ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาณาจักรหงสาวดี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Saeng Petchchai (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: {{Infobox Former Country |native_name = {{my|ဟံသာဝတီ ပဲခူး နေပြည်တော်}} |conventional_long_name =ราชอาณาจั...
 
ไทๆ (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 52: บรรทัด 52:
}}
}}


'''ราชอาณาจักรหงสาวดี''' ({{lang-my|ဟံသာဝတီ ပဲခူး နေပြည်တော်}}; {{Lang-mnw|ဟံသာဝတဳ}}, {{IPA|[hɔŋsawətɔe]}}; บางครั้งเรียก '''หงสาวดีพะโค''' หรืออย่างสั้น '''พะโค''') เป็นราชอาณาจักรที่ปกครองพม่าตอนล่างตั้งแต่ พ.ศ. 1830 จนถึง พ.ศ. 2082 และระหว่าง พ.ศ. 2093 - 2095 ราชอาณาจักรของผู้ที่พูด [[ภาษามอญ]]ก่อตั้งในฐานะรามัญเทศ ({{lang-my|ရာမညဒေသ}}, {{lang-mnw|ရးမည}}) โดยพระเจ้าฟ้ารั่วหรือมะกะโท หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรพุกามใน พ.ศ. 1830<ref name=Coedes>{{cite book|last= Coedès|first= George|authorlink= George Coedès|editor= Walter F. Vella|others= trans.Susan Brown Cowing|title= The Indianized States of Southeast Asia|year= 1968|publisher= University of Hawaii Press|isbn= 978-0-8248-0368-1}}</ref>{{rp|205–206,209}} ในฐานะรัฐบรรณาการของ[[ราชอาณาจักรสุโขทัย]]และ [[ราชวงศ์หยวน]]ของมองโกลที่ปกครองจีน<ref name="hb">Htin Aung 1967: 78–80</ref> ราชอาณาจักรนี้เป็นอิสระจากสุโขทัยใน พ.ศ. 1873 แต่ยังมีความสัมพันธ์แบบหลวมๆกับศูนย์กลางอำนาจหลักในขณะนั้นคือ ที่ราบลุ่มแม่น้ำอิรวดี พะโค และเมาะตะมะ เมาะตะมะเกิดกบฏขึ้นใน พ.ศ. 1906 - 1931
'''ราชอาณาจักรหงสาวดี''' ({{lang-my|ဟံသာဝတီ ပဲခူး နေပြည်တော်}}; {{Lang-mnw|ဟံသာဝတဳ}}, {{IPA|[hɔŋsawətɔe]}}; บางครั้งเรียก '''หงสาวดีพะโค''' หรืออย่างสั้น '''พะโค''') เป็นราชอาณาจักรที่ปกครองพม่าตอนล่างตั้งแต่ พ.ศ. 1830 จนถึง พ.ศ. 2082 และระหว่าง พ.ศ. 2093 - 2095 เป็นราชอาณาจักรของผู้ที่พูด [[ภาษามอญ]]ก่อตั้งในฐานะรามัญเทศ ({{lang-my|ရာမညဒေသ}}, {{lang-mnw|ရးမည}}) โดยพระเจ้าฟ้ารั่วหรือมะกะโท หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรพุกามใน พ.ศ. 1830<ref name=Coedes>{{cite book|last= Coedès|first= George|authorlink= George Coedès|editor= Walter F. Vella|others= trans.Susan Brown Cowing|title= The Indianized States of Southeast Asia|year= 1968|publisher= University of Hawaii Press|isbn= 978-0-8248-0368-1}}</ref>{{rp|205–206,209}} ในฐานะรัฐบรรณาการของ[[ราชอาณาจักรสุโขทัย]]และ [[ราชวงศ์หยวน]]ของมองโกลที่ปกครองจีน<ref name="hb">Htin Aung 1967: 78–80</ref> ราชอาณาจักรนี้เป็นอิสระจากสุโขทัยใน พ.ศ. 1873 แต่ยังมีความสัมพันธ์แบบหลวมๆกับศูนย์กลางอำนาจหลักในขณะนั้นคือ ที่ราบลุ่มแม่น้ำอิรวดี พะโค และเมาะตะมะ เมาะตะมะเกิดกบฏขึ้นใน พ.ศ. 1906 - 1931

==ประวัติศาสตร์==
==ประวัติศาสตร์==
การปกครองของพระเจ้าราชาธิราชใน พ.ศ. 1927 -1964 ได้รวมราชอาณาจักรของชาวมอญเข้าเป็นหนึ่งเดียวและกระสบความสำเร็จในการต้านทานการรุกรานของราชอาณาจักรของผู้พูด [[ภาษาพม่า]]ทางเหนือ [[ราชอาณาจักรอังวะ]] ใน[[สงครามสี่สิบปี]] (พ.ศ. 1928 - 1967) และสามารถขยายตัวไปทางตะวันตกได้[[ราชอาณาจักรยะไข่]] ไว้ในอำนาจระหว่าง พ.ศ. 1956 - 1964 เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ถือเป็นชัยชนะของราชอาณาจักรหงสาวดีในฐานะที่สามารถขัดขวางการสถาปนาจักรวรรดิพุกามอีกครั้งของราชอาณาจักรอังวะ หลังจากสงคราม พะโคได้ช่วยเหลือรัฐบรรณาการของอังวะทางใต้คือ [[ราชอาณาจักรแปร]] และ[[ราชวงศ์ตองอู]]ในการก่อกบฏต่ออังวะ
การปกครองของพระเจ้าราชาธิราชใน พ.ศ. 1927 -1964 ได้รวมราชอาณาจักรของชาวมอญเข้าเป็นหนึ่งเดียวและประสบความสำเร็จในการต้านทานการรุกรานจาก[[ราชอาณาจักรอังวะ]] ราชอาณาจักรของผู้พูด [[ภาษาพม่า]]ทางเหนือ ใน[[สงครามสี่สิบปี]] (พ.ศ. 1928 - 1967) และสามารถขยายตัวไปทางตะวันตกได้[[ราชอาณาจักรยะไข่]] ไว้ในอำนาจระหว่าง พ.ศ. 1956 - 1964 เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ถือเป็นชัยชนะของราชอาณาจักรหงสาวดีในฐานะที่สามารถขัดขวางการสถาปนาจักรวรรดิพุกามอีกครั้งของราชอาณาจักรอังวะ หลังสงครามพะโคได้ช่วยเหลือรัฐบรรณาการของอังวะทางใต้คือ [[ราชอาณาจักรแปร]] และ[[ราชวงศ์ตองอู]]ในการก่อกบฏต่ออังวะ


หลังจากสงคราม หงสาวดีเข้าสู่ยุคทองในขณะที่ราชอาณาจักรอังวะตกต่ำลง ในราว พ.ศ. 1963 - 2073 หงสาวดีเป็นราชอาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดในยุคหลังจักรวรรดิอังวะ ภายใต้การปกครองของกษัตริย์หลายพระองค์ เช่น [[พระเจ้าบินญารันที่ 1]] [[พระนางเชงสอบู]] [[พระเจ้าธรรมเจดีย์]] และ [[พระเจ้าบินญารันที่ 2]] ราชอาณาจักรมีบทบาทสำคัญทางการค้า ในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย และเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายเถรวาท และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศรีลังกา<ref name="rlf">Myint-U 2006: 64–65</ref>
หลังสงคราม หงสาวดีเข้าสู่ยุคทองในขณะที่ราชอาณาจักรอังวะตกต่ำลง ในราว พ.ศ. 1963 - 2073 หงสาวดีเป็นราชอาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดในยุคหลังจักรวรรดิอังวะ ภายใต้การปกครองของกษัตริย์หลายพระองค์ เช่น [[พระเจ้าบินญารันที่ 1]] [[พระนางเชงสอบู]] [[พระเจ้าธรรมเจดีย์]] และ [[พระเจ้าบินญารันที่ 2]] ราชอาณาจักรมีบทบาทสำคัญทางการค้าในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย และเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายเถรวาท และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศรีลังกา<ref name="rlf">Myint-U 2006: 64–65</ref>


ราชอาณาจักรค่อยๆอ่อนแอลง ตั้งแต่ พ.ศ. 2077 การรุกรานของ [[ราชวงศ์ตองอู]] จาก [[พม่าตอนบน]] [[พระเจ้าทกยุปติ]] ไม่สามารถต่อต้านราชวงศ์ตองอู ที่นำโดย [[พระเจ้าตะเบงชะเวตี้]] และ [[พระเจ้าบุเรงนอง]] ตองอูเข้ายึดครองหงสาวดีและที่ราบลุมแม่น้ำอิระวดีใน พ.ศ. 2081 - 2082 และเมาะตะมะใน พ.ศ. 2084 <ref name="geh">Harvey 1925: 153–157</ref> ราชอาณาจักรนี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้งใน พ.ศ. 2093 หลังจากพระเจ้าตะเบงชะเวตี้สิ้นพระชนม์ แต่ราชอาณาจักรนี้มีอำนาจปกครองเพียงแค่เมืองพะโค และถูกพระเจ้าบถเรงนองปราบได้อย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2094
ราชอาณาจักรค่อยๆอ่อนแอลง ตั้งแต่ พ.ศ. 2077 การรุกรานของ [[ราชวงศ์ตองอู]] จาก [[พม่าตอนบน]] [[พระเจ้าทกยุปติ]] ไม่สามารถต่อต้านราชวงศ์ตองอู ที่นำโดย [[พระเจ้าตะเบงชะเวตี้]] และ [[พระเจ้าบุเรงนอง]] ตองอูเข้ายึดครองหงสาวดีและที่ราบลุ่มแม่น้ำอิระวดีใน พ.ศ. 2081 - 2082 และเมาะตะมะใน พ.ศ. 2084 <ref name="geh">Harvey 1925: 153–157</ref> ราชอาณาจักรนี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้งใน พ.ศ. 2093 หลังจากพระเจ้าตะเบงชะเวตี้สิ้นพระชนม์ แต่ราชอาณาจักรนี้มีอำนาจปกครองเพียงแค่เมืองพะโค และถูกพระเจ้าบุเรงนองปราบได้อย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2094

แม้ว่ากษัตริย์ในราชวงศ์ตองอูจะปกครองพม่าตอนล่างจนถึงพุทธศตวรรษที่ 23 แต่ยุคทองของราชอาณาจักรหงสาวดียังเป็นที่จดจำของชาวมอญในพม่าตอนล่าง ในพ.ศ. 2283 ได้มีการก่อกบฎต่อต้านราชวงศ์ตองอูที่อ่อนแอและก่อตั้ง [[ราชอาณาจักรหงสาวดีใหม่]]


แม้ว่ากษัตริย์ในราชวงศ์ตองอูจะปกครองพม่าตอนล่างจนถึงพุทธศตวรรษที่ 23 ยุคทองของราชอาณาจักรหงสาวดียังเป็นที่จดจำของชาวมอญในพม่าตอนล่าง ในพ.ศ. 2283 ได้มีการก่อกบฎต่อต้านราชวงศ์ตองอูที่อ่อนแอ และก่อตั้ง [[ราชอาณาจักรหงสาวดีใหม่]]
==อ้างอิง==
==อ้างอิง==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}
บรรทัด 67: บรรทัด 69:
* {{cite book| last = [[Thant Myint-U|Myint-U]]| first = Thant| title = The River of Lost Footsteps—Histories of Burma| year = 2006| publisher = Farrar, Straus and Giroux| isbn = 978-0-374-16342-6 }}
* {{cite book| last = [[Thant Myint-U|Myint-U]]| first = Thant| title = The River of Lost Footsteps—Histories of Burma| year = 2006| publisher = Farrar, Straus and Giroux| isbn = 978-0-374-16342-6 }}
* {{cite book | last=Pan Hla | first=Nai | title=Razadarit Ayedawbon | language=Burmese | year=1968 | edition=8th printing, 2004 | location=Yangon | publisher=Armanthit Sarpay}}
* {{cite book | last=Pan Hla | first=Nai | title=Razadarit Ayedawbon | language=Burmese | year=1968 | edition=8th printing, 2004 | location=Yangon | publisher=Armanthit Sarpay}}

[[หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์พม่า]]
[[หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์พม่า]]
[[หมวดหมู่:ประวัติศาสตร์มอญ]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:28, 7 พฤษภาคม 2560

ราชอาณาจักรหงสาวดีพะโค

ဟံသာဝတီ ပဲခူး နေပြည်တော်
พ.ศ. 1830–พ.ศ. 2094
ธงชาติราชอาณาจักรหงสาวดี
ธงราชอาณาจักรหงสาวดี
ราชอาณาจักรหงสาวดี ประมาณ พ.ศ. 1993
ราชอาณาจักรหงสาวดี ประมาณ พ.ศ. 1993
สถานะราชอาณาจักร
เมืองหลวงเมาะตะมะ (พ.ศ. 1830 - 1906)
โตงหวุ่น (พ.ศ. 1906 - 1912)
พะโค (พ.ศ. 1912 - 2082, พ.ศ. 2093 - 2095)
ภาษาทั่วไปภาษามอญ
ศาสนา
ศาสนาพุทธนิกายเถรวาท
การปกครองราชวงศ์
• พ.ศ. 1830 - 1850
พระเจ้าฟ้ารั่ว
• พ.ศ. 1927 -1964
พระเจ้าราชาธิราช
• พ.ศ. 2097 - 2114
พระนางเชงสอบู
• พ.ศ. 2114 - 2035
พระเจ้าธรรมเจดีย์
• พ.ศ. 2069 - 2082
พระเจ้าทกยุตปิ
ประวัติศาสตร์ 
• ก่อตั้งราชอาณาจักร
4 เมษายน พ.ศ. 1830
• รัฐบรรณาการของ ราชอาณาจักรสุโขทัย
พ.ศ. 1836 - 1873
พ.ศ. 1928 - 1967
• ยุคทอง
พ.ศ. 1969 - 2077
พ.ศ. 2077 - 2082
• การล่มสลายของพะโคครั้งที่สอง
12 มีนาคม พ.ศ. 2094
ก่อนหน้า
ถัดไป
ราชอาณาจักรพุกาม
จักรวรรดิตองอูครั้งที่ 1

ราชอาณาจักรหงสาวดี (พม่า: ဟံသာဝတီ ပဲခူး နေပြည်တော်; มอญ: ဟံသာဝတဳ, [hɔŋsawətɔe]; บางครั้งเรียก หงสาวดีพะโค หรืออย่างสั้น พะโค) เป็นราชอาณาจักรที่ปกครองพม่าตอนล่างตั้งแต่ พ.ศ. 1830 จนถึง พ.ศ. 2082 และระหว่าง พ.ศ. 2093 - 2095 เป็นราชอาณาจักรของผู้ที่พูด ภาษามอญก่อตั้งในฐานะรามัญเทศ (พม่า: ရာမညဒေသ, มอญ: ရးမည) โดยพระเจ้าฟ้ารั่วหรือมะกะโท หลังจากการล่มสลายของอาณาจักรพุกามใน พ.ศ. 1830[1]: 205–206, 209  ในฐานะรัฐบรรณาการของราชอาณาจักรสุโขทัยและ ราชวงศ์หยวนของมองโกลที่ปกครองจีน[2] ราชอาณาจักรนี้เป็นอิสระจากสุโขทัยใน พ.ศ. 1873 แต่ยังมีความสัมพันธ์แบบหลวมๆกับศูนย์กลางอำนาจหลักในขณะนั้นคือ ที่ราบลุ่มแม่น้ำอิรวดี พะโค และเมาะตะมะ เมาะตะมะเกิดกบฏขึ้นใน พ.ศ. 1906 - 1931

ประวัติศาสตร์

การปกครองของพระเจ้าราชาธิราชใน พ.ศ. 1927 -1964 ได้รวมราชอาณาจักรของชาวมอญเข้าเป็นหนึ่งเดียวและประสบความสำเร็จในการต้านทานการรุกรานจากราชอาณาจักรอังวะ ราชอาณาจักรของผู้พูด ภาษาพม่าทางเหนือ ในสงครามสี่สิบปี (พ.ศ. 1928 - 1967) และสามารถขยายตัวไปทางตะวันตกได้ราชอาณาจักรยะไข่ ไว้ในอำนาจระหว่าง พ.ศ. 1956 - 1964 เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ถือเป็นชัยชนะของราชอาณาจักรหงสาวดีในฐานะที่สามารถขัดขวางการสถาปนาจักรวรรดิพุกามอีกครั้งของราชอาณาจักรอังวะ หลังสงครามพะโคได้ช่วยเหลือรัฐบรรณาการของอังวะทางใต้คือ ราชอาณาจักรแปร และราชวงศ์ตองอูในการก่อกบฏต่ออังวะ

หลังสงคราม หงสาวดีเข้าสู่ยุคทองในขณะที่ราชอาณาจักรอังวะตกต่ำลง ในราว พ.ศ. 1963 - 2073 หงสาวดีเป็นราชอาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดในยุคหลังจักรวรรดิอังวะ ภายใต้การปกครองของกษัตริย์หลายพระองค์ เช่น พระเจ้าบินญารันที่ 1 พระนางเชงสอบู พระเจ้าธรรมเจดีย์ และ พระเจ้าบินญารันที่ 2 ราชอาณาจักรมีบทบาทสำคัญทางการค้าในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย และเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายเถรวาท และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศรีลังกา[3]

ราชอาณาจักรค่อยๆอ่อนแอลง ตั้งแต่ พ.ศ. 2077 การรุกรานของ ราชวงศ์ตองอู จาก พม่าตอนบน พระเจ้าทกยุปติ ไม่สามารถต่อต้านราชวงศ์ตองอู ที่นำโดย พระเจ้าตะเบงชะเวตี้ และ พระเจ้าบุเรงนอง ตองอูเข้ายึดครองหงสาวดีและที่ราบลุ่มแม่น้ำอิระวดีใน พ.ศ. 2081 - 2082 และเมาะตะมะใน พ.ศ. 2084 [4] ราชอาณาจักรนี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้งใน พ.ศ. 2093 หลังจากพระเจ้าตะเบงชะเวตี้สิ้นพระชนม์ แต่ราชอาณาจักรนี้มีอำนาจปกครองเพียงแค่เมืองพะโค และถูกพระเจ้าบุเรงนองปราบได้อย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2094

แม้ว่ากษัตริย์ในราชวงศ์ตองอูจะปกครองพม่าตอนล่างจนถึงพุทธศตวรรษที่ 23 แต่ยุคทองของราชอาณาจักรหงสาวดียังเป็นที่จดจำของชาวมอญในพม่าตอนล่าง ในพ.ศ. 2283 ได้มีการก่อกบฎต่อต้านราชวงศ์ตองอูที่อ่อนแอและก่อตั้ง ราชอาณาจักรหงสาวดีใหม่

อ้างอิง

  1. Coedès, George (1968). Walter F. Vella (บ.ก.). The Indianized States of Southeast Asia. trans.Susan Brown Cowing. University of Hawaii Press. ISBN 978-0-8248-0368-1.
  2. Htin Aung 1967: 78–80
  3. Myint-U 2006: 64–65
  4. Harvey 1925: 153–157
  • Harvey, G. E. (1925). History of Burma: From the Earliest Times to 10 March 1824. London: Frank Cass & Co. Ltd.
  • Htin Aung, Maung (1967). A History of Burma. New York and London: Cambridge University Press.
  • Myint-U, Thant (2006). The River of Lost Footsteps—Histories of Burma. Farrar, Straus and Giroux. ISBN 978-0-374-16342-6.
  • Pan Hla, Nai (1968). Razadarit Ayedawbon (ภาษาBurmese) (8th printing, 2004 ed.). Yangon: Armanthit Sarpay.{{cite book}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)