ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระคาร์ดินัล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
วุฒิสมาชิก → สมาชิกวุฒิสภา
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Template-Cardinal.svg|200px|thumb|ตราประจำสมณศักดิ์พระคาร์ดินัล]]
[[ไฟล์:Template-Cardinal.svg|200px|thumb|ตราประจำสมณศักดิ์พระคาร์ดินัล]]
'''คาร์ดินัล''' ({{lang-en|Cardinal}}) เป็น[[สมณศักดิ์]]ชั้นสูง รองจาก[[พระสันตะปาปา]] ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา[[พระสันตะปาปา]] ในการปกครอง[[คริสตจักร]][[โรมันคาทอลิก]] ตำแหน่งนี้อาจเทียบเท่ากับ[[สมเด็จพระราชาคณะ]]ใน[[ศาสนาพุทธ]] หรือ[[วุฒิสมาชิก]]ในทางโลก ในสมัยก่อนตำแหน่งคาร์ดินัลมักเป็น[[ฆราวาส]] แต่นับตั้งแต่ตรา[[ประมวลกฎหมายพระศาสนจักร]]ฉบับล่าสุด ([[ค.ศ. 1917]]-[[ค.ศ. 1983|1983]]) เฉพาะ[[บาทหลวง]]และ[[มุขนายก]]เท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นพระคาร์ดินัลได้ หน้าที่พิเศษอย่างหนึ่งของพระคาร์ดินัลคือ เข้าร่วม[[การประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปา]]องค์ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างลง และตนเองก็มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็น[[พระสันตะปาปา]]ด้วย
'''คาร์ดินัล''' ({{lang-en|Cardinal}}) เป็น[[สมณศักดิ์]]ชั้นสูง รองจาก[[พระสันตะปาปา]] ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา[[พระสันตะปาปา]] ในการปกครอง[[คริสตจักร]][[โรมันคาทอลิก]] ตำแหน่งนี้อาจเทียบเท่ากับ[[สมเด็จพระราชาคณะ]]ใน[[ศาสนาพุทธ]] หรือ[[สมาชิกวุฒิสภา]]ในทางโลก ในสมัยก่อนตำแหน่งคาร์ดินัลมักเป็น[[ฆราวาส]] แต่นับตั้งแต่ตรา[[ประมวลกฎหมายพระศาสนจักร]]ฉบับล่าสุด (ค.ศ. 1917–83) เฉพาะ[[บาทหลวง]]และ[[มุขนายก]]เท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นพระคาร์ดินัลได้ หน้าที่พิเศษอย่างหนึ่งของพระคาร์ดินัลคือ เข้าร่วม[[การประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปา]]องค์ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างลง และตนเองก็มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็น[[พระสันตะปาปา]]ด้วย


พระคาร์ดินัลอาจมีตำแหน่ง[[มุขนายก]]หรือเป็นหัวหน้าปกครองคณะ[[บาทหลวง]] [[คณะนักบวชคาทอลิก]]ชาย-หญิง และ[[คริสต์ศาสนิกชน]][[ฆราวาส]] ใน[[มุขมณฑล]]ที่ท่านปกครองด้วย
พระคาร์ดินัลอาจมีตำแหน่ง[[มุขนายก]]หรือเป็นหัวหน้าปกครองคณะ[[บาทหลวง]] [[คณะนักบวชคาทอลิก]]ชาย-หญิง และ[[คริสต์ศาสนิกชน]][[ฆราวาส]] ใน[[มุขมณฑล]]ที่ท่านปกครองด้วย
บรรทัด 10: บรรทัด 10:
ใน[[ศาสนาคริสต์ยุคแรก]] ๆ เวลาที่คนคนหนึ่งบวชเป็น[[บาทหลวง]] ท่านผู้นั้นจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมจนชั่วชีวิต และหากบาทหลวงท่านใดท่านหนึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งอื่น ก็เปรียบเสมือนว่าเป็นการแกะเอาบาทหลวงท่านนั้นออกจากประตูบานเดิม (ตำแหน่งเดิม) ไปขันนอตติดกับประตูบานใหม่ (ตำแหน่งใหม่) โดยใน[[ภาษาอังกฤษ]]ใช้การเปลี่ยนตำแหน่งในกรณีนี้ว่า '''"incardinated"''' ซึ่งก็มาจากรากศัพท์ในภาษาลาตินว่า '''"cardo"''' ซึ่งแปลว่าบานพับประตู
ใน[[ศาสนาคริสต์ยุคแรก]] ๆ เวลาที่คนคนหนึ่งบวชเป็น[[บาทหลวง]] ท่านผู้นั้นจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมจนชั่วชีวิต และหากบาทหลวงท่านใดท่านหนึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งอื่น ก็เปรียบเสมือนว่าเป็นการแกะเอาบาทหลวงท่านนั้นออกจากประตูบานเดิม (ตำแหน่งเดิม) ไปขันนอตติดกับประตูบานใหม่ (ตำแหน่งใหม่) โดยใน[[ภาษาอังกฤษ]]ใช้การเปลี่ยนตำแหน่งในกรณีนี้ว่า '''"incardinated"''' ซึ่งก็มาจากรากศัพท์ในภาษาลาตินว่า '''"cardo"''' ซึ่งแปลว่าบานพับประตู


การใช้คำดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายในพระศาสนจักรยุคแรก ๆ จนต่อมาในสมณสมัยของ[[สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 1]] (ค.ศ. 590-604) ได้มีการบัญญัติคำศัพท์ดังกล่าวเป็นคำศัพท์เฉพาะใน[[ประมวลกฎหมายพระศาสนจักร]]
การใช้คำดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายในพระศาสนจักรยุคแรก ๆ จนต่อมาในสมณสมัยของ[[สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 1]] (ค.ศ. 590–604) ได้มีการบัญญัติคำศัพท์ดังกล่าวเป็นคำศัพท์เฉพาะใน[[ประมวลกฎหมายพระศาสนจักร]]
ในยุคนั้นบาทหลวงบางท่านมีความสามารถเฉพาะตัวสูง จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น[[ผู้ช่วยมุขนายก]] (และกลายเป็น "คาร์ดินัล" แทนที่จะเป็นบาทหลวงผู้ดำรงตำแหน่งปกติ) และในบางกรณี บาทหลวงบางท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้ประกอบพิธีกรรมอยู่ตาม[[สักการสถาน]]โบราณหลาย ๆ แห่งในกรุงโรม เช่น [[มหาวิหารนักบุญเปโตร]] [[มหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพง]] [[มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร]] และ[[มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน]] ฯลฯ เป็นต้น และเนื่องจากภารกิจดังกล่าว มีวาระการแต่งตั้งเป็นการชั่วคราว จึงเรียกท่านเหล่านั้นว่า '''"คาร์ดินัล"''' และนี่คือที่มาของคำว่า '''"คาร์ดินัลบาทหลวง"''' ในปัจจุบัน (คาร์ดินัลชั้นบาทหลวง - '''"cardinal presbyters"''')
ในยุคนั้นบาทหลวงบางท่านมีความสามารถเฉพาะตัวสูง จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น[[ผู้ช่วยมุขนายก]] (และกลายเป็น "คาร์ดินัล" แทนที่จะเป็นบาทหลวงผู้ดำรงตำแหน่งปกติ) และในบางกรณี บาทหลวงบางท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้ประกอบพิธีกรรมอยู่ตาม[[สักการสถาน]]โบราณหลาย ๆ แห่งในกรุงโรม เช่น [[มหาวิหารนักบุญเปโตร]] [[มหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพง]] [[มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร]] และ[[มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน]] ฯลฯ เป็นต้น และเนื่องจากภารกิจดังกล่าว มีวาระการแต่งตั้งเป็นการชั่วคราว จึงเรียกท่านเหล่านั้นว่า '''"คาร์ดินัล"''' และนี่คือที่มาของคำว่า '''"คาร์ดินัลบาทหลวง"''' ในปัจจุบัน (คาร์ดินัลชั้นบาทหลวง - '''"cardinal presbyters"''')
บรรทัด 26: บรรทัด 26:
[[พระสันตะปาปา]]หลายองค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ได้ทำการแต่งตั้งบุคลากรหลาย ๆ ท่านให้มาช่วยในการปฏิบัติภารกิจของพระองค์ที่กรุงโรม โดยทรงแต่งตั้งให้ท่านเหล่านั้นปกครองวิหารต่าง ๆ ในกรุงโรม โดยไม่ต้องไปประกอบพิธีกรรมเป็นประจำทุกวันตามวิหารเหล่านั้น บุคลากรที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวจึงดำรงตำแหน่ง "คาร์ดินัล" ไปด้วยและมีบทบาทสำคัญในการอภิบาลสัตบุรุษในกรุงโรม และในการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตของบรรดาคริสตชนในพระศาสนจักรทั่วโลก
[[พระสันตะปาปา]]หลายองค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ได้ทำการแต่งตั้งบุคลากรหลาย ๆ ท่านให้มาช่วยในการปฏิบัติภารกิจของพระองค์ที่กรุงโรม โดยทรงแต่งตั้งให้ท่านเหล่านั้นปกครองวิหารต่าง ๆ ในกรุงโรม โดยไม่ต้องไปประกอบพิธีกรรมเป็นประจำทุกวันตามวิหารเหล่านั้น บุคลากรที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวจึงดำรงตำแหน่ง "คาร์ดินัล" ไปด้วยและมีบทบาทสำคัญในการอภิบาลสัตบุรุษในกรุงโรม และในการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตของบรรดาคริสตชนในพระศาสนจักรทั่วโลก
ยุคทองของสถาบันคาร์ดินัลมีจุดเริ่มต้นจากพระบัญชาของ[[สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 2]] เกี่ยวกับการเลือกตั้ง[[พระสันตะปาปา]] ซึ่งประกาศใช้ในปี [[ค.ศ. 1059]] ซึ่งกำหนดให้คาร์ดินัลมุขนายก คาร์ดินัลบาทหลวง และคาร์ดินัลพันธบริกร มีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งพระสันตะปาปาแทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยที่[[เคลอจี]]อื่น ๆ และบรรดา[[สัตบุรุษ]]มีบทบาทเพียงการให้[[สัตยาบัน]]ต่อผลของการเลือกตั้งเท่านั้น
ยุคทองของสถาบันคาร์ดินัลมีจุดเริ่มต้นจากพระบัญชาของ[[สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 2]] เกี่ยวกับการเลือกตั้ง[[พระสันตะปาปา]] ซึ่งประกาศใช้ใน ค.ศ. 1059 ซึ่งกำหนดให้คาร์ดินัลมุขนายก คาร์ดินัลบาทหลวง และคาร์ดินัลพันธบริกร มีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งพระสันตะปาปาแทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยที่[[เคลอจี]]อื่น ๆ และบรรดา[[สัตบุรุษ]]มีบทบาทเพียงการให้[[สัตยาบัน]]ต่อผลของการเลือกตั้งเท่านั้น


ต่อมาในปี [[ค.ศ. 1179]] [[สังคายนาลาเตรันครั้งที่สาม]]ได้มีมติให้สถาบันคาร์ดินัลสามารถเลือกตั้ง[[พระสันตะปาปา]]แทนตำแหน่งที่ว่างลงได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องได้รับสัตยาบันจากเคลริกอื่น ๆ และบรรดา[[สัตบุรุษ]]
ต่อมาใน ค.ศ. 1179 [[สังคายนาลาเตรันครั้งที่สาม]]ได้มีมติให้สถาบันคาร์ดินัลสามารถเลือกตั้ง[[พระสันตะปาปา]]แทนตำแหน่งที่ว่างลงได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องได้รับสัตยาบันจากเคลริกอื่น ๆ และบรรดา[[สัตบุรุษ]]


== พระคาร์ดินัลในประเทศไทย ==
== พระคาร์ดินัลในประเทศไทย ==
[[ไฟล์:Michael Michai Cardinal Kitbunchu.jpg|150px|thumb|right|พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล [[มีชัย กิจบุญชู]] อัคร[[มุขนายกกิตติคุณ]][[เขตมิสซังกรุงเทพฯ|มิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ]]]]
[[ไฟล์:Michael Michai Cardinal Kitbunchu.jpg|150px|thumb|right|พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล [[มีชัย กิจบุญชู]] อัคร[[มุขนายกกิตติคุณ]][[เขตมิสซังกรุงเทพฯ|มิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ]]]]
[[สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2]] ได้มีพระสมณสาส์นแต่งตั้ง[[อัครมุขนายก]]ไมเกิ้ล [[มีชัย กิจบุญชู]] ประมุข[[เขตมิสซังกรุงเทพฯ]] เป็นพระคาร์ดินัลชาวไทยคนแรก เมื่อวันที่ [[5 มกราคม]] [[ค.ศ. 1983]] และมีพิธีสถาปนาสมณศักดิ์พระคาร์ดินัลอย่างเป็นทางการในวันที่ [[2 กุมภาพันธ์]] ปีเดียวกัน ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม [[นครรัฐวาติกัน]]<ref>[http://haab.catholic.or.th/story%20the%20past/biography/cmm1.html พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู], หอจดหมายเหตุ [[อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ]]</ref> และเมื่อวันที่ 4 มกราคม [[ค.ศ. 2015]] [[สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส]]ทรงประกาศว่า พระคุณเจ้าฟรังซิสเซเวียร์ [[เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช]]จะได้รับแต่งตั้งเป็น[[พระคาร์ดินัล]]<ref>[http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU1ETTNPRFF6TVE9PQ==&subcatid= โป๊ปตั้ง 15 พระคาร์ดินัล - มีคนไทยด้วย]</ref> ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ [[ค.ศ. 2015]]<ref>[http://www.catholic-hierarchy.org/bishop/bkrko.html Archbishop Francis Xavier Kriengsak Kovithavanij]</ref>
[[สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2]] ได้มีพระสมณสาส์นแต่งตั้ง[[อัครมุขนายก]]ไมเกิ้ล [[มีชัย กิจบุญชู]] ประมุข[[เขตมิสซังกรุงเทพฯ]] เป็นพระคาร์ดินัลชาวไทยคนแรก เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1983 และมีพิธีสถาปนาสมณศักดิ์พระคาร์ดินัลอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม [[นครรัฐวาติกัน]]<ref>[http://haab.catholic.or.th/story%20the%20past/biography/cmm1.html พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู], หอจดหมายเหตุ [[อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ]]</ref> และเมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2015 [[สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส]]ทรงประกาศว่า พระคุณเจ้าฟรังซิสเซเวียร์ [[เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช]]จะได้รับแต่งตั้งเป็น[[พระคาร์ดินัล]]<ref>[http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU1ETTNPRFF6TVE9PQ==&subcatid= โป๊ปตั้ง 15 พระคาร์ดินัล - มีคนไทยด้วย]</ref> ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015<ref>[http://www.catholic-hierarchy.org/bishop/bkrko.html Archbishop Francis Xavier Kriengsak Kovithavanij]</ref>


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:34, 2 พฤษภาคม 2561

ตราประจำสมณศักดิ์พระคาร์ดินัล

คาร์ดินัล (อังกฤษ: Cardinal) เป็นสมณศักดิ์ชั้นสูง รองจากพระสันตะปาปา ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาพระสันตะปาปา ในการปกครองคริสตจักรโรมันคาทอลิก ตำแหน่งนี้อาจเทียบเท่ากับสมเด็จพระราชาคณะในศาสนาพุทธ หรือสมาชิกวุฒิสภาในทางโลก ในสมัยก่อนตำแหน่งคาร์ดินัลมักเป็นฆราวาส แต่นับตั้งแต่ตราประมวลกฎหมายพระศาสนจักรฉบับล่าสุด (ค.ศ. 1917–83) เฉพาะบาทหลวงและมุขนายกเท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นพระคาร์ดินัลได้ หน้าที่พิเศษอย่างหนึ่งของพระคาร์ดินัลคือ เข้าร่วมการประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างลง และตนเองก็มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาด้วย

พระคาร์ดินัลอาจมีตำแหน่งมุขนายกหรือเป็นหัวหน้าปกครองคณะบาทหลวง คณะนักบวชคาทอลิกชาย-หญิง และคริสต์ศาสนิกชนฆราวาส ในมุขมณฑลที่ท่านปกครองด้วย

ที่มาของคำ

คำว่า cardinal มาจากคำในภาษาละตินที่ใช้เรียกบานพับประตู (cardo)

ในศาสนาคริสต์ยุคแรก ๆ เวลาที่คนคนหนึ่งบวชเป็นบาทหลวง ท่านผู้นั้นจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมจนชั่วชีวิต และหากบาทหลวงท่านใดท่านหนึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งอื่น ก็เปรียบเสมือนว่าเป็นการแกะเอาบาทหลวงท่านนั้นออกจากประตูบานเดิม (ตำแหน่งเดิม) ไปขันนอตติดกับประตูบานใหม่ (ตำแหน่งใหม่) โดยในภาษาอังกฤษใช้การเปลี่ยนตำแหน่งในกรณีนี้ว่า "incardinated" ซึ่งก็มาจากรากศัพท์ในภาษาลาตินว่า "cardo" ซึ่งแปลว่าบานพับประตู

การใช้คำดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายในพระศาสนจักรยุคแรก ๆ จนต่อมาในสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 1 (ค.ศ. 590–604) ได้มีการบัญญัติคำศัพท์ดังกล่าวเป็นคำศัพท์เฉพาะในประมวลกฎหมายพระศาสนจักร

ในยุคนั้นบาทหลวงบางท่านมีความสามารถเฉพาะตัวสูง จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยมุขนายก (และกลายเป็น "คาร์ดินัล" แทนที่จะเป็นบาทหลวงผู้ดำรงตำแหน่งปกติ) และในบางกรณี บาทหลวงบางท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้ประกอบพิธีกรรมอยู่ตามสักการสถานโบราณหลาย ๆ แห่งในกรุงโรม เช่น มหาวิหารนักบุญเปโตร มหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพง มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร และมหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน ฯลฯ เป็นต้น และเนื่องจากภารกิจดังกล่าว มีวาระการแต่งตั้งเป็นการชั่วคราว จึงเรียกท่านเหล่านั้นว่า "คาร์ดินัล" และนี่คือที่มาของคำว่า "คาร์ดินัลบาทหลวง" ในปัจจุบัน (คาร์ดินัลชั้นบาทหลวง - "cardinal presbyters")

ส่วนบรรดามุขนายกที่ประจำตามเมืองต่าง ๆ รอบ ๆ กรุงโรมในยุคนั้น ต่างก็ผลัดเปลี่ยนกันประกอบพิธีในมหาวิหารลาเตรัน ซึ่งเป็นอาสนวิหารประจำมุขมณฑลโรม และถึงแม้ว่าท่านเหล่านั้นจะดำรงตำแหน่งประจำเป็นมุขนายกประจำมุขมณฑลของตน แต่ท่านก็ได้กลายเป็น "คาร์ดินัล" ในขณะที่ท่านประกอบพิธีในอาสนวิหารดังกล่าว และพระสันตะปาปาก็ได้ให้ความสำคัญต่อบรรดาพระคาร์ดินัลเหล่านั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยการปรึกษากิจการงานของพระศาสนจักรอยู่เป็นประจำ

นี่คือที่มาของคำว่า "คาร์ดินัลมุขนายก" (คาร์ดินัลชั้นมุขนายก - "cardinal bishops") ซึ่งดำรงตำแหน่งมุขนายกประจำ 7 มุขมณฑลรอบกรุงโรมในปัจจุบัน

และหลังจากที่สันตะสำนักได้อำนาจการปกครองกรุงโรม ก็จำเป็นต้องให้บริการต่าง ๆ ด้านสังคมแก่บรรดาประชาชน โดยบริการดังกล่าวนี้ แรกทีเดียวบรรดา "พันธบริกร" (deacons) ซึ่งเป็นบุคลากรของพระสันตปาปาที่ประจำอยู่หาวิหารลาเตรันเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ต่อมาก็ได้มีการส่งบุคลากรดังกล่าวไปประจำตามศูนย์บริการด้านสังคม (diaconiae) ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วกรุงโรม โดยที่ศูนย์แต่ละแห่งจะมีโบสถ์น้อยอยู่ด้วย

ความสำคัญของท่านเหล่านั้นในการช่วยเหลือผู้ยากไร้คือที่มาของคำว่า "คาร์ดินัลพันธบริกร" ในปัจจุบัน (คาร์ดินัลชั้นพันธบริกร "cardinal deacons")

บรรดาพระคาร์ดินัลต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ได้เริ่มทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในการช่วยพระสันตะปาปาปฏิบัติภารกิจในฐานะบิชอปแห่งกรุงโรม และในฐานะประมุขของสภามุขนายกโลก รวมทั้งการเป็นผู้แทนของพระองค์ในการปฏิบัติภารกิจพิเศษต่าง ๆ และการเป็นผู้แทนพระสันตะปาปาในการประชุมสังคายนาต่าง ๆ ด้วย

พระสันตะปาปาหลายองค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ได้ทำการแต่งตั้งบุคลากรหลาย ๆ ท่านให้มาช่วยในการปฏิบัติภารกิจของพระองค์ที่กรุงโรม โดยทรงแต่งตั้งให้ท่านเหล่านั้นปกครองวิหารต่าง ๆ ในกรุงโรม โดยไม่ต้องไปประกอบพิธีกรรมเป็นประจำทุกวันตามวิหารเหล่านั้น บุคลากรที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวจึงดำรงตำแหน่ง "คาร์ดินัล" ไปด้วยและมีบทบาทสำคัญในการอภิบาลสัตบุรุษในกรุงโรม และในการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตของบรรดาคริสตชนในพระศาสนจักรทั่วโลก

ยุคทองของสถาบันคาร์ดินัลมีจุดเริ่มต้นจากพระบัญชาของสมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 2 เกี่ยวกับการเลือกตั้งพระสันตะปาปา ซึ่งประกาศใช้ใน ค.ศ. 1059 ซึ่งกำหนดให้คาร์ดินัลมุขนายก คาร์ดินัลบาทหลวง และคาร์ดินัลพันธบริกร มีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งพระสันตะปาปาแทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยที่เคลอจีอื่น ๆ และบรรดาสัตบุรุษมีบทบาทเพียงการให้สัตยาบันต่อผลของการเลือกตั้งเท่านั้น

ต่อมาใน ค.ศ. 1179 สังคายนาลาเตรันครั้งที่สามได้มีมติให้สถาบันคาร์ดินัลสามารถเลือกตั้งพระสันตะปาปาแทนตำแหน่งที่ว่างลงได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องได้รับสัตยาบันจากเคลริกอื่น ๆ และบรรดาสัตบุรุษ

พระคาร์ดินัลในประเทศไทย

พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู อัครมุขนายกกิตติคุณมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ

สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 ได้มีพระสมณสาส์นแต่งตั้งอัครมุขนายกไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ประมุขเขตมิสซังกรุงเทพฯ เป็นพระคาร์ดินัลชาวไทยคนแรก เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1983 และมีพิธีสถาปนาสมณศักดิ์พระคาร์ดินัลอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม นครรัฐวาติกัน[1] และเมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2015 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประกาศว่า พระคุณเจ้าฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิชจะได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล[2] ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015[3]

อ้างอิง