ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มูลนิธิกระจกเงา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Veraporn (คุย | ส่วนร่วม)
อธิบายความหมายของสโลแกนมูลนิธิกระจกเงา
Veraporn (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ไขคำตก คำผิด/เกิน
บรรทัด 14: บรรทัด 14:


'''มูลนิธิกระจกเงา''' ({{lang-en|The Mirror Foundation}}) คือ องค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคม หลายๆด้าน
'''มูลนิธิกระจกเงา''' ({{lang-en|The Mirror Foundation}}) คือ องค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคม หลายๆด้าน
ได้แก่ งานด้านสิทธิมนุษยชน งานด้านสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ งานพัฒนาอาสาสมัคร มูลนิธิกระจกเงา และการแบ่งปันทรัพยากร เพื่อเพิ่มศักยภาพใน การเรียนรู้และการใช้ชีวิต โดยมีพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งบนสังคมออนไลน์ (internet) สังคมเมืองและสังคมชนบท โดยทำหน้าที่เป็นกระจกเงา ที่สะท้อนเรื่องราว ความเป็นจริงของสังคมและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผล กระทบจาก การเปลี่ยนแปลงของสังคม ด้วยวิธีคิด คือ การสร้างคนและสร้างนวัตกรรม สร้างความมเปลี่ยนแปลงแก่สังคม ดังวิสัยทัศน์ขององค์กร คือ '''สร้างคน สร้างนวัตกรรม สร้างการเปลี่ยนแปลง'''
ได้แก่ งานด้านสิทธิมนุษยชน งานด้านสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ งานพัฒนาอาสาสมัคร และการแบ่งปันทรัพยากร เพื่อเพิ่มศักยภาพใน การเรียนรู้และการใช้ชีวิต โดยมีพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งบนสังคมออนไลน์ (internet) สังคมเมืองและสังคมชนบท โดยทำหน้าที่เป็นกระจกเงา ที่สะท้อนเรื่องราว ความเป็นจริงของสังคมและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงของสังคม ด้วยวิธีคิด คือ การสร้างคนและสร้างนวัตกรรม สร้างความมเปลี่ยนแปลงแก่สังคม ดังวิสัยทัศน์ขององค์กร คือ '''สร้างคน สร้างนวัตกรรม สร้างการเปลี่ยนแปลง'''


'''  " สร้างคน "  '''เราจึงสร้างนักกิจกรรมด้วยกระบวนการ อาสาสมัคร เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมต่อกิจกรรมทางสังคม เนื่องจาก ปัญหาสังคมในปัจจุบันมีความซับซ้อนและมี ปริมาณมากมายเกินกว่าคนเล็ก ๆ เพียงไม่กี่คนจะแบกรับไว้ได้ และปัญหาสังคมไม่มีทางหมดไป หากผู้คนส่วนใหญ่ไม่ร่วมกันรับรู้และแก้ไข การสร้าง คนจึงเป็นต้นทางของการ แก้ปัญหาสังคม
'''  " สร้างคน "  '''เราสร้างนักกิจกรรมด้วยกระบวนการ อาสาสมัคร เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมต่อกิจกรรมทางสังคม เนื่องจาก ปัญหาสังคมในปัจจุบันมีความซับซ้อนและมี ปริมาณมากมายเกินกว่าคนเล็ก ๆ เพียงไม่กี่คนจะแบกรับไว้ได้ และปัญหาสังคมไม่มีทางหมดไป หากผู้คนส่วนใหญ่ไม่ร่วมกันรับรู้และแก้ไข การสร้าง คนจึงเป็นต้นทางของการ แก้ปัญหาสังคม


'''  " สร้างนวัตกรรม "  ''' นวัตกรรมเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การเส้นทางใหม่ของสังคม เราจึงสร้างนวัตกรรม เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และออกแบบกระบวนการแก้ปัญหาสังคมด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมที่สอดคล้อง ไปกับปรากฏการณ์ทางสังคมในปัจจุบัน
'''  " สร้างนวัตกรรม "  ''' นวัตกรรมเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การเส้นทางใหม่ของสังคม เราจึงสร้างนวัตกรรม เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และออกแบบกระบวนการแก้ปัญหาสังคมด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมที่สอดคล้อง ไปกับปรากฏการณ์ทางสังคมในปัจจุบัน

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:14, 13 กรกฎาคม 2561

มูลนิธิกระจกเงา
ประเภทองค์การพัฒนาเอกชน
อุตสาหกรรมการพัฒนาชุมชน
ก่อตั้งพ.ศ. 2534, ประเทศไทย
สำนักงานใหญ่ตำบลแม่ยาว จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
เว็บไซต์themirrorfoundation.org

มูลนิธิกระจกเงา (อังกฤษ: The Mirror Foundation) คือ องค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคม หลายๆด้าน ได้แก่ งานด้านสิทธิมนุษยชน งานด้านสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ งานพัฒนาอาสาสมัคร และการแบ่งปันทรัพยากร เพื่อเพิ่มศักยภาพใน การเรียนรู้และการใช้ชีวิต โดยมีพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งบนสังคมออนไลน์ (internet) สังคมเมืองและสังคมชนบท โดยทำหน้าที่เป็นกระจกเงา ที่สะท้อนเรื่องราว ความเป็นจริงของสังคมและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงของสังคม ด้วยวิธีคิด คือ การสร้างคนและสร้างนวัตกรรม สร้างความมเปลี่ยนแปลงแก่สังคม ดังวิสัยทัศน์ขององค์กร คือ สร้างคน สร้างนวัตกรรม สร้างการเปลี่ยนแปลง

  " สร้างคน "  เราสร้างนักกิจกรรมด้วยกระบวนการ อาสาสมัคร เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมต่อกิจกรรมทางสังคม เนื่องจาก ปัญหาสังคมในปัจจุบันมีความซับซ้อนและมี ปริมาณมากมายเกินกว่าคนเล็ก ๆ เพียงไม่กี่คนจะแบกรับไว้ได้ และปัญหาสังคมไม่มีทางหมดไป หากผู้คนส่วนใหญ่ไม่ร่วมกันรับรู้และแก้ไข การสร้าง คนจึงเป็นต้นทางของการ แก้ปัญหาสังคม

  " สร้างนวัตกรรม "   นวัตกรรมเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การเส้นทางใหม่ของสังคม เราจึงสร้างนวัตกรรม เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และออกแบบกระบวนการแก้ปัญหาสังคมด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมที่สอดคล้อง ไปกับปรากฏการณ์ทางสังคมในปัจจุบัน

  " แล้วจะสร้างการเปลี่ยนแปลง "   เมื่อได้สร้างนักกิจกรรม นวัตกรรมทางสังคมขึ้นแล้ว การเปลี่ยนแปลงสังคมซึ่งเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของการทำงาน ก็จะเริ่มขึ้น นักกิจกรรมที่ได้รับการปรับจูนความคิดที่มุ่งมั่นในการแกปัญหาสังคมร่วมกัน ก็จะเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนสังคมด้วยนวัตกรรมที่หมุนวงล้อของสังคมสู่การ พัฒนาต่อไป เรา จึงให้ความสำคัญกับการรณรงค์และลงมือ จัดการปัญหาต่างๆ

มูลนิธิกระจกเงา ปัจจุบันมีสองสำนักงาน คือ
1.มูลนิธิกระจกเงาเชียงราย ตั้งอยู่ บ้านห้วยขม ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย
2.มูลนิธิกระจกเงากรุงเทพ ตั้งอยู่ ซอยวิภาวดี 62 แยก4-7 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ

มูลนิธิกระจกเงา สำนักงานเชียงราย (อังกฤษ: The Mirror Foundation) เป็นองค์การพัฒนาเอกชน ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทยในตำบลแม่ยาวของจังหวัดเชียงราย โดยจุดมุ่งหมายขององค์กรคือการช่วยชาวเขารอบๆ พื้นที่ ที่มีปัญหาอย่างเช่น ด้านสัญชาติ, ยาเสพติด, การกัดกร่อนทางวัฒนธรรม รวมถึงการค้ามนุษย์ของเด็กและสตรีผ่านทางหลายโครงการ มูลนิธินี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2534 และดำเนินการมากว่า 15 ปีในการส่งเสริมสิทธิของชาวเขากับเว็บไซต์ บ้านนอก.คอม โดยได้มีการรับอาสาสมัครในท้องถิ่นและเงินบริจาคเพื่อออกเดินทางไปช่วยเหลือที่หมู่บ้านของชาวเขา

องค์การกับเว็บไซต์นี้ เป็นหนึ่งในส่วนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในประเทศไทย ตามหนังสือ Empowering Marginal Communities with Information Networking ในปี พ.ศ. 2549 โดยมีการกล่าวถึงตัวอย่างของการใช้อินเทอร์เน็ตที่มีศักยภาพสำหรับการ "ส่งเสริมบุคคลชาวพื้นเมืองให้สามารถเข้าถึงเวทีทางการเมือง และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับบุคคลชาวพื้นเมืองซึ่งเป็นปัญหาในระดับชาติ"[1] พ.ศ. 2544 หนังสือ Towards Financial Self-reliance: A Handbook on Resource Mobilization for Civil Society Organizations in the South ได้นำเสนอองค์กรนี้เป็นกรณีศึกษาในการระดมทรัพยากรสำหรับการพัฒนาชุมชนผ่านทางอินเทอร์เน็ต[2]

โครงการ

โครงการที่ดำเนินการของมูลนิธิประกอบด้วย การช่วยเป็นสื่อกลางในการยื่นเรื่องขอสัญชาติไทยระหว่างชาวเขากับรัฐบาล[3][4] โดยพยายามค้นหาและรวบรวมบุคคลสูญหาย ซึ่งหลายคนตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์จากใครบางคนที่พวกเขารัก[5] และการสร้างความตระหนักถึงการค้ามนุษย์ดังกล่าว โครงการต่อต้านการค้าเด็กและสตรีจึงทำการช่วยให้ความรู้แก่ประชาชนถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์นี้ รวมทั้งให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการให้เงินขอทานอาจเป็นการเติมเชื้อเพลิงทางอาชญากรรม เนื่องด้วยเด็กขอทานจำนวนมากถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับผู้แสวงประโยชน์จากเด็กเพื่อประโยชน์ของตนเอง[6][7] มูลนิธิได้ทำงานในโครงการด้านไอซีที ด้วยการสอนทักษะคอมพิวเตอร์ให้แก่ชาวเขาท้องถิ่นทั่วภูมิภาคเชียงราย รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิในปี พ.ศ. 2547 อีกด้วย[8] และทางมูลนิธิยังทำโครงการพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ที่บ้านจะแลและพิพิธภัณฑ์ชนเผ่า ผ่านทางเว็บไซต์ www.hilltribe.org ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนเรือในการรักษาวัฒนธรรมของชาวเขาสู่อนาคตต่อไป[9]

เว็บไซต์ ของมูลนิธินอกเหนือจากนี้ยังได้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับมูลนิธิ และประเด็นการค้นหาที่อยู่ รวมถึงเป็นช่องทางสำหรับชาวเขารอบพื้นที่ในการจำหน่ายงานศิลปะและงานฝีมือของพวกเขาในรูปแบบออนไลน์[10]

โครงการ ที่ผ่านมาของมูลนิธิได้รวมถึงศูนย์อาสาสมัครสึนามิ (TVC) ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2548 โดยความร่วมมือจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ที่เทศบาลเมืองพังงา สำหรับการช่วยเหลือฟื้นฟูและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนตลอดจนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิในช่วงปลาย พ.ศ. 2547 [11][12]

อ้างอิง

  1. Rahman, Hakikur (2006). Empowering Marginal Communities with Information Networking. Idea Group Inc. p. 138. ISBN 1591406994.
  2. Holloway, Richard (2001). Towards Financial Self-reliance: A Handbook on Resource Mobilization for Civil Society Organizations in the South. Earthscan. p. 147. ISBN 1853837733.
  3. Silp, Sai (2006-11-15). "Proposals seek changes to Thai citizenship law". The Irrawaddy. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  4. Macan-Markar, Marwaan (2002-04-10). "Thailand: Native hill tribes lack basic rights of other Thais". Inter Press Service English News Wire. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  5. Hongthong, Pennapa (2008-05-08). "The fight to rescue those who've disappeared". The Nation. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  6. Xiaodan, Du (2007-01-20). "Migrant workers and trafficking (III) : Human trafficking in Asia". CCTV International. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  7. Staff (2005-02-26). "Cash hand-outs 'only fuel crime, trafficking'". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  8. Abennet (2006-06-16). "Microsoft battles slavery in Asia". IT World. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  9. Chinvarakorn, Vasana (2007-06-02). "We Care: The Living Museum". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  10. Macan-Markar, Marwaan (2003-07-15). "Hill tribes try high-tech to preserve way of life". Interpress Service. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.
  11. Barnes, Pathomkanok (2005-07-17). "NGO workers – committed to fight for just causes". The Nation. สืบค้นเมื่อ 2008-10-16.
  12. Staff (2005-01-21). "Tsunami aftermath: Volunteers adjust to morgue shift". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2008-10-26.

แหล่งข้อมูลอื่น