ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอเชียนคัพ"
Samnosphere (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: เพิ่มยูอาร์แอล wikipedia.org การแก้ไขแบบเห็นภาพ |
ล แก้ไขคำสะกดผิด |
||
บรรทัด 32: | บรรทัด 32: | ||
ผู้ชนะเลิศการแข่งขันเอเชียนคัพส่วนใหญ่จะเป็นทีมชาติที่มาจากกลุ่มประเทศชั้นนำทางด้านวงการฟุตบอล ซึ่งได้แก่[[เกาหลีใต้]]และ[[อิหร่าน]] จนกระทั่งหลังจากปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) ที่มีแชมป์เป็นทีมชาติ[[ญี่ปุ่น]]และ[[ซาอุดิอาระเบีย]] นอกจากนี้ยังมีแชมป์จากทีมชาติ[[ออสเตรเลีย]] [[อิรัก]] [[คูเวต]] และ[[อิสราเอล]] (ซึ่งภายหลังถูกขับออกและได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล[[ยูฟ่า]]) |
ผู้ชนะเลิศการแข่งขันเอเชียนคัพส่วนใหญ่จะเป็นทีมชาติที่มาจากกลุ่มประเทศชั้นนำทางด้านวงการฟุตบอล ซึ่งได้แก่[[เกาหลีใต้]]และ[[อิหร่าน]] จนกระทั่งหลังจากปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) ที่มีแชมป์เป็นทีมชาติ[[ญี่ปุ่น]]และ[[ซาอุดิอาระเบีย]] นอกจากนี้ยังมีแชมป์จากทีมชาติ[[ออสเตรเลีย]] [[อิรัก]] [[คูเวต]] และ[[อิสราเอล]] (ซึ่งภายหลังถูกขับออกและได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล[[ยูฟ่า]]) |
||
[[ประเทศออสเตรเลีย]]เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ[[สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย]]ในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2005) และได้เป็นเจ้าภาพ[[เอเชียนคัพ |
[[ประเทศออสเตรเลีย]]เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ[[สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย]]ในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2005) และได้เป็นเจ้าภาพ[[เอเชียนคัพ 2015]] (พ.ศ. 2558) สำหรับ[[เอเชียนคัพ 2019]] ซึงจัดขึ้นที่[[สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์]] ถือเป็นเอเชียนคัพครั้งแรกที่ขยายจำนวนทีมในรอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม นอกจากนี้ยังถือเป็น[[ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย|การคัดเลือกตัวแทนโซนเอเชีย]]ในการเข้าร่วมการแข่งขัน[[ฟุตบอลโลก 2018]] รอบสุดท้ายอีกด้วย |
||
ต่างจากการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อื่นๆ การแข่งขันเอเชียนคัพมักมีการเลื่อนวันจัดการแข่งขันในแต่ละครั้งให้สอดคล้องกับสภ่าพภูมิอากาศของประเทศเจ้าภาพ เช่นในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) มีจัดการแข่งขันในเดือนกรกฎาคม แต่การแข่งขันทั้ง 3 ครั้งหลังจากนั้นจะจัดการแข่งขันในเดือนมกราคม |
ต่างจากการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อื่นๆ การแข่งขันเอเชียนคัพมักมีการเลื่อนวันจัดการแข่งขันในแต่ละครั้งให้สอดคล้องกับสภ่าพภูมิอากาศของประเทศเจ้าภาพ เช่นในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) มีจัดการแข่งขันในเดือนกรกฎาคม แต่การแข่งขันทั้ง 3 ครั้งหลังจากนั้นจะจัดการแข่งขันในเดือนมกราคม |
||
บรรทัด 43: | บรรทัด 43: | ||
ทีมชาติ[[ออสเตรเลีย]]ได้เข้าร่วมการแข่งขัน[[เอเชียนคัพ 2007]] ในปี พ.ศ. 2550 และสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ต้องพ่ายให้กับทีมชาติ[[อิรัก]] ซึ่งภายหลังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันในครั้งนั้น และถือเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรายการนี้ แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศก็ตาม |
ทีมชาติ[[ออสเตรเลีย]]ได้เข้าร่วมการแข่งขัน[[เอเชียนคัพ 2007]] ในปี พ.ศ. 2550 และสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ต้องพ่ายให้กับทีมชาติ[[อิรัก]] ซึ่งภายหลังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันในครั้งนั้น และถือเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรายการนี้ แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศก็ตาม |
||
การแข่งขัน[[เอเชียนคัพ 2019]] ที่[[สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์]]ครั้งล่าสุด ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาหลายอย่าง เช่น การใช้ระบบ[[ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ]]หรือวีเออาร์ และการเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม อีกทั้งยังแก้ไขกติกาให้สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้ นอกจากนี้ทีมชาติ[[ประเทศกาตาร์|กาตาร์]]ยังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยการเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นในรอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นแชมป์รายการเอเชียนคัพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง |
การแข่งขัน[[เอเชียนคัพ 2019]] ที่[[สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์]]ครั้งล่าสุด ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาหลายอย่าง เช่น การใช้ระบบ[[ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ]]หรือวีเออาร์ และการเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม อีกทั้งยังแก้ไขกติกาให้สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้ นอกจากนี้ทีมชาติ[[ประเทศกาตาร์|กาตาร์]]ยังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยการเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นในรอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นแชมป์รายการเอเชียนคัพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ |
||
== ถ้วยรางวัล == |
== ถ้วยรางวัล == |
||
บรรทัด 56: | บรรทัด 56: | ||
=== การแข่งขันรอบสุดท้าย === |
=== การแข่งขันรอบสุดท้าย === |
||
การแข่งขันเอเชียนคัพรอบสุดท้ายจะมีทีมเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 24 ทีม การคัดเลือกแบ่งออกเป็น 2 รอบคือ รอบแบ่งกลุ่ม และรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยรอบแบ่งกลุ่มจะทำการแข่งขันแบบพบกันหมดจากทั้งหมด 6 กลุ่ม สำหรับทีมที่ดีที่สุด 2 ทีมในแต่ละสายจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อีก 4 ทีมที่เหลือจะคัดจากทีมอันดับ 3 ของแต่ละสาย |
การแข่งขันเอเชียนคัพรอบสุดท้ายจะมีทีมเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 24 ทีม การคัดเลือกแบ่งออกเป็น 2 รอบคือ รอบแบ่งกลุ่ม และรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยรอบแบ่งกลุ่มจะทำการแข่งขันแบบพบกันหมดจากทั้งหมด 6 กลุ่ม สำหรับทีมที่ดีที่สุด 2 ทีมในแต่ละสายจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อีก 4 ทีมที่เหลือจะคัดจากทีมอันดับ 3 ของแต่ละสายที่ดีที่สุด 4 ทีม สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออกจนไปถึงรอบชิงชนะเลิศ |
||
== ผลการแข่งขัน == |
== ผลการแข่งขัน == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:24, 5 มีนาคม 2562
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) |
---|---|
ภูมิภาค | นานาชาติ (ฟีฟ่า) |
จำนวนทีม | 24 |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | กาตาร์ ครั้งแรก |
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด | ญี่ปุ่น (4 ครั้ง) |
เว็บไซต์ | เอเชียนคัพ |
เอเชียนคัพ 2019 |
ไฟล์:2019 AFC Asian Cup opening ceremony 1.jpg โลโก้การแข่งขัน เอเชียนคัพ 2019 ระหว่างพิธีเปิดก่อนการแข่งนัดแรก | |
การแข่งขัน | |
---|---|
เอเอฟซี เอเชียนคัพ (อังกฤษ: AFC Asian Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติของทวีปเอเชีย จัดโดย สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปที่เก่าแก่เป็นอันดับสองถัดจากการแข่งขันฟุตบอลรายการโคปาอเมริกา ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันจะถือว่าเป็นแชมป์ของภููมิภาคทวีปเอเชีย และจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมในการแข่งขันฟุตบอลรายการฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ
โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นทุก 4 ปี เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) ที่ฮ่องกง และจัดต่อเนื่องทุก 4 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) ที่ประเทศจีน ซึงในปีเดียวกันนั้นมีการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนและการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทำให้ทางสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตัดสินใจเลื่อนการจัดการแข่งขันครั้งต่อไปเป็นปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) ซึ่งครั้งนั้นมีเจ้าภาพร่วมจาก 4 ประเทศคืออินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม และจัดการแข่งขันครั้งต่อไปทุก 4 ปีเป็นปกติหลังจากนั้น
ผู้ชนะเลิศการแข่งขันเอเชียนคัพส่วนใหญ่จะเป็นทีมชาติที่มาจากกลุ่มประเทศชั้นนำทางด้านวงการฟุตบอล ซึ่งได้แก่เกาหลีใต้และอิหร่าน จนกระทั่งหลังจากปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) ที่มีแชมป์เป็นทีมชาติญี่ปุ่นและซาอุดิอาระเบีย นอกจากนี้ยังมีแชมป์จากทีมชาติออสเตรเลีย อิรัก คูเวต และอิสราเอล (ซึ่งภายหลังถูกขับออกและได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า)
ประเทศออสเตรเลียเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2005) และได้เป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2015 (พ.ศ. 2558) สำหรับเอเชียนคัพ 2019 ซึงจัดขึ้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นเอเชียนคัพครั้งแรกที่ขยายจำนวนทีมในรอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม นอกจากนี้ยังถือเป็นการคัดเลือกตัวแทนโซนเอเชียในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายอีกด้วย
ต่างจากการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อื่นๆ การแข่งขันเอเชียนคัพมักมีการเลื่อนวันจัดการแข่งขันในแต่ละครั้งให้สอดคล้องกับสภ่าพภูมิอากาศของประเทศเจ้าภาพ เช่นในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) มีจัดการแข่งขันในเดือนกรกฎาคม แต่การแข่งขันทั้ง 3 ครั้งหลังจากนั้นจะจัดการแข่งขันในเดือนมกราคม
ประวัติความเป็นมา
หลังการจัดตั้งสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียในปี พ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954) ได้มีการจัดการแข่งขัันเอเชียนคัพขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) ที่ฮ่องกง โดยทีมที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมในการแข่งขันจะมีทีมจากชาติเจ้าภาพและการคัดทีมผู้ชนะจากโซนต่างๆ (เอเชียกลาง เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันตก) ซึ่งเป็นการชิงชัยเพียง 4 ทีมเท่านั้น ระบบการคัดเลือกนี้ถูกใช้จนกระทั่งการแข่งขันในปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964)
ทีมชาติญี่ปุ่นทำสถิติแชมป์ในการแข่งขันเอเชียนคัพมากที่สุดถึง 4 ครั้งจากการแข่งขันในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992), ปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000), ปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) และปี พ.ศ. 2554 (ค.ศ. 2011)
ทีมชาติออสเตรเลียได้เข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนคัพ 2007 ในปี พ.ศ. 2550 และสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ต้องพ่ายให้กับทีมชาติอิรัก ซึ่งภายหลังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันในครั้งนั้น และถือเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรายการนี้ แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศก็ตาม
การแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งล่าสุด ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาหลายอย่าง เช่น การใช้ระบบผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอหรือวีเออาร์ และการเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม อีกทั้งยังแก้ไขกติกาให้สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้ นอกจากนี้ทีมชาติกาตาร์ยังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยการเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นในรอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นแชมป์รายการเอเชียนคัพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ
ถ้วยรางวัล
ถ้วยรางวัลในการแข่งขันเอเชียนคัพแบ่งออกเป็น 2 แบบ แบบแรกถูกใช้ในการแข่งขันระหว่างปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) จนถึงปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ส่วนแบบที่สองเริ่มใช้ตั้งแต่การแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 ปี พ.ศ. 2562
ถ้วยรางวัลแบบแรกจะเป็นลักษณะคล้ายถ้วยบนฐานทรงกระบอก มีความสูง 42 เซนติเมตร และหนัก 15 กิโลกรัม จนในการแข่งขันในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) ได้มีการบรรจุหินสลักชื่อประเทศที่ชนะเลิศในการแข่งขันทุกครั้งลงไปในฐานของถ้วยรางวัล ซึ่งภายหลังได้ถูกออกแบบใหม่ด้วยการเพิ่มเนื้อโลหะเงินและลดความหนาของฐานสีดำด้านล่าง อีกทั้งมีการเปลี่ยนเป็นการสลักชื่อลงรอบฐานของถ้วยรางวัลแทน
วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ระหว่างการแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่มในเมืองดูไบ มีการเผยถ้วยรางวัลแบบใหม่ซึ่งสร้างและออกแบบโดย Thomas Lyte แบรนด์ออกแบบถ้วยรางวัลชั้นนำจากอังกฤษ ตัวถ้วยรางวัลมีความสูงถึง 78 เซนติเมตร กว้าง 42 เซนติเมตร วัสดุทำจากเงิน โดยน้ำหนักรวมอยู่ที่ 15 กิโลกรัม ถ้วยรางวัลถูกออกแบบให้คล้ายดอกบัวหลวงซึ่งเป็นพืชน้ำที่สื่อถึงทวีปเอเชีย กลีบดอกบัวทั้งห้าเป็นตัวแทนของ 5 สหพันธ์ฟุตบอลภายใต้การกำกับดูแลของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ยังคงมีสลักรายชื่อแชมป์ทุกครั้งจนถึงปัจจุบันลงบนฐานเหมือนแบบแรก แต่ส่วนของฐานกับตัวถ้วยรางวัลจะแยกเป็นคนละส่วน นอกจากนี้ถ้วยรางวัลแบบใหม่จะมีด้ามจับทั้งสองข้าง ต่างจากถ้วยรางวัลแบบแรก
รูปแบบการแข่งขัน
การแข่งขันรอบสุดท้าย
การแข่งขันเอเชียนคัพรอบสุดท้ายจะมีทีมเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 24 ทีม การคัดเลือกแบ่งออกเป็น 2 รอบคือ รอบแบ่งกลุ่ม และรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยรอบแบ่งกลุ่มจะทำการแข่งขันแบบพบกันหมดจากทั้งหมด 6 กลุ่ม สำหรับทีมที่ดีที่สุด 2 ทีมในแต่ละสายจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อีก 4 ทีมที่เหลือจะคัดจากทีมอันดับ 3 ของแต่ละสายที่ดีที่สุด 4 ทีม สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออกจนไปถึงรอบชิงชนะเลิศ
ผลการแข่งขัน
ความสำเร็จในการแข่งขัน
ทีม | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับสาม | อันดับสี่ | Semi-finalists | Top 4 Finishes |
---|---|---|---|---|---|---|
ญี่ปุ่น | 4 (1992*, 2000, 2004, 2011) | 1 (2019) | – | 1 (2007) | – | 6 |
ซาอุดีอาระเบีย | 3 (1984, 1988, 1996) | 3 (1992, 2000, 2007) | – | – | – | 6 |
อิหร่าน | 3 (1968*, 1972, 1976*) | – | 4 (1980, 1988, 1996, 2004) | 1 (1984) | 1 (2019) | 9 |
เกาหลีใต้ | 2 (1956, 1960*) | 4 (1972, 1980, 1988, 2015) | 4 (1964, 2000, 2007, 2011) | – | – | 10 |
อิสราเอล1 | 1 (1964*) | 2 (1956, 1960) | 1 (1968) | – | – | 4 |
คูเวต | 1 (1980*) | 1 (1976) | 1 (1984) | 1 (1996) | – | 4 |
ออสเตรเลีย | 1 (2015*) | 1 (2011) | – | – | – | 2 |
อิรัก | 1 (2007) | – | – | 2 (1976, 2015) | – | 3 |
กาตาร์ | 1 (2019) | – | – | – | – | 1 |
จีน | – | 2 (1984, 2004*) | 2 (1976, 1992) | 2 (1988, 2000) | – | 6 |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | – | 1 (1996*) | 1 (2015) | 1 (1992) | 1 (2019*) | 4 |
อินเดีย | – | 1 (1964) | – | – | – | 1 |
พม่า | – | 1 (1968) | – | – | – | 1 |
ฮ่องกง | – | – | 1 (1956*) | 1 (1964) | – | 2 |
จีนไทเป2 | – | – | 1 (1960) | 1 (1968) | – | 2 |
ไทย | – | – | 1 (1972*) | – | – | 1 |
เวียดนาม3 | – | – | – | 2 (1956, 1960) | – | 2 |
กัมพูชา | – | – | – | 1 (1972) | – | 1 |
เกาหลีเหนือ | – | – | – | 1 (1980) | – | 1 |
บาห์เรน | – | – | – | 1 (2004) | – | 1 |
อุซเบกิสถาน | – | – | – | 1 (2011) | – | 1 |
Total | 17 | 17 | 16 | 16 | 2 | 68 |
- * เจ้าภาพ
ความสำเร็จแบ่งตามภูมิภาค
ภูมิภาค | ผลงานที่ดีที่สุด |
---|---|
เอเชียตะวันตก | ชนะเลิศ 6 ครั้ง โดย ซาอุดีอาระเบีย คูเวต อิรัก กาตาร์ (1980, 1984, 1988, 1996, 2007, 2019) |
เอเชียตะวันออก | ชนะเลิศ 6 ครั้ง โดย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ (1956, 1960, 1992, 2000, 2004, 2011) |
อาเซียน | ชนะเลิศ โดย ออสเตรเลีย (2015) |
เอเชียใต้ | รองชนะเลิศ โดย อินเดีย (1964) |
เอเชียกลาง | ชนะเลิศ 3 ครั้ง โดย อิหร่าน (1968, 1972, 1976) |
ทีมที่ผ่านเข้ารอบ
ทีม | 1956 (4) |
1960 (4) |
1964 (4) |
1968 (5) |
1972 (6) |
1976 (6) |
1980 (10) |
1984 (10) |
1988 (10) |
1992 (8) |
1996 (12) |
2000 (12) |
2004 (16) |
2007 (16) |
2011 (16) |
2015 (16) |
2019 (24) |
ปี |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
West Asian Members | ||||||||||||||||||
บาห์เรน | • | × | •• | × | GS | • | × | • | 4th | GS | GS | GS | R16 | 6 | ||||
อิรัก | GS | 4th | × | × | × | × | QF | QF | QF | 1st | QF | 4th | R16 | 9 | ||||
จอร์แดน | • | × | × | • | • | × | • | • | QF | • | QF | GS | R16 | 4 | ||||
คูเวต | × | GS | 2nd | 1st | 3rd | GS | • | 4th | QF | GS | • | GS | GS | × | 10 | |||
เลบานอน | • | × | • | × | × | × | • | GS | • | × | • | • | GS | 2 | ||||
โอมาน | • | × | • | • | • | GS | GS | • | GS | R16 | 4 | |||||||
ปาเลสไตน์ | • | • | • | • | GS | GS | 2 | |||||||||||
กาตาร์ | • | GS | GS | GS | GS | • | QF | GS | GS | QF | GS | 1st | 10 | |||||
ซาอุดีอาระเบีย | •• | × | 1st | 1st | 2nd | 1st | 2nd | GS | 2nd | GS | GS | R16 | 10 | |||||
ซีเรีย | • | × | GS | GS | GS | • | GS | • | • | • | GS | • | GS | 6 | ||||
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | GS | GS | GS | 4th | 2nd | • | GS | GS | GS | 3rd | SF | 10 | ||||||
เยเมน | • | • | × | • | • | • | • | • | • | GS | 1 | |||||||
Central Asian Members | ||||||||||||||||||
อิหร่าน | × | • | × | 1st | 1st | 1st | 3rd | 4th | 3rd | GS | 3rd | QF | 3rd | QF | QF | QF | SF | 14 |
คีร์กีซสถาน | Part of the USSR | • | • | • | × | • | • | R16 | 1 | |||||||||
เติร์กเมนิสถาน | Part of the USSR | • | • | GS | • | • | • | GS | 2 | |||||||||
อุซเบกิสถาน | Part of the USSR | GS | GS | QF | QF | 4th | QF | R16 | 7 | |||||||||
South Asian Members | ||||||||||||||||||
บังกลาเทศ | Part of Pakistan | × | GS | • | • | • | × | • | • | • | • | • | • | 1 | ||||
อินเดีย | × | • | 2nd | × | • | • | • | GS | • | • | • | • | • | • | GS | • | GS | 4 |
East Asian Members | ||||||||||||||||||
จีน | 3rd | GS | 2nd | 4th | 3rd | QF | 4th | 2nd | GS | GS | QF | QF | 12 | |||||
จีนไทเป | • | 3rd | × | 4th | × | × | × | × | × | • | • | • | • | • | • | • | • | 2 |
ฮ่องกง | 3rd | • | 4th | 5th | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | 3 |
ญี่ปุ่น | × | × | × | • | × | • | × | × | GS | 1st | QF | 1st | 1st | 4th | 1st | QF | 2nd | 9 |
เกาหลีเหนือ | •• | 4th | × | • | GS | × | • | • | × | GS | GS | GS | 5 | |||||
เกาหลีใต้ | 1st | 1st | 3rd | • | 2nd | • | 2nd | GS | 2nd | • | QF | 3rd | QF | 3rd | 3rd | 2nd | QF | 14 |
Southeast Asian Members | ||||||||||||||||||
ออสเตรเลีย | OFC Member | QF | 2nd | 1st | QF | 4 | ||||||||||||
กัมพูชา | • | × | × | • | 4th | × | × | × | × | × | × | • | × | × | • | • | • | 1 |
อินโดนีเซีย | × | × | × | • | • | • | • | • | • | • | GS | GS | GS | GS | • | • | × | 4 |
มาเลเซีย | Part of Malaya | • | • | • | GS | GS | • | • | • | • | • | • | GS | • | • | • | 3 | |
พม่า | × | × | × | 2nd | × | × | × | × | × | × | • | • | • | × | • | • | • | 1 |
ฟิลิปปินส์ | • | • | × | • | × | × | • | • | × | × | • | • | × | × | • | • | GS | 1 |
สิงคโปร์ | × | • | × | • | × | • | • | GS | × | • | • | • | • | • | • | • | • | 1 |
ไทย | × | × | • | • | 3rd | •• | • | • | • | GS | GS | GS | GS | GS | • | • | R16 | 7 |
เวียดนาม | 4th | 4th | • | • | • | × | × | × | × | × | • | • | • | QF | • | • | QF | 4 |
Former AFC Members | ||||||||||||||||||
อิสราเอล | 2nd | 2nd | 1st | 3rd | •• | Expelled from AFC | UEFA Member | 4 | ||||||||||
เยเมนใต้ | GS | × | × | • | Part of Yemen | 1 |
- สัญลักษณ์
- 1st – แชม
- 2nd – รองแชม
- 3rd – ที่ 3
- 4th – ที่ 4
- QF – รอบก่อนชิงชนะเลิศ
- GS – รอบคัดเลือก
- q – เข้ารอบแต่ยังไม่ได้แข่ง
- — เจ้าภาพ
การปรากฏตัวของทีม
ปี | ปรากฏตัว | รวม |
---|---|---|
1956 | เกาหลีใต้, ฮ่องกง, เวียดนามใต้, อิสราเอล | 4 |
1960 | จีนไทเป | 1 |
1964 | อินเดีย | 1 |
1968 | อิหร่าน, พม่า | 2 |
1972 | กัมพูชา, อิรัก, คูเวต, ไทย | 4 |
1976 | เยเมนใต้, จีน | 2 |
1980 | บังกลาเทศ, มาเลเซีย, เกาหลีเหนือ, กาตาร์, ซีเรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 6 |
1984 | ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์ | 2 |
1988 | บาห์เรน, ญี่ปุ่น | 2 |
1992 | None | 0 |
1996 | อินโดนีเซีย, อุซเบกิสถาน | 2 |
2000 | เลบานอน | 1 |
2004 | จอร์แดน, โอมาน, เติร์กเมนิสถาน | 3 |
2007 | ออสเตรเลีย | 1 |
2011 | None | 0 |
2015 | ปาเลสไตน์ | 1 |
2019 | คีร์กีซสถาน, ฟิลิปปินส์, เยเมน | 3 |
ความขัดแย้ง
แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ระดับทวีป แต่การแข่งขันเอเชียนคัพก็ต้องประสบกับปัญหาหลายครั้ง ทั้งการไม่สามารถโน้มน้าวให้หลายชาติเข้าร่วมการแข่งขันได้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ค่าใช้จ่ายการเดินทางของชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันที่มหาศาล ตลอดจนความปัญหาจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน
ความขัดแย้งทางการเมือง
การแข่งขันเอเชียนคัพมักตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างชาติสมาชิกอยู่บ่อยครั้ง เช่น กรณีของอิสราเอลซึ่งเคยเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ภายหลังสงครามยมคิปปูร์ได้ทวีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับชาติสมาชิกในคาบสมุทรอาหรับ อิสราเอลถอนตัวออกจากสมาชิกสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียในปี พ.ศ. 2517 และเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนีย (โอเอซี) ซึ่งภายหลังได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิิกของสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ในปี พ.ศ. 2533
กรณีคล้ายกันคือความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียกับอิหร่านภายหลังการเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในกรุงเตหะรานในปี พ.ศ. 2559 ซึ่งทีมชาติอิหร่านปฎิเสธที่จะทำการแข่งขันกับทีมชาติซาอุดิอาระเบีย และขู่จะถอนตัวออกจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหากไม่ทำตามคำขอ ซึ่งได้ลุกลามเป็นความขัดแย้งในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีกรณีของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกโซนเอเชียที่จะจัดขึ้นในกรุงเปียงยาง จนเป็นเหตุทำให้ต้องมีการเปลียนไปทำการแข่งขันที่เซี่ยงไฮ้แทน
ปัญหาจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขัน
จำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันแป็นอีกปัญหาของการแข่งขันเอเชียนคัพ เช่น ในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2011 (พ.ศ. 2554) ที่ประเทศกาตาร์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปชมการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันในสนามมีไม่กี่คนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่าทางกาตาร์เองถึงกับต้องนำกำลังทหารมานั่งแทนผู้ชมในสนามเพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดีอีกด้วย
หมายเหตุ
- ↑ "About the IFA". The Israel Football Association. สืบค้นเมื่อ 27 July 2014.