ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มะลิลา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Liger (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 21: บรรทัด 21:
{{ขยายความ}}
{{ขยายความ}}
[[หมวดหมู่:วงศ์มะลิ]]
[[หมวดหมู่:วงศ์มะลิ]]
[[หมวดหมู่:ไม้ดอกไม้ประดับ]]
[[หมวดหมู่:ไม้ดอกไม้ประดับ]]มะลิลา


[ ขยายดูภาพใหญ่ ]
ทางภาคเหนือเรียกมะลิชนิดนี้ว่า มะลิป้อม เป็นไม้พุ่มเล็กๆ ที่ปลูกกันทั่วไปตามบ้าน เพราะออก ดอกดกเกือบทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูร้อน และฤดูฝน มะลิลามีใบเดี่ยว รูปไข่ หรือรูปไข่แกมรูปรี ปลายใบ แหลมออกเป็นคู่ตรงกันข้าม ดอกสีขาวออกเป็นช่อเล็กๆ ๑-๓ ดอก ที่ปลายกิ่ง และซอกใบ กลีบเลี้ยงเป็น เส้นแหลมๆ ๘-๑๐ เส้น กลีบดอกเชื่อมเป็นหลอดปลายแยกเป็น ๕-๘ กลีบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดอก ๒-๓ ซม. ดอกจะเริ่มบานและมีกลิ่นหอมในเวลาเย็น มะลิลาไม่ติดผล จึงขยายพันธุ์ด้วยวิธีตอนกิ่งหรือปักชำกิ่ง และปลูกในที่แจ้ง แดดจัด
คนไทยใช้ดอกมะลิลาที่ปลูกไว้ตามบ้านลอยน้ำที่ใช้ล้างหน้า ลอยในน้ำเย็นสำหรับดื่มลอยในน้ำหวาน หรือน้ำเชื่อมใส่ขนม เพื่อให้มีกลิ่นหอมชื่นใจ นอกจากนั้น ยังใช้อบใบชาให้มีกลิ่นหอมอีกด้วย ปัจจุบัน มีการปลูกมะลิลาเพื่อเก็บดอกขาย ทำรายได้ให้เกษตรกรได้ดีมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวมะลิออกดอกน้อยจึงมี ราคาแพงมาก ไม่ควรใช้ดอกมะลิที่ขายตามตลาดแต่งหน้าขนม หรือใส่ในน้ำเชื่อม เพราะอาจมียาฆ่าแมลงเจือ ปน ควรใช้เฉพาะการร้อยพวงมาลัย หรืองานประดิษฐ์ต่างๆ เท่านั้น การร้อยพวงมาลัยดอกมะลิเพื่อใช้บูชา พระ หรือมอบให้ผู้ที่เคารพ เป็นสิ่งที่คนไทยนิยมกระทำมาตั้งแต่ในอดีต ดังปรากฏในวรรณคดี

{{โครงพืช}}
{{โครงพืช}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:32, 7 ตุลาคม 2550

มะลิลา
ไฟล์:Malilaa.jpg
มะลิลา
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
หมวด: Magnoliophyta
ชั้น: Magnoliopsida
อันดับ: Scrophulariales
วงศ์: Oleaceae
สกุล: Jasminum
สปีชีส์: Jasminum sambac

มะลิลา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Jasminum sambac) ในชื่อภาษาอังกฤษว่า Arabian jasmine

ดูเพิ่ม

มะลิลา


[ ขยายดูภาพใหญ่ ]

ทางภาคเหนือเรียกมะลิชนิดนี้ว่า มะลิป้อม เป็นไม้พุ่มเล็กๆ ที่ปลูกกันทั่วไปตามบ้าน เพราะออก ดอกดกเกือบทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูร้อน และฤดูฝน มะลิลามีใบเดี่ยว รูปไข่ หรือรูปไข่แกมรูปรี ปลายใบ แหลมออกเป็นคู่ตรงกันข้าม ดอกสีขาวออกเป็นช่อเล็กๆ ๑-๓ ดอก ที่ปลายกิ่ง และซอกใบ กลีบเลี้ยงเป็น เส้นแหลมๆ ๘-๑๐ เส้น กลีบดอกเชื่อมเป็นหลอดปลายแยกเป็น ๕-๘ กลีบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดอก ๒-๓ ซม. ดอกจะเริ่มบานและมีกลิ่นหอมในเวลาเย็น มะลิลาไม่ติดผล จึงขยายพันธุ์ด้วยวิธีตอนกิ่งหรือปักชำกิ่ง และปลูกในที่แจ้ง แดดจัด 

คนไทยใช้ดอกมะลิลาที่ปลูกไว้ตามบ้านลอยน้ำที่ใช้ล้างหน้า ลอยในน้ำเย็นสำหรับดื่มลอยในน้ำหวาน หรือน้ำเชื่อมใส่ขนม เพื่อให้มีกลิ่นหอมชื่นใจ นอกจากนั้น ยังใช้อบใบชาให้มีกลิ่นหอมอีกด้วย ปัจจุบัน มีการปลูกมะลิลาเพื่อเก็บดอกขาย ทำรายได้ให้เกษตรกรได้ดีมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวมะลิออกดอกน้อยจึงมี ราคาแพงมาก ไม่ควรใช้ดอกมะลิที่ขายตามตลาดแต่งหน้าขนม หรือใส่ในน้ำเชื่อม เพราะอาจมียาฆ่าแมลงเจือ ปน ควรใช้เฉพาะการร้อยพวงมาลัย หรืองานประดิษฐ์ต่างๆ เท่านั้น การร้อยพวงมาลัยดอกมะลิเพื่อใช้บูชา พระ หรือมอบให้ผู้ที่เคารพ เป็นสิ่งที่คนไทยนิยมกระทำมาตั้งแต่ในอดีต ดังปรากฏในวรรณคดี