ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอพิชัย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Guide1121 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับแอนดรอยด์
บรรทัด 39: บรรทัด 39:


ต่อมาเมืองพิชัยเสื่อมลง เนื่องจากราษฎรอพยพไปอยู่[[ตำบลท่าอิฐ]] (ซึ่งเป็นที่ตั้งตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ในปัจจุบันนี้) จนกระทั่งถึงสมัย[[รัชกาลที่ 5]] พระองค์ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งตำบลท่าอิฐเป็นเมืองขึ้นเรียกว่า '''เมือง[[อุตรดิตถ์]]''' และโปรดให้เป็นเมืองขึ้นของอำเภอพิชัย ซึ่งในตอนนั้นเมืองพิชัยแบ่งการปกครองออกเป็น 5 เมือง คือ เมืองอุตรดิตถ์ เมือง[[ตรอน]] เมือง[[ลับแล]] และเมือง[[น้ำปาด]]
ต่อมาเมืองพิชัยเสื่อมลง เนื่องจากราษฎรอพยพไปอยู่[[ตำบลท่าอิฐ]] (ซึ่งเป็นที่ตั้งตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ในปัจจุบันนี้) จนกระทั่งถึงสมัย[[รัชกาลที่ 5]] พระองค์ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งตำบลท่าอิฐเป็นเมืองขึ้นเรียกว่า '''เมือง[[อุตรดิตถ์]]''' และโปรดให้เป็นเมืองขึ้นของอำเภอพิชัย ซึ่งในตอนนั้นเมืองพิชัยแบ่งการปกครองออกเป็น 5 เมือง คือ เมืองอุตรดิตถ์ เมือง[[ตรอน]] เมือง[[ลับแล]] และเมือง[[น้ำปาด]]

ปัจจุบันมีไอ้อัด กับ ไอ้กิ๊กอยู่ ไอ้แอปด้วย



== การแบ่งเขตการปกครอง ==
== การแบ่งเขตการปกครอง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:45, 27 มกราคม 2562

อำเภอพิชัย
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Phichai
คำขวัญ: 
ถิ่นกำเนิดพระยาพิชัย ไส้กรอกใหญ่รสเด็ด แกงรสเผ็ดหอยขม รื่นรมย์ดนตรีมังคละ หลวงพ่อโตพระคู่เมือง
แผนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เน้นอำเภอพิชัย
แผนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เน้นอำเภอพิชัย
พิกัด: 17°17′13″N 100°5′15″E / 17.28694°N 100.08750°E / 17.28694; 100.08750
ประเทศ ไทย
จังหวัดอุตรดิตถ์
พื้นที่
 • ทั้งหมด736.7 ตร.กม. (284.4 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2560)
 • ทั้งหมด76,444 คน
 • ความหนาแน่น103.76 คน/ตร.กม. (268.7 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 53120
รหัสภูมิศาสตร์5307
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอพิชัย หมู่ที่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ 53120
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

อำเภอพิชัย เป็นอำเภอหนึ่งในจำนวน 9 อำเภอ ของจังหวัดอุตรดิตถ์ พิชัยเป็นเมืองสำคัญมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เคยเป็นเมืองลูกหลวงของกรุงสุโขทัย เมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเคยเป็นตัวจังหวัดเก่าอีกด้วย

ที่ตั้งและอาณาเขต

อำเภอพิชัยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้สุดของจังหวัด อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ตามทางรถไฟไปทางทิศใต้ประมาณ 38 กิโลเมตร ตัวเมืองพิชัยเก่าอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟขึ้นไปไม่ไกล

ประวัติ

เมืองพิชัยในอดีตได้ปรากฏในพงศาวดารเหนือและพงศาวดารหลายตอน สำหรับในพงศาวดารเหนือปรากฏอยู่ในเรื่องพระยาแกรกตอนหนึ่งว่า เจ้าไวยยักษาเป็นผู้ได้สร้างเมืองพิชัย แต่ทว่าเรื่องพระยาพิชัยในพงศวาดารเหนือเป็นตำนานเล่าต่อกันมาเท่านั้น ซึ่งเชื่อกันว่าเหตุการณ์ในเรื่องคงจะตรงกับสมัยสุโขทัยหรือก่อนสุโขทัยก็ได้ ซึ่งในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาได้กล่าวถึงพระเจ้าอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 1893 ปรากฏว่ามีเมืองขึ้นด้วยกันถึง 16 เมือง ในจำนวน 16 เมืองนั้นมี "เมืองพิชัย" รวมอยู่ด้วย แสดงว่าเมืองพิชัยเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาแล้ว

ไฟล์:ศาลพระยาพิชัยดาบหักอำเภอพิชัย.jpg
ศาลพระยาพิชัยดาบหัก หน้าวัดหน้าพระธาตุ อำเภอพิชัย

ต่อมา พ.ศ. 2033 ได้มีการก่อกำแพงเมืองขึ้นซึ่งตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในปี พ.ศ. 2127 ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชประกาศอิสรภาพ พระองค์ทรงขับไล่กองทัพพม่าทางหัวเมืองเหนือ ปรากฏว่าพระยาสวรรคโลกและพระยาพิชัยแข็งเมือง ไม่ยอมเกณฑ์กำลังไปช่วย พระองค์จึงยกกองทัพเข้าตีเมืองสวรรคโลกและเมืองพิชัย จับพระยาสวรรคโลกและพระยาพิชัย มีรับสั่งให้ประหารชีวิตทั้งสองคนและกวาดต้อนพลเมืองลงมายังเมืองพิษณุโลกจนสิ้น

ต่อมาในสมัยธนบุรี พระเจ้ากรุงธนบุรีจะเสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2314 พระองค์ได้ไปตั้งประชุมทัพหลวงที่เมืองพิชัย ต่อมา พ.ศ. 2315 โปสุพาลา แม่ทัพพม่าไปตีได้เมืองหลวงพระบาง ให้ซิกชิงโบนายทัพพม่ายกมาตีเมืองลับแลแล้วเลยมาตีเมืองพิชัย พม่าตั้งค่ายอยู่ที่วัดเอกา ขณะนั้นเมืองพิชัยมีรี้พลน้อย พระยาพิชัยได้ตั้งมั่นรักษาเมืองแล้วขอกองทัพเมืองพิษณุโลกขึ้นไปช่วย กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (เมื่อยังเป็นเจ้าพระยาสุรสีห์) เสด็จยกกองทัพเมืองพิษณุโลกขึ้นไปช่วยได้รบกับพม่าเป็นสามารถ พระยาพิชัยถือดาบสองมือคุมพลทหารออกไล่ฟันพม่าจนดาบหักจึงได้สมญาว่า "พระยาพิชัยดาบหัก" แต่นั้นมา ทำให้กองทัพพม่าแตกพ่ายหนีไป

จนกระทั่งถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองพิชัยได้เป็นเมืองสำคัญขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เพราะเมื่อเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์เป็นขบถ กองทัพจากกรุงเทพฯ ยกขึ้นไปปราบปราม และโปรดให้เลิกอาณาเขตศรีสัตนาคนหุตไม่ให้มีดังแต่ก่อน เมืองพิชัยได้หัวเมืองขึ้นหลายเมือง ขยายเขตแดนออกไปถึงแม่น้ำโขง ต้องตรวจตรารักษาการทางเมืองแพร่ เมืองน่าน ตลอดจนเมืองหลวงพระบาง

ต่อมาเมืองพิชัยเสื่อมลง เนื่องจากราษฎรอพยพไปอยู่ตำบลท่าอิฐ (ซึ่งเป็นที่ตั้งตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ในปัจจุบันนี้) จนกระทั่งถึงสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งตำบลท่าอิฐเป็นเมืองขึ้นเรียกว่า เมืองอุตรดิตถ์ และโปรดให้เป็นเมืองขึ้นของอำเภอพิชัย ซึ่งในตอนนั้นเมืองพิชัยแบ่งการปกครองออกเป็น 5 เมือง คือ เมืองอุตรดิตถ์ เมืองตรอน เมืองลับแล และเมืองน้ำปาด

การแบ่งเขตการปกครอง

การปกครองส่วนภูมิภาค

อำเภอพิชัยแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 11 ตำบล 98 หมู่บ้าน ได้แก่

1. ในเมือง (Nai Mueang) 9 หมู่บ้าน 7. ท่ามะเฟือง (Tha Mafueang) 10 หมู่บ้าน
2. บ้านดารา (Ban Dara) 9 หมู่บ้าน 8. บ้านโคน (Ban Khon) 8 หมู่บ้าน
3. ไร่อ้อย (Rai Oi) 11 หมู่บ้าน 9. พญาแมน (Phaya Maen) 7 หมู่บ้าน
4. ท่าสัก (Tha Sak) 10 หมู่บ้าน 10. นาอิน (Na In) 7 หมู่บ้าน
5. คอรุม (Kho Rum) 12 หมู่บ้าน 11. นายาง (Na Yang) 7 หมู่บ้าน
6. บ้านหม้อ (Ban Mo) 8 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่น

ท้องที่อำเภอพิชัยประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลท่าสัก ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลท่าสัก
  • เทศบาลตำบลในเมือง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลในเมือง
  • องค์การบริหารส่วนตำบลในเมือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลในเมือง (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลในเมือง)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดารา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านดาราทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลไร่อ้อย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไร่อ้อยทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสัก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าสัก (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลท่าสัก)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคอรุมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหม้อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านหม้อทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลท่ามะเฟือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่ามะเฟืองทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านโคนทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลพญาแมน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพญาแมนทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลนาอิน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาอินทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลนายาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนายางทั้งตำบล

สถานที่ท่องเที่ยว

อ้างอิง