ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2562"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Wedjet (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีอ้างอิง = แฟนฟิก
บรรทัด 6: บรรทัด 6:


ที่ประชุมเสนอชื่อบุคคลให้สมาชิกลงมติเลือก 2 คน คือ พลเอก [[ประยุทธ์ จันทร์โอชา]] ซึ่งไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อชิงตำแหน่ง และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่
ที่ประชุมเสนอชื่อบุคคลให้สมาชิกลงมติเลือก 2 คน คือ พลเอก [[ประยุทธ์ จันทร์โอชา]] ซึ่งไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อชิงตำแหน่ง และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

หลังจากการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านไปไม่นาน
ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการเลือกนายกรัฐมนตรีที่สกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของไทย เพราะเนื่องจาก การเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้
มี พรรคการเมืองหลายพรรคที่ตระบัตสัตย์ยอมไปเข้าร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับ [[พรรคพลังประชารัฐ]] ที่สนับสนุน [[พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา]] เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งสมัย เป็นจำนวนมาก เพื่อต้องการตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ในรัฐบาล โดยพรรคที่ตระบัตสัตย์คำพูดนั้นมีหลายพรรค โดยเฉพาะ [[พรรคประชาธิปัตย์]] เเละ [[พรรคภูมิใจไทย]] ที่ตระบัตสัตย์คำพูดเพื่อต้องการตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล โดยที่ไม่ได้ฟังเสียงของประชาชนเลยแม้แต่น้อย ส่วน [[พรรคชาติไทยพัฒนา]] ซึ่งมีเเกนนำคือนาย [[วราวุธ ศิลปอาชา]] ลูกชายของนาย [[บรรหาร ศิลปอาชา]] อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ซึ่งได้นำพรรคเข้าร่วมรัฐบาลกับ [[พรรคพลังประชารัฐ]] เพื่อต้องการตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล เช่นเดียวกัน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวสุพรรณบุรี ว่าตระบัตสัตย์คำพูด เพราะในช่วงการหาเสียงนั้น ทางพรรคได้ประกาศว่า จะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ นี่จึงเป็นบทเรียนสำหรับชาวสุพรรณบุรี เเละประชาชนทั่วประเทศ ว่าไม่ควรเลือกพรรคที่เห็นเเก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมอีก โดยเฉพาะ พรรคประชาธิปัตย์,พรรคภูมิใจไทย เเละ พรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคอื่นๆด้วยเช่นกัน


== ขั้นตอน ==
== ขั้นตอน ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:35, 8 มิถุนายน 2562

การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2562 เป็นการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา (ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา) ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ณ หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถนนแจ้งวัฒนะ[1]

การประชุมดังกล่าวมี ส.ส. ลงนามเข้าร่วมประชุม 497 คน จากจำนวนที่มีอยู่ 500 คน[a] ร่วมกับ ส.ว. ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อีก 250 คน รวมเป็น 747 คน ซึ่งผู้ที่จะได้รับเลือก ต้องได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ (375 เสียง)

ที่ประชุมเสนอชื่อบุคคลให้สมาชิกลงมติเลือก 2 คน คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อชิงตำแหน่ง และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

ขั้นตอน

การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้มีขั้นตอนดำเนินการที่แตกต่างจากขั้นตอนเดิม โดยเปลี่ยนให้มาเสนอในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 จากเดิมที่จะต้องเสนอคัดเลือกจากที่ประชุม ส.ส. ก่อนเสนอให้ที่ประชุม ส.ว. ร่วมรับรอง หลังจากการเสนอชื่อจะเป็นขั้นตอนของการอภิปรายถึงคุณสมบัติและลักษณะการเป็นบุคคลต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนด เมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้นก็จะเป็นขั้นตอนของการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี

เนื่องจากมีการเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมถึงสองคน ประกอบกับความไม่พร้อมของสถานที่การประชุมชั่วคราว ซึ่งไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ลงคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ประธานรัฐสภาจึงเสนอวิธีการให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมนับคะแนน 6 คน แบ่งเป็น ส.ส. 4 คน และ ส.ว. 2 คน ร่วมบันทึกคะแนนเสียงด้วยกัน แล้วจึงให้เลขาธิการและรองเลขาธิการรัฐสภาขานเรียกชื่อเพื่อลงมติเป็นรายบุคคลจนครบจำนวนสมาชิกทั้งหมด 747 คน

ผลการลงมติ

ภายหลังเสร็จสิ้นการลงคะแนน ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ประกาศผลการนับคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ ได้รับความเห็นชอบ จำนวน 500 คะแนน ส่วนธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้รับความเห็นชอบ 244 คะแนน และมีสมาชิกรัฐสภางดออกเสียง 3 คะแนน (คือ ชวน หลีกภัย, พรเพชร วิชิตชลชัย สมาชิกวุฒิสภาในฐานะรองประธานรัฐสภา และสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย[3]) พลเอกประยุทธ์จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย[4]

พรรคการเมือง ไฟล์:Prayut Chan-o-cha (cropped) 2016.jpg ไฟล์:Thanatorn cropped 2018.jpg งดออกเสียง ไม่เข้าร่วมประชุม รวม
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เพื่อไทย - 136 - - 136
พลังประชารัฐ 116 - - - 116
อนาคตใหม่ - 79 - 2 81
ประชาธิปัตย์ 51 - 1 1 53
ภูมิใจไทย 50 - 1 - 51
เสรีรวมไทย - 10 - - 10
ชาติไทยพัฒนา 10 - - - 10
ประชาชาติ - 7 - - 7
เศรษฐกิจใหม่ - 6 - - 6
เพื่อชาติ - 5 - - 5
รวมพลังประชาชาติไทย 5 - - - 5
ชาติพัฒนา 3 - - - 3
พลังท้องถิ่นไท 3 - - - 3
รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 - - - 2
พลังปวงชนไทย - 1 - - 1
พลังชาติไทย 1 - - - 1
ประชาภิวัฒน์ 1 - - - 1
ไทยศรีวิไลย์ 1 - - - 1
พลังไทยรักไทย 1 - - - 1
ครูไทยเพื่อประชาชน 1 - - - 1
ประชานิยม 1 - - - 1
ประชาธรรมไทย 1 - - - 1
ประชาชนปฏิรูป 1 - - - 1
พลเมืองไทย 1 - - - 1
ประชาธิปไตยใหม่ 1 - - - 1
พลังธรรมใหม่ 1 - - - 1
วุฒิสภา 249 - 1 - 250
รวม 500 244 3 3 750

เชิงอรรถ

  1. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ก่อนการลงมติ[2] และจุมพิตา จันทรขจร ส.ส. นครปฐม เขต 5 พรรคอนาคตใหม่ ลาป่วยเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ

อ้างอิง

ก่อนหน้า การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2562 ถัดไป
การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย พ.ศ. 2557 ไฟล์:Seal Prime Minister of Thailand.png
การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีไทย
-