ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ผู้ใช้:Mr.Big Bean/กระบะทราย c"
Mr.Big Bean (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Mr.Big Bean (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 23: | บรรทัด 23: | ||
ปฏิบัติการอันธิงคเบิล นับป็นปฏิบัติการแรกในช่วง[[สงครามเย็น]]ที่กล่าวถึงการทำสงครามกับสหภาพโซเวียต<ref name="Costigliola-336"/> ทั้งสองมีแผนถูกเก็บเป็นความลับจนกระทั้งปี พ.ศ. 2541 <ref name="Gibbons-158"/> |
ปฏิบัติการอันธิงคเบิล นับป็นปฏิบัติการแรกในช่วง[[สงครามเย็น]]ที่กล่าวถึงการทำสงครามกับสหภาพโซเวียต<ref name="Costigliola-336"/> ทั้งสองมีแผนถูกเก็บเป็นความลับจนกระทั้งปี พ.ศ. 2541 <ref name="Gibbons-158"/> |
||
==ปฏิบัติการการเชิงรุก== |
==ปฏิบัติการการเชิงรุก== |
||
เป้าหมายแรก |
เป้าหมายแรกเป็น การพยามการบีบบังคับให้โซเวียตยอมรับและทำตามสัญญาของสหรัฐฯและจักรวรรดิอังกฤษ ในการข้อตกลงเกี่ยวโปแลนด์และการไม่คุมคามในยุโรปตะวันออกจากการประชุมยัลตา |
||
ในช่วงเวลานั้นคณะเสนาธิการกังวลว่าถึงจำนวนกองทัพโซเวียตที่ในช่วงท้ายสงครามอีกทั้งผู้นำโซเวียต[[โจเซฟ สตาลิน]]ดูเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือสิ่งเหล่านี้ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อยุโรปตะวันตกได้ ในช่วงสหภาพโซเวียตกับญี่ปุ่นยังอยู่ใน[[กติกาสัญญาความเป็นกลางโซเวียต–ญี่ปุ่น|สนธิสัญญาไม่รุกรานกัน]]นั้นสมมติฐานหนึ่งรายงานว่าสหภาพโซเวียตอาจจะเป็นพันธมิตรร่วมรบกับญี่ปุ่นในกรณีที่ฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกประกาศสงครามกับสหภาพโซเวียต |
|||
ปฏิบัติการเริ่มต้นของการบุกสหภาพโซเวียตของสัมพันธมิตรในยุโรปมีกำหนดการวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ซึ่งเป็นสี่วันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในสหราชอาณาจักร<ref name="Reynolds-250"/> |
|||
==แผนการเชิงป้องกัน== |
==แผนการเชิงป้องกัน== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:29, 14 ธันวาคม 2560
"ปฏิบัติการอันธิงคเบิล" | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามเย็น | |||||||||
กองทัพพันธมิตรในยุโรปกลางเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
บริเตนใหญ่ แคนาดา สหรัฐ ฝรั่งเศส เขตยึดครองเยอรมนีของสัมพันธมิตร |
สหภาพโซเวียต เขตยึดครองเยอรมนีของสหภาพโซเวียต โปแลนด์ เชโกสโลวาเกีย ยูโกสลาเวีย | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
วินสตัน เชอร์ชิลล์ เบอร์นาร์ด มอนต์โกเมอรี William Lyon Mackenzie King แฮร์รี เอส. ทรูแมน ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ชาร์ล เดอ โกล Jean de Lattre de Tassigny |
โจเซฟ สตาลิน เกออร์กี จูคอฟ บอเลสวัฟ บีแยรุต Edvard Beneš ยอซีป บรอซ ตีโต |
ปฏิบัติการเหนือความคาดหมาย หรือ ปฏิบัติการอันธิงคเบิล (อังกฤษ: Operation Unthinkable) เป็นชื่อรหัสของทั้งสองแผนของพันธมิตรตะวันตก โดยแผนดังกล่าวได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษวินสตัน เชอร์ชิลล์เมื่อปีพ.ศ. 2488 และพัฒนาโดยกองทัพอังกฤษหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในยุโรป
แผนแรกเป็นปฏิบัติการในการโจมตีของกองกำลังโซเวียตที่ประจำการอยู่ในประเทศเยอรมนี เพื่อกำจัดภัยคุกคามของโซเวียตในยุโรปตะวันออกรวมถึงการแก้ไขปัญหาข้อตกลงโปแลนด์[1] (หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการประชุมยัลตา) ต่อมาแผนแรกก็ถูกยกเลิกไป ต่อมารหัสนี้ก็ถูกนำมาใช้ในแผนที่สองว่าถึงการที่สหรัฐได้ถอนทัพออกยุโรปไปแล้วจากรุกรานของโซเวียต ทำให้อังกฤษจต้องตั้งรับป้องกันทางเหนือทะเลและมหาสมุทรแอตแลนติกจากภัยยคุกคามของโซเวียต
ปฏิบัติการอันธิงคเบิล นับป็นปฏิบัติการแรกในช่วงสงครามเย็นที่กล่าวถึงการทำสงครามกับสหภาพโซเวียต[2] ทั้งสองมีแผนถูกเก็บเป็นความลับจนกระทั้งปี พ.ศ. 2541 [3]
ปฏิบัติการการเชิงรุก
เป้าหมายแรกเป็น การพยามการบีบบังคับให้โซเวียตยอมรับและทำตามสัญญาของสหรัฐฯและจักรวรรดิอังกฤษ ในการข้อตกลงเกี่ยวโปแลนด์และการไม่คุมคามในยุโรปตะวันออกจากการประชุมยัลตา
ในช่วงเวลานั้นคณะเสนาธิการกังวลว่าถึงจำนวนกองทัพโซเวียตที่ในช่วงท้ายสงครามอีกทั้งผู้นำโซเวียตโจเซฟ สตาลินดูเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือสิ่งเหล่านี้ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อยุโรปตะวันตกได้ ในช่วงสหภาพโซเวียตกับญี่ปุ่นยังอยู่ในสนธิสัญญาไม่รุกรานกันนั้นสมมติฐานหนึ่งรายงานว่าสหภาพโซเวียตอาจจะเป็นพันธมิตรร่วมรบกับญี่ปุ่นในกรณีที่ฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกประกาศสงครามกับสหภาพโซเวียต
ปฏิบัติการเริ่มต้นของการบุกสหภาพโซเวียตของสัมพันธมิตรในยุโรปมีกำหนดการวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ซึ่งเป็นสี่วันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในสหราชอาณาจักร[4]
แผนการเชิงป้องกัน
อ้างอิง
- ↑ Operation Unthinkable..., p. 1 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (เก็บถาวร 16 พฤศจิกายน 2010)
- ↑ Costigliola, p. 336
- ↑ Gibbons, p. 158
- ↑ Reynolds, p. 250
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "OpRep-30" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ชื่อ "OpRep-24" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า
<ref>
ชื่อ "OpRep-35" ซึ่งนิยามใน <references>
ไม่ถูกใช้ในข้อความก่อนหน้า