ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สงครามปฏิวัติอเมริกา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 47: | บรรทัด 47: | ||
{{flagicon|Kingdom of Great Britain|naval}} [[Richard Howe, 1st Earl Howe|ริชาร์ด ฮาว]]<br /> |
{{flagicon|Kingdom of Great Britain|naval}} [[Richard Howe, 1st Earl Howe|ริชาร์ด ฮาว]]<br /> |
||
{{Flagicon image|Flag of Hesse.svg|size=23px}} [[Wilhelm von Knyphausen|วิลเฮล์ม คนึพเฮาเซิน]]<br /> |
{{Flagicon image|Flag of Hesse.svg|size=23px}} [[Wilhelm von Knyphausen|วิลเฮล์ม คนึพเฮาเซิน]]<br /> |
||
[[File:Brunswick-Lüneburg Arms.svg|19px]] [[Friedrich Adolph Riedesel|บารอนรีเดเซิล]{{Surrendered}}<br /> |
[[File:Brunswick-Lüneburg Arms.svg|19px]] [[Friedrich Adolph Riedesel|บารอนรีเดเซิล]]{{Surrendered}}<br /> |
||
<br /><small>''เป็นต้น''</small> |
<br /><small>''เป็นต้น''</small> |
||
|strength1= |
|strength1= |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:59, 3 มกราคม 2560
สงครามปฏิวัติอเมริกา | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เรียงตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย: การยอมจำนนของลอร์ดคอร์นวอลลิสหลังการล้อมยอร์กทาวน์, ยุทธการที่เทรนตัน, การเสียชีวิตของนายพลวอร์เรน ณ ยุทธการที่บังเกอร์ฮิล, ยุทธการที่ลองไอแลนด์, ยุทธการที่สำนักงานศาลกิลเฟิร์ด | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
สหอาณานิคม (ก่อนปี 1776) สเปน (หลังปี 1779) |
อเมริกันพื้นเมือง[4] | ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
จอร์จ วอชิงตัน |
เซอร์วิลเลียม ฮาว เป็นต้น | ||||||||
กำลัง | |||||||||
ณ จุดสูงสุด: |
ณ จุดสูงสุด: | ||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
อเมริกัน 50,000± คน เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ[12] |
กองทัพอังกฤษ 20,000± คน เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
กะลาสี 19,740 คน เสียชีวิต[8] |
สงครามปฏิวัติอเมริกา (อังกฤษ: American Revolutionary War; ค.ศ. 1775–1783) หรือเรียก สงครามประกาศอิสรภาพอเมริกา (อังกฤษ: American War of Independence) หรือสงครามปฏิวัติในสหรัฐ เป็นการขัดกันด้วยอาวุธระหว่างบริเตนใหญ่และสิบสามอาณานิคมอเมริกาเหนือซึ่งหลังสงครามเปิดฉากประกาศอิสรภาพเป็นสหรัฐอเมริกา
สงครามนี้มีจุดกำเนิดจากการต่อต้านภาษีบางชนิดและพระราชบัญญัติซึ่งชาวอเมริกันจำนวนมากอ้างว่าไม่ชอบธรรมและมิชอบด้วยกฎหมาย การประท้วงของแพทริอัต (Patriot) ลุกลามเป็นการคว่ำบาตร และในวันที่ 16 ธันวาคม 1773 พวกเขาทำลายการส่งสินค้าชาในท่าบอสตัน รัฐบาลบริเตนตอบโต้โดยปิดท่าบอสตัน แล้วผ่านมาตรการโดยมุ่งลงโทษอาณานิคมที่เป็นกบฏ แพทริอัตสนองโดยซัฟฟอล์กรีซอฟส์ (Suffolk Resolves) คือ การสถาปนารัฐบาลเงาซึ่งกำจัดการควบคุมมณฑลจากคราวน์นอกบอสตัน สิบสองอาณานิคมตั้งสภาภาคพื้นทวีปเพื่อประสานงานการต่อต้าน และสถาปนาคณะกรรมการและการประชุมใหญ่ซึ่งยึดอำนาจชะงัด
ความพยายามยึดยุทโธปกรณ์อเมริกันของบริเตนในเดือนเมษายน 1775 นำสู่การยุทธ์อย่างเปิดเผยระหว่างกำลังคราวน์และทหารอาสาสมัครแพทริอัต ทหารอาสาสมัครเดินหน้าล้อมกำลังบริติชในบอสตัน บังคับให้ต้องอพยพนครในเดือนมีนาคม 1776 สภาภาคพื้นทวีปตั้งจอร์จ วอชิงตันให้บังคับบัญชาทหารอาสาสมัคร ต่อมา เขาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพภาคพื้นทวีปที่เพิ่งตั้ง ตลอดจนประสานงานหน่วยทหารอาสาสมัครของรัฐ ในเวลาเดียวกับการทัพบอสตัน ความพยายามบุกครองควิเบกของอเมริกาและปลุกการกบฏต่อพระมหากษัตริย์บริติชล้มเหลวโดยสิ้นเชิง วันที่ 2 กรกฎาคม 1774 สภาลงมติสนับสนุนเอกราชอย่างเป็นทางการ โดยออกคำประกาศในวันที่ 4 กรกฎาคม
เซอร์วิลเลียม ฮาว (William Howe) เริ่มการตีโต้ตอบซึ่งมุ่งยึดนครนิวยอร์กคืน ฮาวชนะวอชิงตันด้วยอุบาย ทำให้ความมั่นใจของฝ่ายอเมริกาแตะจุดต่ำสุด วอชิงตันสามารถยึดกองทัพเฮชชัน (Hessian) ได้ที่เทรนตัน และขับบริเตนออกจากนิวเจอร์ซีย์ ฟื้นความมั่นใจของฝ่ายอเมริกา ในปี 1777 บริเตนส่งกองทัพใหม่โดยมีจอห์น เบอร์กอยน์ (John Burgoyne) เป็นผู้บังคับบัญชาให้ยกลงใต้จากแคนาดาและแยกอาณานิคมนิวอิงแลนด์ ทว่า ฮาวไม่สนับสนุนเบอร์กอยน์ แต่นำกองทัพของเขาในอีกการทัพหนึ่งต่อกรุงฟิลาเดลเฟีย เมืองหลวงฝ่ายปฏิวัติ เบอร์กอยน์หมดกำลังบำรุง ถูกล้อมและยอมจำนนในเดือนตุลาคม 1777
ความปราชัยของบริเตนที่ซาราโทกา (Saratoga) มีผลใหญ่หลวง ฝรั่งเศสและสเปนได้จัดหาอาวุธ เครื่องกระสุนและกำลังบำรุงอื่นให้ชาวอาณานิคมอย่างลับ ๆ ตั้งแต่เดือนเมษายน 1776 บัดนี้ฝรั่งเศสเข้าสู่สงครามอย่างเป็นทางการในปี 1778 โดยลงนามพันธมิตรทางทหารซึ่งรับรองเอกราชของสหรัฐ บริเตนตัดสินใจยอมเสียอาณานิคมทางเหนือ และกู้อดีตอาณานิคมทางใต้ กำลังบริเตนโดยมีชาลส์ คอร์นวอลลิส (Charles Cornwallis) เป็นผู้บังคับบัญชายึดจอร์เจียและเซาท์แคโรไลนา ยึดกองทัพอเมริกาได้ที่ชาลส์ตัน เซาท์แคโรไลนา ยุทธศาสตร์นี้อาศัยการก่อการกำเริบของลอยัลลิสต์ (Loyalist) ติดอาวุธจำนวนมาก แต่มีผู้มาเข้าร่วมน้อยเกินไป ในปี 1779 สเปนเข้าร่วมสงครามเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศสภายใต้สนธิสัญญาตระกูล (Pacte de Famille) โดยเจตนายึดยิบรอลตาร์และอาณานิคมบริติชในแคริบเบียน บริเตนประกาศสงครามต่อสาธารณรัฐดัตช์ในปี 1780
ในปี 1781 หลังปราชัยอย่างเด็ดขาดสองครั้งที่คิงส์เมาน์เทนและคาวเพนส์ คอร์นวอลลิสถอยไปเวอร์จิเนียโดยตั้งใจอพยพ ชัยทางเรืออย่างเด็ดขาดของฝรั่งเศสในเดือนกันยายนตัดทางหนีของบริเตน กองทัพร่วมฝรั่งเศส-อเมริกาโดยมีเคาต์รอช็องโบ (Count Rochambeau) และวอชิงตันเป็นผู้นำล้อมกองทัพบริติชที่ยอร์กทาวน์ เมื่อเห็นว่าไม่มีการช่วยเหลือและสถานการณ์ป้องกันไม่อยู่ คอร์นวอลลิสยอมจำนนในเดือนตุลาคม และทหารถูกจับเป็นเชลยประมาณ 8,000 คน
วิกในบริเตนคัดค้านฝ่ายข้างมากทอรีนิยมสงครามในรัฐสภาอย่างยาวนาน ทว่า ความปราชัยที่ยอร์กทาวน์ทำให้วิกเป็นฝ่ายเหนือกว่า ต้นปี 1782 พวกเขาลงมติยุติปฏิบัติการบุกทั้งหมดในทวีปอเมริกาเหนือ แต่สงครามกับฝรั่งเศสและสเปนยังดำเนินต่อ โดยบริเตนชนะทั้งสองประเทศระหว่างการล้อมใหญ่ยิบรอลตาร์ นอกเหนือจากนี้ พวกเขาชนะฝรั่งเศสทางเรือหลายครั้งทโดยที่เด็ดขาดที่สุด คือ ยุทธนาวีที่ซานต์ (Battle of the Saintes) ในแคริบเบียนปีเดียวกัน วันที่ 3 กันยายน 1783 คู่สงครามลงนามสนธิสัญญากรุงปารีสซึ่งยุติสงคราม บริเตนตกลงรับรองเอกราชของสหรัฐเหนือดินแดนโดยมีขอบเขตคร่าว ๆ อยู่ที่แคนาดาทางเหนือ ฟลอริดาทางใต้และแม่น้ำมิสซิสซิปปีทางตะวันตก แม้การเข้ามีส่วนเกี่ยวข้องของฝรั่งเศสมีผลชี้ขาดต่อสาเหตุของเอกราชอเมริกา แต่ได้ดินแดนเพียงเล็กน้อย และมีปัญหาหนี้สินมหาศาล สเปนได้อาณานิคมฟลอริดาของบริเตนและเกาะมินอร์กา แต่ไม่สามารถชิงยิบรอลตาร์คืนซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก ฝ่ายดัตช์มีแต่เสีย โดยถูกบังคับให้ยกดินแดนบางส่วนให้บริติช
อ้างอิง
- ↑ (1780–83)
- ↑ (1780–84)
- ↑ Oneida, Tuscarora, Catawba, Lenape, Chickasaw, Choctaw, Mahican, Mi'kmaq (until 1779), Abenaki, Cheraw, Seminole, Pee Dee, Lumbee, Watauga Association
- ↑ Onondaga, Mohawk, Cayuga, Seneca, Mi'kmaq (from 1779), Cherokee, Odawa, Muscogee, Susquehannock, Shawnee
- ↑ 5.0 5.1 5.2 Jack P. Greene and J. R. Pole. A Companion to the American Revolution (Wiley-Blackwell, 2003), p. 328.
- ↑ Everett C. Dolman. The Warrior State: How Military Organization Structures Politics (Macmillan, 2004), p. 163.
- ↑ Montero[โปรดขยายความ] p. 356
- ↑ 8.0 8.1 8.2 Mackesy (1964), pp. 6, 176 (British seamen)
- ↑ A. J. Berry, A Time of Terror (2006) p. 252
- ↑ Claude, Van Tyne, The loyalists in the American Revolution (1902) pp. 182–3.
- ↑ Greene and Pole (1999), p. 393; Boatner (1974), p. 545
- ↑ American dead and wounded: Shy, pp. 249–50. The lower figure for number of wounded comes from Chambers, p. 849.
ดูเพิ่ม
- หน้าทั้งหมดที่ต้องการเก็บกวาด
- บทความที่ต้องการการขยายความ ตั้งแต่ November 2010
- หน้าที่ใช้ Flagicon image ที่มีพารามิเตอร์ที่ไม่รู้จัก
- บทความที่ขาดแหล่งอ้างอิงเฉพาะส่วนตั้งแต่November 2010
- สงครามยุคใหม่
- ความขัดแย้งในระดับโลก
- สงครามเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา
- สงครามอิสรภาพ
- บทความเกี่ยวกับ การทหาร ที่ยังไม่สมบูรณ์