ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:20, 2 พฤษภาคม 2562

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
National Research Council of Thailand
ไฟล์:สกว.jpg
ตราสัญลักษณ์ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้งพ.ศ. 2499
2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 (โอนมาสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม)
สำนักงานใหญ่196 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
งบประมาณประจำปี2,644.0443 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1]
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
  • ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล[2], เลขาธิการ
  • ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง, รองเลขาธิการ
  • รองเลขาธิการ
ต้นสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เว็บไซต์www.nrct.go.th

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นส่วนราชการสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัย และมีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนการวิจัยทั้งด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์

ประวัติ

"สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในชื่อว่า "สภาวิจัยแห่งชาติ" ในปี พ.ศ. 2499 ตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. 2499 โดยแต่งตั้งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์เป็นเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติโดยตำแหน่ง และตั้งสำนักงานเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติขึ้นที่กรมวิทยาศาสตร์เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งได้กำหนดสาขาวิชาการที่จะวิจัยไว้เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์โดยแบ่งออกเป็น 6 สาขา ได้แก่ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เคมีและเภสัชวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เกษตรศาสตร์และวนศาสตร์ และสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรม

พ.ศ. 2502 รัฐบาลโดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ แทนพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๙ พร้อมทั้งจัดระบบงานและองค์ประกอบของสภาวิจัยแห่งชาติใหม่โดยให้มี "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" ปฏิบัติงานให้กับสภาวิจัยแห่งชาติและเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2502 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางเกี่ยวกับการวิจัยของประเทศ

พ.ศ. 2507 ประกาศใช้พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๐๗ ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒ เพื่อกำหนดหน้าที่ของสภาวิจัยแห่งชาติและสำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

พ.ศ. 2515 ได้มีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๑๕ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ แก้ไขพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ โดยมีการเปลี่ยนชื่อ "สำนักงานสภาวิจัยแห่งชาติ" เป็น "สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ" [3]

พ.ศ. 2522 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน (ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม") เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2535

พ.ศ. 2543 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้โอนไปอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยมีฐานะเป็นกรม ซึ่งไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อให้สำนักงานฯ ได้มีบทบาทเป็นหน่วยงานกลางในการทำหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนการวิจัยทั้ง ด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ได้อย่างแท้จริงตามกฎหมายว่าด้วยสภาวิจัยแห่ง ชาติรวมทั้งสามารถให้คำปรึกษารัฐบาลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการวิจัยได้โดยรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งเพื่อให้สำนักงานฯ ได้อยู่ในสายการบังคับบัญชาเดียว คือ ขึ้นตรงกับประธานสภาวิจัยแห่งชาติ (นายกรัฐมนตรี) ซึ่งตามพระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติได้ระบุให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการทำงานของสำนักงานฯ อยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 รัฐบาลได้ประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ คือ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งในหมวด 21 ได้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง[4] มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวิจัยและอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และมีฐานะเป็นกรม อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติแทน

วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ครั้งที่ 3/2559 ที่ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้มีมติให้ควบรวมคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติและคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศเข้าด้วยกันเรียกว่า คณะกรรมการนโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (นวนช.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเพื่อให้นโยบายวิจัยและนวัตกรรมของประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกันรวมถึงลดความซ้ำซ้อนในการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 3 คณะ

ต่อมาในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้มีการจัดตั้ง สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ขึ้นตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 62/2559 ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยให้ยุบสภาวิจัยแห่งชาติรวมถึงคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการสาขาวิชาการและให้โอนอำนาจหน้าที่ไปเป็นของสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ [5]

ต่อมาพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2562 กำหนดให้ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง เป็น สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม เป็นต้นไป [6]

รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

ชื่อ ระยะเวลาอยู่ในตำแหน่ง[7]
1. ดร.จ่าง รัตนะรัต 19 กันยายน พ.ศ. 24991 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502
2. พลเอกเนตร เขมะโยธิน 16 ธันวาคม พ.ศ. 250230 กันยายน พ.ศ. 2512
3. ศาสตราจารย์ ดร.ประดิษฐ์ เชี่ยวสกุล 1 ตุลาคม พ.ศ. 251230 กันยายน พ.ศ. 2516
4. ศาสตราจารย์ ดร.สง่า สรรพศรี 1 ตุลาคม พ.ศ. 251630 กันยายน พ.ศ. 2524
5. ศาสตราจารย์ ดร.จุมพล สวัสดิยากร 1 ตุลาคม พ.ศ. 252430 กันยายน พ.ศ. 2532
6. ดร.เจริญ วัชระรังษี 1 ตุลาคม พ.ศ. 253230 กันยายน พ.ศ. 2533
7. ดร.อภิรัต อรุณินท์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 253330 กันยายน พ.ศ. 2538
8. ดร.สุวิทย์ วิบูลย์เศรษฐ์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 253831 ตุลาคม พ.ศ. 2540
9. นายจิรพันธ์ อรรถจินดา 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 254030 กันยายน พ.ศ. 2547
10. ศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช 21 มกราคม พ.ศ. 254830 กันยายน พ.ศ. 2552
11. ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ 1 ตุลาคม พ.ศ. 255230 กันยายน พ.ศ. 2558
12. นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ [8] 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558— 30 กันยายน พ.ศ. 2559
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [9] 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 — 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559
13. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล [10] 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559[11] — ปัจจุบัน

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
  2. http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/725450
  3. ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๑๕ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติสภาวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๒) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๘๙ ตอน ๑๙๐ ก พิเศษ หน้า ๔๗ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
  4. มาตรา ๔๖ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕
  5. คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๒/๒๕๕๙ เรื่อง การปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ จัดตั้งสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอน ๒๒๕ ง พิเศษ หน้า ๘ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๙
  6. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒, เล่ม 136, ตอนที่ 47 ก, วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 1
  7. รายชื่อเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติในอดีตถึงปัจจุบัน
  8. http://www.banmuang.co.th/news/politic/46456
  9. http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/725450
  10. http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/725450
  11. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/017/6.PDF

แหล่งข้อมูลอื่น