ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปราสาทโอซากะ"
ล Setawut ย้ายหน้า ปราสาทโอซะกะ ไปยัง ปราสาทโอซากะ |
ล แทนที่ "โอซะกะ" → "โอซากะ" ด้วยสจห. |
||
บรรทัด 4: | บรรทัด 4: | ||
| img_capt = ตัวปราสาท |
| img_capt = ตัวปราสาท |
||
| img_width = 350px |
| img_width = 350px |
||
| name = ปราสาทโอ |
| name = ปราสาทโอซากะ |
||
| pref = 大坂城 |
| pref = 大坂城 |
||
| ar_called = ปราสาททอง (金城) |
| ar_called = ปราสาททอง (金城) |
||
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
}} |
}} |
||
'''ปราสาทโอ |
'''ปราสาทโอซากะ''' ({{ญี่ปุ่น|大坂城 หรือ 大阪城}}) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชูโอ นคร[[โอซากะ]] [[ประเทศญี่ปุ่น]] เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีบทบาทในช่วงสงครามการรวมประเทศญี่ปุ่นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 ใน[[ยุคอะซุชิ-โมะโมะยะมะ]]<ref>{{cite web|url=http://www.osaka-info.jp/en/culture/2007may/01.html |title=Uemachidaichi : OSAKA-INFO - Osaka Visitor's Guide |publisher=Osaka-info.jp |date= |accessdate=2013-02-15}}</ref> |
||
== ลักษณะเด่น == |
== ลักษณะเด่น == |
||
ปราสาทโอ |
ปราสาทโอซากะมีสิ่งก่อสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร นั้นทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งส่งเข้ามาในโอซากะจากเหมืองที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 100 กิโลเมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆในญี่ปุ่นได้เลย |
||
สิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูป[[ปลาโลมา]]แปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของ[[เสือ]] ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วย[[ทองคำ]] |
สิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูป[[ปลาโลมา]]แปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของ[[เสือ]] ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วย[[ทองคำ]] |
||
หอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี [[พ.ศ. 2540]] การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอ |
หอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี [[พ.ศ. 2540]] การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซากะ |
||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
ในปี ค.ศ. 1583 [[โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ]] สั่งให้มีการก่อสร้างปราสาทโอ |
ในปี ค.ศ. 1583 [[โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ]] สั่งให้มีการก่อสร้างปราสาทโอซากะที่บริเวณวัดอิชิยะมะฮงกัน โดยนำแบบแปลนมาจาก[[ปราสาทอะซุชิ]] อันเป็นศูนย์บัญชาการหลักของ[[โอะดะ โนะบุนะงะ]] โทะโยะโตะมิต้องการจะสร้างให้เหมือนกับปราสาทอะซุชิ แต่สุดท้ายแล้วกลับโดดเด่นกว่า โดยหอคอยหลักมี 5 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น มีใบไม้ทองที่ด้านข้างของปราสาท ทำให้ตัวปราสาทสวยงามโดดเด่นประทับใจผู้พบเห็น ในปี ค.ศ. 1585 เมื่อตัวปราสาทแล้วเสร็จ โทะโยะโตะมิจึงเริ่มแผนขยายตัวปราสาทเพิ่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก จนประทั่งในปี ค.ศ. 1597 การก่อสร้างได้แล้วเสร็จและฮิเดะโยะชิได้เสียชีวิตลง ตัวปราสาทจึงตกเป็นของบุตรของฮิเดะโยะชิ คือ [[โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะริ]] |
||
ในปี ค.ศ. 1600 [[โทะกุงะวะ อิเอะยะซุ]] ปราบศัตรูลงได้ใน[[ยุทธการเซะกิงะฮะระ]]และเริ่มจัดตั้ง[[รัฐบาลบะกุฟุ]]ที่[[เอะโดะ]] ในปี ค.ศ. 1614 โทะกุงะวะเริ่มโจมตีกองกำลังของฮิเดะโยะริในช่วงหน้าหนาวจนเข้าสู่ยุทธการ[[การล้อมโอ |
ในปี ค.ศ. 1600 [[โทะกุงะวะ อิเอะยะซุ]] ปราบศัตรูลงได้ใน[[ยุทธการเซะกิงะฮะระ]]และเริ่มจัดตั้ง[[รัฐบาลบะกุฟุ]]ที่[[เอะโดะ]] ในปี ค.ศ. 1614 โทะกุงะวะเริ่มโจมตีกองกำลังของฮิเดะโยะริในช่วงหน้าหนาวจนเข้าสู่ยุทธการ[[การล้อมโอซากะ]]<ref>{{cite news | first=Miki | last=Meek | coauthors= | title=The Siege of Osaka Castle | date= | publisher= | url =http://ngm.nationalgeographic.com/ngm/0312/feature5/zoomify/main.html | work =National Geographic Magazine | pages = | accessdate = 2008-01-22 | language = }}</ref> แม้กองกำลังของโทะโยะโตะมิมีจะน้อยกว่ากองกำลังของโทะกุงะวะเกือบครึ่งหนึ่ง แต่ก็สามารถต้านทานทัพ 200,000 นายของโทะกุงะวะและรักษากำแพงเมืองเอาไว้ได้ |
||
ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1615 ฮิเดะโยะริเริ่มขุดคูเมืองรอบนอกเพิ่มขึ้นอีกชั้น โทะกุงะวะจึงได้ส่งกองกำลังของตนไปโจมตีปราสาทโอ |
ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1615 ฮิเดะโยะริเริ่มขุดคูเมืองรอบนอกเพิ่มขึ้นอีกชั้น โทะกุงะวะจึงได้ส่งกองกำลังของตนไปโจมตีปราสาทโอซากะอีกครั้งหนึ่งและสามารถเจาะกำลังทหารของโทะโยะโตะมิเข้าไปในกำแพงเมืองได้เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปราสาทโอซากะจึงตกเป็นของโทะกุงะวะ และตระกูลโทะโยะโตะมิก็ถึงคราอวสาน |
||
ในปี ค.ศ. 1620 [[โทะกุงะวะ ฮิเดะตะดะ]] โชกุนคนที่ 2 แห่ง[[ตระกูลโทะกุงะวะ]] เริ่มบูรณะและสร้างปราสาทโอ |
ในปี ค.ศ. 1620 [[โทะกุงะวะ ฮิเดะตะดะ]] โชกุนคนที่ 2 แห่ง[[ตระกูลโทะกุงะวะ]] เริ่มบูรณะและสร้างปราสาทโอซากะขึ้นมาใหม่ ยกระดับหอคอยให้สูงขึ้น ภายนอกมี 5 ชั้น ภายในมี 8 ชั้น ก่อสร้างกำแพงใหม่ให้เป็นเกียรติแต่ตระกูลซะมุไรแต่ละคน กำแพงในสมัยนั้นยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้โดยนำหินมาจาก[[ทะเลเซะโตะใน]] และสลักยอดด้วยชื่อของตระกูลที่อุทิศให้กับการสร้างกำแพงเหล่านี้ |
||
ในปี ค.ศ. 1660 เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่คลังแสงเป็นผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาท จากนั้นในปี 1665 เกิดฟ้าผ่าทำให้ตัวปราสาทหลักได้รับความเสียหายและพังลงมา |
ในปี ค.ศ. 1660 เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่คลังแสงเป็นผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาท จากนั้นในปี 1665 เกิดฟ้าผ่าทำให้ตัวปราสาทหลักได้รับความเสียหายและพังลงมา |
||
บรรทัด 36: | บรรทัด 36: | ||
หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน รัฐบาลบะกุฟุต้องการจะซ่อมตัวปราสาทซึ่งมีส่วนให้ต้องซ่อมอีกมาก ในปี 1843 รัฐบาลจึงได้เรี่ยไรเงินจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างคอคอยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง |
หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน รัฐบาลบะกุฟุต้องการจะซ่อมตัวปราสาทซึ่งมีส่วนให้ต้องซ่อมอีกมาก ในปี 1843 รัฐบาลจึงได้เรี่ยไรเงินจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างคอคอยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง |
||
ในปี ค.ศ. 1868 ปราสาทโอ |
ในปี ค.ศ. 1868 ปราสาทโอซากะถูกล้อมด้วยกองกำลังจักรพรรดิต่อต้านรัฐบาลบะกุฟุ และตัวปราสาทก็ถูกเผาในสงครามกลางเมืองสมัย[[การปฏิรูปเมจิ]] |
||
ต่อมา รัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอวะกะเป็นคลังแสงผลิตปืน อาวุธยุทธภัณฑ์ และระเบิด เพื่อขยายขีดความสามารถทางการทหารของญี่ปุ่นในแบบฉบับของตะวันตก<ref name="autogenerated1">{{cite web|url=http://www.ndl.go.jp/scenery/kansai/e/column/osaka_army_arsenal.html |title=Osaka Army Arsenal |publisher=Ndl.go.jp |date= |accessdate=2013-02-15}}</ref> |
ต่อมา รัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอวะกะเป็นคลังแสงผลิตปืน อาวุธยุทธภัณฑ์ และระเบิด เพื่อขยายขีดความสามารถทางการทหารของญี่ปุ่นในแบบฉบับของตะวันตก<ref name="autogenerated1">{{cite web|url=http://www.ndl.go.jp/scenery/kansai/e/column/osaka_army_arsenal.html |title=Osaka Army Arsenal |publisher=Ndl.go.jp |date= |accessdate=2013-02-15}}</ref> |
||
ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการสร้างหอคอยหลักขึ้นมาใหม่หลังจากที่เทศบาลเมืองโอ |
ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการสร้างหอคอยหลักขึ้นมาใหม่หลังจากที่เทศบาลเมืองโอซากะสามารถระดมทุนจากประชาชนมาจำนวนมาก |
||
ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] คลังแสงกลายเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น มีคนงานกว่า 60,000 คน และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรด้วย ทำให้ปราสาทโอ |
ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] คลังแสงกลายเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น มีคนงานกว่า 60,000 คน และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรด้วย ทำให้ปราสาทโอซากะเสียหายอย่างหนักในช่วงท้ายสงครามเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1945 จากการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ คลังแสงเสียหายไปร้อยละ 90 และคนงานเสียชีวิต 382 คน |
||
ในปี ค.ศ. 1995 เทศบาลนครโอ |
ในปี ค.ศ. 1995 เทศบาลนครโอซากะเริ่มต้นโครงการบูรณะปราสาทโอซากะอีกครั้ง โดยให้ภายนอกยังคงความเป็นยุคเอะโดะ แผนการบูรณะแล้วเสร็จในปี 1997 ตัวปราสาทมีความทันสมัยขึ้นมาก มีลิฟต์ติดตั้งภายในและมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบสมัยใหม่มากมาย |
||
==คลังภาพ== |
==คลังภาพ== |
||
บรรทัด 50: | บรรทัด 50: | ||
ไฟล์:OsakaCastle 2007-3.jpg|หอคอยกลาง |
ไฟล์:OsakaCastle 2007-3.jpg|หอคอยกลาง |
||
ไฟล์:OsakaCastleOtemonGate.jpg|ประตูโอะเตะมง |
ไฟล์:OsakaCastleOtemonGate.jpg|ประตูโอะเตะมง |
||
ไฟล์:Caron1663.jpg|ภาพวาดแสดงความเสียหายของปราสาทโอ |
ไฟล์:Caron1663.jpg|ภาพวาดแสดงความเสียหายของปราสาทโอซากะ ในหนังสือของฟรองซัวส์ คารอน ในปี ค.ศ. 1663 |
||
ไฟล์:Mythical Fish (2850634866).jpg|จากหลังคาของหอคอยกลาง ปราสาทโอ |
ไฟล์:Mythical Fish (2850634866).jpg|จากหลังคาของหอคอยกลาง ปราสาทโอซากะ |
||
ไฟล์:大阪城天守閣と梅林 Plum Grove and Osaka Castle.jpg|สวนบ๊วยในอุทยานปราสาทโอ |
ไฟล์:大阪城天守閣と梅林 Plum Grove and Osaka Castle.jpg|สวนบ๊วยในอุทยานปราสาทโอซากะ |
||
</gallery> |
</gallery> |
||
บรรทัด 60: | บรรทัด 60: | ||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Osaka Castle|ปราสาทโอ |
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Osaka Castle|ปราสาทโอซากะ}} |
||
* [http://www.osakacastle.net/english/ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ]{{en|icon}} |
* [http://www.osakacastle.net/english/ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ]{{en|icon}} |
||
* [http://www.osaka-info.jp/th/sightseeing/post_6.html ปราสาทโอ |
* [http://www.osaka-info.jp/th/sightseeing/post_6.html ปราสาทโอซากะ ใน osaka-info.jp] {{th|icon}} |
||
* [http://www.japanese-castle-explorer.com/castle_profile.html?name=Osaka ข้อมูลปราสาทโอ |
* [http://www.japanese-castle-explorer.com/castle_profile.html?name=Osaka ข้อมูลปราสาทโอซากะ ใน Japanese Castle Explorer] |
||
บรรทัด 70: | บรรทัด 70: | ||
{{สร้างปีคศ|1598}} |
{{สร้างปีคศ|1598}} |
||
[[หมวดหมู่:ปราสาทญี่ปุ่น|อโซากา]] |
[[หมวดหมู่:ปราสาทญี่ปุ่น|อโซากา]] |
||
[[หมวดหมู่:จังหวัดโอ |
[[หมวดหมู่:จังหวัดโอซากะ]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:14, 15 เมษายน 2561
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ปราสาทโอซากะ 大坂城 | |
ปราสาททอง (金城) | |
ศิลปะสมัยโทะโยะโตะมิ และ | |
ปราสาทโอซากะ (ญี่ปุ่น: 大坂城 หรือ 大阪城) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตชูโอ นครโอซากะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น มีบทบาทในช่วงสงครามการรวมประเทศญี่ปุ่นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในยุคอะซุชิ-โมะโมะยะมะ[1]
ลักษณะเด่น
ปราสาทโอซากะมีสิ่งก่อสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร นั้นทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งส่งเข้ามาในโอซากะจากเหมืองที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 100 กิโลเมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆในญี่ปุ่นได้เลย
สิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูปปลาโลมาแปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของเสือ ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วยทองคำ
หอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี พ.ศ. 2540 การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซากะ
ประวัติ
ในปี ค.ศ. 1583 โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ สั่งให้มีการก่อสร้างปราสาทโอซากะที่บริเวณวัดอิชิยะมะฮงกัน โดยนำแบบแปลนมาจากปราสาทอะซุชิ อันเป็นศูนย์บัญชาการหลักของโอะดะ โนะบุนะงะ โทะโยะโตะมิต้องการจะสร้างให้เหมือนกับปราสาทอะซุชิ แต่สุดท้ายแล้วกลับโดดเด่นกว่า โดยหอคอยหลักมี 5 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น มีใบไม้ทองที่ด้านข้างของปราสาท ทำให้ตัวปราสาทสวยงามโดดเด่นประทับใจผู้พบเห็น ในปี ค.ศ. 1585 เมื่อตัวปราสาทแล้วเสร็จ โทะโยะโตะมิจึงเริ่มแผนขยายตัวปราสาทเพิ่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึก จนประทั่งในปี ค.ศ. 1597 การก่อสร้างได้แล้วเสร็จและฮิเดะโยะชิได้เสียชีวิตลง ตัวปราสาทจึงตกเป็นของบุตรของฮิเดะโยะชิ คือ โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะริ
ในปี ค.ศ. 1600 โทะกุงะวะ อิเอะยะซุ ปราบศัตรูลงได้ในยุทธการเซะกิงะฮะระและเริ่มจัดตั้งรัฐบาลบะกุฟุที่เอะโดะ ในปี ค.ศ. 1614 โทะกุงะวะเริ่มโจมตีกองกำลังของฮิเดะโยะริในช่วงหน้าหนาวจนเข้าสู่ยุทธการการล้อมโอซากะ[2] แม้กองกำลังของโทะโยะโตะมิมีจะน้อยกว่ากองกำลังของโทะกุงะวะเกือบครึ่งหนึ่ง แต่ก็สามารถต้านทานทัพ 200,000 นายของโทะกุงะวะและรักษากำแพงเมืองเอาไว้ได้
ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 1615 ฮิเดะโยะริเริ่มขุดคูเมืองรอบนอกเพิ่มขึ้นอีกชั้น โทะกุงะวะจึงได้ส่งกองกำลังของตนไปโจมตีปราสาทโอซากะอีกครั้งหนึ่งและสามารถเจาะกำลังทหารของโทะโยะโตะมิเข้าไปในกำแพงเมืองได้เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปราสาทโอซากะจึงตกเป็นของโทะกุงะวะ และตระกูลโทะโยะโตะมิก็ถึงคราอวสาน
ในปี ค.ศ. 1620 โทะกุงะวะ ฮิเดะตะดะ โชกุนคนที่ 2 แห่งตระกูลโทะกุงะวะ เริ่มบูรณะและสร้างปราสาทโอซากะขึ้นมาใหม่ ยกระดับหอคอยให้สูงขึ้น ภายนอกมี 5 ชั้น ภายในมี 8 ชั้น ก่อสร้างกำแพงใหม่ให้เป็นเกียรติแต่ตระกูลซะมุไรแต่ละคน กำแพงในสมัยนั้นยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้โดยนำหินมาจากทะเลเซะโตะใน และสลักยอดด้วยชื่อของตระกูลที่อุทิศให้กับการสร้างกำแพงเหล่านี้
ในปี ค.ศ. 1660 เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่คลังแสงเป็นผลให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาท จากนั้นในปี 1665 เกิดฟ้าผ่าทำให้ตัวปราสาทหลักได้รับความเสียหายและพังลงมา
หลังถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน รัฐบาลบะกุฟุต้องการจะซ่อมตัวปราสาทซึ่งมีส่วนให้ต้องซ่อมอีกมาก ในปี 1843 รัฐบาลจึงได้เรี่ยไรเงินจากประชาชนในท้องถิ่นเพื่อสร้างคอคอยขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ในปี ค.ศ. 1868 ปราสาทโอซากะถูกล้อมด้วยกองกำลังจักรพรรดิต่อต้านรัฐบาลบะกุฟุ และตัวปราสาทก็ถูกเผาในสงครามกลางเมืองสมัยการปฏิรูปเมจิ
ต่อมา รัฐบาลเมจิได้ให้ปราสาทโอวะกะเป็นคลังแสงผลิตปืน อาวุธยุทธภัณฑ์ และระเบิด เพื่อขยายขีดความสามารถทางการทหารของญี่ปุ่นในแบบฉบับของตะวันตก[3]
ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการสร้างหอคอยหลักขึ้นมาใหม่หลังจากที่เทศบาลเมืองโอซากะสามารถระดมทุนจากประชาชนมาจำนวนมาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คลังแสงกลายเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของญี่ปุ่น มีคนงานกว่า 60,000 คน และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของฝ่ายพันธมิตรด้วย ทำให้ปราสาทโอซากะเสียหายอย่างหนักในช่วงท้ายสงครามเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1945 จากการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ คลังแสงเสียหายไปร้อยละ 90 และคนงานเสียชีวิต 382 คน
ในปี ค.ศ. 1995 เทศบาลนครโอซากะเริ่มต้นโครงการบูรณะปราสาทโอซากะอีกครั้ง โดยให้ภายนอกยังคงความเป็นยุคเอะโดะ แผนการบูรณะแล้วเสร็จในปี 1997 ตัวปราสาทมีความทันสมัยขึ้นมาก มีลิฟต์ติดตั้งภายในและมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบสมัยใหม่มากมาย
คลังภาพ
-
หอคอยกลาง
-
ประตูโอะเตะมง
-
ภาพวาดแสดงความเสียหายของปราสาทโอซากะ ในหนังสือของฟรองซัวส์ คารอน ในปี ค.ศ. 1663
-
จากหลังคาของหอคอยกลาง ปราสาทโอซากะ
-
สวนบ๊วยในอุทยานปราสาทโอซากะ
อ้างอิง
- ↑ "Uemachidaichi : OSAKA-INFO - Osaka Visitor's Guide". Osaka-info.jp. สืบค้นเมื่อ 2013-02-15.
- ↑ Meek, Miki. "The Siege of Osaka Castle". National Geographic Magazine. สืบค้นเมื่อ 2008-01-22.
{{cite news}}
: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า :|coauthors=
(help) - ↑ "Osaka Army Arsenal". Ndl.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2013-02-15.