ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระมหาธรรมราชาที่ 1"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
| image = ภาพ:Mahathammaracha I.JPG|250px|center|
| image = ภาพ:Mahathammaracha I.JPG|250px|center|
| full_name = พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาธรรมราชาธิราช
| full_name = พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาธรรมราชาธิราช
| death_death = พ.ศ. 191900
| death_death = พ.ศ. 1919
| succession = พระยาสุโขทัย
| succession = พระยาสุโขทัย
| reign = พ.ศ. 1890 - 1911
| reign = พ.ศ. 1890 - 1911
บรรทัด 12: บรรทัด 12:
| successor = [[พระมหาธรรมราชาที่ 2]]
| successor = [[พระมหาธรรมราชาที่ 2]]
|}}
|}}
'''พระมหาธรรมราชาที่ 1''' หรือ '''พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธิราช'''<ref name="จารึกวัดป่ามะม่วง">{{cite book | author = ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย | title = จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาเขมร) ด้านที่ 1 | url = https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/1330 | publisher =ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) | location = กรุงเทพฯ | year = 2549}}</ref>, '''พระบาทกมรเตงอัญฦๅไทยราช '''<ref name="จารึกวัดป่ามะม่วง"/>, '''พระยาลือไทย'''<ref>ศานติ ภักดีคำ. "พระนามกษัตริย์สุโขทัย : ความสัมพันธ์กับเขมรโบราณ". ''ดำรงวิชาการ''. 6:1 (มกราคม-มิถุนายน 2550), หน้า 92</ref> หรือ '''พระยาลิไทย'''<ref>''นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย'', หน้า 33</ref> (ครองราชย์ พ.ศ. 1890 - 1911) เป็นพระมหากษัตริย์สุโขทัยลำดับที่ 6 ในราชวงศ์พระร่วง เป็นพระราชโอรสของ[[พระยาเลอไทย]] และพระราชนัดดาของ[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]]
'''พระมหาธรรมราชาที่ 1''' หรือ '''พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธิราช'''<ref name="จารึกวัดป่ามะม่วง">{{cite book | author = ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย | title = จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาเขมร) ด้านที่ 1 | url = https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/1330 | publisher =ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) | location = กรุงเทพฯ | year = 2549}}</ref>, '''พระบาทกมรเตงอัญฦๅไทยราช '''<ref name="จารึกวัดป่ามะม่วง"/>, '''พระยาลือไทย'''<ref>ศานติ ภักดีคำ. "พระนามกษัตริย์สุโขทัย : ความสัมพันธ์กับเขมรโบราณ". ''ดำรงวิชาการ''. 6:1 (มกราคม-มิถุนายน 2550), หน้า 92</ref> หรือ '''พระยาลิไทย'''<ref>''นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย'', หน้า 33</ref> (ครองราชย์ พ.ศ. 1890 - 191100) เป็นพระมหากษัตริย์สุโขทัยลำดับที่ 6 ในราชวงศ์พระร่วง เป็นพระราชโอรสของ[[พระยาเลอไทย]] และพระราชนัดดาของ[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]]


==พระราชประวัติ==
==พระราชประวัติ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:53, 24 กันยายน 2562

พระมหาธรรมราชาที่ 1
พระยาสุโขทัย
ครองราชย์พ.ศ. 1890 - 1911
ก่อนหน้าพระยางั่วนำถุม
ถัดไปพระมหาธรรมราชาที่ 2
ราชวงศ์ราชวงศ์พระร่วง
พระราชบิดาพระยาเลอไทย

พระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือ พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงศ์รามมหาราชาธิราช[1], พระบาทกมรเตงอัญฦๅไทยราช [1], พระยาลือไทย[2] หรือ พระยาลิไทย[3] (ครองราชย์ พ.ศ. 1890 - 191100) เป็นพระมหากษัตริย์สุโขทัยลำดับที่ 6 ในราชวงศ์พระร่วง เป็นพระราชโอรสของพระยาเลอไทย และพระราชนัดดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

พระราชประวัติ

พระมหากษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
พ่อขุนบานเมือง
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
พระยาเลอไทย
พระยางั่วนำถุม
พระมหาธรรมราชาที่ 1
พระมหาธรรมราชาที่ 2
พระมหาธรรมราชาที่ 3
พระมหาธรรมราชาที่ 4

พระยาลิไทยเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรสุโขทัย มีพระนามเดิมว่าฦๅไทย (ลือไทย) ซึ่งภาษาบาลีสะกดว่า ลิเทยฺย[4] (ลิไทย) ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยางั่วนำถุม เดิมทรงปกครองเมืองศรีสัชนาลัย ในฐานะองค์อุปราชหรือรัชทายาทเมืองสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 1882

เมื่อพระยาเลอไทยเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1884 พระยางั่วนำถุมได้ขึ้นครองราชย์จนเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1890 พระยาลิไทยโดยต้องใช้กำลังทหารเข้ามายึดอำนาจเพราะที่สุโขทัยเกิดการกบฏการสืบราชบัลลังก์ ไม่เป็นไปตามครรลองครองธรรม พระยาลิไทยยกทัพมาแย่งชิงราชสมบัติได้ และขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 1890 ทรงพระนามว่า พระบาทกมรเตงอัญศรีสุริยพงษ์รามมหาธรรมราชาธิราช

พระราชกรณียกิจ

การศาสนา

พระยาลิไทยทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากนโยบายการปกครองที่ใช้ศาสนา เป็นหลักรวมความเป็นปึกแผ่นจึงเป็นนโยบายหลักในรัชสมัยนี้ ด้วยทรงดำริว่าการจะขยายอาณาเขตต่อไปเช่นเดียวกับในรัชกาลพ่อขุนรามคำแหง พระอัยกา ก็จักต้องนำไพร่พลไปล้มตายอีกเป็นอันมาก พระองค์จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะปกครองบ้านเมืองเช่นเดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราชที่ทรงปกครองอินเดียให้เจริญได้ด้วยการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และสั่งสอนชาวเมืองให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันจะเป็นวิธีรักษาเมืองให้ยั่งยืนอยู่ได้

ทรงสร้างเจดีย์ที่เมืองนครชุม (กำแพงเพชร) ผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อ พ.ศ. 1905 ที่วัดป่ามะม่วงการที่ทรงออกผนวช นับว่าทำความมั่นคงให้พุทธศาสนามากขึ้น ดังกล่าวแล้วว่า หลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว บ้านเมืองแตกแยก วงการสงฆ์เองก็แตกแยก แต่ละสำนักแต่ละเมืองก็ปฏิบัติแตกต่างกันออกไป เมื่อผู้นำทรงมีศรัทธาแรงกล้าถึงขั้นออกบวช พสกนิกรทั้งหลายก็คล้อยตามหันมาเลื่อมใสตามแบบอย่างพระองค์ กิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาในสุโขทัยจึงเลื่องลือไปไกล พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่าง ๆ เช่น อโยธยา หลวงพระบาง เมืองน่าน แม้แต่พระเจ้ากือนาธรรมิกราชแห่งอาณาจักรล้านนาก็นิมนต์พระสุมณเถระจากสุโขทัยไปเพื่อเผยแพร่ธรรมที่ล้านนา

นอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก ทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็นสังฆราชในกรุงสุโขทัย เผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้น ทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก เช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือ พระพุทธชินราช ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

พระยาลิไทย ทรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนา ทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกภาษาบาลี พระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นหนักการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษาพระไตรปิฎก ส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท ด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพ ราษฎรจึงถวายพระนามว่า "พระมหาธรรมราชา"

พระยาลิไท ได้สร้างและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระธาตุช่อแฮ (วัดพระธาตุช่อแฮพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ปัจจุบัน) เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๐๒

นอกจากศาสนาพุทธแล้ว พญาลิไทยยังทรงอุปถัมภ์ศาสนาฮินดูด้วยโดยทรงสร้างเทวรูปขนาดใหญ่หลายองค์ซึ่งยังเหลือปรากฏให้ศึกษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงเทพมหานครและที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดพิษณุโลก

ภาษาและวรรณคดี

ด้านอักษรศาสตร์ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วงที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ด้วยทรงเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกจึงทรงนิพนธ์ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ประเพณีในพระพุทธศาสนา โลกมนุษย์ สวรรค์ และนรก

นอกจากพระเจ้าลิไทยจะทรงนิพนธ์วรรณคดีเล่มแรกของไทยแล้ว ยังทรงดัดแปลงการเขียนหนังสือไทยที่พ่อขุนรามคำแหงทรงสร้างไว้ โดยกำหนดให้มีสระข้างบน ข้างล่าง ข้างหน้า ข้างหลัง รวมทั้งแก้ไขรูปพยัญชนะให้อ่านเขียนสะดวกขึ้น

การสร้างเมือง

ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญหลายประการ เช่น สร้างถนนพระร่วงตั้งแต่เมืองศรีสัชนาลัยผ่านกรุงสุโขทัยไปถึงเมืองนครชุม (กำแพงเพชร) บูรณะเมืองนครชุม

ทรงสร้างเมืองสองแคว (พิษณุโลก) เป็นเมืองลูกหลวงโดยการย้ายเมืองซึ่งเคยอยู่ที่สองแควซึ่งเดิมอยู่ทางใต้ (วัดจุฬามณีในปัจจุบัน) แต่ยังคงเรียกว่าเมืองสองแควตามเดิม

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นับแต่พระยาลิไทยได้ครองราชย์มา 2 ปี พระเจ้าอู่ทองผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ได้ให้ขุนหลวงพระงั่วยกทัพมาตีเมืองชัยนาท หัวเมืองชั้นในของกรุงสุโขทัยด้วยขณะนั้นกรุงสุโขทัยอ่อนแอจากทุพภิกขภัย ข้าวกล้าในนาเสียหาย ชาวเมืองอดอยาก

ต่อมาพระยาลิไทยได้ส่งทูตไปเจรจาให้กรุงศรีอยุธยาคืนเมืองชัยนาทแต่โดยดี และจะยินยอมให้เป็นประเทศอิสระและมีไมตรีกันเช่นเดียวกับขอมที่ครองเมืองลพบุรี กรุงศรีอยุธยาเห็นควรด้วยเกรงว่าขอมจะร่วมมือกับกรุงสุโขทัยจัดทัพกระหนาบมาตี กรุงศรีอยุธยาจึงคืนเมืองชัยนาทให้พระยาลิไทย

หลังจากสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 กรุงดำเนินมาได้ราว 10 ปี เมื่อพระเจ้าอู่ทองสวรรคต ไมตรีระหว่างกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาก็เริ่มตึงเครียดขึ้น และเมื่อขุนหลวงพระงั่ว (พระบรมราชาธิราช) ได้ราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยา ก็ได้กรีธาทัพไปตีกรุงสุโขทัย สงครามระหว่าง 2 กรุงดำเนินไปถึง 6 ปีเศษ ขุนหลวงพระงั่วก็ไม่อาจเอาชัยทัพพระยาลิไทย กรุงสุโขทัยได้

พงศาวลี

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. 1.0 1.1 ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย (2549). จารึกวัดป่ามะม่วง (ภาษาเขมร) ด้านที่ 1. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).
  2. ศานติ ภักดีคำ. "พระนามกษัตริย์สุโขทัย : ความสัมพันธ์กับเขมรโบราณ". ดำรงวิชาการ. 6:1 (มกราคม-มิถุนายน 2550), หน้า 92
  3. นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย, หน้า 33
  4. พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา, หน้า 3
บรรณานุกรม
  • มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา (2554). นามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย (PDF). กรุงเทพฯ: มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. p. 33.
  • ราชบัณฑิตยสถาน (2554). พจนานุกรมศัพท์วรรณคดีไทย สมัยสุโขทัย ไตรภูมิกถา. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน. p. 3.

ดูเพิ่ม

ก่อนหน้า พระมหาธรรมราชาที่ 1 ถัดไป
พระยางั่วนำถุม พระยาสุโขทัย
(พ.ศ. 1890 - 1911)
พระมหาธรรมราชาที่ 2