ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภออุทุมพรพิสัย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 3: | บรรทัด 3: | ||
| name = อุทุมพรพิสัย |
| name = อุทุมพรพิสัย |
||
| english = Uthumphon Phisai |
| english = Uthumphon Phisai |
||
| คำขวัญ = แดนปราสาทหิน ถิ่นสะเดา ข้าวหอมดี บารมีหลวงปู่เครื่อง ลือเลื่องทับหลัง |
| คำขวัญ = แดนปราสาทหิน ถิ่นสะเดา ข้าวหอมดี<br />บารมีหลวงปู่เครื่อง ลือเลื่องทับหลัง บ่อน้ำขลังศักดิ์สิทธิ์ |
||
| province = ศรีสะเกษ |
| province = ศรีสะเกษ |
||
| area = 407.9 |
| area = 407.9 |
||
บรรทัด 11: | บรรทัด 11: | ||
| postal_code = 33120 |
| postal_code = 33120 |
||
| geocode = 3310 |
| geocode = 3310 |
||
| image_map = Amphoe 3310.svg |
|||
| officer = |
| officer = |
||
| capital = ที่ว่าการอำเภออุทุมพรพิสัย หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ 33120 |
| capital = ที่ว่าการอำเภออุทุมพรพิสัย หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ 33120 |
||
บรรทัด 17: | บรรทัด 18: | ||
| fax = 0 4569 1526 |
| fax = 0 4569 1526 |
||
}} |
}} |
||
''' |
'''อุทุมพรพิสัย''' (ในอดีตเขียน "อุทุมพรพิไสย") เป็น[[อำเภอ]]หนึ่งของ[[จังหวัดศรีสะเกษ]] เป็นอำเภอเก่าแก่ของจังหวัดศรีสะเกษ (แรกเริ่มการก่อตั้งจังหวัดศรีสะเกษมี 6 อำเภอ คือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุขันธ์ อำเภอราษีไศล และอำเภออุทุมพรพิสัย) เป็นอำเภอที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเคยเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟเยี่ยมพสกนิกรเมื่อครั้งอดีต เป็นอำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงที่สุดของจังหวัดศรีสะเกษ มีอำเภอที่แยกจากอำเภออุทุมพรพิสัยไปแล้ว 4 อำเภอ คือ [[อำเภอห้วยทับทัน]] [[อำเภอบึงบูรพ์]] [[อำเภอเมืองจันทร์]] และ[[อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ]] |
||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:44, 8 พฤษภาคม 2560
อำเภออุทุมพรพิสัย | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Uthumphon Phisai |
คำขวัญ: แดนปราสาทหิน ถิ่นสะเดา ข้าวหอมดี บารมีหลวงปู่เครื่อง ลือเลื่องทับหลัง บ่อน้ำขลังศักดิ์สิทธิ์ | |
แผนที่จังหวัดศรีสะเกษ เน้นอำเภออุทุมพรพิสัย | |
พิกัด: 15°6′42″N 104°8′24″E / 15.11167°N 104.14000°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ศรีสะเกษ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 407.9 ตร.กม. (157.5 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2557) | |
• ทั้งหมด | 107,185 คน |
• ความหนาแน่น | 262.77 คน/ตร.กม. (680.6 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 33120 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 3310 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภออุทุมพรพิสัย หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ 33120 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
อุทุมพรพิสัย (ในอดีตเขียน "อุทุมพรพิไสย") เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นอำเภอเก่าแก่ของจังหวัดศรีสะเกษ (แรกเริ่มการก่อตั้งจังหวัดศรีสะเกษมี 6 อำเภอ คือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุขันธ์ อำเภอราษีไศล และอำเภออุทุมพรพิสัย) เป็นอำเภอที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเคยเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟเยี่ยมพสกนิกรเมื่อครั้งอดีต เป็นอำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงที่สุดของจังหวัดศรีสะเกษ มีอำเภอที่แยกจากอำเภออุทุมพรพิสัยไปแล้ว 4 อำเภอ คือ อำเภอห้วยทับทัน อำเภอบึงบูรพ์ อำเภอเมืองจันทร์ และอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ
ประวัติ
อำเภออุทุมพรพิสัยตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2454 เดิมเรียกว่า อำเภอประจิม โดยมีที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่บ้านสำโรงใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลสำโรง มีพระประชุมชันตุนิกรเป็นนายอำเภอคนแรก
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2457 นายบุญมา ศิลปาระยะ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ ได้พิจารณาเห็นว่าบริเวณโดยรอบที่ว่าการอำเภอประจิม มีต้นมะเดื่อขึ้นอยู่จำนวนมาก ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอจึงได้เปลี่ยนชื่อจากอำเภอประจิมเป็น อำเภออุทุมพรพิสัย ซึ่งมีความหมายว่า "ถิ่นของต้นมะเดื่อใหญ่" ปี พ.ศ. 2480 นายสง่า สุขรัตน์ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ จึงได้พิจารณาถึงสภาพความเหมาะสมของทำเลที่ตั้งที่ว่าการอำเภอและได้วางโครงการย้ายที่ตั้งที่ว่าการอำเภอจากที่เดิมมาตั้งอยู่ที่ใหม่ ณ บ้านตำแย หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพง ใกล้กับทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอในปัจจุบัน
และต่อมาในปี พ.ศ. 2491 ร.ต.ท. พะวง ศรีบุญลือ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ ได้ดำเนินการหาทุนสร้างที่ว่าการอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมทั้งสถานีตำรวจและบ้านพักข้าราชการขึ้นจนแล้วเสร็จและให้ย้ายที่ว่าอำเภอจากที่เดิมคือ บ้านสำโรงใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลสำโรง มาอยู่ ณ ที่ว่าการอำเภอแห่งใหม่ คือ บ้านตำแย หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพง สืบจนมาถึงปัจจุบัน
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภออุทุมพรพิสัยตั้งอยู่ตอนบนของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอบึงบูรพ์ และอำเภอราษีไศล
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองศรีสะเกษ
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอวังหิน อำเภอปรางค์กู่ และอำเภอห้วยทับทัน
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอห้วยทับทัน อำเภอเมืองจันทร์ และอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภออุทุมพรพิสัยแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 19 ตำบล 232 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | กำแพง | (Kamphaeng) | 9 หมู่บ้าน | 11. | รังแร้ง | (Rang Raeng) | 12 หมู่บ้าน | ||||||||
2. | อี่หล่ำ | (I Lam) | 12 หมู่บ้าน | 12. | แต้ | (Tae) | 8 หมู่บ้าน | ||||||||
3. | ก้านเหลือง | (Kan Lueang) | 20 หมู่บ้าน | 13. | แข้ | (Khae) | 9 หมู่บ้าน | ||||||||
4. | ทุ่งไชย | (Thung Chai) | 9 หมู่บ้าน | 14. | โพธิ์ชัย | (Pho Chai) | 11 หมู่บ้าน | ||||||||
5. | สำโรง | (Samrong) | 17 หมู่บ้าน | 15. | ปะอาว | (Pa Ao) | 14 หมู่บ้าน | ||||||||
6. | แขม | (Khaem) | 12 หมู่บ้าน | 16. | หนองห้าง | (Nong Hang) | 17 หมู่บ้าน | ||||||||
7. | หนองไฮ | (Nong Hai) | 12 หมู่บ้าน | 17. | สระกำแพงใหญ่ | (Sa Kamphaeng Yai) | 14 หมู่บ้าน | ||||||||
8. | ขะยูง | (Khayung) | 13 หมู่บ้าน | 18. | โคกหล่าม | (Khok Lam) | 10 หมู่บ้าน | ||||||||
9. | ตาเกษ | (Ta Ket) | 12 หมู่บ้าน | 19. | โคกจาน | (Khok Chan) | 10 หมู่บ้าน | ||||||||
10. | หัวช้าง | (Hua Chang) | 11 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภออุทุมพรพิสัยประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 20 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลกำแพง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลกำแพง
- เทศบาลตำบลสระกำแพงใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสระกำแพงใหญ่ทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลโคกจาน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกจานทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลอุทุมพรพิสัย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกำแพง (นอกเขตเทศบาลตำบลกำแพง)
- เทศบาลตำบลแต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแต้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองไฮ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองไฮทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลอี่หล่ำ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลอี่หล่ำทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลก้านเหลือง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลก้านเหลืองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งไชย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งไชยทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสำโรงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลแขม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแขมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลขะยูง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลขะยูงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตาเกษ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตาเกษทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหัวช้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหัวช้างทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลรังแร้ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลรังแร้งทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลแข้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแข้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ชัย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโพธิ์ชัยทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลปะอาว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปะอาวทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองห้าง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองห้างทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหล่าม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกหล่ามทั้งตำบล
ประชากรในตำบล
- หมายถึงจำนวนประชากรได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
- หมายถึงจำนวนประชากรได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
อันดับ (ปีล่าสุด) |
ตำบลในอำเภออุทุมพรพิสัย | พ.ศ. 2558[1] | พ.ศ. 2557[2] | พ.ศ. 2556[3] | พ.ศ. 2555[4] | พ.ศ. 2554[5] | พ.ศ. 2553[6] | พ.ศ. 2552[7] | พ.ศ. 2551[8] | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | กำแพง | 10,498 | 10,545 | 10,599 | 10,658 | 10,667 | 10,899 | 10,842 | 10,904 | |
2 | ก้านเหลือง | 8,955 | 8,965 | 8,961 | 8,926 | 8,901 | 9,059 | 9,068 | 9,043 | |
3 | สระกำแพงใหญ่ | 8,520 | 8,502 | 8,480 | 8,502 | 8,478 | 8,604 | 8,483 | 8,525 | |
4 | หนองห้าง | 8,429 | 8,413 | 8,431 | 8,445 | 8,427 | 8,491 | 8,495 | 8,513 | |
5 | สำโรง | 7,660 | 7,664 | 7,683 | 7,669 | 7,690 | 7,695 | 7,657 | 7,654 | |
6 | โคกจาน | 5,334 | 5,314 | 5,338 | 5,364 | 5,346 | 5,374 | 5,343 | 5,306 | |
7 | ขะยูง | 5,328 | 5,307 | 5,273 | 5,284 | 5,266 | 5,312 | 5,304 | 5,299 | |
8 | รังแร้ง | 5,156 | 5,198 | 5,262 | 5,274 | 5,232 | 5,280 | 5,275 | 5,252 | |
9 | ปะอาว | 5,028 | 5,027 | 5,034 | 5,058 | 5,028 | 5,025 | 5,079 | 5,046 | |
10 | หนองไฮ | 5,003 | 5,009 | 5,030 | 4,989 | 4,981 | 5,045 | 5,052 | 5,035 | |
11 | โพธิ์ชัย | 4,846 | 4,834 | 4,840 | 4,793 | 4,763 | 4,780 | 4,770 | 4,769 | |
12 | แข้ | 4,568 | 4,565 | 4,596 | 4,632 | 4,625 | 4,714 | 4,700 | 4,687 | |
13 | ทุ่งไชย | 4,541 | 4,543 | 4,545 | 4,545 | 4,547 | 4,507 | 4,547 | 4,567 | |
14 | หัวช้าง | 4,508 | 4,505 | 4,480 | 4,470 | 4,457 | 4,487 | 4,472 | 4,442 | |
15 | แขม | 4,299 | 4,283 | 4,291 | 4,276 | 4,284 | 4,317 | 4,328 | 4,326 | |
16 | อี่หล่ำ | 4,057 | 4,063 | 4,091 | 4,101 | 4,138 | 4,112 | 4,118 | 4,161 | |
17 | ตาเกษ | 3,894 | 3,900 | 3,884 | 3,901 | 3,900 | 3,918 | 3,922 | 3,918 | |
18 | โคกหล่าม | 3,667 | 3,679 | 3,662 | 3,688 | 3,673 | 3,697 | 3,694 | 3,699 | |
19 | แต้ | 2,881 | 2,869 | 2,868 | 2,858 | 2,852 | 2,799 | 2,801 | 2,814 | |
— | รวม | 107,172 | 107,185 | 107,348 | 107,433 | 107,255 | 108,115 | 107,950 | 107,960 |
สภาพทางสังคม
การสาธารณสุข
- โรงพยาบาลชุมชนขนาด 120 เตียง 1 แห่ง (กำลังปรับขยาย อีก 114 เตียง ตึก 5 ชั้น กำลังก่อสร้าง )
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง
- สถานีอนามัย 21 แห่ง
- คลินิกแพทย์ 7 แห่ง
- ศูนย์สุขภาพชุมชน (กำแพง) 1 แห่ง
- ร้านขายยาแผนปัจจุบัน 15 แห่ง
การศึกษา
อุดมศึกษา
อาชีวศึกษา
มัธยมศึกษา
- โรงเรียนกำแพง
- โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสระกำแพงใหญ่
- โรงเรียนจตุรภูมิพิทยาคาร
- โรงเรียนทุ่งสิมวิทยาคม
- โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา
- โรงเรียนทุ่งไชยพิทยารัชมังคลาภิเษก
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
- สถานีตำรวจภูธรอุทุมพรพิสัย
- ตู้ยามอุทุมพรพิสัย
- สถานีตำรวจทางหลวงอุทุมพรพิสัย
สภาพเศรษฐกิจ
ธนาคาร
ธนาคาร 6 ธนาคาร 8 สาขา
- ธนาคารกสิกรไทย สาขาอุทุมพรพิสัย
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัส อุทุมพรพิสัย
- ธนาคารกรุงไทย สาขาอุทุมพรพิสัย
- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุทุมพรพิสัย ,สาขาเทสโก้โลตัส อุทุมพรพิสัย
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอุทุมพรพิสัย ,สาขาส้มป่อย
- ธนาคารออมสิน สาขาอุทุมพรพิสัย
- ในอดีต เคยมีธนาคารสหธนาคาร (ไทยธนาคาร) เปิดบริการ ที่ อ.อุทุมพรพิสัย ตอนนี้ได้ปิดบริการแล้ว ตามสภาพเศรษฐกิจไทย และธนาคารกสิกรไทย สาขาเทสโก้โลตัส อุทุมพรพิสัย
งานประเพณีและงานเทศกาล
- งานงิ้ว จัดในช่วงฤดูหนาว บริเวณศาลเจ้าพ่อปู่ตาอุทุมพรพิสัยและบริเวณหลังสถานีรถไฟอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมทุกปี
- เทศกาลบุญเดือนสาม บูชาหลวงพ่อนาคปรก จัดที่วัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ วันขึ้น 12-14 ค่ำ เดือน 3 ทุกปี
- งานรำลึกปราสาทสระกำแพงใหญ่ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 แห่งวิศวะสงกรานต์ ณ ปราสาทสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ จัดตรงกับวันขึ้น 1 - 2 ค่ำ เดือน 5 ทุกปี
จากคำจารึกที่กรอบประตูโคปุระ โบราณสถานอันล้ำค่า จุดกำเนิดจังหวัดศรีสะเกษ ย้อนรำลึกอดีตตำนานการก่อสร้างปราสาทสระกำแพงใหญ่ อายุนับ 1,000 ปี มรดกทางศิลปกรรมเส้นทางปราสาทขอม ชมขบวนแห่น้ำศักดิ์สิทธิ์จากปราสาทสระกำแพงน้อย ขบวนแห่เครื่องบวงสรวงอันสวยงามตระการตา การแสดง แสง-สี เสียง "ศิวะราตรีแห่งศรีพฤทเธศวร" การประกวดสาวงาม "ธิดาศรีพฤทเธศวร" การแสดงศิลปวัฒนธรรม และเลือกซื้อสินค้าโอทอปของดีศรีสะเกษ
สถานที่ท่องเที่ยว
ปราสาทสระกำแพงใหญ่
ปราสาทหินวัดสระกำแพงใหญ่ ตั้งอยู่ที่วัดสระกำแพงใหญ่ ตำบลสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย ห่างจากตัวอำเภอมาทางทิศตะวันตก 2 กิโลเมตร
ความเป็นมาของปราสาทสระกำแพงใหญ่ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าสร้างขึ้นมาในสมัยใดหรือศักราชใด ถึงแม้จะพบจารึกที่โบราณสถานแห่งนี้ ข้อความในจารึกกล่าวถึงการซื้อที่ดินถวายแก่เจ้านายผู้ล่วงลับคือ "กมรเตงชคตศรีพฤทเธศวร" ไม่ได้กล่าวถึงการสร้างปี พ.ศ. 1585 ที่ปรากฏในจารึกไม่ใช่ปีที่สร้างปราสาท ระยะดังกล่าวในกัมพูชาเป็นสม้ยที่พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ครองราชย์ แต่มิได้หมายถึงพระองค์เป็นผู้สร้าง จากการศึกษาลวดลายต่าง ๆ ทางด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม ปราสาทสระกำแพงใหญ่ น่าจะมีอายุอยู่ในศิลปะเขมรแบบคลังต่อบาปวน หรือประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 16 ถึงพุทธศตวรรษที่ 16 ตอนปลาย
ปราสาทสระกำแพงใหญ่เป็นศาสนสถานแบบเขมร ทั้งในด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม รวมทั้งความเชื่อในการนับถือศาสนา จากหลักฐานที่ปรากฏสันนิษฐานว่าเดิมเป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู โดยดูจากทับหลังที่สลักภาพบุคคลเล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวข้องกับ ความเชื่อในศาสนาฮินดู ภายหลังเมื่อพระพุทธศาสนาเข้ามามีอิทธิพลในดินแดนแถบนี้จึงเปลี่ยนเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธ โดยได้ขุดพบพระพุทธรูปนาคปรกปางสมาธิ สูง 1.33 เมตร
ปราสาทสระกำแพงใหญ่สร้างขึ้นในศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธแบบมหายานเพื่อเป็นที่ประดิษฐานเทวรูป จากการขุดแต่งบูรณะปราสาทแห่งนี้ของกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. 2532 ได้ค้นพบปฏิมากรรมสำริดขนาดใหญ่เฉพาะองค์สูง 140 เซนติเมตร และรวมความสูงทั้งฐาน 180 เซนติเมตร ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศสกุล ให้ความเห็นว่าเป็นรูปของนันทิเกศวรหรือนันทีศวร ลักษณะพิเศษ คือเป็นสำริดกะไหล่ทอง เดิมอาจจะตั้งอยู่หน้าปราสาทหลังกลางภายในมุขหน้าปราสาท เพราะโดยปกติจะประจำอยู่กับเทวาลัยของพระอิศวร ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นศิลปะขอมแบบบาปวนตอนปลาย สำคัญมากนับเป็นประติมากรรมชิ้นเอกชิ้นหนึ่งที่พบในประเทศไทย ปัจจุบันจัดแสดงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พิมาย
สภาพทั่วไปของปราสาทสระกำแพงใหญ่ประกอบด้วยระเบียงคดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 49 เมตร ยาว 67 เมตร ล้อมรอบกลุ่มปราสาทอิฐและบรรณาลัย รวมทั้งหมด 6 หลัง จากภาพถ่ายทางอากาศ ชี้ให้เห็นว่าปราสาทสระกำแพงใหญ่น่าจะมีชุมชนรายรอบอย่างหนาแน่น ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร มีสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เรียกว่า "สระกำแพง" สันนิษฐานว่าน่าจะขุดขึ้นเมื่อครั้งสร้างปราสาท ส่วนทางทิศตะวันออกมีลำห้วยเล็ก ๆ ไหลผ่าน คือ ห้วยตาเหมา ซึ่งเป็นลำห้วยสาขาที่แยกออกมาจากห้วยสำราญ
ปราสาทสระกำแพงน้อย
ปราสาทหินวัดสระกำแพงน้อย ตั้งอยู่ที่บ้านกลาง ตำบลขะยุง อำเภออุทุมพรพิสัย ห่างจากตัวจังหวัด 9 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือติดถนนบนเส้นทางสายศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย ปราสาทหินสระกำแพงน้อยประกอบด้วยปรางค์และวิหาร ก่อด้วยศิลาแลง สันนิษฐานว่าปราสาทหินแห่งนี้เดิมเป็นศาสนสถานมาก่อน แล้วต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 18 รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อาจมีการบูรณะหรือสร้างเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ สังเกตได้จากมีสถาปัตยกรรมแบบบายนอยู่ด้วย สิ่งก่อสร้างดังกล่าวเรียกกันในสมัยนั้นว่า "อโรคยศาล" หมายถึง สถานพยาบาลหรือสุขศาลาประจำชุมชน
บุคคลสำคัญ
หลวงปู่เครื่อง สุภทฺโท หรือพระมงคลวุฒ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระกำแพงใหญ่ เป็นพระเกจิชื่อดังและพระนักพัฒนาที่ชาวอีสานใต้ต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธากันเป็นอย่างดียิ่ง ด้วยความเป็นพระเถระที่มีเมตตาธรรมขั้นสูง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เข้มขลังในวิทยาคมศักดิ์สิทธิ์ด้านเมตตามหานิยม เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจแก่ผู้ประสบทุกข์ร้อนเดือดร้อนทั้งหลาย
หลวงปู่เครื่อง มีนามเดิมว่า เครื่อง ประถมบุตร เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2453 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีจอ ณ บ้านค้อกำแพง หมู่ที่ 3 (ปัจจุบันคือ บ้านหนองแปน หมู่ที่ 5) ตำบลสระกำแพงใหญ่
การเดินทาง
รถยนต์ การเดินทางจากตัวจังหวัดศรีสะเกษไปอำเภออุทุมพรพิสัยสามารถใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 (ศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย) และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 (อุทุมพรพิสัย-ราษีไศล) มายังอำเภออุทุมพรพิสัย ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร
รถไฟ การเดินทางจากตัวกรุงเทพมหานครไปอำเภออุทุมพรพิสัยสามารถใช้รถไฟเดินทางมาได้ มีขบวนรถโดยสารออกจากกรุงเทพทุกวัน ขบวนรถโดยสารหยุดรับส่งผู้โดยสารทุกขบวน ระยะทางรถไฟจากสถานีกรุงเทพ 494.45 กิโลเมตร
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_58 .pdf 2558. สืบค้น 1 มีนาคม 2559.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_57.pdf 2558. สืบค้น 1 มีนาคม 2558.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักทะเบียนกลาง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเนกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖, เล่ม ๑๓๑, ตอน ๔๑ ง , ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗, หน้า ๑
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat55.html 2555. สืบค้น 3 เมษายน 2556.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat54.html 2555. สืบค้น 6 เมษายน 2555.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/stat/y_stat53.html 2553. สืบค้น 30 มกราคม 2554.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552."203.113.86.149/stat/y_stat.htmlสืบค้น 30 มีนาคม 2553
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat51.html 2552. สืบค้น 30 มกราคม 2552.