 | สุธี สุขสมกิจ | พ.ศ. 2549 |
1
5 |
กิตติศักดิ์ ระวังป่า | พ.ศ. 2549, พ.ศ. 2551 |
6 | รุ่งโรจน์ สว่างศรี | พ.ศ. 2547–2548 |
8 | เทิดศักดิ์ ใจมั่น | พ.ศ. 2546 |
12 | สุรชัย จิระศิริโชติ | พ.ศ. 2545 |
13 | เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง | พ.ศ. 2544–พ.ศ. 2545, พ.ศ. 2547, พ.ศ. 2550 |
5 | โชคทวี พรหมรัตน์ | พ.ศ. 2542–พ.ศ. 2543, พ.ศ. 2546 |
7 | นที ทองสุขแก้ว | พ.ศ. 2539–พ.ศ. 2541 |
14 | วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ | พ.ศ. 2538 |
9 | ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน | พ.ศ. 2536 |
ผู้ฝึกสอนทีมชาติ
ผู้ฝึกสอนตั้งแต่ (พ.ศ. 2499–ปัจจุบัน)
ชื่อ | สัญชาติ | ช่วงเวลา | สถิติ | ผลงาน | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | Win % | ||||
บุญชู สมุทรโคจร | 2499–2507 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
ประเทียบ เทศวิศาล | 2508–2511 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
กึนเทอร์ กลอมบ์ | 2511–2518 | ? | ? | ? | ? | ? | โอลิมปิกฤดูร้อน 1968 - รอบแบ่งกลุ่ม
เอเชียนคัพ 1972 - อันดับ 3 | |
เนาวรัตน์ ปทานนท์ | 2518 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
เพเทอร์ ชนิทเกอร์ | 2519–2521 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
แวร์เนอร์ บิคเคลเฮาพท์ | 2522 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
วิชิต แย้มบุญเรือง | 2522 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
ศุภกิจ มีลาภกิจ | 2523 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
ประวิทย์ ไชยสาม | 2524–2526 | ? | 2 | 3 | ? | ? | ||
ยรรยง ณ หนองคาย | 2526 | ? | 2 | 3 | ? | ? | ||
เสนอ ไชยยงค์ | 2527 | ? | 2 | 3 | ? | ? | ||
บัวร์กฮาร์ด ซีเซอ | 2528–2529 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
เชิดศักดิ์ ชัยบุตร | 2530 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
ประวิทย์ ไชยสาม | 2531–2532 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
คาร์ลอส โรแบร์โต คาร์วัลโญ | 2532–2534 | ? | ? | ? | ? | ? | ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 20 – ชนะเลิศ เอเชียนเกมส์ 1990 - อันดับ 4 | |
ปีเตอร์ สตัปป์ | 2534–2537 | ? | 6 | 2 | 1 | ? | เอเชียนคัพ 1992 - รอบแบ่งกลุ่ม ซีเกมส์ 1993 - ชนะเลิศ | |
วรวิทย์ สัมปชัญญสถิตย์ | 2537 | ? | 2 | 3 | ? | ? | ||
ชัชชัย พหลแพทย์ | 2537–2538 | ? | ? | ? | ? | ? | ซีเกมส์ 1995 - ชนะเลิศ | |
ธวัชชัย สัจจกุล | 2539 | ? | ? | ? | ? | ? | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 1996 - ชนะเลิศ | |
อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ | 2539 | 15 | 9 | 3 | 3 | 60.0 | เอเชียนคัพ 1996 - รอบแบ่งกลุ่ม | |
เดทท์มาร์ คราเมอร์ | 2540 | ? | ? | ? | ? | ? | ||
วิทยา เลาหกุล | 2540–2541 | 24 | 10 | 9 | 5 | 41.7 | ซีเกมส์ 1997 - ชนะเลิศ | |
ปีเตอร์ วิธ | 2541–2546 | 101 | 46 | 25 | 30 | 45.5 | เอเชียนเกมส์ 1998 - อันดับ 4 ซีเกมส์ 1999 - ชนะเลิศ เอเชียนคัพ 2000 - รอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2000 - ชนะเลิศ คิงส์คัพ 2000 - ชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2002 - ชนะเลิศ เอเชียนเกมส์ 2002 - อันดับ 4 | |
คาร์ลอส โรแบร์โต คาร์วัลโญ | 2546–2547 | 13 | 6 | 2 | 5 | 46.1 | ||
ชัชชัย พหลแพทย์ | มิถุนายน – สิงหาคม 2547 | 8 | 2 | 1 | 5 | 25.0 | เอเชียนคัพ 2004 - รอบแบ่งกลุ่ม | |
ซิกกี เฮลด์ | สิงหาคม 2547–2548 | 11 | 4 | 4 | 3 | 36.4 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2004 - รอบแบ่งกลุ่ม | |
ชาญวิทย์ ผลชีวิน | 2548–มิถุนายน 2551 | 39 | 18 | 11 | 10 | 46.1 | ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 37 - ชนะเลิศ 2006 T&T Cup - ชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 38 - ชนะเลิศ 2007 AFC Asian Cup - รอบแบ่งกลุ่ม อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ 2007- รองชนะเลิศ | |
ปีเตอร์ รีด | กันยายน 2551–กันยายน 2552 | 15 | 8 | 4 | 3 | 53.3 | 2008 T&T Cup - ชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008 - รองชนะเลิศ | |
ไบรอัน ร็อบสัน | กันยายน 2552–มิถุนายน 2554 | 18 | 7 | 4 | 7 | 38.8 | ภูเก็ต กะตะกรุ๊ป คัพ 2009 (รายการการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมสโมสร) เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 – รอบแบ่งกลุ่ม | |
วินเฟรด เชเฟอร์ | กรกฎาคม 2554–มิถุนายน 2556 | 28 | 14 | 6 | 8 | 50 | ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 41 – อันดับ 4 เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 – รองชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 – อันดับ 3 | |
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง |
กรกฎาคม 2556–31 มีนาคม 2560 | 42 | 21 | 7 | 14 | 50 | ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 43 – รองชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 – ชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 – ชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 – ชนะเลิศ | |
มิลอวัน ราเยวัตส์ |
5 พฤษภาคม 2560–7 มกราคม 2562 | 20 | 8 | 7 | 5 | 40 | ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 – ชนะเลิศ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 – รองชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2018 – รอบรองชนะเลิศ เอเชียนคัพ 2019 (นัดที่ 1) | |
ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย |
7 มกราคม 2562–14 มิถุนายน 2562 | 7 | 2 | 1 | 4 | 28 | เอเชียนคัพ 2019 – รอบ 16 ทีม ไชนาคัพ 2019 – รองชนะเลิศ | |
อากิระ นิชิโนะ | 1 กรกฎาคม 2562– | 2 | 1 | 1 | 0 | 50 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบที่ 2 – |
ประวัติการแข่งขัน
ฟุตบอลโลก 2010
จากการจับสลากสำหรับรอบที่ 1 และ รอบที่ 2 ในการแข่งขันรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เพื่อหาตัวแทนไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยในรอบที่ 1 ทีมชาติไทยสามารถเอาชนะมาเก๊า ด้วยผลประตูรวม 13-2 และต้องพบกับเยเมนในรอบที่ 2 โดยทีมชาติไทยสามารถเอาชนะด้วยผลประตูรวม 2-1 โดยทีมชาติไทยถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับญี่ปุ่น, บาห์เรน, และ โอมาน ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก
เอเอฟซีรอบที่ 3 : กลุ่ม 2
|
|
ฟุตบอลโลก 2014จากการจับฉลากสำหรับรอบที่ 2 ในการแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชีย เพื่อหาตัวแทนไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล โดยในรอบที่ 2 ทีมชาติไทยลงเล่นนัดแรกที่นิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยมชนะไป 1-0 และบุกไปเยือนด้วยผลเสมอ 2-2 สามารถเอาชนะปาเลสไตน์ ด้วยผลประตูรวม 3-2 โดยทีมชาติไทยถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย, และ โอมาน ในรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก โดยทีมชาติไทยชุดนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนบอกว่ามีลุ้นกว่าทุกชุดของทีมชาติไทยที่จะผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น โดยเชเฟอร์ทำสิ่งที่โค้ชทีมชาติคนก่อนๆไม่เคยทำ เช่น ความขยันไปดูฟุตบอลลีกในประเทศทุกคู่ ความอดทน วางรากฐานให้ทีมชาติไทย และอีกมากมาย ซึ่งผลของการเข้มงวดกับการฝึกซ้อมเตรียมตัวลงแข่งขัน ทำให้ผลงานในการลงเล่นรอบคัดเลือกนัดแรก ที่บุกไปแพ้ออสเตรเลีย 1-2 ชนิดที่น่าจะเก็บคะแนนกลับบ้านได้ ก่อนที่ในเกมนัดต่อมาจะเอาชนะโอมาน 3-0 เรียกศรัทธาจากแฟนบอลกลับคืนมา และในเกมนัดที่สาม ซึ่งทีมชาติไทยสามารถเปิดราชมังคลากีฬาสถาน ยันเสมอซาอุดิอาระเบียได้สำเร็จด้วยสกอร์ 0-0 แม้แฟนบอลจะผิดหวังกับสกอร์ที่ออกมา เนื่องจากกระแส ณ ขณะนั้นที่มองว่าซาอุดิอาระเบียกำลังฟอร์มตก แต่หากไปดูสถิติการพบกันก่อนหน้านั้นที่ไทยแพ้ซาอุดิอาระเบีย 10 จาก 11 นัด ย่อมแสดงให้เห็นว่าเกมนี้ ทีมชาติไทยทำผลงานได้ตามเป้าหมายแล้ว การเก็บคะแนนได้ถึง 4 คะแนน จาก 3 นัด ในกลุ่มที่มีแต่ทีมเต็งเข้ารอบทั้งสิ้นนั้น ทำให้ทีมชาติไทยได้รับการจับตามองว่าจะสามารถสอดแทรกขึ้นมาแย่งตั๋วเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ในเกมนัดที่สี่ ซึ่งถือว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญต่อการผ่านเข้ารอบคัดเลือกต่อไป ไทยบุกไปแพ้ซาอุดิอาระเบีย 0-3 โดยในช่วงท้ายเกมส์ นักฟุตบอลทั้งสองทีมมีเหตุกระทบกระทั่งกันด้วย ทำให้เกมนัดที่ห้า ซึ่งไทยกลับมาเปิดสนามศุภชลาศัย พบออสเตรเลีย จึงถือว่ามีความหมายอย่างมาก โดยเกมการแข่งขัน ทีมชาติไทยเล่นได้เหนือกว่าออสเตรเลียเล็กน้อย แต่ไม่สามารถทำประตูออสเตรเลียได้ จนกระทั่งมาถูกทีมเยือนทำประตูในครึ่งหลัง เป็นผลให้ทีมชาติไทยแพ้ไปในที่สุด 0-1 โอกาสผ่านเข้าไปคัดเลือก 10 ทีมสุดท้ายเลือนลางเต็มที แต่หลังจบเกมนัดนั้น เพียงไม่กี่ขั้วโมง ทีมชาติไทยก็มีข่าวดีเมื่อโอมานสามารถบุกไปเสมอซาอุดิอาระเบีย 0-0 ทำให้ตารางคะแนนที่ออกมาหลังจบเกมนัดที่ห้า ออสเตรเลียผ่านเข้ารอบไปแล้ว แต่อีกสามทีมที่เหลือยังมีคะแนนเบียดกัน และยังมีโอกาสเข้ารอบ ด้วยกันทั้งหมด ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ทีมชาติไทยแพ้ทีมชาติโอมาน ไป 2 – 0 ขณะที่ออสเตรเลียชนะซาอุดิอาระเบียไป 4 – 2 ทีมชาติไทยตกรอบคัดเลือกโดยเป็นที่ 4 ของกลุ่ม เอเอฟซีรอบที่ 3 : กลุ่ม ดีแม่แบบ:2014 FIFA World Cup qualification – AFC Third Round Group D |
ฟุตบอลโลก 2018
ตารางสรุปคะแนน
อันดับ | ทีม | เล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ต่าง | คะแนน | การผ่านเข้ารอบ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ไทย (Q) | 6 | 4 | 2 | 0 | 14 | 6 | +8 | 14 | รอบที่ 3 และ เอเชียน คัพ | — | 2–2 | 1–0 | 4–2 | — | |
2 | อิรัก (Q) | 6 | 3 | 3 | 0 | 13 | 6 | +7 | 12 | 2–2 | — | 1–0 | 5–1 | — | ||
3 | เวียดนาม (Q) | 6 | 2 | 1 | 3 | 7 | 8 | −1 | 7 | เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก รอบที่ 3 | 0–3 | 1–1 | — | 4–1 | — | |
4 | จีนไทเป (Q) | 6 | 0 | 0 | 6 | 5 | 19 | −14 | 0 | เอเชียนคัพ รอบคัดเลือกเพลย์ออฟ | 0–2 | 0–2 | 1–2 | — | — | |
5 | อินโดนีเซีย (D) | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากฟีฟ่าสั่งระงับการแข่งขันหลังจากเกิดปัญหาการแทรกแซงการเมืองสู่วงการฟุตบอล[a] | — | — | — | — | — |
- ↑ On 30 May 2015, FIFA announced that the Football Association of Indonesia (PSSI) was suspended with immediate effect for governmental interference.[17] On 3 June 2015, the AFC confirmed that Indonesia have been excluded from the qualifying competition, and all matches involving them have been cancelled.[18]
การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่แฟนบอลทีมชาติไทยคาดหวังมากที่สุด เนื่องจากชุดนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนตกเป็นของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งสามารถพาทีมชุดนี้คว้าแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลระดับอาเซียนกลับประเทศได้หมดแล้ว ทั้งซีเกมส์ 2013 และ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014[19] รวมทั้งการจับสลากแบ่งกลุ่มในการแข่งขันในรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558 ซึ่งไทยอยู่ในกลุ่มเอฟร่วมกับอิรัก ซึ่งมีอันดับโลกฟีฟ่าต่ำสุดในโถที่ 1 ซึ่งเป็นหัวแถวของเอเชีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย ซึ่ง 2 ประเทศนี้อยู่ในเขตอาเซียน และไต้หวัน ซึ่งมีอันดับโลกฟีฟ่าต่ำสุดในเอเชีย จึงนับว่าเป็นเรื่องง่ายของไทยที่จะผ่านไปเล่นในรอบที่ 3[20]
และนัดแรกก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เพราะการแข่งขันระหว่างไทยกับเวียดนามที่ราชมังคลากีฬาสถานเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่ง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ในขณะนั้นส่งเรื่องไปยังฟีฟ่า และได้รับอนุมัติให้เลื่อนออกมาหลังไปทับกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์[21] ไทยสามารถเอาชนะเวียดนามได้ 1-0 จากปกเกล้า อนันต์ ในนาทีที่ 81[22] แต่แล้วในวันที่ 30 พฤษภาคม ก็เกิดเหตุการณ์โชคร้ายของทีมไทย เมื่ออินโดนีเซียถูกฟีฟ่าสั่งแบนจากการนำการเมืองเข้ามาแทรกแทรงวงการฟุตบอล หมดสิทธิ์ลงแข่งฟุตบอลโลก[23] แต่เกียรติศักดิ์ กุนซือ ช้างศึก เห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะการแข่งขันจะลดลงถึง 2 นัด ทำให้มีเวลาเตรียมทีมและฝึกซ้อมมากกว่าเดิม[24] แล้วก็เป็นผล เพราะเมื่อ 16 มิถุนายน ไทยสามารถบุกไปชนะไต้หวันได้ถึงถิ่น 2-0 จาก ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 21 และ 39[25] และเปิดบ้านยันเสมอกับอิรักเมื่อ 8 กันยายน ไป 2-2 จากจุดโทษของ ธีราทร บุญมาทัน ในนาทีที่ 80 และ มงคล ทศไกร ในนาทีที่ 83[26] ต่อมาในวันที่ 13 ตุลาคม ไทยก็บุกไปชนะเวียดนามได้ถึง 3-0 จาก เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ในนาทีที่ 28, การสกัดเข้าประตูตัวเองของ ดิน เทียน ทันห์ ในนาทีที่ 56 และการต่อบอลอันสวยงาม 16 ครั้ง ก่อนปิดกล่องที่ ธีราทร บุญมาทัน ในนาทีที่ 70[27][28] และในวันที่ 12 พฤศจิกายน ไทยก็เปิดบ้านเอาชนะไต้หวันไป 4-2 จาก ธีรศิลป์ แดงดา ในนาทีที่ 41, ปกเกล้า อนันต์ ในนาทีที่ 52, อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 72 และ ธนา ชะนะบุตร ในนาทีที่ 74[29]
และนัดสุดท้ายในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559 ที่สนามกลางในประเทศอิหร่าน ซึ่งอิรักใช้แข่งเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองอันไม่สงบภายในประเทศอิรัก[30] ไทยสามารถยันเสมออิรักได้ 2-2 จาก มงคล ทศไกร ในนาทีที่ 40 และ อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 86 ทำให้ไทยเข้ารอบที่ 3 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี และสามารถเข้ารอบสุดท้ายของศึก เอเชียนคัพ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีอีกด้วย[31][32]
เอเชียนคัพ 2019
อันดับ | ทีม | เล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ต่าง | คะแนน | การผ่านเข้ารอบ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (H) | 3 | 1 | 2 | 0 | 4 | 2 | +2 | 5 | รอบแพ้คัดออก |
2 | ไทย | 3 | 1 | 1 | 1 | 3 | 5 | −2 | 4[a] | |
3 | บาห์เรน | 3 | 1 | 1 | 1 | 2 | 2 | 0 | 4[a] | |
4 | อินเดีย | 3 | 1 | 0 | 2 | 4 | 4 | 0 | 3 |
กฎการจัดอันดับ : เงื่อนไขรอบแบ่งกลุ่ม
(H) เจ้าภาพ.
หมายเหตุ :
การแข่งขัน
การแข่งขันที่สำคัญ
# | วันที่ | สถานที่ | คู่แข่ง | สกอร์ | ผล | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 26/11/56 | เมลเบิร์น, ประเทศออสเตรเลีย | บริเตนใหญ่ | 0-9 | แพ้ | การแข่งขันของทีมชาติไทยที่แพ้สูงสุด |
2. | 19/10/68 | เอสตาดีโอโนว์กัมป์, เลออน | กัวเตมาลา | 4-1 | แพ้ | การแข่งขันและประตูครั้งแรกของทีมชาติไทยในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ |
3. | 24/5/71 | กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย | บรูไน | 10-0 | ชนะ | การแข่งขันของทีมชาติไทยที่ชนะสูงสุด |
4. | 19/5/72 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | กัมพูชา กัมพูชา | 2-2 จุดโทษ 3-5 | ชนะ | ทีมชาติไทยคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน เอเชียนคัพ 1972 |
5. | 4/6/83 | สนามตองแตมุน, โซล | ไนจีเรีย | 0-0 | เสมอ | |
6. | 12/6/83 | สนามชอนจู, ชอนจู | สหรัฐอเมริกา | 3-2 | แพ้ | |
7. | 15/4/84 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | ญี่ปุ่น | 5-2 | ชนะ | |
8. | 21/6/92 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | เกาหลีใต้ | 2-1 | ชนะ | เอเชียนคัพ 1992 รอบคัดเลือก |
9. | 29/6/93 | สิงคโปร์ | เมียนมาร์ | 4-3 | ชนะ | เริ่มประสบความสำเร็จในระดับทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
10. | 15/9/96 | สนามกีฬาแห่งชาติ, สิงคโปร์ | มาเลเซีย | 1-0 | ชนะ | ชนะการแข่งขัน อาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ รอบชิงชนะเลิศ |
11. | 16/2/96 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | ฟินแลนด์ | 5-2 | ชนะ | |
12. | 13/2/97 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | โรมาเนีย | 1-0 | ชนะ | |
13. | 15/3/97 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | ญี่ปุ่น | 3-1 | ชนะ | |
14. | 14/12/98 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | เกาหลีใต้ | 2-1 | ชนะ | |
15. | 23/2/00 | ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร | บราซิล | 0-7 | แพ้ | |
16. | 21/12/04 | ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร | เยอรมนี | 1-5 | แพ้ | |
17. | 6/6/07 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | เนเธอร์แลนด์ | 1-3 | แพ้ | |
18. | 3/10/07 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 1-1 | เสมอ | การแข่งขันครั้งสุดท้ายของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในนามทีมชาติไทย |
19. | 28/3/09 | สนามศุภชลาศัย, กรุงเทพมหานคร | นิวซีแลนด์ | 3-1 | ชนะ | การแข่งขันครั้งสุดท้ายของ ธชตวัน ศรีปาน ในนามทีมชาติไทย |
20. | 16/5/10 | สนามกีฬาเคปทาวน์, เคปทาวน์ | แอฟริกาใต้ | 4-0 | แพ้ | |
21. | 2/9/11 | สนามกีฬาซันคอร์ป, บริสเบน | ออสเตรเลีย | 2-1 | แพ้ | การแข่งขันครั้งแรกกับออสเตรเลีย |
22. | 6/9/11 | ราชมังคลากีฬาสถาน, กรุงเทพมหานคร | โอมาน | 3-0 | ชนะ |
ผลการแข่งขันหัวต่อหัว
ผลการแข่งขันหัวต่อหัวของทีมชาติไทย | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ทีม | ตั้งแต่ | ถึง | จำนวนเกมส์ | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ต่าง | สมาพันธ์ | |
อัฟกานิสถาน | 2015 | 2015 | 1 | 1 | 0 | 0 | 2 | 0 | +2 | AFC | |
ออสเตรเลีย | 1982 | 2017 | 7 | 0 | 1 | 6 | 4 | 17 | −13 | AFC | |
บาห์เรน | 1980 | 2019 | 8 | 2 | 4 | 2 | 8 | 9 | −1 | AFC | |
บังกลาเทศ | 1973 | 2012 | 14 | 9 | 3 | 2 | 29 | 11 | +18 | AFC | |
เบลารุส | 2017 | 2017 | 1 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | UEFA | |
ภูฏาน | 2012 | 2012 | 1 | 1 | 0 | 0 | 5 | 0 | +5 | AFC | |
บราซิล | 2000 | 2000 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 7 | −7 | CONMEBOL | |
บรูไน | 1971 | 1997 | 7 | 6 | 1 | 0 | 33 | 5 | +28 | AFC | |
บัลแกเรีย | 1968 | 1996 | 2 | 0 | 0 | 2 | 0 | 13 | −13 | UEFA | |
กัมพูชา | 1957 | 1997 | 15 | 8 | 5 | 2 | 36 | 17 | +19 | AFC | |
แคเมอรูน | 2015 | 2015 | 1 | 0 | 0 | 1 | 2 | 3 | −1 | CAF | |
จีน | 1975 | 2019 | 28 | 5 | 5 | 18 | 24 | 61 | −37 | AFC | |
จีนไทเป | 1963 | 2015 | 9 | 4 | 1 | 4 | 16 | 16 | 0 | AFC | |
เช็กเกีย | 1968 | 1968 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 8 | −8 | UEFA | |
เดนมาร์ก | 2009 | 2010 | 2 | 0 | 1 | 1 | 2 | 5 | −3 | UEFA | |
อียิปต์ | 1998 | 1998 | 1 | 0 | 1 | 0 | 1 | 1 | 0 | CAF | |
เอสโตเนีย | 2000 | 2004 | 2 | 1 | 1 | 0 | 2 | 1 | +1 | UEFA | |
ฟินแลนด์ | 1996 | 2000 | 4 | 3 | 1 | 0 | 11 | 3 | +8 | UEFA | |
กาบอง | 2018 | 2018 | 1 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | CAF | |
เยอรมนี | 2004 | 2004 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 5 | −4 | UEFA | |
กานา | 1982 | 1983 | 2 | 0 | 0 | 2 | 2 | 6 | −4 | CAF | |
กัวเตมาลา | 1968 | 1968 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 4 | −3 | CONCACAF | |
ฮ่องกง | 1961 | 2018 | 26 | 9 | 6 | 11 | 39 | 33 | +6 | AFC | |
อินเดีย | 1962 | 2019 | 23 | 11 | 6 | 6 | 37 | 26 | +11 | AFC | |
อินโดนีเซีย | 1957 | 2019 | 68 | 33 | 17 | 18 | 119 | 80 | +39 | AFC | |
อิหร่าน | 1972 | 2013 | 14 | 0 | 3 | 11 | 5 | 32 | −27 | AFC | |
อิรัก | 1972 | 2017 | 17 | 2 | 5 | 10 | 18 | 45 | −27 | AFC | |
อิสราเอล | 1973 | 1973 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 6 | −6 | UEFA | |
ญี่ปุ่น | 1962 | 2017 | 19 | 1 | 3 | 15 | 11 | 49 | −38 | AFC | |
จอร์แดน | 2004 | 2016 | 7 | 1 | 5 | 1 | 4 | 3 | +1 | AFC | |
คาซัคสถาน | 1998 | 2006 | 4 | 2 | 2 | 0 | 5 | 3 | +2 | UEFA | |
เคนยา | 1990 | 2017 | 2 | 2 | 0 | 0 | 3 | 1 | +2 | CAF | |
คูเวต | 1972 | 2014 | 12 | 4 | 1 | 7 | 18 | 30 | −12 | AFC | |
คีร์กีซสถาน | 2001 | 2001 | 1 | 1 | 0 | 0 | 3 | 1 | +2 | AFC | |
ลาว | 1961 | 2010 | 12 | 10 | 1 | 1 | 45 | 14 | +31 | AFC | |
ลัตเวีย | 2005 | 2005 | 1 | 0 | 1 | 0 | 1 | 1 | 0 | UEFA | |
เลบานอน | 1998 | 2014 | 7 | 3 | 2 | 2 | 12 | 15 | −3 | AFC | |
ไลบีเรีย | 1984 | 1984 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 2 | −1 | CAF | |
ลิเบีย | 1977 | 1977 | 1 | 0 | 1 | 0 | 2 | 2 | 0 | CAF | |
ลีชเทินชไตน์ | 1981 | 1981 | 1 | 1 | 0 | 0 | 2 | 0 | +2 | UEFA | |
ลักเซมเบิร์ก | 1980 | 1980 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 1 | −1 | UEFA | |
มาเก๊า | 2007 | 2007 | 2 | 2 | 0 | 0 | 13 | 2 | +11 | AFC | |
มาเลเซีย | 1959 | 2018 | 96 | 29 | 31 | 36 | 135 | 138 | −3 | AFC | |
มัลดีฟส์ | 1996 | 2012 | 3 | 3 | 0 | 0 | 19 | 0 | +19 | AFC | |
มอลตา | 1981 | 1981 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 2 | −2 | UEFA | |
โมร็อกโก | 1980 | 1980 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 2 | −1 | CAF | |
พม่า | 1957 | 2017 | 48 | 20 | 14 | 14 | 89 | 62 | +27 | AFC | |
เนปาล | 1982 | 2008 | 3 | 3 | 0 | 0 | 12 | 1 | +11 | AFC | |
เนเธอร์แลนด์ | 2007 | 2007 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 3 | −2 | UEFA | |
นิวซีแลนด์ | 1976 | 2014 | 5 | 2 | 2 | 1 | 9 | 7 | +2 | OFC | |
ไนจีเรีย | 1983 | 1983 | 1 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | CAF | |
ไอร์แลนด์เหนือ | 1997 | 1997 | 1 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | UEFA | |
เกาหลีเหนือ | 1978 | 2017 | 20 | 5 | 4 | 11 | 18 | 32 | −14 | AFC | |
นอร์เวย์ | 1965 | 2012 | 2 | 0 | 0 | 2 | 0 | 8 | −8 | UEFA | |
โอมาน | 1986 | 2019 | 10 | 4 | 1 | 5 | 10 | 9 | +1 | AFC | |
ปากีสถาน | 1960 | 2001 | 5 | 4 | 0 | 1 | 16 | 7 | +9 | AFC | |
ปาเลสไตน์ | 2011 | 2011 | 2 | 1 | 1 | 0 | 3 | 2 | +1 | AFC | |
ปาปัวนิวกินี | 1984 | 1984 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 4 | −3 | OFC | |
ฟิลิปปินส์ | 1971 | 2018 | 21 | 17 | 2 | 2 | 65 | 10 | +55 | AFC | |
โปแลนด์ | 2010 | 2010 | 1 | 0 | 0 | 1 | 1 | 3 | −2 | UEFA | |
กาตาร์ | 1992 | 2016 | 11 | 4 | 3 | 4 | 15 | 15 | 0 | AFC | |
ซาอุดีอาระเบีย | 1982 | 2017 | 16 | 1 | 1 | 14 | 9 | 42 | −33 | AFC | |
สิงคโปร์ | 1957 | 2018 | 62 | 33 | 17 | 12 | 107 | 62 | +45 | AFC | |
สโลวาเกีย | 2004 | 2018 | 2 | 0 | 1 | 1 | 3 | 4 | –1 | UEFA | |
แอฟริกาใต้ | 2010 | 2010 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 4 | −4 | CAF | |
เกาหลีใต้ | 1961 | 2016 | 61 | 8 | 12 | 41 | 43 | 120 | −77 | AFC | |
ศรีลังกา | 1979 | 2001 | 5 | 5 | 0 | 0 | 15 | 2 | +13 | AFC | |
สวีเดน | 1962 | 2003 | 5 | 0 | 1 | 4 | 4 | 13 | −9 | UEFA | |
ซีเรีย | 1978 | 2016 | 5 | 3 | 2 | 0 | 12 | 7 | +5 | AFC | |
ทาจิกิสถาน | 2003 | 2003 | 2 | 1 | 0 | 1 | 1 | 1 | 0 | AFC | |
ติมอร์-เลสเต | 2004 | 2018 | 2 | 2 | 0 | 0 | 15 | 0 | +15 | AFC | |
ตรินิแดดและโตเบโก | 2003 | 2018 | 2 | 2 | 0 | 0 | 4 | 2 | +2 | CONCACAF | |
เติร์กเมนิสถาน | 1998 | 1998 | 1 | 0 | 1 | 0 | 3 | 3 | 0 | AFC | |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 1986 | 2019 | 10 | 1 | 3 | 6 | 9 | 15 | −6 | AFC | |
สหรัฐ | 1987 | 1987 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 1 | −1 | CONCACAF | |
อุรุกวัย | 2019 | 2019 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | 4 | −4 | CONMEBOL | |
อุซเบกิสถาน | 1994 | 2017 | 8 | 5 | 0 | 3 | 18 | 15 | +3 | AFC | |
เวียดนาม | 1957 | 2019 | 23 | 14 | 5 | 4 | 41 | 18 | +23 | AFC | |
เยเมน | 1988 | 2007 | 6 | 2 | 4 | 0 | 9 | 5 | +4 | AFC | |
79 ประเทศ | 1948 | 2019 | 786 | 291 | 185 | 310 | 1204 | 1181 | +23 | ทั้งหมด | |
การแข่งขันล่าสุดกับ อินโดนีเซียในวันที่ 10 กันยายน 2019 |
สถิติฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย | ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปี | ผล | อันดับ | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ* | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ* | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย |
1930 - 1970 |
ไม่ได้เข้าร่วม | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - |
1974 | ไม่ผ่านเข้ารอบ | - | - | - | - | - | - | - | 4 | 0 | 0 | 4 | 0 | 13 |
1978 | - | - | - | - | - | - | - | 4 | 1 | 0 | 3 | 8 | 12 | |
1982 | - | - | - | - | - | - | - | 3 | 0 | 1 | 2 | 3 | 13 | |
1986 | - | - | - | - | - | - | - | 6 | 1 | 2 | 3 | 4 | 4 | |
1990 | - | - | - | - | - | - | - | 6 | 1 | 0 | 5 | 2 | 14 | |
1994 | - | - | - | - | - | - | - | 8 | 4 | 0 | 4 | 13 | 7 | |
1998 | - | - | - | - | - | - | - | 4 | 1 | 1 | 2 | 5 | 6 | |
2002 | - | - | - | - | - | - | - | 14 | 5 | 5 | 4 | 25 | 20 | |
2006 | - | - | - | - | - | - | - | 6 | 2 | 1 | 3 | 9 | 10 | |
2010 | - | - | - | - | - | - | - | 10 | 3 | 2 | 5 | 20 | 17 | |
2014 | - | - | - | - | - | - | - | 5 | 2 | 2 | 1 | 7 | 4 | |
2018 | - | - | - | - | - | - | - | 16 | 4 | 2 | 8 | 20 | 30 | |
2022 | ยังไม่แข่งขัน | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - |
รวม | - | - | - | - | - | - | - | 81 | 22 | 14 | 43 | 109 | 146 |
ประวัติในการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก
(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2535)
|
|
สถิติเอเอฟซี เอเชียนคัพ
เอเชียนคัพรอบสุดท้าย | เอเชียนคัพรอบคัดเลือก | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปี | ผลการแข่งขัน | อันดับ | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ* | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ* | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย |
1956 ถึง 1960 | ไม่ได้เข้าร่วม | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - | - |
1964 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | - | - | 3 | 0 | 1 | 2 | 4 | 9 |
1968 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | - | - | 4 | 2 | 0 | 2 | 5 | 4 |
1972 | อันดับ 3 | 5 | 0 | 3 | 2 | 6 | 9 | 2 | 1 | 0 | 1 | 10 | 1 | |
1976 | ถอนทีมหลังจากผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | - | - | 4 | 3 | 0 | 1 | 8 | 2 |
1980 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | - | - | 5 | 3 | 0 | 2 | 11 | 3 |
1984 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | - | - | 5 | 3 | 0 | 2 | 9 | 10 |
1988 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | - | - | 5 | 1 | 2 | 2 | 5 | 12 |
1992 | รอบที่ 1 | 3 | 0 | 2 | 1 | 1 | 5 | 2 | 2 | 0 | 0 | 3 | 1 | |
1996 | รอบที่ 1 | 3 | 0 | 0 | 3 | 2 | 13 | 6 | 4 | 2 | 0 | 31 | 5 | |
2000 | รอบที่ 1 | 3 | 0 | 2 | 1 | 2 | 4 | 6 | 4 | 1 | 1 | 13 | 8 | |
2004 | รอบที่ 1 | 3 | 0 | 0 | 3 | 1 | 9 | 6 | 3 | 0 | 3 | 10 | 7 | |
2007 | รอบที่ 1 | 3 | 1 | 1 | 1 | 3 | 5 | เข้ารอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพร่วม | ||||||
2011 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | - | 6 | 1 | 3 | 2 | 3 | 3 | |
2015 | ไม่ผ่านรอบคัดเลือก | - | - | - | - | - | 6 | 0 | 0 | 6 | 7 | 21 | ||
2019 | รอบ 16 ทีม | 4 | 1 | 1 | 2 | 4 | 7 | 6 | 4 | 2 | 0 | 14 | 6 | |
รวม | ดีที่สุด: อันดับ 3 | 24 | 2 | 9 | 13 | 19 | 52 | 61 | 30 | 10 | 21 | 119 | 822 |
สถิติเอเชียนเกมส์
(ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2545)
เอเชียนเกมส์ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ปี | รอบ | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย |
1962 |
|||||||
1966 | |||||||
1970 | |||||||
รอบรองชนะเลิศ | |||||||
รอบที่ 1 | |||||||
|
ประวัติการแข่งขันในอาเซียน
สถิติอาเซียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ
การแข่งขันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อไทเกอร์คัพและเอเอฟเอฟซูซูกิคัพ
|
สถิติซีเกมส์
ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2001 - ค.ศ. 2015 ใช้ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2017
ซีเกมส์ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
เจ้าภาพ/ปี | รอบ | ลงเล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย |
1959 | รองชนะเลิศ | 4 | 2 | 0 | 2 | 9 | 10 |
1961 | อันดับ 3 | 3 | 1 | 2 | 0 | 7 | 4 |
1965 | ชนะเลิศ | 3 | 2 | 1 | 0 | 6 | 3 |
1967 | อันดับ 3 | 4 | 2 | 0 | 2 | 9 | 8 |
1969 | รองชนะเลิศ | 3 | 1 | 1 | 1 | 4 | 4 |
1971 | อันดับ 3 | 5 | 1 | 2 | 2 | 7 | 8 |
1973 | รอบที่ 1 | 2 | 0 | 1 | 1 | 1 | 2 |
1975 | ชนะเลิศ | 3 | 1 | 2 | 0 | 5 | 4 |
1977 | รองชนะเลิศ | 4 | 1 | 1 | 2 | 3 | 6 |
1979 | อันดับ 3 | 5 | 2 | 2 | 1 | 6 | 5 |
1981 | ชนะเลิศ | 4 | 2 | 2 | 0 | 9 | 6 |
1983 | ชนะเลิศ | 5 | 3 | 1 | 1 | 10 | 4 |
สถิติ
ติดทีมชาติสูงสุด
|
ผู้ทำประตูสูงสุด
|
อันดับฟีฟ่า
พ.ศ. 2546 ||60Thailand's FIFA world rankings | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปี | อันดับ | เล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ดีที่สุด | แย่ที่สุด | ||
อันดับ | เปลี่ยนแปลง | อันดับ | เปลี่ยนแปลง | ||||||
พ.ศ. 2536 | 69 | 19 | 10 | 2 | 7 | 66 | +9 | 69 | –1 |
พ.ศ. 2537 | 85 | 4 | 0 | 1 | 3 | 67 | +2 | 85 | –8 |
พ.ศ. 2538 | 77 | 8 | 6 | 1 | 1 | 77 | +26 | 103 | –19 |
พ.ศ. 2539 | 57 | 18 | 11 | 3 | 4 | 50 | +11 | 72 | –4 |
พ.ศ. 2540 | 54 | 16 | 7 | 6 | 3 | 54 | +8 | 70 | –4 |
พ.ศ. 2541 | 45 | 20 | 9 | 5 | 6 | 43 | +8 | 60 | –7 |
พ.ศ. 2542 | 60 | 9 | 6 | 3 | 0 | 60 | +9 | 78 | –25 |
พ.ศ. 2543 | 61 | 24 | 13 | 5 | 6 | 57 | +3 | 65 | –6 |
พ.ศ. 2544 | 61 | 23 | 10 | 6 | 7 | 60 | +3 | 64 | –1 |
พ.ศ. 2545 | 66 | 11 | 5 | 3 | 3 | 60 | +4 | 71 | –5 |
11 | 5 | 2 | 4 | 54 | +15 | 75 | –9 | ||
พ.ศ. 2547 | 79 | 20 | 4 | 5 | 11 | 57 | +6 | 79 | –7 |
พ.ศ. 2548 | 111 | 2 | 0 | 1 | 1 | 80 | +1 | 111 | –8 |
พ.ศ. 2549 | 137 | 8 | 5 | 2 | 1 | 108 | +2 | 137 | –12 |
พ.ศ. 2550 | 121 | 20 | 11 | 6 | 3 | 107 | +15 | 126 | –8 |
พ.ศ. 2551 | 126 | 19 | 8 | 4 | 7 | 90 | +15 | 126 | –18 |
พ.ศ. 2552 | 105 | 8 | 3 | 3 | 2 | 105 | +7 | 124 | –3 |
พ.ศ. 2553 | 120 | 12 | 4 | 3 | 5 | 98 | +7 | 120 | –6 |
พ.ศ. 2554 | 122 | 11 | 3 | 5 | 3 | 114 | +10 | 132 | –18 |
พ.ศ. 2555 | 136 | 13 | 9 | 1 | 3 | 124 | +16 | 152 | –13 |
พ.ศ. 2556 | 146 | 6 | 1 | 0 | 5 | 135 | +6 | 146 | –5 |
พ.ศ. 2557 | 142 | 12 | 7 | 2 | 3 | 140 | +21 | 165 | –8 |
พ.ศ. 2558 | 133 | 11 | 7 | 2 | 2 | 129 | +13 | 145 | –11 |
พ.ศ. 2559 | 126 | 17 | 7 | 3 | 7 | 117 | +7 | 146 | –15 |
พ.ศ. 2560 | 130 | 9 | 3 | 1 | 5 | 126 | +6 | 138 | –7 |
เกียรติยศอื่น ๆ
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ (15 ครั้ง) : (พ.ศ. 2519, พ.ศ. 2522, พ.ศ. 2523, พ.ศ. 2524, พ.ศ. 2525, พ.ศ. 2527, พ.ศ. 2532, พ.ศ. 2533, พ.ศ. 2535, พ.ศ. 2537, พ.ศ. 2543, พ.ศ. 2549, พ.ศ. 2550, พ.ศ. 2559, พ.ศ. 2560)
- ฟุตบอลสามเส้าที่ไต้หวัน : (พ.ศ. 2514)
- ฟุตบอลสี่เส้าอินโดจีน (กรุงเทพ) : (พ.ศ. 2532)
- บรูไนเกมส์ : (พ.ศ. 2533)
- อินดีเพนเดนต์คัพ (อินโดนีเซีย) : (พ.ศ. 2537)
- T&T Cup : (พ.ศ. 2549, พ.ศ. 2551)
- ภูเก็ตกะตะกรุ๊ปคัพ (การแข่งขันกระชับมิตรกับทีมสโมสร) : (พ.ศ. 2552)
ผลงานชุดเยาวชน
ระดับโลก
- ฟุตบอลโลกเยาวชน ยู 20 - ไม่เคยเข้าร่วมเล่น
- ฟุตบอลโลกเยาวชน ยู 17 - เข้าร่วมเล่น 2 ครั้ง - 1997 (อียิปต์), 1999 (นิวซีแลนด์)
ระดับเอเชีย
- ฟุตบอลเอเชียเยาวชน ยู 20 - ชนะเลิศ 2 ครั้ง - 1962, 1969
- ฟุตบอลเอเชียเยาวชน ยู 17 - ชนะเลิศ 1 ครั้ง - 1998 (กาตาร์)
- ฟุตบอลเอเชียเยาวชน ยู 14 - รองชนะเลิศ - 2001 (กรุงเทพ)
ระดับอาเซียน
- ฟุตบอลอาเซียนเยาวชน ยู 23 - ชนะเลิศ 1 ครั้ง - 2005 (กรุงเทพ)
- ฟุตบอลอาเซียนเยาวชน ยู 19 - ชนะเลิศ 5 ครั้ง - 2002, 2009 , 2011 , 2015 , 2017
- ฟุตบอลอาเซียนเยาวชน ยู 16 - ชนะเลิศ 3 ครั้ง - 2007 (กัมพูชา) ,2011 (เวียงจันทน์), 2015 (กัมพูชา)
ผู้สนับสนุน
ฟุตบอลทีมชาติไทยมีผู้สนับสนุนหลักประกอบด้วย เครื่องดื่มตราช้าง,โตโยต้า,เมืองไทยประกันภัย, วาริกซ์, เถ้าแก่น้อย, แกรนด์สปอร์ต, เอ็ม 150, ซิตี้แบงค์, สายการบินไทยแอร์เอเชีย,แบรนด์ และ เน็กซ์แคร์
ฟุตบอลทีมชาติไทยในวัฒนธรรมสมัยนิยม
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม ทีมชาติไทยได้มีการถูกอ้างถึงในหลายสื่อ เช่น ภาพยนตร์หมากเตะรีเทิร์นส, ในการ์ตูนญี่ปุ่นกัปตันซึบาสะ และการ์ตูนไทย มหาสนุก รวมไปถึงยังมีการดัดแปลงเป็นตัวละครในวิดีโอเกมชื่อดังหลาย ๆ เกม เช่น เกมชุดแชมเปียนชิพเมเนเจอร์ เกมชุดฟุตบอลเมเนเจอร์ เกมชุดฟีฟ่า และเกมวินนิงอีเลฟเวนภาค 2000 ยู-23 และล่าสุดกับเกมโปร อีโวลูชั่น ซ็อคเกอร์ 2009 นอกจากนั้นแล้ว โปรแกรมเมอร์ชาวไทยบางคนยังได้นำเกมบางเกมเหล่านี้ เช่น วินนิงอีเลฟเวน หรือแชมเปียนชิพเมเนเจอร์ มาดัดแปลงเพื่อเพิ่มทีมชาติไทย นักฟุตบอลไทย และรายการการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับทีมชาติไทยลงไปอีกด้วย
หมากเตะรีเทิร์นส
ในภาพยนตร์หมากเตะรีเทิร์นส เรื่องราวของพงศ์นรินทร์ผู้ฝึกสอนฟุตบอลชาวไทยที่มีฝีมือควบคุมทีมระดับสูงกับน้าสาวเจ๊มิ่งที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 โดยทั้งสองคนต้องการพาทีมฟุตบอลไทยไปแข่งฟุตบอลโลกโดยพร้อมที่จะใช้ค่าใช้จ่าย 192 ล้านบาทที่ได้มาจากรางวัล แต่ปรากฏว่าหลังจากคุยกับทาง "สมาพันธ์ฟุตบอลไทย" ทางสมาพันธ์ไม่เห็นด้วยไม่ยอมให้พงศ์นรินทร์มาเป็นผู้ฝึกสอน โดยได้แต่งตั้งให้ผู้ฝึกสอนชาวบราซิลมาควบคุมทีมแทน เจ๊มิ่งกับหลานชายเลยโมโหและเดินทางไป "ราชรัฐอาวี" ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน และสนับสนุนทีมฟุตบอลราชรัฐอาวีจนในที่สุดทีมฟุตบอลอาวีได้ชนะผ่านเข้ารอบจนถึงรอบสุดท้าย และต้องตัดสินกับทีมชาติไทยที่นำโดยผู้ฝึกสอนชาวบราซิล เพื่อจะชิงสิทธิที่จะไปร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลก
กัปตันซึบาสะ
ในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องกัปตันซึบาสะ ทีมเยาวชนไทยได้แข่งขันกับทีมเยาวชนญี่ปุ่นในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชน โดยทีมไทยมีผู้เล่นหลัก สามพี่น้องนักตะกร้อ ฟ้าลั่น สกุล ชนะ กรสวัสดิ์ เล่นในตำแหน่งกองหน้า และมี บุนนาค สิงห์ประเสริฐ อดีตแชมป์มวยไทย ที่เล่นให้กับสโมสรอัตเลติโกเดมาดริดในสเปน ในตำแหน่งกองหลัง โดยเป็นกัปตันทีม และเป็นตัวกดดันซึบาสะจนเล่นไม่ออก ในครึ่งแรกนั้นทีมไทยนำทีมญี่ปุ่นถึง 4 ประตูต่อ 1 แต่ในช่วงครึ่งหลัง วากาบายาชิ และ อาโออิ ได้ลงเล่น ทำให้ญี่ปุ่นพลิกล็อกชนะไป 5 ประตูต่อ 4 (วากาบายาชิ ในขณะนั้น ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวมาก)
โดยนิตยสารอะเดย์ฉบับที่ 70 ได้มีการกล่าวถึงการ์ตูนกัปตันซึบาสะ ที่ทีมชาติญี่ปุ่นได้แข่งกับทีมชาติไทยนี้
มหาสนุก
ในหนังสือการ์ตูนไทยมหาสนุก ได้เคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติไทย โดยเขียนเป็นเรื่องสั้นมีภาพประกอบโดย เฟน สตูดิโอ พิมพ์ลงในมหาสนุก ฉบับกระเป๋า เล่มที่ 25 เดือน กรกฎาคม 2533 ปักษ์แรก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ หนุ่มไทย 3 คน ที่ชอบเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ แต่เนื่องจากไม่มีเงินซื้อลูกฟุตบอล จึงได้ฝึกเล่นฟุตบอลกับลูกมะพร้าวอยู่เป็นเวลานาน จนมาวันหนึ่ง ผู้จัดการทีมชาติไทยได้ขับรถเที่ยวต่างจังหวัด และได้เห็นฝึมือของทั้งสามคนนี้ จึงซื้อลูกฟุตบอลมาให้ พร้อมกับชวนไปเล่นเป็นตัวแทนทีมชาติไทย จนในที่สุด ทีมชาติไทยได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย โดยในระหว่างการแข่งได้เจอกับคู่แข่งที่เก่งกาจไม่ว่านักเตะชื่อดังอย่างรืด คึลลิต, มาร์โก ฟัน บัสเติน และแกรี ลินิเกอร์ ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมไทยชนะ และผ่านไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในตอนจบนั้น ทีมชาติไทยกำลังจะทำประตูชนะการแข่งขัน แต่เกิดแผ่นดินไหวขึ้น และโลกระเบิด ทำให้ทีมไทยไม่ได้แชมป์บอลโลกในครั้งนั้น
อินาสึมะอิเลฟเวน GO กาแลคซี่
ในอนิเมะและเกม อินาสึมะอิเลฟเวน GO กาแลคซี่ ทีมชาติไทยมีชื่อว่า มัคไทเกอร์ ซึ่งเป็นทีมชาติที่ร่วมการแข่งขันฟุตบอลฟรอนเทียร์อินเตอร์เนชันแนล วิชั่นทู โซนเอเชีย ซึ่งเป็นผู้ผ่านเข้ารอบการแข่งขันระหว่างทีมเดเซิร์ทไลออนของประเทศกาตาร์ โดยมี นภา ลาดำ เป็นกัปตันทีมและเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองหลังของทีม
การวิพากษ์วิจารณ์
ทีมชาติไทยเคยสร้างความอัปยศโดยพยายามแข่งกันแพ้กับทีมอินโดนีเซียในการแข่งขันไทเกอร์คัพ 1998 ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากทั้งสองทีมเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว แต่ผู้ชนะซึ่งจะเป็นที่หนึ่งของกลุ่มเอจะต้องเดินทางไปแข่งในรอบรองชนะเลิศกับทีมชาติเวียดนามที่ฮานอยในวันชาติเวียดนาม ครึ่งแรกต่างฝ่ายต่างพยายามไม่ยิงประตู แต่หลังจากมีการพูดคุยกันระหว่างกรรมการและผู้ฝึกสอน ครึ่งหลังจึงทำประตูได้ทีมละสองประตู จนกระทั่งใกล้หมดเวลา นักเตะของอินโดนีเซียยิงเข้าประตูตัวเอง ทีมชาติไทยจึงชนะไป 3 ต่อ 2 ประตู การแข่งขันนัดนี้ทำให้ทั้งสองทีมถูกปรับเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,400,000 บาท[34][35][36]
อ้างอิง
- ↑ ""อากิระ นิชิโนะ" คุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ ทีมชาติไทย U23". สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. 1 กรกฎาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2562.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 4 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2024.
- ↑ "Thailand matches, ratings and points exchanged". World Football Elo Ratings: Thailand. สืบค้นเมื่อ 24 November 2016.
- ↑ สถิติฟุตบอลในโอลิมปิก 1956
- ↑ บังยีแจงแม้วควักตังค์พาแข้งไทยบินซ้อมที่เรือใบ ข่าวจากสยามกีฬา
- ↑ "Bryan Robson to coach Thailand Bryan Robson has agreed to replace his former England team-mate Peter Reid as coach of Thailand". The Daily Telegraph. London. 23 September 2009. สืบค้นเมื่อ 27 April 2010.
- ↑ Singapore 1–3 Thailand: Sutee Suksomkit gives Bryan Robson crucial win
- ↑ "Bryan Robson resigns as Thailand manager". BBC Sport. 8 June 2011. สืบค้นเมื่อ 8 June 2011.
- ↑ "จิงโจ้เฉือนไทย 2-1 ประเดิมคัดบอลโลก". Manger Online. 2 September 2011. สืบค้นเมื่อ 2 September 2011.
- ↑ "แข้งไทยสุดยอด!ดับโอมาน 3-0 ประเดิมชัยนัดที่สองในฟุตบอลโลก 2014". Siamsport. 6 September 2011. สืบค้นเมื่อ 6 September 2011.
- ↑ http://www.soccerway.com/news/2012/December/14/aff-suzuki-cup-thailand-2-malaysia-0-3-1-agg/
- ↑ "ไทยเชือดสิงคโปร์ 1-0 รวมผลได้รองแชมป์อาเซียน". Siamsport. 22 December 2012. สืบค้นเมื่อ 22 December 2012.
- ↑ "ขุนพลช้างศึกฟอร์มเทพ!บุกขยี้จีนเละคาถิ่น 5-1". Siamsport. 15 June 2013. สืบค้นเมื่อ 15 June 2013.
- ↑ "ตั้งโค้ชง้วน คุมทีมชาติชุดใหญ่ประเดิมคัดเอเชียนคัพบุกอิหร่าน". Thairath. 22 August 2013. สืบค้นเมื่อ 22 August 2013.
- ↑ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (7 มกราคม 2562). "ถ้อยแถลงของนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์". fathailand.org. สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ https://www.facebook.com/warrixofficial/photos/a.1620139491615372.1073741827.1620139098282078/1620139468282041/?type=3&theater
- ↑ "Current allocation of FIFA World Cup™ confederation slots maintained". FIFA.com. 30 May 2015.
- ↑ "Impact of Football Association of Indonesia suspension". AFC. 3 June 2015.
- ↑ ซิโก้-เกียรติศักด์ เสนาเมือง ผู้ทวงคืนยุคทองบอลไทย
- ↑ ไทยไม่หนัก!ชนอิรัก-เวียดนามคัดบอลโลก จากสยามกีฬารายวัน
- ↑ บังยีเผยฟีฟ่าอนุมัติเลื่อนไทย-เวียดนามเตะ24พ.ค.นี้ จากสยามกีฬารายวัน
- ↑ ปกเกล้า ซัดตูม!! 'ช้างศึก'บด'ญวน' 10 คน 1-0 ประเดิม 3 แต้ม จากไทยรัฐ
- ↑ ฟีฟ่าสั่งแบนอินโดห้ามเล่นคัดบอลโลก
- ↑ 'ซิโก้' ยิ้มบอลโลก! หลัง 'อิเหนา' โดนแบน เชื่อ'ช้างศึก'เข้ารอบ 12 ทีมแน่ จากไทยรัฐ
- ↑ มุ้ยเหมา! 'ช้างศึก' บุกยำไต้หวัน 2-0 นำฝูงคัดบอลโลก จากไทยรัฐ
- ↑ 'ช้างศึก' ตายยาก! ไล่เจ๊า 'อิรัก' สุดมัน 2-2 คัดบอลโลก จากไทยรัฐ
- ↑ 'ช้างศึก' สุดฮอต! บุกถลุง 'เวียดนาม' คาบ้าน 3-0 ศึกคัดบอลโลก จากไทยรัฐ
- ↑ เป็นไงครับ! ช้างศึกเข้าฝักเข่นเวียดนามยับ 3-0
- ↑ ไทย แซง ไต้หวัน 4-2 จ่อลิ่ว 12 ทีม จากไทยรัฐ
- ↑ “อิรัก” ใช้สนามอิหร่านคัดบอลโลก จากผู้จัดการออนไลน์
- ↑ 'ช้างศึก' ทำได้! บุกเจ๊า 'อิรัก' 2-2 ผงาดแชมป์กลุ่มเอฟคัดบอลโลก จากไทยรัฐ
- ↑ ชมอีกครั้ง'ไฮไลต์'สุดสะใจ!ช้างศึกไทย เสมอ 'อิรัก'! เป็นแชมป์กลุ่ม
- ↑ 33.0 33.1 Roberto Mamrud. "Thailand – Record International Players". RSSSF. สืบค้นเมื่อ 6 กรกฎาคม 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ The New York Times, Indonesia and Thailand Fined, เข้าถึงเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2550
- ↑ Game Theory and Business Strategy, Autogoal in the Tiger Cup, เข้าถึงเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2550
- ↑ 1998 Tiger Cup - Vietnam, เข้าถึงเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2550
ดูเพิ่ม
- ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
- ฟุตซอลทีมชาติไทย
- ฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
- ฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี
- ฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
- ฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี
- ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ
- ฟุตบอลในประเทศไทย
แหล่งข้อมูลอื่น
- สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- หน้าเว็บทีมชาติไทย ในเว็บไซต์ฟีฟ่า (อังกฤษ)
- ไทยลีก หน้าแฟนเพจ