ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าจิงกูจา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox royalty |
{{Infobox royalty |
||
| type = monarch |
| type = monarch |
||
| name = พระเจ้าจิงกูจา |
| name = พระเจ้าจิงกูจา |
||
| image = |
| image = |
||
| caption = |
| caption = |
||
| reign = 10 มิถุนายน 1776 – 5 กุมภาพันธ์ 1782 (ถูก |
| reign = 10 มิถุนายน ค.ศ. 1776 – 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1782 (ถูกโค่นบัลลังก์) |
||
| coronation = 23 ธันวาคม ค.ศ.1776 |
| coronation = 23 ธันวาคม ค.ศ. 1776 |
||
| succession = [[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]] |
| succession = [[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]] |
||
| predecessor = [[พระเจ้ามังระ]] |
| predecessor = [[พระเจ้ามังระ]] |
||
| successor = [[พระเจ้าหม่องหม่อง]] |
| successor = [[พระเจ้าหม่องหม่อง]] |
||
บรรทัด 12: | บรรทัด 12: | ||
| reg-type = |
| reg-type = |
||
| regent = |
| regent = |
||
| spouse = |
| spouse = ชีนมี่น<br/> พระชายาอีก 13 พระองค์ |
||
| issue = |
| issue = ราชบุตร 6 พระองค์, ราชธิดา 6 พระองค์ |
||
| issue-link = |
| issue-link = |
||
| full name = |
| full name = มี่นแยละ |
||
| regnal name = มหาธรรมราชาธิราช |
|||
| house = [[ราชวงศ์โก้นบอง]] |
| house = [[ราชวงศ์โก้นบอง]] |
||
| father = [[พระเจ้ามังระ]] |
| father = [[พระเจ้ามังระ]] |
||
| mother = |
| mother = แมละ |
||
| birth_date = {{birth date|1756|5|10|df=yes}} |
| birth_date = {{birth date|1756|5|10|df=yes}} |
||
| birth_place = [[อังวะ]] |
| birth_place = [[อังวะ]] |
||
| death_date = {{death date and age|1782|2|14|1756|5|10|df=yes}} |
| death_date = {{death date and age|1782|2|14|1756|5|10|df=yes}} |
||
| death_place = |
| death_place = อังวะ |
||
| date of burial = |
| date of burial = |
||
| place of burial = |
| place of burial = |
||
บรรทัด 29: | บรรทัด 30: | ||
}} |
}} |
||
'''พระเจ้าจิงกูจา''' ({{lang-my|စဉ့်ကူးမင်း}} ''สิ่นกู้มี่น'') เป็นพระราชโอรสของ[[พระเจ้ามังระ]] และพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 4 แห่ง[[ราชวงศ์โก้นบอง]] |
|||
⚫ | |||
== การขึ้นครองราชย์ == |
|||
ในที่สุดหลังจากพระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียง 5 ปี ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ [[พระเจ้าหม่องหม่อง|หม่องหม่อง]] โอรสของ[[พระเจ้ามังลอก]] ทำการ[[รัฐประหาร]]ยึดพระราชวัง ในระหว่างที่พระองค์เสด็จไปสักการะพระพุทธรูปสิงหดอที่ทางเหนือ โดยความช่วยเหลือของขุนนางและเชื้อพระวงศ์หลายคน (เชื่อว่ารวมทั้ง[[อะแซหวุ่นกี้]]ที่ทนต่อการบริหารราชการของพระองค์ไม่ได้) แต่แรกพระเจ้าจิงกูจาคิดจะหนีไปอาศัยอยู่เมืองกะแซ แต่เป็นห่วงพระราชชนนีจึงลอบลงมาใกล้เมืองอังวะ แล้วมีหนังสือเข้าไปทูลให้ทราบว่าจะหนีไปเมืองกะแซ |
|||
⚫ | พระเจ้าจิงกูจาทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษาเพียง 20 ปี ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้ามังระ พระองค์ได้ทรงปราบปราบบรรดาผู้ที่ต่อต้านน้อยใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้อพระวงศ์ พระญาติ และเหล่าขุนนางด้วยวิธีการที่เด็ดขาด คือ ประหารชีวิตเสียหลายคน และหลายคนก็ถูกลดอำนาจหรือส่งไปอยู่หัวเมืองที่ห่างไกล เช่น [[พระเจ้าปดุง]]ซึ่งถูกส่งไปอยู่เมือง[[ซะไกง์]] และมีผู้ทำการควบคุมอีกชั้นหนึ่ง โดยเมื่อพระองค์ได้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วก็ทรงปลด[[อะแซหวุ่นกี้]] แม่ทัพคู่บารมีของพระเจ้ามังระลงแล้วเนรเทศไปอยู่ที่เมืองซะไกง์เช่นเดียวกับพระเจ้าปดุง ทั้งที่แม่ทัพเฒ่าผู้นี้ยกกองทัพกลับมาจากการตี[[กรุงธนบุรี]] เพื่อมาควบคุมสถานการณ์ในกรุงอังวะจนเรียบร้อยและมอบพระราชอำนาจเต็มแก่พระองค์ ซึ่งหากวิเคราะห์แล้วก็อาจเป็นเพราะอะแซหวุ่นกี้มีอำนาจบารมีทางการทหารมากเกินไป รวมไปถึง[[เนเมียวสีหบดี]], [[เนเมียวสีหตู]] และเหล่าขุนนางเก่าในพระเจ้ามังระพระองค์ก็ประหารทิ้งบ้าง ปลดทิ้งเสียจากตำแหน่งบ้างไปอีกหลายคน การใช้พระเดชเช่นนี้ทำให้ระหว่างการครองราชย์ผู้คนรอบตัวต่างหวาดระแวงภัยที่อาจมาถึงตัวเมื่อใดก็ได้ |
||
== การถูกโค่นบัลลังก์ == |
|||
==พระราชชนนีเขียนห้ามปราม== |
|||
" |
หลังจากพระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียง 5 ปี ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ [[พระเจ้าหม่องหม่อง|หม่องหม่อง]] โอรสของ[[พระเจ้ามังลอก]] ก่อ[[รัฐประหาร]]ยึดพระราชวังในระหว่างที่พระองค์เสด็จไปสักการะพระพุทธรูปสิงหดอที่ทางเหนือ โดยความช่วยเหลือของขุนนางและเชื้อพระวงศ์หลายคน (เชื่อว่ารวมทั้ง[[อะแซหวุ่นกี้]]ที่ทนต่อการบริหารราชการของพระองค์ไม่ได้) แต่แรกพระเจ้าจิงกูจาคิดจะหนีไปอาศัยอยู่เมืองกะแซ แต่เป็นห่วงพระราชชนนีจึงลอบลงมาใกล้เมืองอังวะ แล้วมีหนังสือเข้าไปทูลให้ทราบว่าจะหนีไปเมืองกะแซ แต่พระราชชนนีเขียนห้ามปรามว่า "ลูกเกิดมาในเศวตฉัตรกรุงอังวะนี้ หากจะต้องตาย ก็ตายเสียในกรุงอังวะอย่างพระมหากษัตริย์เถิด ที่จะหนีไปพึ่งใบบุญเมืองน้อย ให้เขาส่งกองทัพตามไปจับนั้นไม่ควร" พระเจ้าจิงกูจาจึงได้สติ เกิดความองอาจ แกล้วกล้า ทรงเดินนำเหล่าข้าราชบริพารกลับมา ประหนึ่งเสด็จกลับจากการประพาสคืนสู่พระนคร พวกไพร่พลที่รักษาประตูเมืองเห็นพระเจ้าจิงกูจาเสด็จกลับมาโดยไม่หวาดหวั่นต่อภัยอันตราย ก็พากันเกรงกลัวในพระบรมเดชานุภาพ ไม่มีใครกล้าจับหรือต่อสู้ แม้เสด็จเข้ามาในตัวเมืองแล้วก็ไม่มีใครต้านทานพระองค์เลย พออะตวนหวุ่นซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาคนหนึ่งของพระองค์ทราบเข้าก็เกิดบันดาลโทสะ เนื่องจากพระองค์เคยเมามายแล้วฆ่าพระสนมเอกลูกสาวของอะตวนหวุ่น เขาจึงคุมรี้พลของตนมาล้อมจับพระเจ้าจิงกูจา จากนั้นอะตวนหวุ่นจึงลงมือสังหารพระเจ้าจิงกูจาสิ้นพระชนม์ที่เมืองอังวะนี้เอง พอ[[พระเจ้าปดุง]]ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของพระเจ้าจิงกูจาทราบความว่าอะตวนหวุ่นฆ่าพระเจ้าจิงกูจา ก็ทรงพระพิโรธเป็นอย่างมาก เนื่องจากควรนำตัวมาถวายโดยละม่อม ไม่ควรจะฆ่าฟันเจ้านายโดยพลการ ให้เอาตัวอะตวนหวุ่นไปประหารชีวิตเสีย |
||
พระเจ้าจิ |
พระเจ้าจิงกูจามีชื่อเรียกใน[[ภาษาพม่า]]ว่า "สิ่นกู้มี่น"<ref>[[ตลับเทป|เทป]]สนทนาเรื่อง วาระสุดท้าย...ของ อาณาจักรอยุธยาและราชวงศ์อลองพญา โดย ดร.[[สุเนตร ชุตินธรานนท์]] [[วีระ ธีรภัทร]] ([[เมษายน]] [[พ.ศ. 2544]])</ref><ref>[http://www.royalark.net/Burma/konbaun3.htm "The Konbaung Dynasty Genealogy: King Singu".]</ref> |
||
==อ้างอิง== |
==อ้างอิง== |
||
บรรทัด 49: | บรรทัด 51: | ||
| ตำแหน่ง = [[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]]<br /> ([[ราชวงศ์โก้นบอง|อาณาจักรพม่ายุคที่ 3]]) |
| ตำแหน่ง = [[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]]<br /> ([[ราชวงศ์โก้นบอง|อาณาจักรพม่ายุคที่ 3]]) |
||
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์โก้นบอง |
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์โก้นบอง |
||
| ปี = |
| ปี = ค.ศ. 1776–1782 |
||
| ถัดไป = [[พระเจ้าหม่องหม่อง]] |
| ถัดไป = [[พระเจ้าหม่องหม่อง]] |
||
}} |
}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:19, 18 มกราคม 2562
พระเจ้าจิงกูจา | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พระมหากษัตริย์พม่า | |||||||||
ครองราชย์ | 10 มิถุนายน ค.ศ. 1776 – 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1782 (ถูกโค่นบัลลังก์) | ||||||||
ราชาภิเษก | 23 ธันวาคม ค.ศ. 1776 | ||||||||
ก่อนหน้า | พระเจ้ามังระ | ||||||||
รัชกาลถัดไป | พระเจ้าหม่องหม่อง | ||||||||
ประสูติ | 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1756 อังวะ | ||||||||
สวรรคต | 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1782 อังวะ | (25 ปี)||||||||
ชายา | ชีนมี่น พระชายาอีก 13 พระองค์ | ||||||||
พระราชบุตร | ราชบุตร 6 พระองค์, ราชธิดา 6 พระองค์ | ||||||||
| |||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์โก้นบอง | ||||||||
พระราชบิดา | พระเจ้ามังระ | ||||||||
พระราชมารดา | แมละ | ||||||||
ศาสนา | พุทธศาสนา |
พระเจ้าจิงกูจา (พม่า: စဉ့်ကူးမင်း สิ่นกู้มี่น) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามังระ และพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โก้นบอง
การขึ้นครองราชย์
พระเจ้าจิงกูจาทรงขึ้นครองราชย์ด้วยพระชันษาเพียง 20 ปี ภายหลังการสวรรคตของพระเจ้ามังระ พระองค์ได้ทรงปราบปราบบรรดาผู้ที่ต่อต้านน้อยใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้อพระวงศ์ พระญาติ และเหล่าขุนนางด้วยวิธีการที่เด็ดขาด คือ ประหารชีวิตเสียหลายคน และหลายคนก็ถูกลดอำนาจหรือส่งไปอยู่หัวเมืองที่ห่างไกล เช่น พระเจ้าปดุงซึ่งถูกส่งไปอยู่เมืองซะไกง์ และมีผู้ทำการควบคุมอีกชั้นหนึ่ง โดยเมื่อพระองค์ได้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วก็ทรงปลดอะแซหวุ่นกี้ แม่ทัพคู่บารมีของพระเจ้ามังระลงแล้วเนรเทศไปอยู่ที่เมืองซะไกง์เช่นเดียวกับพระเจ้าปดุง ทั้งที่แม่ทัพเฒ่าผู้นี้ยกกองทัพกลับมาจากการตีกรุงธนบุรี เพื่อมาควบคุมสถานการณ์ในกรุงอังวะจนเรียบร้อยและมอบพระราชอำนาจเต็มแก่พระองค์ ซึ่งหากวิเคราะห์แล้วก็อาจเป็นเพราะอะแซหวุ่นกี้มีอำนาจบารมีทางการทหารมากเกินไป รวมไปถึงเนเมียวสีหบดี, เนเมียวสีหตู และเหล่าขุนนางเก่าในพระเจ้ามังระพระองค์ก็ประหารทิ้งบ้าง ปลดทิ้งเสียจากตำแหน่งบ้างไปอีกหลายคน การใช้พระเดชเช่นนี้ทำให้ระหว่างการครองราชย์ผู้คนรอบตัวต่างหวาดระแวงภัยที่อาจมาถึงตัวเมื่อใดก็ได้
การถูกโค่นบัลลังก์
หลังจากพระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียง 5 ปี ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ หม่องหม่อง โอรสของพระเจ้ามังลอก ก่อรัฐประหารยึดพระราชวังในระหว่างที่พระองค์เสด็จไปสักการะพระพุทธรูปสิงหดอที่ทางเหนือ โดยความช่วยเหลือของขุนนางและเชื้อพระวงศ์หลายคน (เชื่อว่ารวมทั้งอะแซหวุ่นกี้ที่ทนต่อการบริหารราชการของพระองค์ไม่ได้) แต่แรกพระเจ้าจิงกูจาคิดจะหนีไปอาศัยอยู่เมืองกะแซ แต่เป็นห่วงพระราชชนนีจึงลอบลงมาใกล้เมืองอังวะ แล้วมีหนังสือเข้าไปทูลให้ทราบว่าจะหนีไปเมืองกะแซ แต่พระราชชนนีเขียนห้ามปรามว่า "ลูกเกิดมาในเศวตฉัตรกรุงอังวะนี้ หากจะต้องตาย ก็ตายเสียในกรุงอังวะอย่างพระมหากษัตริย์เถิด ที่จะหนีไปพึ่งใบบุญเมืองน้อย ให้เขาส่งกองทัพตามไปจับนั้นไม่ควร" พระเจ้าจิงกูจาจึงได้สติ เกิดความองอาจ แกล้วกล้า ทรงเดินนำเหล่าข้าราชบริพารกลับมา ประหนึ่งเสด็จกลับจากการประพาสคืนสู่พระนคร พวกไพร่พลที่รักษาประตูเมืองเห็นพระเจ้าจิงกูจาเสด็จกลับมาโดยไม่หวาดหวั่นต่อภัยอันตราย ก็พากันเกรงกลัวในพระบรมเดชานุภาพ ไม่มีใครกล้าจับหรือต่อสู้ แม้เสด็จเข้ามาในตัวเมืองแล้วก็ไม่มีใครต้านทานพระองค์เลย พออะตวนหวุ่นซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาคนหนึ่งของพระองค์ทราบเข้าก็เกิดบันดาลโทสะ เนื่องจากพระองค์เคยเมามายแล้วฆ่าพระสนมเอกลูกสาวของอะตวนหวุ่น เขาจึงคุมรี้พลของตนมาล้อมจับพระเจ้าจิงกูจา จากนั้นอะตวนหวุ่นจึงลงมือสังหารพระเจ้าจิงกูจาสิ้นพระชนม์ที่เมืองอังวะนี้เอง พอพระเจ้าปดุงซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของพระเจ้าจิงกูจาทราบความว่าอะตวนหวุ่นฆ่าพระเจ้าจิงกูจา ก็ทรงพระพิโรธเป็นอย่างมาก เนื่องจากควรนำตัวมาถวายโดยละม่อม ไม่ควรจะฆ่าฟันเจ้านายโดยพลการ ให้เอาตัวอะตวนหวุ่นไปประหารชีวิตเสีย
พระเจ้าจิงกูจามีชื่อเรียกในภาษาพม่าว่า "สิ่นกู้มี่น"[1][2]
อ้างอิง
- ↑ เทปสนทนาเรื่อง วาระสุดท้าย...ของ อาณาจักรอยุธยาและราชวงศ์อลองพญา โดย ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ วีระ ธีรภัทร (เมษายน พ.ศ. 2544)
- ↑ "The Konbaung Dynasty Genealogy: King Singu".
- เทปสนทนาเรื่อง วาระสุดท้าย...ของ อาณาจักรอยุธยาและราชวงศ์อลองพญา โดย ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ วีระ ธีรภัทร (เมษายน พ.ศ. 2544)
- กระโดดขึ้น ↑ "The Konbaung Dynasty Genealogy: King Singu".
- https://th.wikisource.org สงครามครั้งที่ ๓๕ คราวพม่ายกกองทัพมา ๕ ทาง ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๒๘
ก่อนหน้า | พระเจ้าจิงกูจา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้ามังระ | พระมหากษัตริย์พม่า (อาณาจักรพม่ายุคที่ 3) (ค.ศ. 1776–1782) |
พระเจ้าหม่องหม่อง |