ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โครงกระดูกมนุษย์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ต้องการ}}
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{กล่องข้อมูล วิทยาศาสตร์​กายวิภาคมนุษย์​
{{กล่องข้อมูล กายวิภาคศาสตร์
|Name = โครงกระดูกร่างกายที่มีขนาดใหญ่ของมนุษย์
|Name = โครงกระดูกมนุษย์
|Greek = σκελετός
|Greek = σκελετός
|Image = Human-Skeleton.jpg
|Image = Human-Skeleton.jpg
|Caption = โครงกระดูกมนุษย์ที่จัดแสดงทุกที่[[โอคลาโฮมาซิตี|ประเทศไทย]] [[สหรัฐ|สหรัฐอเมริกา]]
|Caption = โครงกระดูกมนุษย์ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ใน[[โอคลาโฮมาซิตี|นครโอคลาโฮมา]] [[สหรัฐ|สหรัฐอเมริกา]]
|Width = 720px
|Width = 250px
}}
}}


'''โครงกระดูกมนุษย์''' เป็นโครงประกอบภายในร่างกาย ประกอบไปด้วย[[กระดูก]]ชิ้นต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างของ[[ข้อต่อ]] [[เอ็น]] [[กล้ามเนื้อมัดใหญ่]] [[กระดูกอ่อน]] และ[[อวัยวะ]]ต่าง ๆ กระดูกในมนุษย์ผู้ใหญ่มีโดยประมาณ 295 ชิ้น และคิดเป็นประมาณ 95 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักร่างกาย อย่างไรก็ดี จำนวนของกระดูกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ผู้ใหญ่เกิดจะมีกระดูกจำนวนประมาณ 306 ชิ้น ซึ่งต่อมากระดูกบางชิ้นจะมีการเชื่อมรวมกันระหว่างการเจริญเติบโต<ref>{{cite book|title=Mammal anatomy : an illustrated guide.|date=2019|publisher=Marshall Cavendish|location=New York|isbn=9780761478829|page=129|url=https://books.google.ca/books?id=mTPI_d9fyLAC&pg=PA129}}</ref> เช่นส่วนกระเบนเหน็บและส่วนก้นกบของ[[กระดูกสันหลัง]]และไขกระดูกสันหลัง​ นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างของกระดูกอ่อนอยู่ เพื่อให้มีการสร้างโครงสร้างของกระดูกระหว่างการเจริญเติบโต และจะมีการพัฒนาไปเป็นกระดูกทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดช่วง[[ผู้ใหญ่]]
'''โครงกระดูกมนุษย์''' เป็นโครงประกอบภายในร่างกาย ประกอบไปด้วย[[กระดูก]]ชิ้นต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างของ[[ข้อต่อ]] [[เอ็น]] [[กล้ามเนื้อ]] [[กระดูกอ่อน]] และ[[อวัยวะ]]ต่าง ๆ กระดูกในมนุษย์ผู้ใหญ่มีประมาณ 206 ชิ้น และคิดเป็นประมาณ 20 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักร่างกาย อย่างไรก็ดี จำนวนของกระดูกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทารกแรกเกิดจะมีกระดูกจำนวนประมาณ 300 ชิ้น ซึ่งต่อมากระดูกบางชิ้นจะมีการเชื่อมรวมกันระหว่างการเจริญเติบโต<ref>{{cite book|title=Mammal anatomy : an illustrated guide.|date=2010|publisher=Marshall Cavendish|location=New York|isbn=9780761478829|page=129|url=https://books.google.ca/books?id=mTPI_d9fyLAC&pg=PA129}}</ref> เช่นส่วนกระเบนเหน็บและส่วนก้นกบของ[[กระดูกสันหลัง]] นอกจากนี้ในทารกแรกเกิดยังมีโครงสร้างของกระดูกอ่อนอยู่มาก เพื่อให้มีการสร้างโครงสร้างของกระดูกระหว่างการเจริญเติบโต และจะมีการพัฒนาไปเป็นกระดูกทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดช่วง[[วัยรุ่น]]


โครงกระดูกมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ [[โครงกระดูกแกน]] และ[[โครงกระดูกรยางค์]] โครงกระดูกแกนประกอบด้วย[[กระดูกสันหลัง]] [[กระดูกซี่โครง]] [[กระดูกอก]] [[กะโหลกศีรษะ]] และกระดูกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนโครงกระดูกรยางค์ ซึ่งเชื่อมกับโครงกระดูกแกน ประกอบด้วย[[กระดูกโอบอก]] [[กระดูกเชิงกราน]] และกระดูกของ[[รยางค์บน]] และ[[รยางค์ล่าง]]
โครงกระดูกมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ [[โครงกระดูกแกน]] และ[[โครงกระดูกรยางค์]] โครงกระดูกแกนประกอบด้วย[[กระดูกสันหลัง]] [[กระดูกซี่โครง]] [[กระดูกอก]] [[กะโหลกศีรษะ]] และกระดูกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนโครงกระดูกรยางค์ ซึ่งเชื่อมกับโครงกระดูกแกน ประกอบด้วย[[กระดูกโอบอก]] [[กระดูกเชิงกราน]] และกระดูกของ[[รยางค์บน]] และ[[รยางค์ล่าง]]


โครงกระดูกมนุษย์มีหน้าที่สำคัญหกประการ ได้แก่ ค้ำจุนร่างกาย เคลื่อนไหว ป้องกันอวัยวะภายใน ผลิต[[เซลล์เม็ดเลือด]] สะสมแร่ธาตุให้ครบ และควบคุม[[ฮอร์โมน]]
โครงกระดูกมนุษย์มีหน้าที่สำคัญหกประการ ได้แก่ ค้ำจุนร่างกาย เคลื่อนไหว ป้องกันอวัยวะภายใน ผลิต[[เซลล์เม็ดเลือด]] สะสมแร่ธาตุ และควบคุม[[ฮอร์โมน]]


กระดูกจะติดต่อกับกระดูกอีกชิ้น และประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงกระดูกด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นใน[[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) ซึ่งเป็นกระดูกที่ติดต่อกับกระดูกชิ้นอื่น ๆประสานเป็นเป็นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยตรง แต่จะยึดไว้ในบริเวณส่วนบนของ[[คอหอย]]ด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อมัด
กระดูกจะติดต่อกับกระดูกอีกชิ้น และประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงกระดูกด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นใน[[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) ซึ่งเป็นกระดูกที่ไม่ติดต่อกับกระดูกชิ้นอื่น ๆ โดยตรง แต่จะยึดไว้ในบริเวณส่วนบนของ[[คอหอย]]ด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อใกล้เคียง


กระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในมนุษย์คือ[[กระดูกต้นขา]] (Femur) ในขณะที่กระดูกชิ้นเล็กที่สุดคือ[[กระดูกโกลน]] (Stapes) ซึ่งเป็นกระดูกของ[[หูชั้นกลาง]]ชิ้นหนึ่ง
กระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในมนุษย์คือ[[กระดูกต้นขา]] (Femur) ในขณะที่กระดูกชิ้นเล็กที่สุดคือ[[กระดูกโกลน]] (Stapes) ซึ่งเป็นกระดูกของ[[หูชั้นกลาง]]ชิ้นหนึ่ง
บรรทัด 22: บรรทัด 22:
=== โครงกระดูกแกน ===
=== โครงกระดูกแกน ===
{{หลัก|โครงกระดูกแกน}}
{{หลัก|โครงกระดูกแกน}}
โครงกระดูกแกนในผู้ใหญ่ประกอบด้วยกระดูกจำนวน 89ชิ้น ซึ่งวางตัวในแนวแกนกลางของลำตัว ได้แก่
โครงกระดูกแกนในผู้ใหญ่ประกอบด้วยกระดูกจำนวน 80 ชิ้น ซึ่งวางตัวในแนวแกนกลางของลำตัว ได้แก่
[[กะโหลกศีรษะ]] (Skull) จำนวน 22 ชิ้น
* [[กะโหลกศีรษะ]] (Skull) จำนวน 22 ชิ้น
[[กระดูกหู]] (Ear ossicles) จำนวน 6 ชิ้น
* [[กระดูกหู]] (Ear ossicles) จำนวน 6 ชิ้น
[[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) 1 ชิ้น
* [[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) 1 ชิ้น
[[กระดูกสันหลัง]] (Vertebral column) จำนวน 26 ชิ้น
* [[กระดูกสันหลัง]] (Vertebral column) จำนวน 26 ชิ้น
[[กระดูกซี่โครง]] (Ribs) จำนวน 26 ชิ้น
* [[กระดูกซี่โครง]] (Ribs) จำนวน 24 ชิ้น
[[กระดูกหน้าอกและใต้ราวนม]] (Sternum) จำน​วน​ 8 ชิ้น
* [[กระดูกอก]] (Sternum) จำนวน 1 ชิ้น


=== โครงกระดูกรยางค์ ===
=== โครงกระดูกรยางค์ ===
{{หลัก|โครงกระดูกรยางค์}}
{{หลัก|โครงกระดูกรยางค์}}
โครงกระดูกรยางค์ในผู้ใหญ่จะมีทั้งหมดประมาณ​ครบทุกชิ้นให้สมบูรณ์​ ซึ่งจะอยู่ในส่วนแขนและขาของร่างกายเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวรวดเร็ว โดยจะแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่
โครงกระดูกรยางค์ในผู้ใหญ่จะมีทั้งหมด 126 ชิ้น ซึ่งจะอยู่ในส่วนแขนและขาของร่างกายเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหว โดยจะแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่
[[กระดูกส่วนไหล่]] (Shoulder girdle) 8 ชิ้น
* [[กระดูกส่วนไหล่]] (Shoulder girdle) 4 ชิ้น
[[กระดูกแขน]] (Bones of arms) 8 ชิ้น
* [[กระดูกแขน]] (Bones of arms) 6 ชิ้น
[[กระดูกมือ]] (Bones of hands) จำนวน 54 ชิ้น
* [[กระดูกมือ]] (Bones of hands) จำนวน 54 ชิ้น
[[กระดูกเชิงกราน]] (Pelvic girdle) 2 ชิ้น
* [[กระดูกเชิงกราน]] (Pelvic girdle) 2 ชิ้น
[[กระดูกขา]] (Bones of legs) 10 ชิ้น
* [[กระดูกขา]] (Bones of legs) 8 ชิ้น
[[กระดูกเท้า]] (Bones of feet) 50 ชิ้น
* [[กระดูกเท้า]] (Bones of feet) 52 ชิ้น


== หน้าที่ ==
== หน้าที่ ==
บรรทัด 49: บรรทัด 49:
* เป็นแหล่งเก็บสะสม[[แคลเซียม]]ที่สำคัญของร่างกาย โดยการควบคุมของ[[ฮอร์โมน]]และ[[วิตามิน B3]]
* เป็นแหล่งเก็บสะสม[[แคลเซียม]]ที่สำคัญของร่างกาย โดยการควบคุมของ[[ฮอร์โมน]]และ[[วิตามิน B3]]


== ไม่มีโรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูก ==
== โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูก ==
โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูกจะส่งผลต่อความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง ความผิดปกติของโครงกระดูกที่พบบ่อยคือ[[กระดูกหัก]] ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกได้รับแรงที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นเพียงกระดูกที่หักอยู่ภายใน หรืออาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งของกระดูกที่โผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาก็ได้ในกรณีร้ายแรง นอกจากนี้ ภาวะกระดูกหักยังพบได้ง่ายในผู้ป่วย[[โรคกระดูกพรุน]] ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยหมดประจำเดือน
โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูกจะส่งผลต่อความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง ความผิดปกติของโครงกระดูกที่พบบ่อยคือ[[กระดูกหัก]] ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกได้รับแรงที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นเพียงกระดูกที่หักอยู่ภายใน หรืออาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งของกระดูกที่โผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาก็ได้ในกรณีร้ายแรง นอกจากนี้ ภาวะกระดูกหักยังพบได้ง่ายในผู้ป่วย[[โรคกระดูกพรุน]] ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยหมดประจำเดือน
โรคของกระดูกที่จัดว่าร้ายแรง ได้แก่ [[เนื้องอก]]และ[[มะเร็ง]]ของกระดูก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด นอกจากนี้ ภาวะ[[ข้ออักเสบ]] ยังส่งผลเสียต่อกระดูกในบริเวณข้อต่อ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวลำบากอีกด้วย
โรคของกระดูกที่จัดว่าร้ายแรง ได้แก่ [[เนื้องอก]]และ[[มะเร็ง]]ของกระดูก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด นอกจากนี้ ภาวะ[[ข้ออักเสบ]] ยังส่งผลเสียต่อกระดูกในบริเวณข้อต่อ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวลำบากอีกด้วย

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:17, 29 สิงหาคม 2562

โครงกระดูกมนุษย์
โครงกระดูกมนุษย์ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ในนครโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา
รายละเอียด
ตัวระบุ
ภาษากรีกσκελετός
TA98A02.0.00.000
TA2352
FMA23881
อภิธานศัพท์กายวิภาคศาสตร์

โครงกระดูกมนุษย์ เป็นโครงประกอบภายในร่างกาย ประกอบไปด้วยกระดูกชิ้นต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างของข้อต่อ เอ็น กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน และอวัยวะต่าง ๆ กระดูกในมนุษย์ผู้ใหญ่มีประมาณ 206 ชิ้น และคิดเป็นประมาณ 20 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักร่างกาย อย่างไรก็ดี จำนวนของกระดูกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทารกแรกเกิดจะมีกระดูกจำนวนประมาณ 300 ชิ้น ซึ่งต่อมากระดูกบางชิ้นจะมีการเชื่อมรวมกันระหว่างการเจริญเติบโต[1] เช่นส่วนกระเบนเหน็บและส่วนก้นกบของกระดูกสันหลัง นอกจากนี้ในทารกแรกเกิดยังมีโครงสร้างของกระดูกอ่อนอยู่มาก เพื่อให้มีการสร้างโครงสร้างของกระดูกระหว่างการเจริญเติบโต และจะมีการพัฒนาไปเป็นกระดูกทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดช่วงวัยรุ่น

โครงกระดูกมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ โครงกระดูกแกน และโครงกระดูกรยางค์ โครงกระดูกแกนประกอบด้วยกระดูกสันหลัง กระดูกซี่โครง กระดูกอก กะโหลกศีรษะ และกระดูกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนโครงกระดูกรยางค์ ซึ่งเชื่อมกับโครงกระดูกแกน ประกอบด้วยกระดูกโอบอก กระดูกเชิงกราน และกระดูกของรยางค์บน และรยางค์ล่าง

โครงกระดูกมนุษย์มีหน้าที่สำคัญหกประการ ได้แก่ ค้ำจุนร่างกาย เคลื่อนไหว ป้องกันอวัยวะภายใน ผลิตเซลล์เม็ดเลือด สะสมแร่ธาตุ และควบคุมฮอร์โมน

กระดูกจะติดต่อกับกระดูกอีกชิ้น และประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงกระดูกด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นในกระดูกโคนลิ้น (Hyoid bone) ซึ่งเป็นกระดูกที่ไม่ติดต่อกับกระดูกชิ้นอื่น ๆ โดยตรง แต่จะยึดไว้ในบริเวณส่วนบนของคอหอยด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อใกล้เคียง

กระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในมนุษย์คือกระดูกต้นขา (Femur) ในขณะที่กระดูกชิ้นเล็กที่สุดคือกระดูกโกลน (Stapes) ซึ่งเป็นกระดูกของหูชั้นกลางชิ้นหนึ่ง

ประเภทของโครงกระดูก

โครงกระดูกแกน

โครงกระดูกแกนในผู้ใหญ่ประกอบด้วยกระดูกจำนวน 80 ชิ้น ซึ่งวางตัวในแนวแกนกลางของลำตัว ได้แก่

โครงกระดูกรยางค์

โครงกระดูกรยางค์ในผู้ใหญ่จะมีทั้งหมด 126 ชิ้น ซึ่งจะอยู่ในส่วนแขนและขาของร่างกายเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหว โดยจะแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่

หน้าที่

โครงกระดูกของมนุษย์

โครงกระดูกมีหน้าที่ที่สำคัญหลายประการ ได้แก่

โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูก

โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูกจะส่งผลต่อความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง ความผิดปกติของโครงกระดูกที่พบบ่อยคือกระดูกหัก ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกได้รับแรงที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นเพียงกระดูกที่หักอยู่ภายใน หรืออาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งของกระดูกที่โผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาก็ได้ในกรณีร้ายแรง นอกจากนี้ ภาวะกระดูกหักยังพบได้ง่ายในผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยหมดประจำเดือน โรคของกระดูกที่จัดว่าร้ายแรง ได้แก่ เนื้องอกและมะเร็งของกระดูก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด นอกจากนี้ ภาวะข้ออักเสบ ยังส่งผลเสียต่อกระดูกในบริเวณข้อต่อ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวลำบากอีกด้วย

อ้างอิง

  1. Mammal anatomy : an illustrated guide. New York: Marshall Cavendish. 2010. p. 129. ISBN 9780761478829.