ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โฮรีวจิ"
ล วณิพก ย้ายหน้า วัดโฮรีว ไปยัง วัดโฮรีวจิ: หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาญี่ปุ่น: คำบอกประเภทวิสามานยนามที่เป็นส่วนหนึ่งของชื่อเฉพาะ เช่น วัด ให้ทับศัพท์ชื่อเฉพาะนั้นทั้งหมด |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 2: | บรรทัด 2: | ||
{{ตารางมรดกโลก |
{{ตารางมรดกโลก |
||
| site_img = ภาพ:Horyu-ji12s3200.jpg |
| site_img = ภาพ:Horyu-ji12s3200.jpg |
||
| site_img_capt = วัดโฮรี |
| site_img_capt = วัดโฮรีวจิ |
||
| site_img_width = 275px |
| site_img_width = 275px |
||
| th_name = วัดโฮรีว |
| th_name = วัดโฮรีว |
||
บรรทัด 19: | บรรทัด 19: | ||
[[ไฟล์:Yakushi Nyorai Kondo Horyuji.jpg|thumb|[[พระไภษัชยคุรุ]]]] |
[[ไฟล์:Yakushi Nyorai Kondo Horyuji.jpg|thumb|[[พระไภษัชยคุรุ]]]] |
||
[[ไฟล์:GUZE Kannon Horyuji.JPG|thumb|200px|[[กวนอิม]]]] |
[[ไฟล์:GUZE Kannon Horyuji.JPG|thumb|200px|[[กวนอิม]]]] |
||
'''วัดโฮรี |
'''วัดโฮรีวจิ''' ({{ญี่ปุ่น|法隆寺|Hōryū-ji}}) เป็นวัดพุทธในเมือง[[อิการูงะ]] [[จังหวัดนาระ]] [[ประเทศญี่ปุ่น]] มีชื่อเต็มว่า "วัดปราชญ์เปรื่องธรรม" (法隆学問寺; Learning Temple of the Flourishing Law) มีที่มาจากการที่วัดนี้ได้เปิดให้เป็นโรงเรียนสอนศาสนาเช่นเดียวกับที่เป็นอารามสงฆ์ เป็นที่ยอมรับกันว่าวัดนี้มีอาคารไม้หลายหลังที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีอยู่ในโลก แม้ว่าจะยังมีวัดอื่นที่เก่าแก่กว่าและมีความสำคัญมากกว่า แต่วัดโฮรีวจิก็ยังคงเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2536 วัดโฮรีวจิได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ[[ยูเนสโก]]ให้เป็น[[มรดกโลก]]ในนามว่า ''"[[พุทธสถานในเขตโฮรีว]]"'' และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกย่องให้เป็น[[สมบัติประจำชาติญี่ปุ่น]] |
||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
แรกเริ่มวัดนี้สร้างขึ้นตามพระบัญชาของ[[เจ้าชายโชโตกุ]] เพื่อสักการบูชา[[พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา]] (Yakushi Nyorai) และเพื่อเทิดพระเกียรติพระราชบิดาของเจ้าชาย สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 1150 เพื่ออุทิศ จากการขุดสำรวจบริเวณวัดในปัจจุบัน ทำให้ทราบว่าวังของเจ้าชายโชโตกุตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของบริเวณที่วัดตั้งอยู่ในทุกวันนี้ และขุดค้นพบซากวัดที่อยู่ทางใต้ของวังของเจ้าชาย และไม่ได้อยู่ในบริเวณวัดในปัจจุบัน วัดโฮรีวเคยถูกฟ้าผ่าและเกิดเพลิงไหม้ในปี พ.ศ. 1213 ทำให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1213 - 1243 ต้องมีการสร้างวัดขึ้นใหม่ในลักษณะเดิม แต่ย้ายตำแหน่งขึ้นไปตามทางตะวันตกเฉียงเหนือจากตำแหน่งเดิม และได้มีการบูรณะและต่อเติมบริเวณวัดขึ้นอีกในปี พ.ศ. 1917 และ พ.ศ. 2146 |
แรกเริ่มวัดนี้สร้างขึ้นตามพระบัญชาของ[[เจ้าชายโชโตกุ]] เพื่อสักการบูชา[[พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา]] (Yakushi Nyorai) และเพื่อเทิดพระเกียรติพระราชบิดาของเจ้าชาย สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 1150 เพื่ออุทิศ จากการขุดสำรวจบริเวณวัดในปัจจุบัน ทำให้ทราบว่าวังของเจ้าชายโชโตกุตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของบริเวณที่วัดตั้งอยู่ในทุกวันนี้ และขุดค้นพบซากวัดที่อยู่ทางใต้ของวังของเจ้าชาย และไม่ได้อยู่ในบริเวณวัดในปัจจุบัน วัดโฮรีวจิเคยถูกฟ้าผ่าและเกิดเพลิงไหม้ในปี พ.ศ. 1213 ทำให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1213 - 1243 ต้องมีการสร้างวัดขึ้นใหม่ในลักษณะเดิม แต่ย้ายตำแหน่งขึ้นไปตามทางตะวันตกเฉียงเหนือจากตำแหน่งเดิม และได้มีการบูรณะและต่อเติมบริเวณวัดขึ้นอีกในปี พ.ศ. 1917 และ พ.ศ. 2146 |
||
== สถาปัตยกรรม == |
== สถาปัตยกรรม == |
||
บริเวณวัดในปัจจุบันแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนไซอินหรือตะวันตก และส่วนโทอินหรือตะวันออก ส่วนตะวันตกเป็นที่ตั้งของหอคนโด (หอทองคำ) และเจดีย์ห้าชั้น ส่วนตะวันออกมีหอยูเมะโดโนะรูปทรงแปดเหลี่ยม (หอนิมิต) ตั้งอยู่ห่างจากส่วนตะวันตกไปทางทิศตะวันออก 122 เมตร ในบริเวณวัดยังมีกุฏิสงฆ์ หอประชุม ห้องสมุด และโรงอาหาร |
บริเวณวัดในปัจจุบันแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนไซอินหรือตะวันตก และส่วนโทอินหรือตะวันออก ส่วนตะวันตกเป็นที่ตั้งของหอคนโด (หอทองคำ) และเจดีย์ห้าชั้น ส่วนตะวันออกมีหอยูเมะโดโนะรูปทรงแปดเหลี่ยม (หอนิมิต) ตั้งอยู่ห่างจากส่วนตะวันตกไปทางทิศตะวันออก 122 เมตร ในบริเวณวัดยังมีกุฏิสงฆ์ หอประชุม ห้องสมุด และโรงอาหาร |
||
ขณะที่วัดในญี่ปุ่นในยุคแรก ๆ จะออกแบบอาคารให้เรียงตัวกันตามต้นแบบจากจีนและเกาหลี แต่วัดโฮรีวไม่ได้เรียงตามต้นแบบนั้น โดยหอคนโดจะอยู่ข้างเจดีย์ ซึ่งที่มาจากการสร้างวัดขึ้นใหม่หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในปี พ.ศ. 1213 พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาที่ประดิษฐานอยู่ก่อนถูกเพลิงไหม้ยังคงรอดปลอดภัยมาได้ ระหว่างการสร้างวัดขึ้นใหม่ได้มีการอาราธนาพระพุทธรูปศากยมุนีมาประดิษฐานที่วัด เนื่องจากผู้สร้างวัดต้องการยกย่องเชิดชูเกียรติแด่พระพุทธรูปทั้งสองอย่างเท่าเที่ยมกัน จึงออกแบบให้หอคนโดและเจดีย์ตั้งอยู่เคียงข้างกันเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม |
ขณะที่วัดในญี่ปุ่นในยุคแรก ๆ จะออกแบบอาคารให้เรียงตัวกันตามต้นแบบจากจีนและเกาหลี แต่วัดโฮรีวจิไม่ได้เรียงตามต้นแบบนั้น โดยหอคนโดจะอยู่ข้างเจดีย์ ซึ่งที่มาจากการสร้างวัดขึ้นใหม่หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในปี พ.ศ. 1213 พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาที่ประดิษฐานอยู่ก่อนถูกเพลิงไหม้ยังคงรอดปลอดภัยมาได้ ระหว่างการสร้างวัดขึ้นใหม่ได้มีการอาราธนาพระพุทธรูปศากยมุนีมาประดิษฐานที่วัด เนื่องจากผู้สร้างวัดต้องการยกย่องเชิดชูเกียรติแด่พระพุทธรูปทั้งสองอย่างเท่าเที่ยมกัน จึงออกแบบให้หอคนโดและเจดีย์ตั้งอยู่เคียงข้างกันเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม |
||
สถาปัตยกรรมของวัดโฮรีวได้รับอิทธิพลมาจากอาณาจักร[[แพ็กเจ]]แห่งคาบสมุทรเกาหลีเป็นอย่างมาก เป็นเพราะมีความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นอย่างแน่นแฟ้น มีหลักฐานบ่งชี้ว่าสถาปนิก ช่างแกะสลัก และช่างฝีมือชาวแพ็กเจได้มีส่วนช่วยในการสร้างวัดโฮรี |
สถาปัตยกรรมของวัดโฮรีวจิได้รับอิทธิพลมาจากอาณาจักร[[แพ็กเจ]]แห่งคาบสมุทรเกาหลีเป็นอย่างมาก เป็นเพราะมีความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นอย่างแน่นแฟ้น มีหลักฐานบ่งชี้ว่าสถาปนิก ช่างแกะสลัก และช่างฝีมือชาวแพ็กเจได้มีส่วนช่วยในการสร้างวัดโฮรีวจิ เนื่องจากญี่ปุ่นในยุคนั้นยังขาดแคลนแรงงานมีฝีมือที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ ตามบันทึกของซัมกุ๊ก ซางิ เชื้อพระวงศ์ผู้ปกครองแพ็กเจ ได้กล่าวไว้ว่า พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาถูกสร้างขึ้นโดยช่างแกะสลักชาวแพ็กเจตามพระบัญชาของเจ้าชายโชโตกุ ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยรักษาอาการประชวรของพระราชบิดาได้ แต่พระราชบิดาของพระองค์ก็เสด็จสวรรคตไปก่อนที่วัดจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ |
||
=== เจดีย์ === |
=== เจดีย์ === |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:07, 23 เมษายน 2562
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
วัดโฮรีวจิ (ญี่ปุ่น: 法隆寺; โรมาจิ: Hōryū-ji) เป็นวัดพุทธในเมืองอิการูงะ จังหวัดนาระ ประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเต็มว่า "วัดปราชญ์เปรื่องธรรม" (法隆学問寺; Learning Temple of the Flourishing Law) มีที่มาจากการที่วัดนี้ได้เปิดให้เป็นโรงเรียนสอนศาสนาเช่นเดียวกับที่เป็นอารามสงฆ์ เป็นที่ยอมรับกันว่าวัดนี้มีอาคารไม้หลายหลังที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีอยู่ในโลก แม้ว่าจะยังมีวัดอื่นที่เก่าแก่กว่าและมีความสำคัญมากกว่า แต่วัดโฮรีวจิก็ยังคงเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2536 วัดโฮรีวจิได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในนามว่า "พุทธสถานในเขตโฮรีว" และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกย่องให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น
ประวัติ
แรกเริ่มวัดนี้สร้างขึ้นตามพระบัญชาของเจ้าชายโชโตกุ เพื่อสักการบูชาพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา (Yakushi Nyorai) และเพื่อเทิดพระเกียรติพระราชบิดาของเจ้าชาย สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 1150 เพื่ออุทิศ จากการขุดสำรวจบริเวณวัดในปัจจุบัน ทำให้ทราบว่าวังของเจ้าชายโชโตกุตั้งอยู่ในส่วนตะวันออกของบริเวณที่วัดตั้งอยู่ในทุกวันนี้ และขุดค้นพบซากวัดที่อยู่ทางใต้ของวังของเจ้าชาย และไม่ได้อยู่ในบริเวณวัดในปัจจุบัน วัดโฮรีวจิเคยถูกฟ้าผ่าและเกิดเพลิงไหม้ในปี พ.ศ. 1213 ทำให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1213 - 1243 ต้องมีการสร้างวัดขึ้นใหม่ในลักษณะเดิม แต่ย้ายตำแหน่งขึ้นไปตามทางตะวันตกเฉียงเหนือจากตำแหน่งเดิม และได้มีการบูรณะและต่อเติมบริเวณวัดขึ้นอีกในปี พ.ศ. 1917 และ พ.ศ. 2146
สถาปัตยกรรม
บริเวณวัดในปัจจุบันแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนไซอินหรือตะวันตก และส่วนโทอินหรือตะวันออก ส่วนตะวันตกเป็นที่ตั้งของหอคนโด (หอทองคำ) และเจดีย์ห้าชั้น ส่วนตะวันออกมีหอยูเมะโดโนะรูปทรงแปดเหลี่ยม (หอนิมิต) ตั้งอยู่ห่างจากส่วนตะวันตกไปทางทิศตะวันออก 122 เมตร ในบริเวณวัดยังมีกุฏิสงฆ์ หอประชุม ห้องสมุด และโรงอาหาร
ขณะที่วัดในญี่ปุ่นในยุคแรก ๆ จะออกแบบอาคารให้เรียงตัวกันตามต้นแบบจากจีนและเกาหลี แต่วัดโฮรีวจิไม่ได้เรียงตามต้นแบบนั้น โดยหอคนโดจะอยู่ข้างเจดีย์ ซึ่งที่มาจากการสร้างวัดขึ้นใหม่หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในปี พ.ศ. 1213 พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาที่ประดิษฐานอยู่ก่อนถูกเพลิงไหม้ยังคงรอดปลอดภัยมาได้ ระหว่างการสร้างวัดขึ้นใหม่ได้มีการอาราธนาพระพุทธรูปศากยมุนีมาประดิษฐานที่วัด เนื่องจากผู้สร้างวัดต้องการยกย่องเชิดชูเกียรติแด่พระพุทธรูปทั้งสองอย่างเท่าเที่ยมกัน จึงออกแบบให้หอคนโดและเจดีย์ตั้งอยู่เคียงข้างกันเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
สถาปัตยกรรมของวัดโฮรีวจิได้รับอิทธิพลมาจากอาณาจักรแพ็กเจแห่งคาบสมุทรเกาหลีเป็นอย่างมาก เป็นเพราะมีความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นอย่างแน่นแฟ้น มีหลักฐานบ่งชี้ว่าสถาปนิก ช่างแกะสลัก และช่างฝีมือชาวแพ็กเจได้มีส่วนช่วยในการสร้างวัดโฮรีวจิ เนื่องจากญี่ปุ่นในยุคนั้นยังขาดแคลนแรงงานมีฝีมือที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ ตามบันทึกของซัมกุ๊ก ซางิ เชื้อพระวงศ์ผู้ปกครองแพ็กเจ ได้กล่าวไว้ว่า พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาถูกสร้างขึ้นโดยช่างแกะสลักชาวแพ็กเจตามพระบัญชาของเจ้าชายโชโตกุ ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยรักษาอาการประชวรของพระราชบิดาได้ แต่พระราชบิดาของพระองค์ก็เสด็จสวรรคตไปก่อนที่วัดจะสร้างเสร็จสมบูรณ์
เจดีย์
เจดีย์ไม้ห้าชั้นในบริเวณวัดสูง 32.45 เมตร ถือกันว่าเป็นหนึ่งในสองอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีรูปแบบสถาปัตยกรรมคล้ายกับจีนและเกาหลี สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 700 แท่นรองฐานและราวลูกกรงของเจดีย์มีลักษณะเช่นเดียวกับในหอคนโดแทบทุกประการ มีบันทึกกล่าวไว้ว่าใต้พื้นของเจดีย์มีหีบสมบัติฝังอยู่ โดยหินก้อนใหญ่ที่สร้างเป็นฐานเจดีย์ถูกฝังลึกลงไปใต้ดิน 3 เมตร และมีโพรงสำหรับใส่หีบไว้ แต่เนื่องด้วยน้ำหนักของเจดีย์ ทำให้ไม่สามารถขุดค้นลงไปถึงหีบสมบัติได้
หอยูเมโดโนะ
เป็นที่เชื่อกันว่าเจ้าชายโชโตกุพำนักอยู่ในหอนี้เพื่อศึกษาพระไตรปิฎก หอที่เห็นปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 739 และได้รับการบูรณะในศตวรรษที่ 9 หอยูเมโดโนะนี้เป็นที่ประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ [1] ซึ่งจะเปิดให้นมัสการเพียงปีละหนึ่งครั้ง
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ โฮรีวจิ
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์