ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
แก้ไขไวยากรณ์
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับแอนดรอยด์
บรรทัด 8: บรรทัด 8:
| พระอิสริยยศอื่นๆ =
| พระอิสริยยศอื่นๆ =
| พระนามเต็ม =
| พระนามเต็ม =
| รัชกาลก่อนหน้า = [[สมเด็จพระบรมราชาที่ 3]]
| รัชกาลก่อนหน้า = สมเด็จพระบรมราชาที่ 3
| รัชกาลถัดไป = [[พระไชยเชษฐาที่ 1]]
| รัชกาลถัดไป = [[พระไชยเชษฐาที่ 1]]
| suc-type =
| suc-type =
บรรทัด 14: บรรทัด 14:
| พระอัครมเหสี =
| พระอัครมเหสี =
| พระมเหสี =
| พระมเหสี =
| พระราชบิดา = [[สมเด็จพระบรมราชาที่ 3]]
| พระราชบิดา = สมเด็จพระบรมราชาที่ 3
| พระราชมารดา = [[พระนางศรีชัยราชจุฑามณี|ศรีชัยราชจุฑามณี]]
| พระราชมารดา = [[พระนางศรีชัยราชจุฑามณี|ศรีชัยราชจุฑามณี]]
| พระราชสมภพ = พ.ศ. 2083
| พระราชสมภพ = พ.ศ. 2083

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:20, 2 ตุลาคม 2561

สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (นักพระสัตถา)

สมเด็จพระบรมราชาที่ 4
อาณาจักรเขมรละแวก
ครองราชย์พ.ศ. 2119–2137
รัชกาลก่อนหน้าสมเด็จพระบรมราชาที่ 3
พระไชยเชษฐาที่ 1
ประสูติพ.ศ. 2083
พระราชบิดาสมเด็จพระบรมราชาที่ 3
พระราชมารดาศรีชัยราชจุฑามณี

สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 หรือสมเด็จพระมหินทราชา พระนามเดิมว่านักพระสัตถาหรือนักพระสัฏฐา เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชาในสมัยที่กรุงละแวกเป็นราชธานี ประสูติราว พ.ศ. 2083 ครองราชสมบัติระหว่าง พ.ศ. 2119–2137 เป็นพระโอรสของสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ในรัชกาลของพระองค์นั้น ได้ทำสงครามขับเคี่ยวกับสยามหลายครั้ง ก่อนจะรบแพ้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จนเสียกรุงละแวกให้สยาม

ใน พ.ศ. 2121 และ พ.ศ. 2124 สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ทรงยกทัพเรือมาโจมตีเพชรบุรีในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา โดยใน พ.ศ. 2121 นั้นตีไม่สำเร็จ เจ้าพระยาจีนจันตุ แม่ทัพฝ่ายละแวกเกรงทัณฑ์บน เข้ามาสวามิภักดิ์กับกรุงศรีอยุธยาก่อนจะลอบหนีกลับไปภายหลัง ส่วนใน พ.ศ. 2124 ตีเมืองเพชรบุรีได้สำเร็จ เจ้าเมืองเพชรบุรีเสียชีวิต ฝ่ายเขมรจึงกวาดต้อนครอบครัวกลับไปกรุงละแวกเป็นอันมาก ในปีถัดมาคือ พ.ศ. 2125 สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้แต่งทัพมากวาดต้อนผู้คนทางหัวเมืองตะวันออก สมเด็จพระนเรศวรซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระมหาอุปราช ได้นำทัพไปตีทัพเมืองละแวกแตกไป หลังจากนั้น กรุงละแวกได้ส่งพระราชสาสน์ขอเป็นไมตรีกับกรุงศรีอยุธยา และได้ปักปันเขตแดนไว้ที่ด่านพระจารึก สงครามระหว่างสยามกับกัมพูชาจึงสงบลง[1] หลังจากทำสัญญาเป็นไมตรีกันแล้ว เมื่อเกิดศึกหงสาวดีขึ้นอีก สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 โปรดให้พระอนุชาคือพระศรีสุพรรณมาธิราชหรือพระศรีสุริโยพรรณมาช่วยราชการสงคราม แต่ระหว่างสงครามนั้น พระศรีสุพรรณมาธิราชมีเหตุให้ผิดใจกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้ขาดทางพระราชไมตรีนับแต่นั้น และเกิดสงครามระหว่างสยามและกัมพูชาต่อมาอีก

ใน พ.ศ. 2129 ในรัชกาลสมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในขณะที่ยังเป็นพระมหาอุปราช ได้ยกทัพไปตีกรุงละแวก แต่ไม่สามารถตีหักเอากรุงละแวกได้ จึงเลิกทัพกลับมา ใน พ.ศ. 2130 เมื่อมีทัพหงสาวดีมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาอีก สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้ยกทัพมาตีหัวเมืองตะวันออกของสยาม เข้ามาถึงเมืองนครนายก พระยาศรีไสยณรงค์ และพระยาศรีราชเดโชเป็นแม่ทัพออกไปตีทัพกรุงละแวกแตกไป

ตั้งแต่ พ.ศ. 2127 เป็นต้นมา สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้ตั้งให้พระโอรสสองพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ คือพระไชยเชษฐาที่ 1 และสมเด็จพระบรมราชาองค์ตน ทำให้กัมพูชามีกษัตริย์พร้อมกันถึงสามพระองค์ สร้างความไม่พอใจแก่ขุนนางเขมร ในพงศาวดารกัมพูชาฉบับพระองค์นพรัตน์ถึงกับระบุว่าพระองค์เสียพระสติ เสวยแต่น้ำจัณฑ์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2134

ใน พ.ศ. 2136 หลังจากที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว ทรงยกทัพมาโจมตีกรุงละแวกอีก คราวนี้ ทรงตีเมืองละแวก และจับพระศรีสุริโยพรรณ และพระโอรสอีกสองพระองค์คือพระชัยเจษฎาและพระอุทัย นำตัวกลับไปกรุงศรีอยุธยา ส่วนสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 และพระมหากษัตริย์อีก 2 พระองค์หลบหนีไปได้ โดยครั้งแรกไปประทับที่เมืองเสร็ยสนทอร์หรือศรีสุนทร จากนั้นจึงหนีไปเมืองเชียงแตงหรือสตึงเตรง แล้วประชวรเป็นไข้สิ้นพระชนม์ที่นั่นเมื่อพระชนม์ได้ 54 พรรษา ใน พ.ศ. 2137[2] โดยสมเด็จพระชัยเชษฐาประชวรและสิ้นพระชนม์ไปด้วย เหลือแต่สมเด็จพระบรมราชาองค์ตน ต่อมาพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ได้นำมาบรรจุไว้ที่เจดีย์ที่เขาพระราชทรัพย์ เมืองอุดงค์มีชัยในรัชกาลพระไชยเชษฐาที่ 2[3]

อ้างอิง

  • ศานติ ภักดีคำ. 2554. เขมรรบไทย. กทม. มติชน
  1. เรียบเรียงตามข้อมูลจากเอกสารผ่ายไทยที่กล่าวถึงในศานติ (2554) ส่วนหลักฐานฝ่ายกัมพูชาไม่ระบุถึงสงครามใน พ.ศ. 2121 และ 2125 ส่วนเหตุการณ์ใน พ.ศ. 2124 และการเป็นไมตรี หลักฐานฝ่ายกัมพูชาระบุศักราชตรงกับรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาที่ 3
  2. ตามหลักฐานของสเปนและกัมพูชา ดู ศานติ (2554)
  3. ศานติ ภักดีคำ. 2556. เขมรสมัยหลังพระนคร. กทม. มติชน