ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จาง กั๋วหรง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
Potapt ย้ายหน้า เลสลี่ จาง ไปยัง เลสลี จาง ทับหน้าเปลี่ยนทาง: กรณีนี้ไม่ใช่ความต่างทางสำเนียง จะออกเสียงแบบมีวรรณยุกต์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับบุคคล แต่เมื่อเขียนทับศัพท์ไม่ต้องใส่วรรณยุกต์
Vanloolai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 22: บรรทัด 22:
| thaifilmdb_id =
| thaifilmdb_id =
}}
}}
'''เลสลี จาง''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: Leslie Cheung) อดีตนักแสดงและนักร้อง[[ฮ่องกง]]ที่มีชื่อเสียง เลสลี จาง เกิดเมื่อวันที่ [[12 กันยายน]] [[ค.ศ. 1956]] ที่[[เกาลูน]] มีชื่อเป็น[[ภาษาจีน]]ว่า '''จาง กั๊วหยง''' ([[อักษรจีนตัวเต็ม]]: 張國榮, [[อักษรจีนตัวย่อ]]: 张国荣, [[พินอิน]]: Zhāng Guóróng) โดยมีชื่อแรกเกิดว่า '''จาง ฟะฉุง''' (張發宗; Chong Koet-yùng; Chong Fat-chûng)
'''เลสลี จาง''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: Leslie Cheung) อดีตนักแสดง , นักร้อง (ราชาเพลงป๊อป) ชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เกิดเมื่อวันที่ [[12 กันยายน]] [[ค.ศ. 1956]] ที่[[เกาลูน]] มีชื่อเป็น[[ภาษาจีน]]ว่า '''จาง กั๊วหยง''' ([[อักษรจีนตัวเต็ม]]: 張國榮, [[อักษรจีนตัวย่อ]]: 张国荣, [[พินอิน]]: Zhāng Guóróng) โดยมีชื่อแรกเกิดว่า '''จาง ฟะฉุง''' (張發宗; Chong Koet-yùng; Chong Fat-chûng)


เลสลี จาง เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 10 คน โดยที่พี่คนที่ 9 นั้นอายุห่างกันมากถึง 8 ปี บิดานั้นมีอาชีพเป็นช่างตัดเสื้อรายใหญ่ที่เคยตัดเสื้อให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียงมาแล้ว เช่น [[วิลเลียม โฮลเดน]] หรือ [[อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก]] ในวัยเด็กนั้นเลสลี จาง เคยเผยว่าตัวเองรู้สึกเหงามากที่ต้องถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวกับบรรดา[[ตุ๊กตา]]ของเล่นต่าง ๆ และพ่อก็ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตนเองได้เลย ซึ่งชีวิตในครอบครัวนั้นเต็มไปด้วยการทะเลาะเบาะแว้งและการใช้อารมณ์ ดังนั้นจึงโตมาด้วยการที่ยายเป็นผู้เลี้ยงดู
เลสลี จาง เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 10 คน โดยพี่คนที่ 9 อายุห่างกันกับเขามากถึง 8 ปี บิดามีอาชีพเป็นช่างตัดเสื้อรายใหญ่ที่เคยตัดเสื้อให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียงมาแล้ว เช่น [[วิลเลียม โฮลเดน]] หรือ [[อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก]] ในวัยเด็กนั้นเลสลี จาง เคยเผยว่า ตัวเองรู้สึกเหงามากที่ต้องถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวกับบรรดา[[ตุ๊กตา]]ของเล่นต่าง ๆ และพ่อก็ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตนเองได้เลย ชีวิตในครอบครัวนั้นเต็มไปด้วยการทะเลาะเบาะแว้งและการใช้อารมณ์ เขาจึงโตมาด้วยยายเป็นผู้เลี้ยงดู


เลสลี จาง เข้าศึกษาด้านสิ่งทอที่[[มหาวิทยาลัยลีดส์]] [[ประเทศอังกฤษ]] เพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว แต่ต้องกลับมาก่อนเรียนจบ เพราะบิดาป่วยหนัก เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนักร้องในช่วงต้น[[คริสต์ทศวรรษ 1980|ทศวรรษที่ 80]] มีผลงานเพลงมากมาย ซึ่งในส่วนของการโปรโมตผลงานเพลงนี้ เลสลี จาง เคยมาโปรโมตใน[[ประเทศไทย]]ด้วยในปี [[พ.ศ. 2525]] ที่[[โรงแรมมณเฑียร]]
เลสลี จาง เข้าศึกษาด้านสิ่งทอที่[[มหาวิทยาลัยลีดส์]] [[ประเทศอังกฤษ]] เพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว แต่ต้องกลับมาก่อนเรียนจบ เพราะบิดาป่วยหนัก เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนักร้องในช่วงต้น[[คริสต์ทศวรรษ 1980|ทศวรรษที่ 80]] มีผลงานเพลงมากมาย เป็นหนึ่งในราชาเพลงป๊อป (Kings of Canto - pop) ของเกาะฮ่องกง และโด่งดังเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างมากในวงการเพลงเอเชียช่วงยุคทศวรรษที่ 80 ในการโปรโมตผลงานเพลง เลสลี จาง เคยมาโปรโมตในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2525 ที่โรงแรมมณเฑียร กรุงเทพมหานคร ด้วย


ส่วนผลงานทางด้านการแสดง เลสลี จาง เริ่มต้นด้วยภาพลักษณ์ในแบบ "เด็กเสเพล" หรือ "แบดบอย" ในวงการ มีผลงานในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง เช่น ''[[โหด เลว ดี|A Better Tomorrow]]'' ใน 2 ภาคแรก จากการกำกับของ[[จอห์น วู]] ในปี [[ค.ศ. 1986]] และ [[ค.ศ. 1987]] ที่แสดงคู่กับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง [[โจว เหวินฟะ]] และ[[ตี้หลุง]] หรือในภาพยนตร์ชุด ''[[โปเยโปโลเย]]'' ที่แสดงอยู่กับ [[หวังจู่เสียน|หวัง จู่เสียน]] รวมทั้งรับบทนำในภาพยนตร์ของ[[หว่อง คาไว]] ในเรื่อง ''[[วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า|Days of Being Wild]]'' ในปี [[ค.ศ. 1991]], ''[[ตำนานมหายุทธ์มังกรหยก|Ashes of Time]]'' ในปี [[ค.ศ. 1994]] และ ''[[โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา|Happy Together]]'' ในปี [[ค.ศ. 1997]]
ส่วนผลงานทางด้านการแสดง เลสลี จาง เริ่มต้นด้วยภาพลักษณ์ในแบบ "เด็กเสเพล" หรือ "แบดบอย" ในวงการ มีผลงานในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง เช่น ''[[โหด เลว ดี|A Better Tomorrow]]'' ใน 2 ภาคแรก จากการกำกับของ[[จอห์น วู]] ในปี [[ค.ศ. 1986]] และ [[ค.ศ. 1987]] ที่แสดงคู่กับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง [[โจว เหวินฟะ]] และ[[ตี้หลุง]] หรือในภาพยนตร์ชุด ''[[โปเยโปโลเย]]'' ที่แสดงอยู่กับ [[หวังจู่เสียน|หวัง จู่เสียน]] รวมทั้งรับบทนำในภาพยนตร์ของ[[หว่อง คาไว]] ในเรื่อง ''[[วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า|Days of Being Wild]]'' ในปี [[ค.ศ. 1991]], ''[[ตำนานมหายุทธ์มังกรหยก|Ashes of Time]]'' ในปี [[ค.ศ. 1994]] และ ''[[โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา|Happy Together]]'' ในปี [[ค.ศ. 1997]]


แต่บทบาทการแสดงที่ทำให้ เลสลี จาง ได้รับการกล่าวขานอย่างมาก คือ การรับบทเป็น เตี่ยอี๋ นักแสดง[[อุปรากรจีน]]ที่เป็น[[รักร่วมเพศ]] จากภาพยนตร๋ในการกำกับของ [[เฉิน ข่ายเกอ]] เรื่อง ''[[หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม|Farewell My Concubine]]'' ในปี [[ค.ศ. 1993]] ซึ่งเลสลี จาง สามารถตีบทแตก และทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าฉายทั่วโลก รวมถึงได้มีชื่อเข้าชิง[[รางวัลออสการ์]]สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วย
แต่บทบาทการแสดงที่ทำให้ เลสลี จาง ได้รับการกล่าวขานอย่างมาก คือ การรับบทเป็น เตี่ยอี๋ นักแสดง[[อุปรากรจีน]]ที่เป็น[[รักร่วมเพศ]] จากภาพยนตร๋ในการกำกับของ [[เฉิน ข่ายเกอ]] เรื่อง ''[[หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม|Farewell My Concubine]]'' ในปี [[ค.ศ. 1993]] ซึ่งเลสลี จาง สามารถตีบทแตก และทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าฉายทั่วโลก รวมถึงได้มีชื่อเข้าชิง[[รางวัลออสการ์]] สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วย


จากนั้นในปี ค.ศ. 2000 เลสลี จาง เปิดเผยว่าตนเองเป็น[[เกย์]] รวมทั้งแต่งตัวเป็น[[ผู้หญิง]]ในการร้องเพลงบนเวทีอีกด้วย แม้เมื่อวัย 22 จะเคยขอ เหมา ซุ่นหวิน อดีตแฟนสาว[[แต่งงาน]]ด้วยก็ตาม<ref name="โรค"> [http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000045406 ชาวฮ่องกงรำลึก 7 ปีการเสียชีวิตของ "เลสลี จาง"]จาก[[ผู้จัดการออนไลน์]]</ref>
จากนั้นในปี ค.ศ. 2000 เลสลี จาง เปิดเผยว่าตนเองเป็น[[เกย์]] รวมทั้งแต่งตัวเป็น[[ผู้หญิง]]ในการร้องเพลงบนเวทีอีกด้วย แม้เมื่อวัย 22 จะเคยขอ เหมา ซุ่นหวิน อดีตแฟนสาว[[แต่งงาน]]ด้วยก็ตาม<ref name="โรค"> [http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000045406 ชาวฮ่องกงรำลึก 7 ปีการเสียชีวิตของ "เลสลี จาง"]จาก[[ผู้จัดการออนไลน์]]</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:35, 6 เมษายน 2562

เลสลี จาง
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด12 กันยายน ค.ศ. 1956
จาง ฟะฉุง
เสียชีวิต1 เมษายน ค.ศ. 2003 (46 ปี)
ฮ่องกง
ปีที่แสดงค.ศ. 1977-ค.ศ. 2003
ผลงานเด่นหนิงไฉ่เฉิน ใน โปเยโปโลเย ทั้ง 3 ภาค
ยัดดี้ ใน Days of Being Wild
เตียอี๋ ใน Farewell My Concubine
จั่วอี้ถัง ในThe Bride with White Hair ทั้ง 2 ภาค
อาวเอี๊ยงฮง ใน Ashes of Time
สวี่เหวินเฉียง ใน Shanghai Grand
ฐานข้อมูล
IMDb

เลสลี จาง (อังกฤษ: Leslie Cheung) อดีตนักแสดง , นักร้อง (ราชาเพลงป๊อป) ชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เกิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1956 ที่เกาลูน มีชื่อเป็นภาษาจีนว่า จาง กั๊วหยง (อักษรจีนตัวเต็ม: 張國榮, อักษรจีนตัวย่อ: 张国荣, พินอิน: Zhāng Guóróng) โดยมีชื่อแรกเกิดว่า จาง ฟะฉุง (張發宗; Chong Koet-yùng; Chong Fat-chûng)

เลสลี จาง เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 10 คน โดยพี่คนที่ 9 อายุห่างกันกับเขามากถึง 8 ปี บิดามีอาชีพเป็นช่างตัดเสื้อรายใหญ่ที่เคยตัดเสื้อให้กับบุคคลที่มีชื่อเสียงมาแล้ว เช่น วิลเลียม โฮลเดน หรือ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก ในวัยเด็กนั้นเลสลี จาง เคยเผยว่า ตัวเองรู้สึกเหงามากที่ต้องถูกทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวกับบรรดาตุ๊กตาของเล่นต่าง ๆ และพ่อก็ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตนเองได้เลย ชีวิตในครอบครัวนั้นเต็มไปด้วยการทะเลาะเบาะแว้งและการใช้อารมณ์ เขาจึงโตมาด้วยยายเป็นผู้เลี้ยงดู

เลสลี จาง เข้าศึกษาด้านสิ่งทอที่มหาวิทยาลัยลีดส์ ประเทศอังกฤษ เพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว แต่ต้องกลับมาก่อนเรียนจบ เพราะบิดาป่วยหนัก เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนักร้องในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 มีผลงานเพลงมากมาย เป็นหนึ่งในราชาเพลงป๊อป (Kings of Canto - pop) ของเกาะฮ่องกง และโด่งดังเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างมากในวงการเพลงเอเชียช่วงยุคทศวรรษที่ 80 ในการโปรโมตผลงานเพลง เลสลี จาง เคยมาโปรโมตในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2525 ที่โรงแรมมณเฑียร กรุงเทพมหานคร ด้วย

ส่วนผลงานทางด้านการแสดง เลสลี จาง เริ่มต้นด้วยภาพลักษณ์ในแบบ "เด็กเสเพล" หรือ "แบดบอย" ในวงการ มีผลงานในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง เช่น A Better Tomorrow ใน 2 ภาคแรก จากการกำกับของจอห์น วู ในปี ค.ศ. 1986 และ ค.ศ. 1987 ที่แสดงคู่กับนักแสดงรุ่นพี่อย่าง โจว เหวินฟะ และตี้หลุง หรือในภาพยนตร์ชุด โปเยโปโลเย ที่แสดงอยู่กับ หวัง จู่เสียน รวมทั้งรับบทนำในภาพยนตร์ของหว่อง คาไว ในเรื่อง Days of Being Wild ในปี ค.ศ. 1991, Ashes of Time ในปี ค.ศ. 1994 และ Happy Together ในปี ค.ศ. 1997

แต่บทบาทการแสดงที่ทำให้ เลสลี จาง ได้รับการกล่าวขานอย่างมาก คือ การรับบทเป็น เตี่ยอี๋ นักแสดงอุปรากรจีนที่เป็นรักร่วมเพศ จากภาพยนตร๋ในการกำกับของ เฉิน ข่ายเกอ เรื่อง Farewell My Concubine ในปี ค.ศ. 1993 ซึ่งเลสลี จาง สามารถตีบทแตก และทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าฉายทั่วโลก รวมถึงได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วย

จากนั้นในปี ค.ศ. 2000 เลสลี จาง เปิดเผยว่าตนเองเป็นเกย์ รวมทั้งแต่งตัวเป็นผู้หญิงในการร้องเพลงบนเวทีอีกด้วย แม้เมื่อวัย 22 จะเคยขอ เหมา ซุ่นหวิน อดีตแฟนสาวแต่งงานด้วยก็ตาม[1]

เลสลี จาง เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากการทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกระโดดลงมาจากชั้น 24 ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนทัล ใจกลางฮ่องกง เมื่อเวลา 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2003 โดยเชื่อว่ามีสาเหตุจากความรักที่ไม่สมหวังกับผู้จัดการส่วนตัว โดยทิ้งจดหมายซึ่งเขียนว่าตัวเองได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้า [2][3][4][5][6][7] [8]

ในปัจจุบัน เมื่อถึงวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี ที่ฮ่องกงจะมีการจัดงานรำลึกถึงการจากไปของเลสลี จาง เสมอที่หน้าโรงแรมแมนดาริน โอเรียนทัล [1] [9]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น