ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แฮนนิบัล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''แฮนนิบัล บาร์กา''' ({{lang-en|Hannibal Barca}}; 247 ปีก่อนคริสตกาล – ระหว่าง 183 และ 181 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นขุนพลชาว[[คาร์ทิจโบราณ]] (Ancient Carthage) ซึ่งถือกันว่า เป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นบุตรของ[[แฮมิลการ์ บาร์กา]] (Hamilcar Barca) นายทหารชาวคาร์ทิจช่วง[[สงครามพิวนิกครั้งแรก]] (First Punic War) เขายังเป็นพี่ชายของ[[มาโก บาร์กา]] (Mago Barca) กับ[[แฮสดรูบัล บาร์กา]] (Hasdrubal Barca) และเป็นพี่เขยหรือน้องเขยของ[[แฮสดรูบัลคนรูปงาม]] (Hasdrubal the Fair)
{{ต้องการอ้างอิง}}


แฮนนิบัลมีชีวิตอยู่ในช่วงที่เกิดความตรึงเครียดขนานใหญ่ใน[[ลุ่มเมดิเตอร์เนียน]]ฝั่งตะวันตก เนื่องด้วย[[สาธารณรัฐโรมัน]]ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือมหาอำนาจอื่น ๆ อย่างคาร์ทิจโบราณ, [[อีทรูเรีย]] (Etruria), [[แซมเนียม]] (Samnium), และ[[ซีราคิวส์]] (Syracuse) หนึ่งในผลงานที่เลื่องลือที่สุดของแฮนนิเบล คือ [[การข้ามเทือกเขาแอลป์ของแฮนนิบัล|การนำทัพข้ามเทือกเขา]]ในช่วง[[สงครามพิวนิกครั้งที่สอง]] (Second Punic War) โดยที่ทัพของเขามี[[ช้างศึก]]อยู่ด้วย โดยเป็นการข้ามจาก[[คาบสมุทรไอบีเรีย]] (Iberian Peninsula) ผ่าน[[เทือกเขาพิรินี]] (Pyrenees) และ[[เทือกเขาแอลป์]] (Alps) เข้าสู่[[อิตาลี]] ช่วงแรกที่เขาอยู่อิตาลีนั้น เขามีชัยในการยุทธ์หลายสนาม เช่น ที่[[ยุทธการที่เทรบเบีย|เทรบเบีย]] (Trebbia), [[ยุทธการที่ทะเลสาปแทรซิมีน|แทรซิมีน]] (Trasimene), และ[[ยุทธการที่แคนนี|แคนนี]] (Cannae) ซึ่งเขาสร้างความโดดเด่นให้แก่ตนเองด้วยความสามารถในการกำหนดจุดแข็งจุดอ่อนของตนและศัตรูแล้วจึงวางแผนการยุทธ์ตามนั้น ชัยชนะดังกล่าวยังทำให้เขาได้สมัครพรรคพวกเป็นอันมากในโรม แฮนนิบัลยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในอิตาลีเป็นเวลา 15 ปี แต่ไม่สามารถยกทัพไปบุกโรม และเมื่อถูกศัตรูรุกราน[[แอฟริกาเหนือ]]กลับ เขาก็จำต้องถอยร่นคืนไปยังคาร์ทิจบ้านเกิดที่ซึ่งเขาพ่ายแพ้ยับเยินต่อ[[ซิปพิโอ แอฟริกานัส]] (Scipio Africanus) ใน[[ยุทธการที่ซามา]] (Battle of Zama)
'''ฮันนิบาล บาร์กา''' ({{lang-en|Hannibal Barca}}) (248 ปีก่อนคริสตกาล ถึง 184 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นรัฐบุรษ[[คาร์เทจ]] และแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในยุคโบราณ เพราะเขาบุกโจมตี[[โรม]]และทำศึกโดยไร้พ่ายนานกว่า 15 ปี โดยใช้กลยุทธ์และยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ในการรบ


เมื่อสิ้นสงครามแล้ว แฮนนิบัลได้รับตำแหน่ง[[ชอเฟต]] (shophet) และได้ริเริ่มปฏิรูปทางการคลังและการเมืองหลายประการเพื่อเอื้อการชำระค่าปฏิกรรมสงครามที่โรมเรียกร้อง แต่การปฏิรูปของเขาไม่เป็นที่สบอารมณ์ของกลุ่มชนชั้นนำในคาร์ทิจและโรม เขาจึงลี้ภัยไปราชสำนัก[[จักรวรรดิเซลูซิด]] (Seleucid Empire) ที่ซึ่งเขาได้เป็นกุนซือทหารของ[[แอนไทโอคัสที่ 3 มหาราช]] (Antiochus III the Great) ในการศึกต่อต้านโรม แต่แอนไทโอคัสปราชัยใน[[ยุทธการที่แมกนีเชีย]] (Battle of Magnesia) จึงต้องยอมตามคำเรียกร้องของโรม ส่วนแฮนนิบัลก็หนีเข้ากลีบเมฆอีกครั้ง โดยแวะพัก ณ [[อาณาจักรอาร์มีเนีย (สมัยโบราณ)|อาณาจักรอาร์มีเนีย]] (Kingdom of Armenia) แล้วไปหยุดพำนักเป็นการถาวร ณ ราชสำนัก[[บีทิเนีย]] (Bithynia) ที่ซึ่งเขาได้นำทัพเรือต่อต้าน[[เพอร์กามัน]] (Pergamon) และได้ชัยอย่างดงาม แต่ภายหลัง เขาถูกบีทิเนียหักหลังโดยมอบตัวเขาให้แก่โรม เขาจึงกินยาฆ่าตัวตาย
บิดาของฮันนิบาลเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งคาร์เทจ ชื่อ [[ฮามิลการ์ บาร์กา]] (Hamilcar Barca) เสียชีวิตในการรบเพื่อกำราบชนพื้นเมืองใน[[คาบสมุทรไอบีเรีย]] [[ฮัสดรูบาลเดอะแฟร์|ฮัสดรูบาล]] (Hasdrubal the Fair) บุตรเขยจึงรับหน้าที่เป็นแม่ทัพต่อจากเขา ฮัสดรูบาลสามารถสร้างกองทัพคาร์เทจใหม่ได้สำเร็จ แต่ไม่นานเขาก็สิ้นชีวิตลงเนื่องจากถูกชนพื้นเมืองชาวเคลต์ลอบสังหาร และก่อนที่คำสั่งแต่งตั้งแม่ทัพคนใหม่จากคาร์เทจจะมาถึง เหล่าทหารก็ยกให้ฮันนิบาลขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่แห่ง[[คาร์ธาจีนา]] (ศูนย์กลางของชาวคาร์เทจในไอบีเรีย)


ถือกันว่า แฮนนิบัล ตลอดจน[[ฟิลิปแห่งแมซิดอน]] (Philip of Macedon), [[อะเล็กซานเดอร์มหาราช]] (Alexander the Great), [[จูเลียส ซีซาร์]] (Julius Caesar), และ[[ซิปพิโอ แอฟริกานัส]] เป็นนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของแว่นแคว้นเมดิเตอร์เรเนียโบราณ ปรัชญาเมธี[[พลูทาร์ก]] (Plutarch) ระบุว่า ซิปพิโอเคยถามแฮนนิบัลว่า ใครบ้างเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แฮนนิบัลตอบว่า ไม่อะเล็กซานเดอร์ก็[[พิรัสแห่งอีไพรัส]] (Pyrrhus of Epirus) แล้วจึงเป็นตัวเขาแฮนนิบัลเอง<ref>"Plutarch, and when asked what his choices would be if he had beaten Scipio, he replied that he would be the best of them all" ''Life of Titus Flamininus'' 21.3–4.</ref> แต่บางบันทึกก็ว่า เขาตอบว่า ได้แก่ พิรัส, ซิปพิโอ, แล้วตัวเขาเอง ตามลำดับ<ref>Plutarch, ''Life of Pyrrhus'' 8.2.</ref>
หลังจากรับตำแหน่ง ฮันนิบาลยังไม่วางแผนโจมตีโรมในทันที เนื่องจากต้องการสร้างพันธมิตรที่เข้มแข็งกับบรรดาเมืองและชนเผ่าต่าง ๆ ในคาบสมุทรไอบีเรียเสียก่อน ทว่าในบรรดาเมืองเหล่านั้น [[ซากุนโต|นครซากุนโต]] (Sagunto) ซึ่งมีเหมืองเงินที่อุดมสมบูรณ์ได้ขอเป็นพันธมิตรกับโรมและปฏิเสธข้อเสนอของฮันนิบาล นอกจากนี้ ซากุนโตยังวางแผนที่จะดึงพันธมิตรต่าง ๆ ในไอบีเรียไปจากคาร์เทจอีกด้วย ฮันนิบาลจึงตัดสินใจเข้าโจมตีซากุนโตในปี [[พ.ศ. 324]] แม้จะรู้ว่านั่นหมายถึงสงครามกับโรมก็ตาม หลังจากล้อมอยู่ไม่นาน ทัพคาร์เทจก็พิชิตซากุนโตได้สำเร็จ


==อ้างอิง==
ทางโรมทราบเรื่องด้วยความไม่พอใจมาก แต่เนื่องจากยังไม่ต้องการทำสงคราม ดังนั้น ทางสภาโรมจึงสั่งให้คาร์เทจส่งตัวฮันนิบาลไปยังโรม ฮันนิบาลปฏิเสธและระดมกองทัพทันที และในปี [[พ.ศ. 325]] [[สงครามพิวนิกครั้งที่สอง]] ก็เริ่มขึ้น ฮันนิบาลแม่ทัพหนุ่มวัย 29 ปี ยกกองทัพอันประกอบด้วยทหารราบคาร์เทจและสเปน 70,000 นาย ทหารม้านูมิเดียน 12,000 นาย และช้างศึกหุ้มเกราะ 40 เชือก ออกจากการ์ตาโกโนวา ทางโรมเชื่อว่าฮันนิบาลจะเข้าตีโรมโดยทางเรือ จึงเตรียมการป้องกันตลอดแนวชายฝั่ง ทว่าฮันนิบาลทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด คือการรุกข้าม[[เทือกเขาพิเรนีส]]และ[[เทือกเขาแอลป์]]เข้าไปทางตอนเหนือของ[[คาบสมุทรอิตาลี]] รวมทั้งสามารถเอาชนะกองทัพโรมันได้ในการรบอีกหลายครั้ง
{{reflist}}

[[ไฟล์:Hannibal route of invasion.gif|thumb|270px|left|แผนที่เส้นทางเดินทัพทางบกของฮันนิบาล ด้วยความเอื้อเฟื้อจากภาควิชาประวัติศาสตร์ วิทยาลัยการทหารสหรัฐอเมริกา]]
อย่างไรก็ตาม การรุกรานแอฟริกาเหนือของโรมันก็ทำให้ฮันนิบาลต้องถอนทหารกลับไปป้องกันเมืองคาร์เทจใน[[ยุทธการที่ซามา]] ซึ่งเป็นการรบครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายของสงครามพิวนิกครั้งที่สอง เขาได้พ่ายแพ้ให้กับกองทัพโรมันที่นำโดย[[สกีปีโอ อาฟรีกานุส]] (Scipio Africanus) โดยเมืองคาร์เทจต้องยอมจำนนต่อกรุงโรมหลังจากที่สูญเสียทหารไปกว่า 30,000 คน และต้องเสียคาบสมุทรไอบีเรียให้กับโรมันไปอีกด้วย ต่อมาอีก 14 ปี โรมันก็ได้เรียกร้องให้ฮันนิบาลยอมมอบตัว เขาจึงเนรเทศตัวเองไปอยู่ที่[[ไทร์|เมืองไทร์]] (ปัจจุบันอยู่ใน[[ประเทศเลบานอน|เลบานอน]]) ซึ่งเป็นเมืองแม่ของคาร์เทจ (ชาวฟินิเชียนจากเมืองไทร์เป็นผู้ก่อตั้งเมืองนี้) และจากนั้นจึงเดินทางไปที่[[เอเฟซุส|เมืองเอเฟซุส]] (ปัจจุบันอยู่ใน[[ประเทศตุรกี|ตุรกี]])

ขณะอยู่ที่เอเฟซุส ฮันนิบาลพยายามสนับสนุน[[พระเจ้าอันตีโอกุสที่ 3]] (Antiochus III) กษัตริย์แห่งเมืองนั้นให้ทรงทำสงครามกับโรมัน และเขาก็ได้บัญชาการทัพเรือของพระองค์ในปี [[พ.ศ. 348]] แต่ก็พ่ายแพ้ในยุทธการใกล้แม่น้ำยูริเมดอน เขาจึงหนีจากเอเฟซุส (ซึ่งมีทีท่าว่าจะส่งตัวเขาให้กับโรมันด้วย) ไปอยู่[[เกาะครีต]] แต่จากนั้นไม่นานก็กลับมาที่[[เอเชียไมเนอร์]]อีกครั้ง โดยขอลี้ภัยกับ[[พระเจ้าปรูซีอัสที่ 1]] (Prusias I) แห่งบิทิเนีย ฮันนิบาลได้ช่วยพระองค์รบกับกองทัพจากเมืองเปอร์กามอนซึ่งเป็นพันธมิตรของโรมัน

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายโรมันก็ยังยืนกรานที่จะให้เขามอบตัว ซึ่งพระเจ้าปรูซีอัสที่ 1 ก็ทรงยินยอมที่จะส่งตัวฮันนิบาลให้ ในที่สุดเมื่อสิ้นหนทางหนี เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูโดยจบชีวิตของตนลงด้วยการดื่มยาพิษในปี [[พ.ศ. 360]] ที่[[กิบเซ|เมืองลิบิสซา]] ริมชายฝั่งตะวันออกของ[[ทะเลมาร์มะรา]] แม้ว่าจะไม่อาจเอาชนะโรมได้อีก แต่ฮันนิบาลก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดแห่งแม่ทัพของโลกคนหนึ่ง ด้วยว่าตลอดเวลา 15 ปีที่เขาทำศึกในดินแดนโรมันนั้น ฮันนิบาลไม่เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้รับกำลังสนับสนุนจากใครเลย

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://www2.se-ed.net/paststep/hannibal1.html ประวัติฮันนิบาล]


{{birth|-248}}{{death|-183}}
{{birth|-248}}{{death|-183}}


[[หมวดหมู่:บุคคลในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล]]
[[หมวดหมู่:ชาวคาร์ทิจ]]


[[หมวดหมู่:บุคคลในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล]]
[[หมวดหมู่:ชาวคาร์เทจ]]
{{โครงประวัติศาสตร์}}
{{โครงประวัติศาสตร์}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:31, 17 กรกฎาคม 2561

แฮนนิบัล บาร์กา (อังกฤษ: Hannibal Barca; 247 ปีก่อนคริสตกาล – ระหว่าง 183 และ 181 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นขุนพลชาวคาร์ทิจโบราณ (Ancient Carthage) ซึ่งถือกันว่า เป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นบุตรของแฮมิลการ์ บาร์กา (Hamilcar Barca) นายทหารชาวคาร์ทิจช่วงสงครามพิวนิกครั้งแรก (First Punic War) เขายังเป็นพี่ชายของมาโก บาร์กา (Mago Barca) กับแฮสดรูบัล บาร์กา (Hasdrubal Barca) และเป็นพี่เขยหรือน้องเขยของแฮสดรูบัลคนรูปงาม (Hasdrubal the Fair)

แฮนนิบัลมีชีวิตอยู่ในช่วงที่เกิดความตรึงเครียดขนานใหญ่ในลุ่มเมดิเตอร์เนียนฝั่งตะวันตก เนื่องด้วยสาธารณรัฐโรมันตั้งตนเป็นใหญ่เหนือมหาอำนาจอื่น ๆ อย่างคาร์ทิจโบราณ, อีทรูเรีย (Etruria), แซมเนียม (Samnium), และซีราคิวส์ (Syracuse) หนึ่งในผลงานที่เลื่องลือที่สุดของแฮนนิเบล คือ การนำทัพข้ามเทือกเขาในช่วงสงครามพิวนิกครั้งที่สอง (Second Punic War) โดยที่ทัพของเขามีช้างศึกอยู่ด้วย โดยเป็นการข้ามจากคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberian Peninsula) ผ่านเทือกเขาพิรินี (Pyrenees) และเทือกเขาแอลป์ (Alps) เข้าสู่อิตาลี ช่วงแรกที่เขาอยู่อิตาลีนั้น เขามีชัยในการยุทธ์หลายสนาม เช่น ที่เทรบเบีย (Trebbia), แทรซิมีน (Trasimene), และแคนนี (Cannae) ซึ่งเขาสร้างความโดดเด่นให้แก่ตนเองด้วยความสามารถในการกำหนดจุดแข็งจุดอ่อนของตนและศัตรูแล้วจึงวางแผนการยุทธ์ตามนั้น ชัยชนะดังกล่าวยังทำให้เขาได้สมัครพรรคพวกเป็นอันมากในโรม แฮนนิบัลยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในอิตาลีเป็นเวลา 15 ปี แต่ไม่สามารถยกทัพไปบุกโรม และเมื่อถูกศัตรูรุกรานแอฟริกาเหนือกลับ เขาก็จำต้องถอยร่นคืนไปยังคาร์ทิจบ้านเกิดที่ซึ่งเขาพ่ายแพ้ยับเยินต่อซิปพิโอ แอฟริกานัส (Scipio Africanus) ในยุทธการที่ซามา (Battle of Zama)

เมื่อสิ้นสงครามแล้ว แฮนนิบัลได้รับตำแหน่งชอเฟต (shophet) และได้ริเริ่มปฏิรูปทางการคลังและการเมืองหลายประการเพื่อเอื้อการชำระค่าปฏิกรรมสงครามที่โรมเรียกร้อง แต่การปฏิรูปของเขาไม่เป็นที่สบอารมณ์ของกลุ่มชนชั้นนำในคาร์ทิจและโรม เขาจึงลี้ภัยไปราชสำนักจักรวรรดิเซลูซิด (Seleucid Empire) ที่ซึ่งเขาได้เป็นกุนซือทหารของแอนไทโอคัสที่ 3 มหาราช (Antiochus III the Great) ในการศึกต่อต้านโรม แต่แอนไทโอคัสปราชัยในยุทธการที่แมกนีเชีย (Battle of Magnesia) จึงต้องยอมตามคำเรียกร้องของโรม ส่วนแฮนนิบัลก็หนีเข้ากลีบเมฆอีกครั้ง โดยแวะพัก ณ อาณาจักรอาร์มีเนีย (Kingdom of Armenia) แล้วไปหยุดพำนักเป็นการถาวร ณ ราชสำนักบีทิเนีย (Bithynia) ที่ซึ่งเขาได้นำทัพเรือต่อต้านเพอร์กามัน (Pergamon) และได้ชัยอย่างดงาม แต่ภายหลัง เขาถูกบีทิเนียหักหลังโดยมอบตัวเขาให้แก่โรม เขาจึงกินยาฆ่าตัวตาย

ถือกันว่า แฮนนิบัล ตลอดจนฟิลิปแห่งแมซิดอน (Philip of Macedon), อะเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great), จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar), และซิปพิโอ แอฟริกานัส เป็นนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ทั้งเป็นขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของแว่นแคว้นเมดิเตอร์เรเนียโบราณ ปรัชญาเมธีพลูทาร์ก (Plutarch) ระบุว่า ซิปพิโอเคยถามแฮนนิบัลว่า ใครบ้างเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แฮนนิบัลตอบว่า ไม่อะเล็กซานเดอร์ก็พิรัสแห่งอีไพรัส (Pyrrhus of Epirus) แล้วจึงเป็นตัวเขาแฮนนิบัลเอง[1] แต่บางบันทึกก็ว่า เขาตอบว่า ได้แก่ พิรัส, ซิปพิโอ, แล้วตัวเขาเอง ตามลำดับ[2]

อ้างอิง

  1. "Plutarch, and when asked what his choices would be if he had beaten Scipio, he replied that he would be the best of them all" Life of Titus Flamininus 21.3–4.
  2. Plutarch, Life of Pyrrhus 8.2.