ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โครงกระดูกมนุษย์"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ต้องการ}} |
{{ต้องการอ้างอิง}} |
||
{{กล่องข้อมูล |
{{กล่องข้อมูล กายวิภาคศาสตร์ |
||
|Name = โครงกระดูก |
|Name = โครงกระดูกมนุษย์ |
||
|Greek = σκελετός |
|Greek = σκελετός |
||
|Image = Human-Skeleton.jpg |
|Image = Human-Skeleton.jpg |
||
|Caption = โครงกระดูกมนุษย์ที่จัดแสดง |
|Caption = โครงกระดูกมนุษย์ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ใน[[โอคลาโฮมาซิตี|นครโอคลาโฮมา]] [[สหรัฐ|สหรัฐอเมริกา]] |
||
|Width = |
|Width = 250px |
||
}} |
}} |
||
'''โครงกระดูกมนุษย์''' เป็นโครงประกอบภายในร่างกาย ประกอบไปด้วย[[กระดูก]]ชิ้นต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างของ[[ข้อต่อ]] [[เอ็น]] [[กล้ามเนื้อ |
'''โครงกระดูกมนุษย์''' เป็นโครงประกอบภายในร่างกาย ประกอบไปด้วย[[กระดูก]]ชิ้นต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างของ[[ข้อต่อ]] [[เอ็น]] [[กล้ามเนื้อ]] [[กระดูกอ่อน]] และ[[อวัยวะ]]ต่าง ๆ กระดูกในมนุษย์ผู้ใหญ่มีประมาณ 206 ชิ้น และคิดเป็นประมาณ 20 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักร่างกาย อย่างไรก็ดี จำนวนของกระดูกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทารกแรกเกิดจะมีกระดูกจำนวนประมาณ 300 ชิ้น ซึ่งต่อมากระดูกบางชิ้นจะมีการเชื่อมรวมกันระหว่างการเจริญเติบโต<ref>{{cite book|title=Mammal anatomy : an illustrated guide.|date=2010|publisher=Marshall Cavendish|location=New York|isbn=9780761478829|page=129|url=https://books.google.ca/books?id=mTPI_d9fyLAC&pg=PA129}}</ref> เช่นส่วนกระเบนเหน็บและส่วนก้นกบของ[[กระดูกสันหลัง]] นอกจากนี้ในทารกแรกเกิดยังมีโครงสร้างของกระดูกอ่อนอยู่มาก เพื่อให้มีการสร้างโครงสร้างของกระดูกระหว่างการเจริญเติบโต และจะมีการพัฒนาไปเป็นกระดูกทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดช่วง[[วัยรุ่น]] |
||
โครงกระดูกมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ [[โครงกระดูกแกน]] และ[[โครงกระดูกรยางค์]] โครงกระดูกแกนประกอบด้วย[[กระดูกสันหลัง]] [[กระดูกซี่โครง]] [[กระดูกอก]] [[กะโหลกศีรษะ]] และกระดูกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนโครงกระดูกรยางค์ ซึ่งเชื่อมกับโครงกระดูกแกน ประกอบด้วย[[กระดูกโอบอก]] [[กระดูกเชิงกราน]] และกระดูกของ[[รยางค์บน]] และ[[รยางค์ล่าง]] |
โครงกระดูกมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ [[โครงกระดูกแกน]] และ[[โครงกระดูกรยางค์]] โครงกระดูกแกนประกอบด้วย[[กระดูกสันหลัง]] [[กระดูกซี่โครง]] [[กระดูกอก]] [[กะโหลกศีรษะ]] และกระดูกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนโครงกระดูกรยางค์ ซึ่งเชื่อมกับโครงกระดูกแกน ประกอบด้วย[[กระดูกโอบอก]] [[กระดูกเชิงกราน]] และกระดูกของ[[รยางค์บน]] และ[[รยางค์ล่าง]] |
||
โครงกระดูกมนุษย์มีหน้าที่สำคัญหกประการ ได้แก่ ค้ำจุนร่างกาย เคลื่อนไหว ป้องกันอวัยวะภายใน ผลิต[[เซลล์เม็ดเลือด]] สะสมแร่ธาตุ |
โครงกระดูกมนุษย์มีหน้าที่สำคัญหกประการ ได้แก่ ค้ำจุนร่างกาย เคลื่อนไหว ป้องกันอวัยวะภายใน ผลิต[[เซลล์เม็ดเลือด]] สะสมแร่ธาตุ และควบคุม[[ฮอร์โมน]] |
||
กระดูกจะติดต่อกับกระดูกอีกชิ้น และประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงกระดูกด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นใน[[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) ซึ่งเป็นกระดูกที่ติดต่อกับกระดูกชิ้นอื่น ๆ |
กระดูกจะติดต่อกับกระดูกอีกชิ้น และประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงกระดูกด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นใน[[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) ซึ่งเป็นกระดูกที่ไม่ติดต่อกับกระดูกชิ้นอื่น ๆ โดยตรง แต่จะยึดไว้ในบริเวณส่วนบนของ[[คอหอย]]ด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อใกล้เคียง |
||
กระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในมนุษย์คือ[[กระดูกต้นขา]] (Femur) ในขณะที่กระดูกชิ้นเล็กที่สุดคือ[[กระดูกโกลน]] (Stapes) ซึ่งเป็นกระดูกของ[[หูชั้นกลาง]]ชิ้นหนึ่ง |
กระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในมนุษย์คือ[[กระดูกต้นขา]] (Femur) ในขณะที่กระดูกชิ้นเล็กที่สุดคือ[[กระดูกโกลน]] (Stapes) ซึ่งเป็นกระดูกของ[[หูชั้นกลาง]]ชิ้นหนึ่ง |
||
บรรทัด 22: | บรรทัด 22: | ||
=== โครงกระดูกแกน === |
=== โครงกระดูกแกน === |
||
{{หลัก|โครงกระดูกแกน}} |
{{หลัก|โครงกระดูกแกน}} |
||
โครงกระดูกแกนในผู้ใหญ่ประกอบด้วยกระดูกจำนวน |
โครงกระดูกแกนในผู้ใหญ่ประกอบด้วยกระดูกจำนวน 80 ชิ้น ซึ่งวางตัวในแนวแกนกลางของลำตัว ได้แก่ |
||
[[กะโหลกศีรษะ]] (Skull) จำนวน 22 ชิ้น |
* [[กะโหลกศีรษะ]] (Skull) จำนวน 22 ชิ้น |
||
[[กระดูกหู]] (Ear ossicles) จำนวน 6 ชิ้น |
* [[กระดูกหู]] (Ear ossicles) จำนวน 6 ชิ้น |
||
[[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) 1 ชิ้น |
* [[กระดูกโคนลิ้น]] (Hyoid bone) 1 ชิ้น |
||
[[กระดูกสันหลัง]] (Vertebral column) จำนวน 26 ชิ้น |
* [[กระดูกสันหลัง]] (Vertebral column) จำนวน 26 ชิ้น |
||
[[กระดูกซี่โครง]] (Ribs) จำนวน |
* [[กระดูกซี่โครง]] (Ribs) จำนวน 24 ชิ้น |
||
[[กระดูก |
* [[กระดูกอก]] (Sternum) จำนวน 1 ชิ้น |
||
=== โครงกระดูกรยางค์ === |
=== โครงกระดูกรยางค์ === |
||
{{หลัก|โครงกระดูกรยางค์}} |
{{หลัก|โครงกระดูกรยางค์}} |
||
โครงกระดูกรยางค์ในผู้ใหญ่จะมีทั้งหมด |
โครงกระดูกรยางค์ในผู้ใหญ่จะมีทั้งหมด 126 ชิ้น ซึ่งจะอยู่ในส่วนแขนและขาของร่างกายเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหว โดยจะแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่ |
||
[[กระดูกส่วนไหล่]] (Shoulder girdle) |
* [[กระดูกส่วนไหล่]] (Shoulder girdle) 4 ชิ้น |
||
[[กระดูกแขน]] (Bones of arms) |
* [[กระดูกแขน]] (Bones of arms) 6 ชิ้น |
||
[[กระดูกมือ]] (Bones of hands) จำนวน 54 ชิ้น |
* [[กระดูกมือ]] (Bones of hands) จำนวน 54 ชิ้น |
||
[[กระดูกเชิงกราน]] (Pelvic girdle) 2 ชิ้น |
* [[กระดูกเชิงกราน]] (Pelvic girdle) 2 ชิ้น |
||
[[กระดูกขา]] (Bones of legs) |
* [[กระดูกขา]] (Bones of legs) 8 ชิ้น |
||
[[กระดูกเท้า]] (Bones of feet) |
* [[กระดูกเท้า]] (Bones of feet) 52 ชิ้น |
||
== หน้าที่ == |
== หน้าที่ == |
||
บรรทัด 49: | บรรทัด 49: | ||
* เป็นแหล่งเก็บสะสม[[แคลเซียม]]ที่สำคัญของร่างกาย โดยการควบคุมของ[[ฮอร์โมน]]และ[[วิตามิน B3]] |
* เป็นแหล่งเก็บสะสม[[แคลเซียม]]ที่สำคัญของร่างกาย โดยการควบคุมของ[[ฮอร์โมน]]และ[[วิตามิน B3]] |
||
== |
== โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูก == |
||
โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูกจะส่งผลต่อความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง ความผิดปกติของโครงกระดูกที่พบบ่อยคือ[[กระดูกหัก]] ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกได้รับแรงที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นเพียงกระดูกที่หักอยู่ภายใน หรืออาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งของกระดูกที่โผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาก็ได้ในกรณีร้ายแรง นอกจากนี้ ภาวะกระดูกหักยังพบได้ง่ายในผู้ป่วย[[โรคกระดูกพรุน]] ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยหมดประจำเดือน |
โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูกจะส่งผลต่อความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง ความผิดปกติของโครงกระดูกที่พบบ่อยคือ[[กระดูกหัก]] ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกได้รับแรงที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นเพียงกระดูกที่หักอยู่ภายใน หรืออาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งของกระดูกที่โผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาก็ได้ในกรณีร้ายแรง นอกจากนี้ ภาวะกระดูกหักยังพบได้ง่ายในผู้ป่วย[[โรคกระดูกพรุน]] ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยหมดประจำเดือน |
||
โรคของกระดูกที่จัดว่าร้ายแรง ได้แก่ [[เนื้องอก]]และ[[มะเร็ง]]ของกระดูก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด นอกจากนี้ ภาวะ[[ข้ออักเสบ]] ยังส่งผลเสียต่อกระดูกในบริเวณข้อต่อ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวลำบากอีกด้วย |
โรคของกระดูกที่จัดว่าร้ายแรง ได้แก่ [[เนื้องอก]]และ[[มะเร็ง]]ของกระดูก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด นอกจากนี้ ภาวะ[[ข้ออักเสบ]] ยังส่งผลเสียต่อกระดูกในบริเวณข้อต่อ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวลำบากอีกด้วย |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:17, 29 สิงหาคม 2562
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
โครงกระดูกมนุษย์ | |
---|---|
โครงกระดูกมนุษย์ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ในนครโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา | |
รายละเอียด | |
ตัวระบุ | |
ภาษากรีก | σκελετός |
TA98 | A02.0.00.000 |
TA2 | 352 |
FMA | 23881 |
อภิธานศัพท์กายวิภาคศาสตร์ |
โครงกระดูกมนุษย์ เป็นโครงประกอบภายในร่างกาย ประกอบไปด้วยกระดูกชิ้นต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างของข้อต่อ เอ็น กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน และอวัยวะต่าง ๆ กระดูกในมนุษย์ผู้ใหญ่มีประมาณ 206 ชิ้น และคิดเป็นประมาณ 20 เปอร์เซนต์ของน้ำหนักร่างกาย อย่างไรก็ดี จำนวนของกระดูกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทารกแรกเกิดจะมีกระดูกจำนวนประมาณ 300 ชิ้น ซึ่งต่อมากระดูกบางชิ้นจะมีการเชื่อมรวมกันระหว่างการเจริญเติบโต[1] เช่นส่วนกระเบนเหน็บและส่วนก้นกบของกระดูกสันหลัง นอกจากนี้ในทารกแรกเกิดยังมีโครงสร้างของกระดูกอ่อนอยู่มาก เพื่อให้มีการสร้างโครงสร้างของกระดูกระหว่างการเจริญเติบโต และจะมีการพัฒนาไปเป็นกระดูกทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดช่วงวัยรุ่น
โครงกระดูกมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ โครงกระดูกแกน และโครงกระดูกรยางค์ โครงกระดูกแกนประกอบด้วยกระดูกสันหลัง กระดูกซี่โครง กระดูกอก กะโหลกศีรษะ และกระดูกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนโครงกระดูกรยางค์ ซึ่งเชื่อมกับโครงกระดูกแกน ประกอบด้วยกระดูกโอบอก กระดูกเชิงกราน และกระดูกของรยางค์บน และรยางค์ล่าง
โครงกระดูกมนุษย์มีหน้าที่สำคัญหกประการ ได้แก่ ค้ำจุนร่างกาย เคลื่อนไหว ป้องกันอวัยวะภายใน ผลิตเซลล์เม็ดเลือด สะสมแร่ธาตุ และควบคุมฮอร์โมน
กระดูกจะติดต่อกับกระดูกอีกชิ้น และประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงกระดูกด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นในกระดูกโคนลิ้น (Hyoid bone) ซึ่งเป็นกระดูกที่ไม่ติดต่อกับกระดูกชิ้นอื่น ๆ โดยตรง แต่จะยึดไว้ในบริเวณส่วนบนของคอหอยด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อใกล้เคียง
กระดูกชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในมนุษย์คือกระดูกต้นขา (Femur) ในขณะที่กระดูกชิ้นเล็กที่สุดคือกระดูกโกลน (Stapes) ซึ่งเป็นกระดูกของหูชั้นกลางชิ้นหนึ่ง
ประเภทของโครงกระดูก
โครงกระดูกแกน
โครงกระดูกแกนในผู้ใหญ่ประกอบด้วยกระดูกจำนวน 80 ชิ้น ซึ่งวางตัวในแนวแกนกลางของลำตัว ได้แก่
- กะโหลกศีรษะ (Skull) จำนวน 22 ชิ้น
- กระดูกหู (Ear ossicles) จำนวน 6 ชิ้น
- กระดูกโคนลิ้น (Hyoid bone) 1 ชิ้น
- กระดูกสันหลัง (Vertebral column) จำนวน 26 ชิ้น
- กระดูกซี่โครง (Ribs) จำนวน 24 ชิ้น
- กระดูกอก (Sternum) จำนวน 1 ชิ้น
โครงกระดูกรยางค์
โครงกระดูกรยางค์ในผู้ใหญ่จะมีทั้งหมด 126 ชิ้น ซึ่งจะอยู่ในส่วนแขนและขาของร่างกายเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหว โดยจะแบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่
- กระดูกส่วนไหล่ (Shoulder girdle) 4 ชิ้น
- กระดูกแขน (Bones of arms) 6 ชิ้น
- กระดูกมือ (Bones of hands) จำนวน 54 ชิ้น
- กระดูกเชิงกราน (Pelvic girdle) 2 ชิ้น
- กระดูกขา (Bones of legs) 8 ชิ้น
- กระดูกเท้า (Bones of feet) 52 ชิ้น
หน้าที่
โครงกระดูกมีหน้าที่ที่สำคัญหลายประการ ได้แก่
- ค้ำจุนโครงสร้างของร่างกาย
- เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อและเอ็นต่าง ๆ สำหรับการเคลื่อนไหว
- ป้องกันอวัยวะภายในที่สำคัญ เช่นกะโหลกศีรษะที่ห่อหุ้มสมอง หรือซี่โครงป้องกันปอดและหัวใจจากการกระทบกระเทือน
- เป็นแหล่งผลิตเม็ดเลือดที่สำคัญ
- เป็นแหล่งเก็บสะสมแคลเซียมที่สำคัญของร่างกาย โดยการควบคุมของฮอร์โมนและวิตามิน B3
โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูก
โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูกจะส่งผลต่อความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง ความผิดปกติของโครงกระดูกที่พบบ่อยคือกระดูกหัก ซึ่งเกิดจากการที่กระดูกได้รับแรงที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นเพียงกระดูกที่หักอยู่ภายใน หรืออาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งของกระดูกที่โผล่พ้นผิวหนังขึ้นมาก็ได้ในกรณีร้ายแรง นอกจากนี้ ภาวะกระดูกหักยังพบได้ง่ายในผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยหมดประจำเดือน โรคของกระดูกที่จัดว่าร้ายแรง ได้แก่ เนื้องอกและมะเร็งของกระดูก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด นอกจากนี้ ภาวะข้ออักเสบ ยังส่งผลเสียต่อกระดูกในบริเวณข้อต่อ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวลำบากอีกด้วย
อ้างอิง
- ↑ Mammal anatomy : an illustrated guide. New York: Marshall Cavendish. 2010. p. 129. ISBN 9780761478829.