ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลอดฟลูออเรสเซนต์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
WindowMaker (คุย | ส่วนร่วม) ล เพิ่มเลข ISBN สำหรับหนังสืออ้างอิง |
32564 |
||
บรรทัด 7: | บรรทัด 7: | ||
เมื่อกระแส[[ไฟฟ้า]]ไหลผ่านหลอด จะกระตุ้นให้อนุภาคปรอทปล่อย[[รังสีเหนือม่วง]]ออกมา เมื่อรังสีนี้กระทบกับ[[สารเรืองแสง]]ที่ฉาบไว้ด้านในตัวหลอด สารเรืองแสงจะเปล่ง[[แสง]]สว่างที่มองเห็นได้ออกมา<ref name="พรรณชลัท-2548"/> และเนื่องจากไม่ได้เปล่งแสงโดยอาศัยความร้อน จึงมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากกว่า[[หลอดไฟไส้]] |
เมื่อกระแส[[ไฟฟ้า]]ไหลผ่านหลอด จะกระตุ้นให้อนุภาคปรอทปล่อย[[รังสีเหนือม่วง]]ออกมา เมื่อรังสีนี้กระทบกับ[[สารเรืองแสง]]ที่ฉาบไว้ด้านในตัวหลอด สารเรืองแสงจะเปล่ง[[แสง]]สว่างที่มองเห็นได้ออกมา<ref name="พรรณชลัท-2548"/> และเนื่องจากไม่ได้เปล่งแสงโดยอาศัยความร้อน จึงมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากกว่า[[หลอดไฟไส้]] |
||
การใช้งานปกติจะติดตั้งคู่กับ[[บัลลาสต์]]และสตาร์ทเตอร์ เนื่องจากหลอดฟลูออเรสเซนต์จะต้องมีการอุ่นให้ไส้หลอดร้อน<ref name="พรรณชลัท-2548"/> และใช้แรงดันไฟฟ้าสูงในการจุดหลอดให้ติดในตอนแรก |
การใช้งานปกติจะติดตั้งคู่กับ[[บัลลาสต์]]และสตาร์ทเตอร์ เนื่องจากหลอดฟลูออเรสเซนต์จะต้องมีการอุ่นให้ไส้หลอดร้อน<ref name="พรรณชลัท-2548"/> และใช้แรงดันไฟฟ้าสูงในการจุดหลอดให้ติดในตอนแรก จอลดอลตัน |
||
==อ้างอิง== |
==อ้างอิง== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:35, 20 มีนาคม 2561
หลอดฟลูออเรสเซนต์, หลอดเรืองแสง, หลอดวาวแสง (อังกฤษ: fluorescent tube) หรือที่เรียกกันติดปากว่าหลอดนีออน เป็นหลอดไฟฟ้าระบบปล่อยประจุ ที่บรรจุไอปรอทความดันต่ำไว้[1]
เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านหลอด จะกระตุ้นให้อนุภาคปรอทปล่อยรังสีเหนือม่วงออกมา เมื่อรังสีนี้กระทบกับสารเรืองแสงที่ฉาบไว้ด้านในตัวหลอด สารเรืองแสงจะเปล่งแสงสว่างที่มองเห็นได้ออกมา[1] และเนื่องจากไม่ได้เปล่งแสงโดยอาศัยความร้อน จึงมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากกว่าหลอดไฟไส้
การใช้งานปกติจะติดตั้งคู่กับบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ เนื่องจากหลอดฟลูออเรสเซนต์จะต้องมีการอุ่นให้ไส้หลอดร้อน[1] และใช้แรงดันไฟฟ้าสูงในการจุดหลอดให้ติดในตอนแรก จอลดอลตัน
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 1.2 พรรณชลัท สุริโยธิน. วัสดุและการก่อสร้าง : หลอดไฟฟ้า. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2548. ISBN 974-13-2978-4.