ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ททบ.5 เอชดี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Boompw (คุย | ส่วนร่วม)
Soponwit Sangsai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{กึ่งล็อก2}}
{{กึ่งล็อก2}}
{{กึ่งล็อก}}
{{กึ่งล็อก}}
{{pp|small=yes}}
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{กล่องข้อมูล สถานีโทรทัศน์
{{กล่องข้อมูล สถานีโทรทัศน์

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:57, 22 มกราคม 2562

สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
สัญลักษณ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
ประเทศไทย ไทย
พื้นที่แพร่ภาพไทย ประเทศไทย
เครือข่ายสถานีโทรทัศน์/สถานีวิทยุ
ช่องโทรทัศน์ระบบดิจิทัล
ประเภทบริการสาธารณะ
คำขวัญนำคุณค่าสู่สังคมไทย
(พ.ศ. 2537 - ปัจจุบัน)
คงคุณค่า คู่ยุคดิจิตอล
(พ.ศ. 2561 - ปัจจุบัน)
สำนักงานใหญ่210 ถนนพหลโยธิน
แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
แบบรายการ
ระบบภาพ1080i (16:9 ภาพคมชัดสูง)
ความเป็นเจ้าของ
เจ้าของกองทัพบกไทย
บุคลากรหลัก
ช่องรอง
ประวัติ
เริ่มออกอากาศระบบแอนะล็อก ขาวดำ:
25 มกราคม พ.ศ. 2501 (66 ปี)
ระบบสี แอนะล็อก:
3 ตุลาคม พ.ศ. 2517 (49 ปี)
ระบบดิจิทัล:
1 เมษายน พ.ศ. 2557 (10 ปี)
ระบบดาวเทียมและดิจิทัล:
2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 (8 ปี)
ยุติออกอากาศเฉพาะระบบแอนะล็อก:
21 มิถุนายน พ.ศ. 2561 (60 ปี 147 วัน)
ชื่อเดิมสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7
(25 มกราคม 2501 - 2 ตุลาคม 2517)
ลิงก์
เว็บไซต์www.tv5.co.th
www.tv5hd1.com
ออกอากาศ
ภาคพื้นดิน
ดิจิทัลช่อง 1 (มักซ์#2 : ททบ.)
เคเบิลทีวี
ช่อง 1
ทีวีดาวเทียม
ช่อง 1
สื่อสตรีมมิง
TV5ชมรายการสด

สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (อังกฤษ: Royal Thai Army Radio and Television; ชื่อย่อ: ททบ.) เป็นสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (Terrestrial Television) ของกองทัพบกไทย และเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งที่สองของประเทศไทย เริ่มแพร่ภาพเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501 ในระบบวีเอชเอฟ เดิมออกอากาศเป็นภาพขาวดำ ทางช่องสัญญาณที่ 7 จึงเรียกว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (ททบ.7) หรือ ช่อง 7 (ขาว-ดำ) ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 จึงย้ายมาออกอากาศด้วยภาพสี ทางช่องสัญญาณที่ 5 จึงเรียกว่า สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) จนถึงปัจจุบัน มี พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานกรรมการบริหารกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์กองทัพบก และ พลเอก กิตติเชษฐ์ ศรดิษฐพันธ์ เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

ประวัติ

ราวปี พ.ศ. 2495 กระทรวงกลาโหมออกข้อบังคับ ว่าด้วยการมอบหมายงานแก่เจ้าหน้าที่กองทัพบก โดยกำหนดให้กรมการทหารสื่อสาร (สส.) จัดตั้งแผนกกิจการวิทยุโทรทัศน์ ขึ้นตรงต่อกองการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2497 มีการกำหนดอัตรากำลังพลประจำแผนกโทรทัศน์ ในอัตราเฉพาะกิจ สังกัดกรมการทหารสื่อสาร จำนวน 52 นาย เพื่อปฏิบัติงาน ออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ผลิตและถ่ายทอดรายการโทรทัศน์ จากนั้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการดำเนินการวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ประกอบด้วย พลเอกไสว ไสวแสนยากร เป็นประธานกรรมการ และพันเอก (พิเศษ) การุณ เก่งระดมยิง เป็นเลขานุการ มีหน้าที่จัดทำโครงการจัดตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พร้อมทั้งวางแผนการอำนวยการ และควบคุมการดำเนินกิจการวิทยุโทรทัศน์ รวมถึงมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อปฏิบัติงานให้ได้ผลตามที่ราชการทหารมุ่งหมาย ต่อมาในวันที่ 24 มิถุนายน ปีเดียวกัน มีพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารที่ทำการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ในบริเวณกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยทำสัญญายืมเงินกับกองทัพบก เพื่อเป็นทุนในการก่อสร้าง และจัดหาอุปกรณ์ จำนวน 10,101,212 บาท สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (ชื่อสากล: ATV รหัส: HSATV ชื่อย่อ: ททบ.7) เริ่มต้นออกอากาศเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501 จากอาคารสวนอัมพร เป็นภาพขาวดำ ใช้ระบบเอฟซีซี (Federal Communication Committee) 525 เส้น ทางช่องสัญญาณที่ 7 ด้วยเครื่องส่งออกอากาศ กำลังส่ง 5 กิโลวัตต์ และทวีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 12 เท่า บนสายอากาศสูง 300 ฟุต รวมกำลังส่งออกอากาศทั้งสิ้น 60 กิโลวัตต์ จึงเป็นสถานีโทรทัศน์ไทยแห่งที่สอง ต่อจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 ของบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด (สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบัน) ต่อมา เมื่อก่อสร้างของอาคารสถานีเสร็จสมบูรณ์ จึงเริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการในทุกวันพุธ แล้วจึงเพิ่มวันจันทร์และวันศุกร์ในระยะถัดมา โดยรายการส่วนมากเป็นสารคดีและภาพยนตร์ต่างประเทศ จากนั้นในปี พ.ศ. 2506 ททบ.ตั้งสถานีทวนสัญญาณเป็นแห่งแรก บนยอดเขาวงพระจันทร์ อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี โดยใช้เครื่องทรานสเลเตอร์ถ่ายทอดสัญญาณ เริ่มจากถ่ายทอดการฝึกทหารในยามปกติ ซึ่งมีชื่อรายการว่า การฝึกธนะรัชต์ ทั้งนี้ เริ่มจัดรายการภาคกลางวัน ในปีเดียวกันนี้ด้วย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทอดพระเนตรกิจการ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2508 นอกจากนี้ ททบ.5 ยังเริ่มจัดตั้ง สถานีวิทยุกระจายเสียงระบบเอฟเอ็ม ความถี่ 94.0 เมกะเฮิร์ตซ์ ในปีเดียวกันนี้ โดยในระยะแรกเป็นการถ่ายทอดเสียงภาษาอังกฤษ จากฟิล์มภาพยนตร์ที่ออกอากาศทาง ททบ. และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2511 ททบ.ร่วมกับสถานีโทรทัศน์อีก 3 แห่งในขณะนั้น ก่อตั้ง โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ชื่อย่อ: ทรท., ทีวีพูล) เพื่ออำนวยการปฏิบัติงาน ระหว่างสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 ททบ.ตั้งสถานีทวนสัญญาณเพิ่มเติม ที่จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดนครราชสีมา โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบไมโครเวฟแทน จากนั้น ททบ.5 ปรับปรุงระบบเครื่องส่งโทรทัศน์ จากเดิมที่ใช้ระบบ 525 เส้น ภาพขาวดำ ช่องสัญญาณที่ 7 เป็นระบบ 625 เส้น ในย่านความถี่วีเอชเอฟ ทางช่องสัญญาณที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2517 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2517 ททบ.เริ่มออกอากาศด้วยภาพสีในระบบพาล (Phase Alternation Line - PAL) เป็นครั้งแรกด้วยการถ่ายทอดสด พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ลานพระราชวังดุสิต และต่อมา ททบ.5 จึงเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์ของสถานีฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารงานของสถานี และยังมีการเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่งด้วย เมื่อปี พ.ศ. 2521 ททบ.ร่วมกับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เช่าสัญญาณดาวเทียมปาลาปาของอินโดนีเซีย พร้อมตั้งสถานีถ่ายทอดสัญญาณผ่านดาวเทียมเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ และเริ่มจัดทำห้องส่งส่วนภูมิภาค ในภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่, ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดอุบลราชธานี อนึ่ง ในช่วงทศวรรษนี้ ททบ.ดำเนินการขยายสถานีเครือข่ายในจังหวัดต่างๆ เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

นอกจากนี้ ททบ.5 ยังเปิดให้บริการเว็บไซต์ของสถานีฯ เป็นแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยใช้โดเมนเนม www.tv5.co.th พร้อมทั้งจัดทำระบบโทรทัศน์ทางอินเทอร์เน็ต เป็นแห่งแรกในทวีปเอเชีย ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2539 ททบ.เป็นผู้ริเริ่มใช้เฮลิคอปเตอร์ที่ติดตั้งกล้องวิดีโอ และรถถ่ายทอดเคลื่อนที่ผ่านระบบดาวเทียม (Digital Satellite News Gathering ชื่อย่อ: D-SNG) มาใช้กับการถ่ายทอดสดและรายงานข่าว เป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงเป็นสถานีแรกของประเทศไทย ที่ดำเนินการผลิตและควบคุมการออกอากาศ ด้วยระบบดิจิตอล ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 และยังเริ่มต้นออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมงเป็นสถานีแรกของไทย ต่อมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 ททบ.5 ดำเนินการออกอากาศโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ในระบบดิจิตอลไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก ตามโครงการ โดยปัจจุบันสามารถรับชมในกว่า 170 ประเทศ และในวาระครบรอบ 40 ปี ททบ. ปีเดียวกันนั้นเอง การก่อสร้างอาคารที่ทำการ และอาคารหลักของสถานีโทรทัศน์ ซึ่งรวมส่วนบริหาร ส่วนปฏิบัติการ และส่วนสนับสนุนไว้ในอาคารเดียวกัน รวมทั้งมีห้องส่งโทรทัศน์อันทันสมัย จำนวน 4 ห้อง ก็แล้วเสร็จสมบูรณ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ททบ.เริ่มดำเนินงานก่อสร้าง อาคารสำนักงานเพิ่มเติม และอาคารจอดรถ กำหนดแล้วเสร็จในวาระครบรอบ 50 ปีของ ททบ.5 คือ พ.ศ. 2551 โดยในปีดังกล่าว ททบ.จัดซื้อระบบออกอากาศภายในห้องส่งใหม่ ประกอบด้วยโรงถ่ายเสมือนจริง (Virtual Studio) และกำแพงวิดีทัศน์ (Video Wall) พร้อมทั้งใช้สีแดง ประกอบการนำเสนอข่าวของสถานีฯ ในปีต่อมา (พ.ศ. 2552) ททบ.5 เปลี่ยนไปใช้สีเขียว เป็นหลักในการนำเสนอข่าว โดยให้มีนัยสื่อถึงกองทัพบก ล่าสุด ททบ.ดำเนินงานก่อสร้าง อาคารชุดอเนกประสงค์แห่งใหม่ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยมีกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ อนุญาตให้กรมประชาสัมพันธ์, บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ร่วมกันทดลองออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิทัล โดยมอบหมายให้ ททบ.5 เป็นผู้ดำเนินการ ตั้งแต่เวลา 13:00 น. ของวันศุกร์ที่ 25 มกราคม จนถึงเวลา 12:59 น. ของวันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ในย่านความถี่ยูเอชเอฟ ช่องสัญญาณที่ 36 ซึ่งแบ่งออกเป็น 8 ช่องรายการคือ 6 ช่องทวนสัญญาณจากช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (Terrestrial) ด้วยความละเอียดมาตรฐานตามปกติ ซึ่งประกอบด้วย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5, สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 , สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์, สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สำหรับอีก 2 ช่องรายการ จะทดลองออกอากาศโทรทัศน์ความละเอียดสูง กล่าวคือ ช่องหนึ่งจะกระจายเสียงและแพร่ภาพ รายการโทรทัศน์ความละเอียดสูงซึ่งผลิตโดย ททบ. ส่วนอีกช่องหนึ่งจะทวนสัญญาณ จากช่องรายการของไทยพีบีเอส ซึ่งออกอากาศในระบบความละเอียดสูงผ่านดาวเทียมอยู่แต่เดิม โดยมีรัศมีรอบเสาส่งสัญญาณบนยอดอาคารใบหยก 2 เป็นระยะทาง 80 กิโลเมตร ครอบคลุมเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล[1] ต่อมา กสทช.อนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ประเภทบริการสาธารณะเพื่อความมั่นคงแก่ ททบ.5 โดยเริ่มนำสัญญาณภาพและเสียง ออกอากาศคู่ขนานไปจาก โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบแอนะล็อกทางช่อง 5 เดิม พร้อมกับผู้ประกอบการส่วนมาก ในประเภทบริการทางธุรกิจ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 ต่อมา ททบ.5 ตั้งชื่อช่องรายการที่ออกอากาศในระบบดิจิทัลว่า ทีวี 5 เอชดี1 (TV5 HD1) (วิธีอ่าน อ่านว่า ทีวีไฟว์ เอชดีวัน) พร้อมกับการปรับเปลี่ยนการปรากฏตราสัญลักษณ์ของสถานีแต่เพียงเล็กน้อย ด้วยการเพิ่มตัวอักษรคำว่า HD1 สีเทาเงิน ประดับติดกับสัญลักษณ์ไว้ทางด้านขวาตรงกลาง โดยเพื่อใช้สำหรับการปรากฏตราสถานีฯไว้อยู่ที่มุมขวาของหน้าจอโทรทัศน์ เมื่อขณะที่กำลังออกอากาศรายการต่างๆอยู่ ทั้งระบบแอนะล็อกและดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งใช้มาจนกระทั่งพฤษภาคม พ.ศ. 2561 จึงได้ปรับอัตลักษณ์บนหน้าจอใหม่ให้ใหญ่และโดดเด่นขึ้น

สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ได้เตรียมการยุติการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบแอนะล็อก โดยททบ. ยุติการออกอากาศในระบบแอนะล็อกครั้งแรกในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ในสถานีส่งอำเภอแม่สะเรียงและอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และในปี พ.ศ. 2560 ยุติการออกอากาศ 2 ระยะ โดยระยะแรก ในวันที่ 1 มกราคม ที่สถานีส่งเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และสถานีส่งจังหวัดร้อยเอ็ด และวันที่ 31 ธันวาคม ที่สถานีส่งจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดเลย และสถานีส่งอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี [2]

ในปี พ.ศ. 2561 ททบ. จะยุติการออกอากาศโทรทัศน์ระบบแอนะล็อกจากสถานีกรุงเทพมหานครและ 33 สถานีที่เหลือ โดยเดิมจะยุติในวันที่ 16 มิถุนายน[2] แต่เนื่องจากเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ซึ่งประเทศรัสเซียเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง ททบ.ร่วมถ่ายทอดสดด้วย แผนการดังกล่าวจึงต้องเลื่อนออกไปก่อนจนกว่าจะสิ้นสุดการแข่งขันฟุตบอลดังกล่าว[3] ททบ. ได้ทำการยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกโดยสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เวลา 9.29 น.[4]

สัญลักษณ์

สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกในช่วงแรก ใช้ตราราชการของกรมการทหารสื่อสารคือตรากงจักร มีสายฟ้าไขว้กันภายในกงจักร โดยมีตัวอักษร HSTVอยู๋ที่ด้านซ้ายและขวาของตรา หลังจากเปลี่ยนระบบส่งออกอากาศเป็นโทรทัศน์สีทางช่อง 5 จึงได้สัญลักษณ์เป็นรูปกรอบจอโทรทัศน์สีดำ ภายในเป็นพื้นสีขาว มีตัวอักษรย่อ ท (สีแดง) ท (สีเขียว) บ (สีน้ำเงิน) เรียงอยู่ตอนบน และตัวเลขอารบิก 5 สีเทาตัวใหญ่ อยู่ใต้ตัวอักษรทั้งสาม ต่อมาเปลี่ยนเป็นแบบปัจจุบันคือ รูปกรอบจอโทรทัศน์สีดำและสีขาว ภายในแบ่งเป็นแถบสีสามแถบในแนวดิ่ง มีสามแม่สีแสงคือ แดง เขียว และน้ำเงิน โดยมีตัวอักษรย่อ ท ท บ สีขาวอยู่ในแถบสี ตามลำดับจากซ้ายไปขวา เรียงอยู่ตอนบน และตัวเลขอารบิก 5 สีขาวตัวใหญ่ อยู่ใต้ตัวอักษรทั้งสาม (บางกรณีไม่มีเส้นคั่นแถบแม่สีแสงในกรณีอัตลักษณ์โปร่งแสง เช่น ก่อนการปิดสถานี หรือไม่มีกรอบจอโทรทัศน์ล้อมรอบ เช่น ในไตเติลรายการบางรายการ เช่น มวยไทยสะท้านโลก ฯลฯ) ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2548-2550 ททบ. ได้พัฒนาการแสดงสัญลักษณ์บนหน้าจอโดยเพิ่มสีปุ่มไฟบนตำแหน่งบนสุดของอัตลักษณ์บนหน้าจอตามสีสัญญาณไฟจราจรเพื่อใช้ในการแจ้งเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยแสดงเฉพาะรายการปกติและรายการข่าวภาคหลัก ยกเว้นรายการสดและรายการถ่ายทอดสดต่างๆ ทั้งนี้ ททบ. เคยมีการแสดงอัตลักษณ์พิเศษต่างๆบนหน้าจอควบคู่ไปกับสัญลักษณ์บนหน้าจอของ ททบ. ตามปกติ เช่น โครงการ ททบ. เทิดไท้มหาราชา ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 ททบ. นำตราสัญลักษณ์ของโครงการไว้บนมุมจอบนขวา ส่วนสัญลักษณ์บนหน้าจอของ ททบ. ย้ายไปไว้ที่มุมจอบนซ้าย และตัดโดเมนเนมเว็บไซต์ของ ททบ. ออก [5] (ทั้งนี้ รายการสดยังคงแสดงคำว่า "สด" ใต้สัญลักษณ์เช่นเดิม") และในช่วงต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ททบ. นำตราสัญลักษณ์ครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้ง มาแสดงที่มุมจอบนขวาในตำแหน่งหลังสัญลักษณ์บนหน้าจอของ ททบ. ตามปกติจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 จึงได้ปรับอัตลักษณ์บนหน้าจอใหม่ให้ใหญ่และโดดเด่นขึ้น

รายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง

ภาพราตรีสวัสดิ์

ปี พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2523 ภาพโลโก้ช่อง 5

ปี พ.ศ. 2523 - พ.ศ. 2530 ภาพเสาอากาศหนึ่งเสา พร้อมเสาอากาศอีกเสา เป็นต้น

ปี พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2539 ฉากแรกออกแบบโลโก้ช่อง 5 แบบโครงเส้นสีทองสามมิติ

ฉากรอง พื้นหลังเป็นภาพตึกในกรุงเทพฯปิดไฟก่อนนอนตอนกลางคืน พร้อมตัวหนังสือแสดงว่า " ราตรีสวัสดิ์ "

ปี พ.ศ. 2541 ปัจจุบัน ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง

เปิดสถานี

ปี พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2540 เปิดเวลา 05:30 หรือ 11:50 จบภาพทดสอบ เริ่มเพลงสรรเสริญพระบารมี เสียงเพลงมาร์ชกองทัพบก เริ่มรายการแรก ข่าวภาคเช้า

ภาพทดสอบก่อนเปิดสถานี

ปี พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2525 ภาพทดสอบโลโก้ ช่อง ททบ.5 ทั้งคืน ก่อนเปิดสถานี

ปี พ.ศ. 2525 - พ.ศ. 2540 ภาพทดสอบรูปสี่เหลี่ยม กล่องกลางแสดงว่า ททบ.5 CH5 กทม.

ภาพทดสอบหลังสถานีเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค

ปี พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2537 ภาพทดสอบโลโก้ ช่อง 5

ปี พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2561 ภาพสไสด์ทดสอบ ททบ.5 นำคุณค่าสู่สัมคมไทย

ปี พ.ศ. 2561 ปัจจุปัน ภาพสไสด์ทดสอบ " ททบ.5 คงคุณค่า คู่ยุคดิจิดอล"

ปิดสถานี

ปี พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2525 ปิดเวลา 01:00 หรือ 00:00 เริ่มด้วยภาพราตรีสวัสดิ์ เพลงสรรเสริญพระบารมี และเริ่มภาพทดสอบ

ปี พ.ศ. 2525 - พ.ศ. 2540 ปิดเวลา 00:00 เริ่มด้วยภาพราตรีสวัสดิ์ เพลงสรรเสริญพระบารมี และเริ่มภาพทดสอบ

ปี พ.ศ. 2541 ปัจจุบัน เปิด 24 ชั่วโมง

ภาพทดสอบก่อนเปิดสถานีช่องในเครือกองทัพบกไทย ประกอบไปด้วย

ไฟล์:RTATV CH5 Logo.png
ภาพทดสอบโลโก้ช่อง 5 พื้นหลังสีดำ เป็นภาพทดสอบแรกของททบ.5 ใช้ปี พ.ศ. 2517 - 2523

ภาพทดสอบของช่องในเครือกองทัพบกไทยดังนี้

รายการข่าว

รายการ ผู้ประกาศข่าว
สนามเป้าเล่าข่าว อภิญญา บุญยะประณัย
ภานุพงศ์ กรรณาธิกรณ์
สุนิดา สวัสดิพรพัลลภ
คุยข่าวเช้าวันหยุด โชติรส สมบุญ
นภาพร ช่างกล
ธนัญญา พิพิธวณิชการ
พิมพ์วิสาข์ ปาณิกวงษ์
วงจรกีฬา วรวุฒิ พงษ์ธีระพล
ฤทธิกร การะเวก
พิพัช ปิตุวงศ์
เช้านี้ประเทศไทย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน
ชลรัศมี งาทวีสุข
เช้านี้มีแต่เรื่อง อภิญญา บุญยะประณัย
ชลธร ขาวสบาย
กฤษ เดชไกรศักดิ์
ภัทรี ภัทรโสภสกุล
สรัช ตะเภาพงษ์
สุรีย์ฉาย แก้วเศษ
5 เช้าเมาท์ใหญ่ วินัย สุขแสวง
ปาจรีย์ สวนศิลป์พงศ์
คุยข่าว 10 โมง ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช
คฑา ชินบัญชร
ภานุพงศ์ กรรณาธิกรณ์
รัฐวิชญ์ พีระศราโรจน์
ญดา โชติชูตระกูล
นราวัลย์ จันทร์เจริญ
ปารดา ธนาศรีชัย
ช่อง 5 ข่าวเที่ยง ปริยา เนตรวิเชียร
อัษฎาพร เขียวอ่อน
สุหัชชา สวัสดิพรพัลลภ
ธารทิพย์ ยิ่งวิริยะ
ณัชปภา จันทรโรจน์
ธนาวุฒิ นุชตเวชวงศ์
เวทีข่าวสุดสัปดาห์ คุปต์ มะรินทร์
อัมภิกา ชวนปรีชา
HARDCORE ข่าว ธนัญญา พิพิธวณิชการ
ข่าวภาคค่ำ ปริยา เนตรวิเชียร
อภิญญา บุญยะประณัย
ภานุพงศ์ กรรณาธิกรณ์
คุปต์ มะรินทร์
อัมภิกา ชวนปรีชา
สุนิดา สวัสดิพรพัลลภ
สุหัชชา สวัสดิพรพัลลภ
กฤณธน กษพลเดช
นภาพร ช่างกล
ศิริลักษณ์ มิ่งโมฬี
อภินันท์ อภิบาลศรี
ธารทิพย์ ยิ่งวิริยะ
ณัชปภา จันทรโรจน์
ธนาวุฒิ นุชตเวชวงศ์
ข่าวในพระราชสำนัก บุณฑริกา เอี่ยมคงศรี
ปาริชาติ ไวกวี กมลอาสน์
ปาจรีย์ สวนศิลป์พงศ์
กันตชาติ เกษมสันต์ ณ อยุธยา
จับประเด็นข่าวร้อน พลวัชร ภู่พิพัฒน์
ข่าวเด่นภาคดึก โชติรส สมบุญ
นภาพร ช่างกล
กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล
ธนัญญา พิพิธวณิชการ
พิมพ์วิสาข์ ปาณิกวงษ์
ศักดิ์ชัย ชัชวงษ์
ปารดา ธนาศรีชัย
องค์กช วรรณภักตร์
ทันข่าว โชติรส สมบุญ
ธนัญญา พิพิธวณิชการ
สุนิดา สวัสดิพรพัลลภ
สุหัชชา สวัสดิพรพัลลภ
กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล
ศักดิ์ชัย ชัชวงษ์
องค์กช วรรณภักตร์

การโฆษณา

ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 กำหนดให้ ททบ. จัดอยู่ในประเภทกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ประเภทที่สอง ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งอนุญาตให้มีรายได้จากการโฆษณาและบริการธุรกิจได้เท่าที่เพียงพอต่อการประกอบกิจการโดยไมเน้นการแสวงหากำไร [6]

ในภายหลัง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ปรับเงื่อนไขให้ ททบ. สามารถโฆษณาและบริการธุรกิจได้เฉลี่ย 8-10 นาที เทียบเท่ากับผู้ประกอบการประเภทบริการทางธุรกิจ ที่สามารถสามารถโฆษณาและบริการธุรกิจได้ 12.30 นาที [7]

ผู้ประกาศข่าวและพิธีกร

ในอดีต

อ้างอิง

  1. http://www.tv5.co.th/dat5/digitalpage.php
  2. 2.0 2.1 สถานะและแผนการยุติการให้บริการโทรทัศน์ระบบแอนะล็อกของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561)
  3. อัปเดต: ThaiPBS, ช่อง 7, ช่อง 5 ยุติทีวีอนาล็อกเมื่อไหร่กันแน่?,ยามเฝ้าจอ.
  4. เช้าวันนี้ (21 มิถุนายน 2561) สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ยุติแอนะล็อกทีวี ณ กรมการทหารสื่อสาร สะพานแดง เมื่อเวลา 9.29 น. ซึ่งถือเป็นสถานีเครื่องส่งแอนะล็อกทีวีสถานีสุดท้ายของ ททบ.5,สำนักวิศวกรรมและเทคโนโลยีกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช.
  5. [1],
  6. พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
  7. สื่อไทยยุค 4.0 (2) : ขุมทรัพย์สื่อในมือกองทัพ, บีบีซีไทย

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น