ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แรกนาขวัญ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 49: | บรรทัด 49: | ||
=== การประกอบพระราชพิธีพืชมงคล (วันที่หนึ่ง) === |
=== การประกอบพระราชพิธีพืชมงคล (วันที่หนึ่ง) === |
||
เป็นพระราชพิธีทางสงฆ์โดยจะประกอบพระราชพิธีใน[[อุโบสถ|พระอุโบสถ]] [[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] [[พระบรมมหาราชวัง]] โดย [[พระมหากษัตริย์| พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว]]และ |
เป็นพระราชพิธีทางสงฆ์โดยจะประกอบพระราชพิธีใน[[อุโบสถ|พระอุโบสถ]] [[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] [[พระบรมมหาราชวัง]] โดย [[พระมหากษัตริย์| พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว]]และ[[สมเด็จพระราชินี|สมเด็จพระบรมราชินีนาถ]] เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินขึ้นสู่พระอุโบสถ ทรงจุด [[ธูป]] [[เทียน]] ถวายนมัสการ[[พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร]]และ[[พระพุทธรูป]]ที่สำคัญ [[พระราชาคณะ]]ถวาย[[ศีล]]จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว[[ทรงพระสุหร่าย]] ถวายดอกไม้บูชา พระคันธาราษฎร์ ทรงอธิษฐาน]เพื่อความสมบูรณ์แห่งพืชผลของประเทศไทย แล้ว[[พระราชครูวามเทพมุนี|พระมหาราชครู]] [[พราหมณ์|ประธานคณะพราหมณ์]] อ่านประกาศพระราชพิธีพืชมงคล [[พระสงฆ์ ]] ๑๑ รูป เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว]]ทรงหลั่ง[[สังข์รดน้ำ|น้ำสังข์]] พระราชทาน[[มะตูม|ใบมะตูม]] ทรงเจิม พระราชทาน[[แหวน|ธำมรงค์]] กับ[[ปฎัก|พระแสงปฎัก]] สำหรับตำแหน่งพระยาแรกนาแก่ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แล้วทรงหลั่งน้ำสังข์ พระราชทานใบมะตูม ทรงเจิมแก่เทพีผู้ที่จะเข้าในการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ขณะนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พนักงานประโคมฆ้องชัย เครื่องดุริยางค์ หลังจากนั้นทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวาย[[อนุโมทนา]] ถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถเสด็จพระราชดำเนินกลับ |
||
=== การประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (วันที่สอง) === |
=== การประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (วันที่สอง) === |
||
บรรทัด 61: | บรรทัด 61: | ||
เวลา ๗ นาฬิกา เจ้าพนักงานจัดตั้งริ้วกระบวนอิสริยยศตามประเพณีโบราณรับพระยาแรกนา พระยาแรกนาลงจากรถยนต์หลวงแล้วสวมลอมพอกเดินเข้าประจำที่ในกระบวนพร้อมด้วยคู่เคียง ๒ ข้าง ๆ ละ ๘ นาย ผู้เชิญเครื่องยศและเทพีจัดเป็นรูปกระบวนยาตราไปยังโรงพิธีพราหมณ์ ประโคมกลองชนะ สังข์ แตร ตลอดทาง |
เวลา ๗ นาฬิกา เจ้าพนักงานจัดตั้งริ้วกระบวนอิสริยยศตามประเพณีโบราณรับพระยาแรกนา พระยาแรกนาลงจากรถยนต์หลวงแล้วสวมลอมพอกเดินเข้าประจำที่ในกระบวนพร้อมด้วยคู่เคียง ๒ ข้าง ๆ ละ ๘ นาย ผู้เชิญเครื่องยศและเทพีจัดเป็นรูปกระบวนยาตราไปยังโรงพิธีพราหมณ์ ประโคมกลองชนะ สังข์ แตร ตลอดทาง |
||
ครั้นเวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว |
ครั้นเวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจาก[[พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน]] ไปยัง[[พลับพลา]]ที่ประทับบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเป็นองค์ประธานในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ |
||
เมื่อถึงฤกษ์พิธีไถหว่าน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนาจะได้ยาตราพร้อมเทพีออกจากโรงพิธีพราหมณ์ มีราชบัณฑิตและ[[พราหมณ์]]นำผ่านพลับพลาหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายบังคม แล้วไปยังลานแรกนา เจ้าพนักงานจูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนาเจิมพระโคและคันไถ จับหางไถแล้วไถดะไปโดย [[ทักษิณาวรรต]] ๓ รอบ ไถแปร ๓ รอบ พร้อมหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวพนักงานประโคมฆ้องชัยเครื่องดุริยางค์ แล้วไถกลบอีก ๓ รอบ เพื่อกลบเมล็ดพันธุ์ข้าวลงในดิน เสร็จแล้วพนักงานปลด[[วัว|พระโค]]ออกจากแอก พระยาแรกนาและเทพีกลับไปยังโรงพิธีพราหมณ์ |
เมื่อถึงฤกษ์พิธีไถหว่าน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนาจะได้ยาตราพร้อมเทพีออกจากโรงพิธีพราหมณ์ มีราชบัณฑิตและ[[พราหมณ์]]นำผ่านพลับพลาหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายบังคม แล้วไปยังลานแรกนา เจ้าพนักงานจูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนาเจิมพระโคและคันไถ จับหางไถแล้วไถดะไปโดย [[ทักษิณาวรรต]] ๓ รอบ ไถแปร ๓ รอบ พร้อมหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวพนักงานประโคมฆ้องชัยเครื่องดุริยางค์ แล้วไถกลบอีก ๓ รอบ เพื่อกลบเมล็ดพันธุ์ข้าวลงในดิน เสร็จแล้วพนักงานปลด[[วัว|พระโค]]ออกจากแอก พระยาแรกนาและเทพีกลับไปยังโรงพิธีพราหมณ์ |
||
พราหมณ์เสี่ยงทายของกิน ๗ สิ่ง ตั้งเลี้ยงพระโค เมื่อพระโคกินของสิ่งใดโหรหลวงจะถวาย[[การทำนาย|คำพยากรณ์]] เสร็จแล้วจะเบิก[[เกษตรกร]]ดีเด่นแห่งชาติ ตัวแทน[[กลุ่มเกษตรกร]]ดีเด่นแห่งชาติ ตัวแทนสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ และปราชญ์เกษตรของแผ่นดินสาขาต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณ หลังจากนั้นจะได้แห่พระยาแรกนาเป็นกระบวนอิสริยยศออกจากโรงพิธีพราหมณ์ พระยาแรกนากราบถวายบังคมแล้วเข้ากระบวนไปขึ้นรถยนต์หลวงพร้อมด้วยเทพีไปรอเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว |
พราหมณ์เสี่ยงทายของกิน ๗ สิ่ง ตั้งเลี้ยงพระโค เมื่อพระโคกินของสิ่งใดโหรหลวงจะถวาย[[การทำนาย|คำพยากรณ์]] เสร็จแล้วจะเบิก[[เกษตรกร]]ดีเด่นแห่งชาติ ตัวแทน[[กลุ่มเกษตรกร]]ดีเด่นแห่งชาติ ตัวแทนสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ และปราชญ์เกษตรของแผ่นดินสาขาต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณ หลังจากนั้นจะได้แห่พระยาแรกนาเป็นกระบวนอิสริยยศออกจากโรงพิธีพราหมณ์ พระยาแรกนากราบถวายบังคมแล้วเข้ากระบวนไปขึ้นรถยนต์หลวงพร้อมด้วยเทพีไปรอเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ที่แปลงนาทดลองใน[[โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา]] |
||
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว |
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากพลับพลาพิธีไปยังแปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พระยาแรกนาเข้ากราบถวายบังคม พระยาแรกนาและเทพีนำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปหว่านในแปลงนาทดลอง เพื่อปลูกไว้ใช้ในพระราชพิธีในปีต่อไป เมื่อพระยาแรกนาหว่านข้าวเสร็จแล้ว เข้าไปกราบถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นอันเสร็จพระราชพิธี |
||
=== กำหนดวันพืชมงคล === |
=== กำหนดวันพืชมงคล === |
||
[[ไฟล์:Thai Royal Ploughing Ceremony 2009 - rice finding 5.jpg| |
[[ไฟล์:Thai Royal Ploughing Ceremony 2009 - rice finding 5.jpg|thumbnail|250px|หลังสิ้นสุดพระราชพิธีฯ ประชาชนจะเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวที่พระยาแรกนาหว่านไว้ (พ.ศ. 2552)]] |
||
* พ.ศ. 2552 ตรงกับ จันทร์ที่ 11 พฤษภาคม (แรม 3 ค่ำเดือน 6) |
* พ.ศ. 2552 ตรงกับ จันทร์ที่ 11 พฤษภาคม (แรม 3 ค่ำเดือน 6) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:07, 18 พฤษภาคม 2561
มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงมุมมองที่เป็นสากลของเรื่อง |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ | |
---|---|
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2552 | |
ชื่อทางการ |
|
ชื่ออื่น | วันพืชมงคล วันเกษตรกร |
จัดขึ้นโดย | ไทย, กัมพูชา และ ศรีลังกา |
ประเภท | วันสำคัญประจำชาติในประเทศไทยและกัมพูชา เทศกาลท้องถิ่นในศรีลังกา |
ความสำคัญ | เป็นเครื่องหมายจุดเริ่มต้นของฤดูปลูกข้าว |
การถือปฏิบัติ | การไถนา |
แรกนาขวัญ (อังกฤษ: Ploughing Ceremony; เขมร: បុណ្យច្រត់ព្រះនង្គ័ល; [မင်္ဂလာလယ်တော် Mingala Ledaw หรือ လယ်ထွန်မင်္ဂလာ Lehtun Mingala] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) เป็นพิธีกรรมที่พบเห็นได้ในหลายประเทศทางแถบเอเชีย จัดขึ้นเพื่อเริ่มต้นฤดูการปลูกข้าวแบบดั้งเดิม
ในประเทศไทย การแรกนาขวัญซึ่งกระทำโดยราชสำนักนั้นประกอบด้วยพิธีสองอย่างตามลำดับ คือ พระราชพิธีพืชมงคล เป็นพิธีพุทธซึ่งตั้งขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ กับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีพราหมณ์ซึ่งกระทำสืบเนื่องมาแต่สมัยสุโขทัย ปัจจุบัน เรียกวันแรกนาขวัญว่า วันพืชมงคล ซึ่งจัดไม่ตรงกันทุกปีสุดแต่สำนักพระราชวังจะกำหนด วันพืชมงคลยังเป็นวันเกษตรกรไทย เพื่อระลึกถึงความสำคัญของเกษตรกรรมในเศรษฐกิจไทย และเป็นวันหยุดราชการด้วย แต่ไม่เป็นวันหยุดธนาคาร
ประเทศไทย
พระราชพิธีพืชมงคล
เป็นพิธีทางพุทธศาสนา มีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎทรงกำหนดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นพิธีทำขวัญเมล็ดพืชพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวฟ่าง ข้าวโพด ถั่ว งา เป็นต้น ฯลฯ มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้น ปราศจากโรคภัยและให้อุดมสมบูรณ์เจริญงอกงามดี
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
เป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เป็นพิธีพราหมณ์มีมาแต่โบราณ เป็นพิธีเริ่มต้นการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นอาณัติสัญญาณว่า บัดนี้ฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว พระราชพิธีทั้งสองนี้ ได้กระทำเต็มรูปแบบมาเรื่อย ๆ จนถึงปี พ.ศ. 2479 ได้เว้นไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ด้วยสถานการณ์โลกและบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ไม่สมควรจะจัดงานใด ๆ จึงว่างเว้นไป 10 ปี ต่อมาทางราชการพิจารณาเห็นว่าประเทศไทย เป็นประเทศกสิกรรม โดยเฉพาะทำนาควรจะได้ฟื้นฟู ประเพณีเก่าอันเป็นมงคลแก่การเพาะปลูก ดังนั้น ใน พ.ศ. 2490 จึงกำหนดให้มีพิธีพีชมงคลขึ้นอีก แต่มีแค่พระราชพิธีพืชมงคลเท่านั้น (พิธีเต็มรูปแบบว่างเว้นไปถึง 23 ปี) ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2503 จึงจัดให้มีราชพิธีจรดพระนาคัลแรกนาขวัญร่วมกับพิธีพืชมงคลนับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้จึงจัดให้เป็นวันสำคัญของชาติ
การประกอบพระราชพิธีพืชมงคล (วันที่หนึ่ง)
เป็นพระราชพิธีทางสงฆ์โดยจะประกอบพระราชพิธีในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินขึ้นสู่พระอุโบสถ ทรงจุด ธูป เทียน ถวายนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรและพระพุทธรูปที่สำคัญ พระราชาคณะถวายศีลจบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่าย ถวายดอกไม้บูชา พระคันธาราษฎร์ ทรงอธิษฐาน]เพื่อความสมบูรณ์แห่งพืชผลของประเทศไทย แล้วพระมหาราชครู ประธานคณะพราหมณ์ อ่านประกาศพระราชพิธีพืชมงคล พระสงฆ์ ๑๑ รูป เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว]]ทรงหลั่งน้ำสังข์ พระราชทานใบมะตูม ทรงเจิม พระราชทานธำมรงค์ กับพระแสงปฎัก สำหรับตำแหน่งพระยาแรกนาแก่ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แล้วทรงหลั่งน้ำสังข์ พระราชทานใบมะตูม ทรงเจิมแก่เทพีผู้ที่จะเข้าในการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ขณะนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา พนักงานประโคมฆ้องชัย เครื่องดุริยางค์ หลังจากนั้นทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถเสด็จพระราชดำเนินกลับ
การประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (วันที่สอง)
เป็นงานพระราชพิธีที่กระทำในตอนเช้าของรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนาพร้อมด้วยเทพีขึ้นรถยนต์หลวงที่หน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูสวัสดิโสภา ถนนสนามไชยไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อเดินทางมาถึงจะได้ตั้งกระบวนแห่อิสริยยศ แล้วเดินกระบวนแห่อิสริยยศไปส่งที่โรงพิธีพราหมณ์ พระยาแรกนาจุดธูปเทียนถวายสักการะเทวรูปสำคัญในโรงพิธีพรามณ์อันได้ เทวรูป พระอิศวร พระอุมาภควดี พระพรหม พระพิฆเนศ พระนารายณ์ พระลักษมี พระมเหศวรี และพระพลเทพ แล้วจะได้ตั้งสัตยาธิษฐาน หยิบผ้านุ่งแต่งกายไว้พร้อม เมื่อพระยาแรกนาตั้งสัตยาธิษฐานหยิบได้ผ้านุ่งผืนนั้นทับผ้านุ่งเดิมอีกชั้นหนึ่ง นุ่งอย่างบ่าวขุนเตรียมออกแรกนา
พระยาแรกนาขึ้นรถยนต์หลวงออกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เทพีและข้าราชการ (แต่งเครื่องแบบเต็มยศประดับราชอิสริยาภรณ์) เชิญเครื่องยศขึ้นรถตามเป็นกระบวน เมื่อเข้าสู่พระอุโบสถแล้วพระยาแรกนาและเทพีจุดธูปเทียนถวายนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วไปที่ปราสาทพระเทพบิดรถวายสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช แล้วไปขึ้นรถยนต์หลวง เป็นกระบวนออกจากจัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังท้องสนามหลวง
เวลา ๗ นาฬิกา เจ้าพนักงานจัดตั้งริ้วกระบวนอิสริยยศตามประเพณีโบราณรับพระยาแรกนา พระยาแรกนาลงจากรถยนต์หลวงแล้วสวมลอมพอกเดินเข้าประจำที่ในกระบวนพร้อมด้วยคู่เคียง ๒ ข้าง ๆ ละ ๘ นาย ผู้เชิญเครื่องยศและเทพีจัดเป็นรูปกระบวนยาตราไปยังโรงพิธีพราหมณ์ ประโคมกลองชนะ สังข์ แตร ตลอดทาง
ครั้นเวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ไปยังพลับพลาที่ประทับบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเป็นองค์ประธานในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
เมื่อถึงฤกษ์พิธีไถหว่าน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนาจะได้ยาตราพร้อมเทพีออกจากโรงพิธีพราหมณ์ มีราชบัณฑิตและพราหมณ์นำผ่านพลับพลาหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายบังคม แล้วไปยังลานแรกนา เจ้าพนักงานจูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนาเจิมพระโคและคันไถ จับหางไถแล้วไถดะไปโดย ทักษิณาวรรต ๓ รอบ ไถแปร ๓ รอบ พร้อมหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวพนักงานประโคมฆ้องชัยเครื่องดุริยางค์ แล้วไถกลบอีก ๓ รอบ เพื่อกลบเมล็ดพันธุ์ข้าวลงในดิน เสร็จแล้วพนักงานปลดพระโคออกจากแอก พระยาแรกนาและเทพีกลับไปยังโรงพิธีพราหมณ์
พราหมณ์เสี่ยงทายของกิน ๗ สิ่ง ตั้งเลี้ยงพระโค เมื่อพระโคกินของสิ่งใดโหรหลวงจะถวายคำพยากรณ์ เสร็จแล้วจะเบิกเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ตัวแทนสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ และปราชญ์เกษตรของแผ่นดินสาขาต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณ หลังจากนั้นจะได้แห่พระยาแรกนาเป็นกระบวนอิสริยยศออกจากโรงพิธีพราหมณ์ พระยาแรกนากราบถวายบังคมแล้วเข้ากระบวนไปขึ้นรถยนต์หลวงพร้อมด้วยเทพีไปรอเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ที่แปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากพลับพลาพิธีไปยังแปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา พระยาแรกนาเข้ากราบถวายบังคม พระยาแรกนาและเทพีนำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปหว่านในแปลงนาทดลอง เพื่อปลูกไว้ใช้ในพระราชพิธีในปีต่อไป เมื่อพระยาแรกนาหว่านข้าวเสร็จแล้ว เข้าไปกราบถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นอันเสร็จพระราชพิธี
กำหนดวันพืชมงคล
- พ.ศ. 2552 ตรงกับ จันทร์ที่ 11 พฤษภาคม (แรม 3 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2553 ตรงกับ พฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม (แรม 15 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2554 ตรงกับ ศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม (ขึ้น 11 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2555 ตรงกับ พุธที่ 9 พฤษภาคม (แรม 4 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2556 ตรงกับ จันทร์ที่ 13 พฤษภาคม (ขึ้น 4 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2557 ตรงกับ ศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม (ขึ้น 11 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2558 ตรงกับ พุธที่ 13 พฤษภาคม (แรม 11 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2559 ตรงกับ จันทร์ที่ 9 พฤษภาคม (ขึ้น 4 ค่ำเดือน 6)
- พ.ศ. 2560 ตรงกับ ศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม (แรม 2 ค่ำเดือน 6)[3]
- พ.ศ. 2561 ตรงกับ จันทร์ที่ 14 พฤษภาคม (แรม 15 ค่ำเดือน 6)[4]
ประเทศกัมพูชา
ในประเทศกัมพูชา ประวัติความเป็นมาตามพงศาวดาร นักโบราณคดีได้ระบุว่าพระราชพิธีจรดพระนังคัลนั้น ได้ถูกพระราชากัมพูชาประกอบเป็นพิธีจนเป็นประเพณี อย่างน้อยก็ตั้งแต่สมัยอาณาจักรเจนละ (ศตวรรษที่ ๖ ถึงศตวรรษที่ ๙) โดยพวกเขาได้ค้นพบรูปปั้นหลายรูปที่แสดงถึงสถานะของพระราชพิธีจรดพระนังคัลในสมัยนั้น
ในปัจจุบันพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธีอย่างหนึ่งในพระราชพิธีทวาทศมาส (พระราชพิธีบุญที่ทำขึ้นหนึ่งครั้งในหนึ่งเดือน ตามพระราชประเพณี) ตามธรรมดาแล้วพระราชพิธีนี้จะจัดขึ้นในเดือนห้า (พฤษภาคม) ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาลการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร โดยทั่วไปจะจัดขึ้นบนลานพระเมรุ อยู่ทางทิศเหนือของพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล หรือ พระท้องนาที่ใดที่หนึ่ง ในบางปีจะจัดขึ้นในจังหวัดเสียมราฐ
การประกอบพิธี
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญส่วนใหญ่จะจัดขึ้นในวันแรม ๑ ค่ำ ๒ ค่ำ และ ๓ ค่ำ เดือน ๕ โดยจะจัดให้มีพราหมณ์ ๕ คน ประกอบพิธีบูชาเทวดา ๕ องค์ ณ พระท้องนา ในบางครั้งพระราชาจะเสด็จไปจรดพระนังคัลด้วยพระองค์เอง แต่บางครั้งจะมอบหมายผู้แทนองค์เป็นผู้จรดพระนังคัล ในวันแรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ จะมีการแห่คณะองคมนตรี ผู้จรดพระนังคัลซึ่งเป็นตัวแทนพระราชาจะเรียกว่า สะดัจเมียก (พระยาแรกนาขวัญ) และ ภริยาพระเมฮัว (เทพี) ตัวแทนพระอัครมเหสี ออกจากพระราชวังไปยังพระท้องนา โดยที่นั่นจะมีวัว ๓ ตัวยืนรอเป็นที่เรียบร้อยสำหรับประกอบพิธีจรดพระนังคัล ผู้ที่เข้าร่วมพิธีทั้งหญิงทั้งชายจะแต่งกายในแบบกัมพูชาดั้งเดิม
วัวตัวที่ ๑ สำหรับประกอบพิธีจรดพระนังคัล เรียกว่า พระโค หรือ โคพฤษภราช (วัวตัวผู้ของพระราชา) ตามพระราชประเพณี พระเคา หรือ โคพฤษภราช นั้น มีการกำหนดลักษณะที่ชัดเจนกล่าวคือ ตัวสีดำ เขาโค้งงอไปข้างหน้า แล้วปลายแหลมชี้ไปข้างบนเล็กน้อย
วัวตัวที่ ๒ ที่ใช้แห่ข้างหน้าและแห่ข้างหลังนั้น ยังไม่มีการกำหนดลักษณะที่ชัดเจน อย่างไรก็ดีตามครั้งก่อนๆ ที่เคยทำกันมา จะเห็นว่าส่วนใหญ่จะเป็นวัวสีแดง ส่วนพระนังคัลทั้งสามนั้นจะทาเป็นสีดำ มีเส้นสีแดงตัดในแนวนอนเป็นช่วงๆ ส่วนของพระนังคัลสำหรับตัวแทนของพระราชานั้น จะมีลักษณะพิเศษกว่าใครคือจะมีรูปทรงเป็นพญานาค ทาสีสอง ที่คอของพญานาคจะมีพู่ทำจากขนสัตว์ติดอยู่
จุดประสงค์อันสำคัญที่สุดของพระราชพิธีจรดพระนังคัลนั้น จัดขึ้นเพื่อเป็นการพยากรณ์ หรือ เสี่ยงทายผลผลิตเกษตรกรรมและเหตุที่จะเกิดขึ้นภายในหนึ่งปีเต็ม ตามการกระทำของพระโคในพระราชพิธีดังกล่าว พระราชาหรือพระแรกนาขวัญที่เป็นตัวแทนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้ไถบนลานพระเมรุ ส่วนพระมเหสีหรือเทพีจะเป็นผู้หว่านเมล็ดตามข้างหลัง ลานพระเมรุจะถูกไถ ๓ รอบในพระราชพิธีดังกล่าว
ในบริเวณลานพระท้องนา หรือ ลานพระเมรุนั้น จะมีเต็นท์ดูสวยงามอยู่ และหน้าเต็นท์นั้นจะมีโต๊ะอยู่ ๗ ตัว แล้วบนโต๊ะแต่ละตัวจะมีของวางของอยู่ คือ ข้าวสาร ๑ โต๊ะ ถั่ว ๑ โต๊ะ เม็ดข้าวโพด ๑ โต๊ะ เม็ดงา ๑ โต๊ะ หญ้าสด ๑ โต๊ะ น้ำ ๑ โต๊ะ และ เหล้า ๑ โต๊ะ
ในพระราชพิธีนี้หลังจากที่ได้ไถตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นพิธีเสี่ยงทายด้วยวัวพฤษภราช พิธีเสี่ยงทายด้วยโคพฤษภราชนี้ พราหมณ์ซึ่งเป็นพระราชครูที่ยืนข้างๆ พระนังคัลจะท่องคาถาเสี่ยงทายและให้โคบริโภคอาหาร ๗ ชนิดที่ได้กล่าวไป เมื่อพระโคบริโภคสิ่งใดสิ่งหนึ่ง พราหมณ์จะพยากรณ์เหตุการณ์ หรือ ทำนายทายทักเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นใน ๑ ปีเต็มๆ เช่น โรคระบาด น้ำท่วม ผลผลิตดี และมีฝนตกหนักหรือน้อย เป็นต้น
การทำนาย
ในการพยากรณ์ของกัมพูชานั้น หากพระโคเลือกเสวยข้าว ข้าวโพด (ពោត) ถั่ว (សណ្តែក) และงา (ល្ង) ซึ่งเป็นตัวแทนของการเก็บเกี่ยวและผลผลิต ยิ่งพระโคเสวยมากก็พยากรณ์ได้ว่าการเก็บเกี่ยวและผลผลิตจะยิ่งดีมาก หากพระโคเสวยหญ้า (ស្មៅ) พยากรณ์ถึงความเจ็บป่วย เกิดโรคระบาด หากเสวยน้ำ (ទឹក) พยากรณ์ถึงเหตุน้ำท่วม และหากเสวยเหล้า (ស្រា) พยากรณ์ว่ามีลางของสงครามหรืออาจเกิดอาชญากรความไม่สงบ
อ้างอิง
- ↑ Buddhist Religious Year
- ↑ [1]
- ↑ สำนักพระราชวัง. (การสอบถามทางโทรศัพท์) 23 ธันวาคม 2559
- ↑ ศน.แจ้งวันหยุดราชการปี 61 ของสำนักพระราชวัง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลทั้งหมด
- พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 11 - 12 พฤษภาคม 2560
- พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 8 - 9 พฤษภาคม 2559
- กำหนดพิธี
- กำหนดการและรายละเอียดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พ.ศ. 2560
- พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พ.ศ. 2559
- หนังสือ
- พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญและวันเกษตรกร พ.ศ. 2560
- พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญและวันเกษตรกร พ.ศ. 2559
- บทความ
- วันพืชมงคล - สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ให้ชาวนาเป็นผู้แรกนา: ข้อเสนอปรับเปลี่ยนพิธีแรกนาขวัญในสมัยรัฐบาลคณะราษฎรยุคต้น - ปราการ กลิ่นฟุ้ง
- จรดนังคัล, แรกนา เขมรปนลาว กลายเป็นไทย - สุจิตต์ วงษ์เทศ