ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัฐสุลต่านรูม"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 18: | บรรทัด 18: | ||
|image_map_caption = แผนที่อาณาจักรสุลต่านแห่งรัม ในปี ค.ศ. 1190 |
|image_map_caption = แผนที่อาณาจักรสุลต่านแห่งรัม ในปี ค.ศ. 1190 |
||
|capital = นิชาเพอร์</br> เรย์ |
|capital = นิชาเพอร์</br> เรย์ |
||
|common_languages = [[ภาษา |
|common_languages = [[ภาษาเปอร์เซีย]] (ทางการ)</br>[[ภาษาตุรกีอานาโตเลียโบราณ]] |
||
|title_leader = สุลต่าน |
|title_leader = สุลต่าน |
||
|leader1 = Kutalmish (คนแรก) |
|leader1 = Kutalmish (คนแรก) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:04, 14 มีนาคม 2562
รัฐสุลต่านรูม سلاجقة الروم Anadolu Selçuklu Devleti Sultanate of Rûm | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1077–ค.ศ. 1307 | |||||||||||
ธงชาติ | |||||||||||
แผนที่อาณาจักรสุลต่านแห่งรัม ในปี ค.ศ. 1190 | |||||||||||
สถานะ | รัฐสุลต่าน | ||||||||||
เมืองหลวง | นิชาเพอร์ เรย์ | ||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาเปอร์เซีย (ทางการ) ภาษาตุรกีอานาโตเลียโบราณ | ||||||||||
สุลต่าน | |||||||||||
• ค.ศ. 1060-1077 | Kutalmish (คนแรก) | ||||||||||
• ค.ศ. 1303-1308 | เมสุดที่ 2 (สุดท้าย) | ||||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||||
• แยกตัวออกจากจักรวรรดิเซลจุค | ค.ศ. 1077 | ||||||||||
• ล่มสลาย | ค.ศ. 1307 ค.ศ. 1307 | ||||||||||
|
รัฐสุลต่านรูม (อังกฤษ: Sultanate of Rûm, อาหรับ: سلاجقة الروم) เป็นรัฐสุลต่านเซลจุคตุรกี[1] ที่ปกครองอาณาบริเวณส่วนใหญ่ของอานาโตเลียระหว่างปี ค.ศ. 1077 จนถึงปี ค.ศ. 1307 โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่อิซนิคและต่อมาคอนยา เนื่องจากอาณาจักรสุลต่านเป็นอาณาจักรที่มีการเคลื่อนย้ายอยู่เสมอฉะนั้นเมืองอื่นเช่นเคย์เซรีและซิวาสต่างก็ได้เป็นเมืองหลวงอยู่ระยะหนึ่ง ในสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดอาณาจักรสุลต่านแห่งรัมมีอาณาบริเวณครอบคลุมกลางตุรกีตั้งแต่เมืองท่าอันทาลยา-อลันยาบนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงไซนอพบนฝั่งทะเลดำ ทางตะวันออกอาณาจักรสุลต่านก็ผนวกรัฐต่างๆ ของตุรกีไปจนถึงทะเลสาบวาน ทางด้านตะวันตกสุดก็มีอาณาบริเวณไปจรดบริเวณเดนิซลิและบริเวณทะเลอีเจียน
ศัพทมูล
คำว่า “Rûm” อาหรับที่ใช้เรียกโรมัน เซลจุคเรียกอาณาจักรของตนเองว่า “รูม” เพราะกองทัพมุสลิมต่างๆ ถือว่าบริเวณนี้เคยเป็นดินแดนที่ถือว่าเป็นดินแดน “โรมัน” มาแต่โบราณหรือของจักรวรรดิโรมันตะวันออก[2] นักประวัติศาสตร์ตุรกีสมัยปัจจุบันเรียกอาณาจักรนี้ว่า “รัฐสุลต่านอานาโตเลีย” (“Anadolu Selçukluları”) หรือเมื่อไม่นานมานี้ก็เรียกว่า “เซลจุคแห่งตุรกี” (“Türkiye Selçukluları”) หรือบางครั้งก็มีบ้างที่เรียกว่า “รัฐสุลต่านคอนยา” หรือ “รัฐสุลต่านไอโคเนียม” ในบันทึกที่เขียนในตะวันตก ส่วนในประเทศไทยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกอาณาจักรนี้ว่า หรุ่ม หรือ หรุ่มโต้ระกี่[3] ตามที่ปรากฏในโคลงภาพคนต่างภาษาช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว[4]
ประวัติ
รัฐสุลต่านรูมมีความรุ่งเรืองที่สุดในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 13 เมื่อยึดเมืองท่าสำคัญบนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบนฝั่งทะเลดำจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้ ภายในอานาโตเลียเซลจุคก็ทำการค้าขายโดยใช้ระบบสถานีคาราวาน (caravanserai) โดยการตั้งที่พักผู้ขนย้ายสินค้าเป็นระยะๆ ที่เป็นการช่วยให้ความสะดวกแก่การขนย้ายสินค้าจากอิหร่านและเอเชียกลางไปยังเมืองท่าต่างๆ รัฐสุลต่านรูมมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นหนากับสาธารณรัฐเจนัวก็ก่อตั้งขึ้นในสมัยนี้ ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลจุคสามารถผนวกรัฐต่างๆ ในตุรกีที่ก่อตั้งขึ้นทางตะวันออกได้หลังจากยุทธการมันซิเคิร์ต (Battle of Manzikert) ที่รวมทั้งดินแดนของดานิชเมนด์ส (Danishmends), เมงกือเซ็ค (Mengücek), ซัลตุคลุ (Saltuklu) และ อาร์ตูคลุ (Artuklu) สุลต่านเซลจุคสามารถต่อต้านนักรบครูเสด แต่ในปี ค.ศ. 1243 ก็มาเพลี่ยงพล้ำต่อจักรวรรดิมองโกลที่เข้ามารุกราน ในที่สุดเซลจุคก็กลายเป็นเมืองขึ้นของมองโกล และแม้ว่าชนชั้นบริหารจะพยายามรักษาความเป็นรัฐสุลต่านไว้แต่ในที่สุดอำนาจของอาณาจักรสุลต่านก็เสื่อมโทรมลงในราวครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 13 และสลายตัวไปในสิบปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 14
ในช่วงสิบปีสุดท้ายบริเวณรัฐสุลต่านรูมก็เป็นบ่อเกิดของราชรัฐเล็กๆ น้อยๆ ที่ก่อตัวขึ้น (Beyliks) ที่รวมทั้งออสมันกลู (Osmanoğlu) ที่รุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่เป็นจักรวรรดิออตโตมัน
อ้างอิง
- ↑ "Seljuq Turks" in various scholastic sources
- ↑ Alexander Kazhdan, “Rūm” The Oxford Dictionary of Byzantium (Oxford University Press, 1991), vol. 3, p. 1816.
- ↑ สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ มาจากไหน?. กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 194
- ↑ สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ มาจากไหน?. กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 192