ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การปฏิวัติเยอรมัน ค.ศ. 1918–1919"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 14: บรรทัด 14:
* การสละราชสมบัติของ[[จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมัน|จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2]]
* การสละราชสมบัติของ[[จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมัน|จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2]]
* [[ราชวงศ์เยอรมัน]] และระบอบกษัตริย์ 22 แห่งได้ถูกยกเลิก
* [[ราชวงศ์เยอรมัน]] และระบอบกษัตริย์ 22 แห่งได้ถูกยกเลิก
* การปราบปรามการลุกฮือของพวกนิยมฝ่ายซ้าย, รวมทั้ง[[การก่อการกำเริบที่ Spartacist]].
* การปราบปรามการลุกฮือของพวกนิยมฝ่ายซ้าย, รวมทั้ง[[การก่อการกำเริบสปาตาคิสท์]].
* จุดจบของ [[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]
* จุดจบของ [[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]
* การก่อตั้ง สาธารณรัฐไวมาร์
* การก่อตั้ง สาธารณรัฐไวมาร์

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:23, 8 พฤษภาคม 2561

การปฏิวัติเดือนพฤศจิกายน
ส่วนหนึ่งของ การปฏิวัติ ค.ศ. 1917–1923

ทหารได้เข้าหลบที่กำบังเพื่อยิงปะทะในเหตุการณ์การก่อการกำเริบสปาตาคิสท์
วันที่
  • ระยะแรก:
    29 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918
    (1 สัปดาห์ 4 วัน)
  • ระยะที่สอง:
    3 พฤศจิกายน 1918 – 11 สิงหาคม ค.ศ. 1919
    (9 เดือน 1 สัปดาห์)
สถานที่
ผล

สาธารณรัฐไวมาร์ ได้รับชัยชนะ:

คู่สงคราม

จักรวรรดิเยอรมัน (1918)


สาธารณรัฐไวมาร์ (1918–19)

สาธารณรัฐสังคมนิยมเสรีเยอรมัน

Supported by:

ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ

การปฏิวัติเดือนพฤศจิกายน (เยอรมัน: Novemberrevolution) หรือ การปฏิวัติเยอรมัน ค.ศ. 1918-1919 เป็นสงครามกลางเมืองในจักรวรรดิเยอรมันในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายมหาอำนาจกลาง ซึ่งได้ส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญมาเป็นระบอบสาธารณรัฐ (ประชาธิปไตยในระบบสภาเดี่ยว) ซึ่งเวลาต่อมาได้กลายเป็นที่รู้จักกันคือ สาธารณรัฐไวมาร์ การปฏิวัติได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918 จนถึง เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1919 หลังรัฐธรรมนูญแห่งไวมาร์ถูกประกาศใช้

สาเหตุของการปฏิวัติมาจากการรับภาระหนักของประชาชนในช่วงสี่ปีของสงคราม, ผลกระทบที่รุนแรงจากความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิเยอรมันและเกิดสภาวะความตรึงเครียดทางสังคมระหว่างประชาชนธรรมดากับขุนนางชนชั้นสูงและชนชั้นกลางของนายทุน, ที่ครองอำนาจและเพิ่งแพ้สงคราม