ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชุมพร เทพพิทักษ์"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Pppppp123456 (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 201: | บรรทัด 201: | ||
{{รางวัลเมขลา สาขานักแสดงสมทบชายดีเด่น}} |
|||
{{ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม}} |
{{ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม}} |
||
[[หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดชุมพร]] |
[[หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดชุมพร]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:32, 21 กรกฎาคม 2560
บทความนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขอย่างหนัก เนื่องจากบุคคลที่เป็นหัวเรื่องเพิ่งเสียชีวิต ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติการณ์การเสียชีวิตและเหตุการณ์แวดล้อมอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏมากขึ้น รายงานข่าวในช่วงต้นอาจไม่น่าเชื่อถือ และการเปลี่ยนแปลงล่าสุดต่อบทความนี้อาจไม่สะท้อนถึงรายละเอียดปัจจุบัน |
ชุมพร เทพพิทักษ์ | |
---|---|
ไฟล์:Chumphorn Thepphithak.jpg | |
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2482 คมสัน เทพพิทักษ์ |
เสียชีวิต | 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 (78 ปี) กรุงเทพมหานคร |
คู่สมรส | มยุรี เทพพิทักษ์ |
อาชีพ | นักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ |
ปีที่แสดง | 2507–2559 |
พระสุรัสวดี | ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม พ.ศ. 2520 - แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู |
เมขลา | ผู้แสดงประกอบชายดีเด่น พ.ศ. 2554 - เงาพราย |
ฐานข้อมูล | |
IMDb | |
ThaiFilmDb |
ชุมพร เทพพิทักษ์ (5 กรกฎาคม พ.ศ. 2482 − 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560) ชื่อเล่น เดียร์ นักแสดงชาวไทยและอดีตผู้กำกับภาพยนตร์ มีชื่อจริงว่า คมสัน เทพพิทักษ์
เกิดที่จังหวัดชุมพรเมื่อปี พ.ศ. 2482 จบการศึกษาจากโรงเรียนวัดขันเงินและโรงเรียนศรียาภัย เดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาต่อที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย โดยพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ (อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2544) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่ขณะที่เรียนเมื่ออายุได้ 17 ปี ต้องโทษจำคุกในคดีฆาตกรรมด้วยอาวุธปืน และรับสารภาพ จึงถูกลดโทษเหลือ 25 ปี จากนั้นได้รับการลดหย่อนโทษเรื่อยมา จนได้รับอิสรภาพในที่สุด ในระหว่างต้องโทษ อยู่ห้องขังเดียวกับ แคล้ว ธนิกุล [1]
เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกด้วยการเป็นนักแสดงบทร้ายแทน ประจวบ ฤกษ์ยามดี นักแสดงบทตัวร้ายที่ไม่สบาย ด้วยความที่หน้าตาตล้ายกัน จากการชักชวนของ ปริญญา ทัศนียกุล และ ลือชัย นฤนาท ในเรื่อง คมแสนคม ในปี พ.ศ. 2507 ตามด้วยบทตัวร้ายมาโดยตลอด
ในปี พ.ศ. 2511 มีผลงานละครโทรทัศน์ทางช่อง 4 บางขุนพรหม, ช่อง 5 และช่อง 7 ในยุคแพร่ภาพระบบขาวดำ ด้วยการพลิกบทบาทมารับบทเป็นพระเอกบ้าง ซึ่งก็ได้รับการวิจารณ์ในตอนต้นว่า คนดูจะรับได้หรือไม่กับการที่ผู้ร้ายในแบบภาพยนตร์ใหญ่ มารับบทพระเอกในแบบละครโทรทัศน์ ซึ่งก็ได้รับบทพระเอกแนวลูกทุ่งหรือแอ็คชั่น และถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร
ต่อมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ มีผลงานมากมาย อาทิ ถุยชีวิต (พ.ศ. 2521), นักสู้ภูธร ในปีเดียวกัน, ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก (พ.ศ. 2522) และที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือ แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู ในปี พ.ศ. 2520 ซึ่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลอื่น ๆ รวมทั้งหมด 5 รางวัล และยังคงมีผลงานออกมาเป็นระยะๆ เช่น บางระจัน (พ.ศ. 2543),'โหมโรง'(พ.ศ.2547), ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ (พ.ศ. 2550), รักสยามเท่าฟ้า (พ.ศ. 2551), 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร (พ.ศ. 2552) ผลงานละครโทรทัศน์ได้แก่ สุสานคนเป็น (พ.ศ. 2545) ธิดาวานร 2 (พ.ศ. 2552) และ เงาพราย (พ.ศ. 2554) ผลงานละครเรื่องสุดท้ายคือเรื่อง ขุนกระทิง และผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือเรื่อง ขุนพันธ์ (พ.ศ.2559)
ชีวิตส่วนตัว สมรสกับ มยุรี เทพพิทักษ์ (นามสกุลเดิม-ศรีสินธุ์อุไร) มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 4 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นเป็นนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียง คือ ศรราม เทพพิทักษ์
ชุมพรมีอาการป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา และได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โดยทางศรราม เทพพิทักษ์ผู้เป็นลูกชายได้ทันดูใจจนวินาทีสุดท้าย
ผลงานการแสดง
ภาพยนตร์
ปี | เรื่อง | บทบาท |
---|---|---|
2509 | ดาวพระศุกร์ | |
2513 | มนต์รักลูกทุ่ง | ธรรมรัตน์ |
2518 | แหม่มจ๋า | กำแหง |
2524 | ไอ๊หยา อาตือ | |
2537 | 1+5 ฟ้าก็ห้ามไม่ได้ | |
2543 | บางระจัน | |
2547 | โหมโรง | ทิว (วัยชรา) |
2550 | ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ | เจ้าฟ้าเมืองคัง หรือ ฟ้าเสือต้าน |
2551 | รักสยามเท่าฟ้า | |
2552 | 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร | |
2559 | ขุนพันธ์ | ชาวประมงแจวเรือ (รับเชิญ) |
ละครโทรทัศน์
รางวัล
- รางวัลตุ๊กตาทอง สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู
- รางวัลเมขลา สาขาผู้แสดงประกอบชายดีเด่น จากละครเรื่อง เงาพราย[2]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น