ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชุทซ์ชตัฟเฟิล"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 35: | บรรทัด 35: | ||
|agency_type = [[กำลังกึ่งทหาร]] |
|agency_type = [[กำลังกึ่งทหาร]] |
||
|parent_agency = {{flagicon|Nazi Germany|Nazi}} [[พรรคนาซี|พรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน]] |
|parent_agency = {{flagicon|Nazi Germany|Nazi}} [[พรรคนาซี|พรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน]] |
||
|child1_agency = ''[[ |
|child1_agency = ''[[อัลล์เกอไมเนอ เอ็สเอ็ส ]]'' |
||
|child2_agency = ''[[วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส]]'' (''[[SS-Verfügungstruppe]]'') |
|child2_agency = ''[[วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส]]'' (''[[SS-Verfügungstruppe]]'') |
||
|child3_agency = ''[[เอ็สเอ็ส-โทเทนคอฟเฟอร์แบนเดอ]]'' |
|child3_agency = ''[[เอ็สเอ็ส-โทเทนคอฟเฟอร์แบนเดอ]]'' |
||
บรรทัด 45: | บรรทัด 45: | ||
}} |
}} |
||
{{นาซี}} |
{{นาซี}} |
||
'''''ชุทซ์ชทัฟเฟิล''''' ({{lang-de|''Schutzstaffel''}} [[ไฟล์:Schutzstaffel SS SVG1.1.svg|16px|"ᛋᛋ" ที่เป็นอักษรรูน]]) หรือ '''''เอ็สเอ็ส''''' (SS) เป็นองค์กร[[กำลังกึ่งทหาร]]สังกัด[[พรรคนาซี]]ภายใต้คำสั่งของ[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]] เดิมมีชื่อองค์กรว่า ''ซาล-ซุทซ์'' (''Saal-Schutz'') ซึ่งมีสมาชิกเป็นอาสาสมัครของพรรคนาซีเพื่อคุ้มกันและดูแลความปลอดภัยในการประชุมพรรคที่เมือง[[มิวนิก]] เมื่อ[[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]เข้าร่วมองค์กรในปีค.ศ. 1925 ก็มีการเปลี่ยนชื่อหน่วยเป็น ''ชุทซ์ชทัฟเฟิล'' เอ็สเอ็สภายใต้การนำของฮิมเลอร์ได้ขยายตัวจากมีสมาชิกสองร้อยคนกลายเป็นองค์กรขนาดมหึมาที่มีสมาชิกกว่าล้านคนและกลายเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีอิทธิพลที่สุดในเยอรมัน หน้าที่ขององค์กรนี้คือสอดส่องดูแลความมั่นคงภายในไรช์ |
|||
'''ชุทซ์ชทัฟเฟิล''' ({{lang-de|''Schutzstaffel''}} หมายถึง "กองอารักขา" หรือ "เหล่าคุ้มกัน", ย่อเป็น SS หรือซิก ([[ไฟล์:Schutzstaffel SS SVG1.1.svg|16px|"ᛋᛋ" ที่เป็นอักษรรูน]]) ในอักษรรูนอาร์มาเนน ([[Armanen runes]]) เป็นองค์การ[[กำลังกึ่งทหาร|กึ่งทหาร]]หลักภายใต้[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]และ[[พรรคนาซี]] ก่อตั้งขึ้นบนอุดมการณ์นาซี เอ็สเอ็สภายใต้บังคับบัญชาของ[[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์]]มีส่วนรับผิดชอบต่อ[[อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ]]หลายครั้งระหว่าง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] หลัง ค.ศ. 1945 เอ็สเอ็สถูกกฎหมายต้องห้ามในเยอรมนี เช่นเดียวกับพรรคนาซี โดยถูกระบุว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม |
|||
เอ็สเอ็สมีการแบ่งงานออกเป็นสองส่วนงานหลักๆ คือ ''[[อัลล์เกอไมเนอ เอ็สเอ็ส]]'' (เอ็สเอ็สธุรการ) รับผิดชอบด้านการบังคับใช้นโยบายต่างๆของพรรคนาซี และ ''[[วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส]]'' (เอ็สเอ็สติดอาวุธ) เป็นกองกำลังติดอาวุธที่ไม่ขึ้นกับกองทัพ นอกจากนี้ยังมีส่วนงานอื่นอีก คือ ''[[เอ็สเอ็ส-โทเทนคอฟเฟอร์แบนเดอ]]'' (หน่วยหัวกะโหลกเอ็สเอ็ส) รับผิดชอบการดำเนินการ[[ค่ายมรณะ]]และ[[ค่ายกักกันนาซี]] เอ็สเอ็สยังมีหน่วยตำรวจลับที่เรียกว่า ''[[เกสตาโป]]'' กับหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำ[[ฟือเรอร์]]ที่เรียกว่า ''[[ซีเชอร์ไฮท์สดีนสท์]]'' ที่คอยส่องหาบุคคลที่เป็นหรืออาจเป็นภัยคุกคามต่อรัฐนาซี ตลอดจนรับผิดชอบงานข่าวกรองทั้งในและต่างประเทศ |
|||
⚫ | |||
เอ็สเอ็สก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1925 ภายใต้ชื่อ "ซาล-ชุทซ์" (อารักษ์หอประชุม) ตั้งใจให้เกิดความปลอดภัยแก่การประชุมของพรรคนาซี และเป็นหน่วยคุ้มกันส่วนบุคคลของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์<ref>Kogon, Eugen; Der SS-Staat; 1974</ref> แต่เนื่องจากช่วงแรกของการก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองของฮิตแลอร์นั้นยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเยอรมนีอย่างเต็มที่ ซึ่งตัวฮิตเลอร์เองก็ไม่ได้ไว้วางใจกองทัพเยอรมันว่า จงรักภักดีกับเขาอย่างเต็มที่หรือไม่ รวมทั้ง[[ชตูร์มับไทลุง]] (เอ็สเอ, "เสื้อน้ำตาล" หรือ "พลรบวายุ") ซึ่งเดิมนี้คือแหล่งชุมนุมของเหล่าทหารผ่านศึกใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] และ อดีตหน่วยเสรีเยอรมัน โดยมี[[ร้อยเอก]] [[แอนสท์ เริม]] เป็นผู้บังคับบัญชา |
|||
⚫ | |||
ต่อมา มีเหตุทำให้ฮิตเลอร์และฮิมม์เลอร์ร่วมมือกันกำจัดแอร์นสท์ เริม และหน่วยเอ็สเอ และตั้งซาล-ชุทซ์เป็นหน่วยคุ้มกันทดแทนหน่วยเอ็สเอภายใต้การนำของไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ระหว่าง ค.ศ. 1929 และ 1945 เอ็สเอ็สถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ชุทซ์ชทัฟเฟิล" และเติบโตขึ้นจากรูปแบบหน่วยกึ่งทหารขนาดเล็กเป็นหนึ่งในองค์การที่ใหญ่และทรงอำนาจที่สุดใน[[นาซีเยอรมนี]] |
|||
เอ็สเอ็สก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1925 ภายใต้ชื่อ "''ซาล-ชุทซ์''" (อารักษ์หอประชุม) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประชุมของพรรคนาซีตลอดจนเป็นหน่วยคุ้มกันส่วนบุคคลของฮิตเลอร์<ref>Kogon, Eugen; Der SS-Staat; 1974</ref> ต่อมาในปีค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์ก้าวขึ้นสู่อำนาจพร้อมกับความเคลือบแคลงใจในความภักดีของกองทัพเยอรมันที่มีต่อเขา กองกำลังที่เขาไว้ใจได้อย่างเต็มร้อยและจะไม่มีวันทรยศเขาอย่างเอ็สเอ็สจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาฐานอำนาจของฮิตเลอร์ อย่างไรก็ตาม พรรคนาซียังมีองค์กรติดอาวุธอีกองค์กรหนึ่งที่ชื่อว่า ''[[ชตูร์มับไทลุง]]'' อันเป็นแหล่งสุมหัวของอดีตทหารใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]ซึ่งนำโดย[[แอนสท์ เริม]] สหายเก่าแก่ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคนาซี |
|||
แอนสท์ เริม มีความคิดที่จะสถาปนาเอ็สเอเป็นขั้วอำนาจทางการเมืองใหม่และเข้าควบคุม[[ไรชส์เวร์]] และเริมยังสนับสนุนแนวคิด "การปฏิวัติครั้งที่สอง" ในเยอรมัน ความคิดเช่นนี้ของเริมให้ประธานาธิบดี[[เพาล์ ฟอน ฮินเดนบูร์ก|ฮินเดนบูร์ก]]กดดันฮิตเลอร์ให้ยุบเอ็สเอ ฮิตเลอร์พยายามเจรจากับ[[แอนสท์ เริม]] ให้ยุบหน่วยเอ็สเอโดยดีแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงนำไปสู่การกวาดล้างเอ็สเอใน[[คืนมีดยาว]]ในสิ้นเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1934 เมื่อแอนสท์ เริม ถูกกำจัด ฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เอ็สเอ็สของ[[ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์|ฮิมม์เลอร์]]ทำหน้าที่คุ้มกันแทนเอ็สเอ |
|||
==การคัดเลือก== |
==การคัดเลือก== |
||
การคัดเลือก |
การคัดเลือกสมาชิกที่จะมาเข้าหน่วยเอ็สเอ็สจะต้องเป็นชายสายเลือดเยอรมันพันธุ์แท้แบบพวกอารยัน สูงอย่างน้อย 180 เซนติเมตร กำลังพลของเอ็สเอ็สจะได้รับการอบรม ปลูกฝังให้จงรักภักดีต่อผู้นำของเขาอย่างเหนียวแน่น และปราศจากการตั้งคำถามสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก และถูกปลูกฝังอุดมการณ์ของนาซี ถูกปลูกฝังแนวความคิดเรื่องความเป็นเลิศของชนชาติอารยันเพื่อการสร้างชาติไปสู่[[นาซีเยอรมนี|ไรช์ที่สาม]] รวมทั้งมีการเกณฑ์เด็กชายและหญิงชาวเยอรมันทั้งหมดให้เข้าหน่วย[[ยุวชนฮิตเลอร์]]เพื่อเป็นหลักสูตรวิชาทหาร ให้เข้ารับการเป็นทหารและหน่วยเอ็สเอ็ส |
||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
||
บรรทัด 61: | บรรทัด 63: | ||
* [[อัลล์เกอไมเนอ เอ็สเอ็ส]] |
* [[อัลล์เกอไมเนอ เอ็สเอ็ส]] |
||
* [[เอ็สเอ็ส-โทเทนคอฟเฟอร์แบนเดอ|หน่วยหัวกะโหลก-เอ็สเอ็ส]] |
* [[เอ็สเอ็ส-โทเทนคอฟเฟอร์แบนเดอ|หน่วยหัวกะโหลก-เอ็สเอ็ส]] |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง|30em}} |
{{รายการอ้างอิง|30em}} |
||
บรรทัด 66: | บรรทัด 69: | ||
== เชิงอรรถ == |
== เชิงอรรถ == |
||
{{refbegin|30em}} |
{{refbegin|30em}} |
||
* Art, David (2006). ''The Politics of the Nazi Past in Germany and Austria''. Cambridge University Press. ISBN 0-521-85683-3 |
|||
* Baranowski, Shelley (2010). ''Nazi Empire: German Colonialism and Imperialism from Bismarck to Hitler''. New York: Cambridge University Press. ISBN 978-0-52167-408-9 |
|||
* Bessel, Richard. ''Nazism and War''. New York: Modern Library, 2006. ISBN 978-0-81297-557-4 |
|||
* Bishop, Chris (2005). ''Hitler's Foreign Divisions: 1940–45''. Amber. ISBN 978-1-904687-37-5. |
|||
* Bishop, Chris (2007). ''Waffen-SS Divisions: 1939–45''. Amber. ISBN 1-905704-55-0. |
|||
* Burleigh, Michael, and Wolfgang Wippermann (1991). ''The Racial State: Germany 1933-1945''. Cambridge & New York: Cambridge University Press. ISBN 978-0-52139-802-2 |
|||
* Burleigh, Michael (2010). ''Moral Combat: Good and Evil in World War II''. New York: Harper Collins. ISBN 978-0-06058-097-1 |
|||
* Cook, Stan & Bender, Roger James (1994). ''Leibstandarte SS Adolf Hitler: Uniforms, Organization, & History''. San Jose, CA: R. James Bender Publishing. ISBN 978-0-912138-55-8. |
|||
* Fischer, Klaus (1995). ''Nazi Germany: A New History''. New York: Continuum. ISBN 978-0-82640-797-9 |
|||
* Himmler, Heinrich (1936). ''Die Schutzstaffel als antibolschewistische Kampforganisation'' [The SS as an Anti-bolshevist Fighting Organization]. Munich: Franz Eher Nachfolger. |
|||
* Höhne, Heinz (2001). ''The Order of the Death’s Head: The Story of Hitler’s SS''. New York: Penguin Press. ISBN 978-0-14139-012-3 |
|||
* International Military Tribunal (IMT) (1947–49). ''Record of the Nuremberg Trials November 14, 1945 – October 1, 1946''. 42 Vols. London: HMSO. |
|||
* Leitz, Christian, ed. (1999). ''The Third Reich: The Essential Readings''. Oxford: Wiley-Blackwell. ISBN 978-0-63120-700-9 |
|||
* Lumsden, Robin (1997). ''Himmler's Black Order 1923–45''. Sutton. ISBN 0-7509-1396-7. |
|||
* Lumsden, Robin (2000). ''A Collector's Guide To: The Waffen-SS''. Ian Allan Publishing, Inc. ISBN 0-7110-2285-2. |
|||
* Lumsden, Robin (2002). ''A Collector's Guide To: The Allgemeine-SS''. Ian Allan Publishing, Inc. ISBN 0-7110-2905-9. |
* Lumsden, Robin (2002). ''A Collector's Guide To: The Allgemeine-SS''. Ian Allan Publishing, Inc. ISBN 0-7110-2905-9. |
||
* MacDonogh, Giles (2009). ''After the Reich: The Brutal History of the Allied Occupation''. New York: Basic Books. ISBN 978-0-46500-337-2 |
* MacDonogh, Giles (2009). ''After the Reich: The Brutal History of the Allied Occupation''. New York: Basic Books. ISBN 978-0-46500-337-2 |
||
บรรทัด 96: | บรรทัด 84: | ||
* Yerger, Mark C. (1997). ''Allgemeine-SS: The Commands, Units, and Leaders of the General SS''. Schiffer Publishing. ISBN 0-7643-0145-4. |
* Yerger, Mark C. (1997). ''Allgemeine-SS: The Commands, Units, and Leaders of the General SS''. Schiffer Publishing. ISBN 0-7643-0145-4. |
||
{{refend}} |
{{refend}} |
||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
* [http://www.axishistory.com/axis-nations/germany-a-austria/waffen-ss Waffen SS] Personal website from Sweden. |
* [http://www.axishistory.com/axis-nations/germany-a-austria/waffen-ss Waffen SS] Personal website from Sweden. |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:37, 20 สิงหาคม 2560
Schutzstaffel | |
ธงชุทซ์ชทัฟเฟิล | |
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ตรวจ ไลป์สตันดาร์ท เอ็สเอ็ส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ครั้งเยือนเมืองคลาเกินฟวร์ท เมษายน ค.ศ. 1938 ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ ยืนอยู่ทางขวาข้างหลังฮิตเลอร์ | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 4 เมษายน ค.ศ. 1925 |
หน่วยงานก่อนหน้า | |
ยุบเลิก | 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 |
ประเภท | กำลังกึ่งทหาร |
เขตอำนาจ | นาซีเยอรมนี ยุโรปที่ถูกเยอรมนียึดครอง |
สำนักงานใหญ่ | SS-Hauptamt, Prinz-Albrecht-Straße, เบอร์ลิน 52°30′26″N 13°22′57″E / 52.50722°N 13.38250°E |
บุคลากร | 1,250,000 (c. กุมภาพันธ์ 1945) |
รัฐมนตรี | |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
ต้นสังกัด | พรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน |
ลูกสังกัด |
ส่วนหนึ่งของชุดบทความเรื่อง |
ระบอบนาซี |
---|
ชุทซ์ชทัฟเฟิล ([Schutzstaffel] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ) หรือ เอ็สเอ็ส (SS) เป็นองค์กรกำลังกึ่งทหารสังกัดพรรคนาซีภายใต้คำสั่งของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เดิมมีชื่อองค์กรว่า ซาล-ซุทซ์ (Saal-Schutz) ซึ่งมีสมาชิกเป็นอาสาสมัครของพรรคนาซีเพื่อคุ้มกันและดูแลความปลอดภัยในการประชุมพรรคที่เมืองมิวนิก เมื่อไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์เข้าร่วมองค์กรในปีค.ศ. 1925 ก็มีการเปลี่ยนชื่อหน่วยเป็น ชุทซ์ชทัฟเฟิล เอ็สเอ็สภายใต้การนำของฮิมเลอร์ได้ขยายตัวจากมีสมาชิกสองร้อยคนกลายเป็นองค์กรขนาดมหึมาที่มีสมาชิกกว่าล้านคนและกลายเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีอิทธิพลที่สุดในเยอรมัน หน้าที่ขององค์กรนี้คือสอดส่องดูแลความมั่นคงภายในไรช์
เอ็สเอ็สมีการแบ่งงานออกเป็นสองส่วนงานหลักๆ คือ อัลล์เกอไมเนอ เอ็สเอ็ส (เอ็สเอ็สธุรการ) รับผิดชอบด้านการบังคับใช้นโยบายต่างๆของพรรคนาซี และ วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส (เอ็สเอ็สติดอาวุธ) เป็นกองกำลังติดอาวุธที่ไม่ขึ้นกับกองทัพ นอกจากนี้ยังมีส่วนงานอื่นอีก คือ เอ็สเอ็ส-โทเทนคอฟเฟอร์แบนเดอ (หน่วยหัวกะโหลกเอ็สเอ็ส) รับผิดชอบการดำเนินการค่ายมรณะและค่ายกักกันนาซี เอ็สเอ็สยังมีหน่วยตำรวจลับที่เรียกว่า เกสตาโป กับหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำฟือเรอร์ที่เรียกว่า ซีเชอร์ไฮท์สดีนสท์ ที่คอยส่องหาบุคคลที่เป็นหรืออาจเป็นภัยคุกคามต่อรัฐนาซี ตลอดจนรับผิดชอบงานข่าวกรองทั้งในและต่างประเทศ
ประวัติ
เอ็สเอ็สก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1925 ภายใต้ชื่อ "ซาล-ชุทซ์" (อารักษ์หอประชุม) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประชุมของพรรคนาซีตลอดจนเป็นหน่วยคุ้มกันส่วนบุคคลของฮิตเลอร์[1] ต่อมาในปีค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์ก้าวขึ้นสู่อำนาจพร้อมกับความเคลือบแคลงใจในความภักดีของกองทัพเยอรมันที่มีต่อเขา กองกำลังที่เขาไว้ใจได้อย่างเต็มร้อยและจะไม่มีวันทรยศเขาอย่างเอ็สเอ็สจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาฐานอำนาจของฮิตเลอร์ อย่างไรก็ตาม พรรคนาซียังมีองค์กรติดอาวุธอีกองค์กรหนึ่งที่ชื่อว่า ชตูร์มับไทลุง อันเป็นแหล่งสุมหัวของอดีตทหารในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งซึ่งนำโดยแอนสท์ เริม สหายเก่าแก่ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคนาซี
แอนสท์ เริม มีความคิดที่จะสถาปนาเอ็สเอเป็นขั้วอำนาจทางการเมืองใหม่และเข้าควบคุมไรชส์เวร์ และเริมยังสนับสนุนแนวคิด "การปฏิวัติครั้งที่สอง" ในเยอรมัน ความคิดเช่นนี้ของเริมให้ประธานาธิบดีฮินเดนบูร์กกดดันฮิตเลอร์ให้ยุบเอ็สเอ ฮิตเลอร์พยายามเจรจากับแอนสท์ เริม ให้ยุบหน่วยเอ็สเอโดยดีแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงนำไปสู่การกวาดล้างเอ็สเอในคืนมีดยาวในสิ้นเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1934 เมื่อแอนสท์ เริม ถูกกำจัด ฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เอ็สเอ็สของฮิมม์เลอร์ทำหน้าที่คุ้มกันแทนเอ็สเอ
การคัดเลือก
การคัดเลือกสมาชิกที่จะมาเข้าหน่วยเอ็สเอ็สจะต้องเป็นชายสายเลือดเยอรมันพันธุ์แท้แบบพวกอารยัน สูงอย่างน้อย 180 เซนติเมตร กำลังพลของเอ็สเอ็สจะได้รับการอบรม ปลูกฝังให้จงรักภักดีต่อผู้นำของเขาอย่างเหนียวแน่น และปราศจากการตั้งคำถามสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก และถูกปลูกฝังอุดมการณ์ของนาซี ถูกปลูกฝังแนวความคิดเรื่องความเป็นเลิศของชนชาติอารยันเพื่อการสร้างชาติไปสู่ไรช์ที่สาม รวมทั้งมีการเกณฑ์เด็กชายและหญิงชาวเยอรมันทั้งหมดให้เข้าหน่วยยุวชนฮิตเลอร์เพื่อเป็นหลักสูตรวิชาทหาร ให้เข้ารับการเป็นทหารและหน่วยเอ็สเอ็ส
ดูเพิ่ม
- วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส
- ยศและเครื่องหมายของวัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส
- ไอน์ซัทซกรุพเพน
- อัลล์เกอไมเนอ เอ็สเอ็ส
- หน่วยหัวกะโหลก-เอ็สเอ็ส
อ้างอิง
- ↑ Kogon, Eugen; Der SS-Staat; 1974
เชิงอรรถ
- Lumsden, Robin (2002). A Collector's Guide To: The Allgemeine-SS. Ian Allan Publishing, Inc. ISBN 0-7110-2905-9.
- MacDonogh, Giles (2009). After the Reich: The Brutal History of the Allied Occupation. New York: Basic Books. ISBN 978-0-46500-337-2
- McNab, Chris (2009). The SS: 1923–1945. Amber Books. ISBN 978-1-906626-49-5.
{{cite book}}
:|ref=harv
ไม่ถูกต้อง (help) - Mollo, Andrew (1991). Uniforms of the SS: Volume 3: SS-Verfügungstruppe. Historical Research Unit. ISBN 1-872004-51-2.
- Mühlenberg, Jutta (2011). Das SS-Helferinnenkorps: Ausbildung, Einsatz und Entnazifizierung der weiblichen Angehörigen der Waffen-SS, 1942–1949. Hamburg: Hamburger Edition HIS VerlagsgesmbH. Retrievable from: https://download.e-bookshelf.de/download/0000/3731/67/L-G-0000373167-0002317697.pdf ISBN 978-3-86854-500-5
- Murray, Williamson, and Allan R. Millett (2001). A War To Be Won: Fighting the Second World War. Cambridge, MA: Belknap Press of Harvard University Press. ISBN 978-0-67400-680-5
- "Organizations Book of the NSDAP for 1943", NCA, V, Washington, D.C. 1946: U.S. GPO, 1943
- Rabinbach, Anson, and Sander L. Gilman (2013). The Third Reich Sourcebook. Berkeley & Los Angeles: University of California Press. ISBN 978-0-52020-867-4
- Rummel, Rudolph (1992). Democide: Nazi Genocide and Mass Murder. New Brunswick, NJ: Transaction Publishers. ISBN 1-56000-004-X
- Sereny, Gitta (1974). Into That Darkness: From Mercy Killings to Mass Murder. Republished (1983) as Into That Darkness: An Examination of Conscience. New York: Vintage. ISBN 0-394-71035-5
- Stein, George H. (1984). The Waffen SS: Hitler's Elite Guard at War, 1939–1945. Cornell University Press. ISBN 0-8014-9275-0.
- Weale, Adrian (2010). The SS: A New History. London: Little, Brown. ISBN 978-1-4087-0304-5.
{{cite book}}
:|ref=harv
ไม่ถูกต้อง (help) - Williams, Max (2001). Reinhard Heydrich: The Biography: Volume 1. Ulric Publishing. ISBN 0-9537577-5-7.
- Yerger, Mark C. (1997). Allgemeine-SS: The Commands, Units, and Leaders of the General SS. Schiffer Publishing. ISBN 0-7643-0145-4.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Waffen SS Personal website from Sweden.
- Axis History Factbook - SS Personal website from Sweden.
- The German SS/Waffen-SS in WWII German military history research site. feldgrau.com
- The Norwegian SS Volunteers Website in English about the Norwegian SS volunteers serving under German command during World War II. frontkjemper.com
- Dywizje Waffen-SS In Polish. Many graphics on units, insignia and maps.
- SS Views on the Solution to the Jewish Question from Das Schwarze Korps, No. 47, November 24, 1938. wilk.wpk.p.lodz.pl
- Testimonies of SS-Men Regarding Gassing from the Jewish Virtual Library. jewishvirtuallibrary.org
- The SS from Nazi Conspiracy & Aggression, Volume II Chapter XV, Criminality of Groups and Organizations from the Nuremberg Trial. nizkor.org