ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซอยเดียวกัน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Manop (คุย | ส่วนร่วม)
ลิขสิทธิ์ ?
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ช่วยดูหน่อย}}
[['''ที่มาของเรื่องซอยเดียวกัน]] '''
หนังสือเรื่องซอยเดียวกันนี้ เกิดจากความตั้งใจของวาณิช จรุงกิจอนันต์ผู้เขียนที่ต้องการจะมีหนังสือรวมเรื่องสั้นเป็นของตนเอง เนื่องจากผู้เขียนให้ความสำคัญกับคำว่า นักเขียน มาก จึงรู้สึกกระดากปากที่จะเรียกตัวเองเช่นนั้น จนเมื่อได้ออกหนังสือเรื่องซอยเดียวกัน ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในคำนำว่า “ผมเขียนหนังสือรวมพิมพ์เป็นเล่มมาแล้วหลายเล่ม แต่กล่าวได้ว่าเล่มที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นนักเขียนโดยสมบูรณ์คือเล่มนี้ เล่มที่ให้ชื่อว่าซอยเดียวกันนี้ ” จากความตั้งใจของผู้เขียนนี่เอง ทำให้ซอยเดียวกันสำเร็จเป็นรูปเล่มในปีพ.ศ. 2526 และหนังสือเล่มนี้ก็เป็น 1 ใน 47 เล่มที่ผ่านเข้าพิจารณารางวัลซีไรต์ ด้วยเหตุว่าหนังสือเล่มนี้มีกลวิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่ กล้าสร้างสรรค์รูปแบบที่แตกต่าง มีเนื้อหาสะท้อนชีวิตได้อย่างโดดเด่น บวกกับฝีมือทางวรรณศิลป์ ทำให้ซอยเดียวกันกลายเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรต์ในปีพ.ศ. 2527 ในที่นี้ขอกล่าวตัวอย่าง เรื้องสั้นที่รวบรวมไว้ใน ซอยเดียวกัน สักเรื่องสองเรื่อง


หนังสือ'''ซอยเดียวกัน''' แต่งโดย [[วาณิช จรุงกิจอนันต์]]
'''[[ เรื่อง เมืองหลวง]]'''

เมืองหลวงเป็นเรื่องราวของคนต่างจังหวัดที่ต้องมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความคิดของชายคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เดิมๆในกรุงเทพฯ อย่างรถติด คนเห็นแก่ตัว การดูถูกเพื่อนมนุษย์ที่ทำตัวต่างออกไป สถานการณ์ของเรื่องเริ่มต้นภายในรถเมล์คันหนึ่งช่วงเวลาหลังเลิกงาน ที่ผู้คนต่างยื้อแย่งกันเพื่อให้ได้นั่ง ได้รับความสะดวก สภาพอันน่าอึดอัดบนรถเมล์ยามที่การจราจรติดขัด โดยในเรื่องมีผู้ทำลายความตึงเครียดนั้นโดยการร้องเพลงขึ้นมา บางคนก็มองว่าบ้า บางคนก็ชื่นชม ส่วนตัวละครที่ดำเนินเรื่องนั้นก็จินตนาการชีวิตของตนเองตามเนื้อเพลงที่ร้องขึ้น และหวังที่จะหลุดพ้นวังวนที่วุ่นวายนี้สักที
==ประวัติหนังสือ==
คำประพันธ์ในเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาผ่านความคิดของตัวละคร โดยบรรยายบรรยากาศรอบตัวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน สามารถเห็นภาพได้และบรรยายความรู้สึกของตนเองควบคู่กันไป ภาษาที่ใช้ก็สื่อความได้ตรงตัวจุดเด่นของเรื่องนี้คือการนำเอาเพลงลูกทุ่งที่เป็นที่นิยมและสอดคล้องกับเรื่องมาเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปสู่การจินตนาการความคิดของตัวละคร
หนังสือเรื่องซอยเดียวกันนี้ เกิดจากความตั้งใจของวาณิช จรุงกิจอนันต์ผู้เขียนที่ต้องการจะมีหนังสือรวมเรื่องสั้นเป็นของตนเอง เนื่องจากผู้เขียนให้ความสำคัญกับคำว่า "นักเขียน" มาก จึงรู้สึกกระดากปากที่จะเรียกตัวเองเช่นนั้น จนเมื่อได้ออกหนังสือเรื่องซอยเดียวกัน ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในคำนำว่า “ผมเขียนหนังสือรวมพิมพ์เป็นเล่มมาแล้วหลายเล่ม แต่กล่าวได้ว่าเล่มที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นนักเขียนโดยสมบูรณ์คือเล่มนี้ เล่มที่ให้ชื่อว่าซอยเดียวกันนี้ ” จากความตั้งใจของผู้เขียนนี่เอง ทำให้ซอยเดียวกันสำเร็จเป็นรูปเล่มในปี[[พ.ศ. 2526]] และหนังสือเล่มนี้ก็เป็น 1 ใน 47 เล่มที่ผ่านเข้าพิจารณา[[รางวัลซีไรต์]] ด้วยเหตุว่าหนังสือเล่มนี้มีกลวิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่ กล้าสร้างสรรค์รูปแบบที่แตกต่าง มีเนื้อหาสะท้อนชีวิตได้อย่างโดดเด่น บวกกับฝีมือทางวรรณศิลป์ ทำให้ซอยเดียวกันกลายเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรต์ในปี[[พ.ศ. 2527]] ในที่นี้ขอกล่าวตัวอย่าง เรื้องสั้นที่รวบรวมไว้ใน ซอยเดียวกัน สักเรื่องสองเรื่อง

==เรื่องเมืองหลวง==
เมืองหลวงเป็นเรื่องราวของคนต่างจังหวัดที่ต้องมาใช้ชีวิตใน[[กรุงเทพฯ]] ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความคิดของชายคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เดิมๆในกรุงเทพฯ อย่างรถติด คนเห็นแก่ตัว การดูถูกเพื่อนมนุษย์ที่ทำตัวต่างออกไป สถานการณ์ของเรื่องเริ่มต้นภายในรถเมล์คันหนึ่งช่วงเวลาหลังเลิกงาน ที่ผู้คนต่างยื้อแย่งกันเพื่อให้ได้นั่ง ได้รับความสะดวก สภาพอันน่าอึดอัดบนรถเมล์ยามที่การจราจรติดขัด โดยในเรื่องมีผู้ทำลายความตึงเครียดนั้นโดยการร้องเพลงขึ้นมา บางคนก็มองว่าบ้า บางคนก็ชื่นชม ส่วนตัวละครที่ดำเนินเรื่องนั้นก็จินตนาการชีวิตของตนเองตามเนื้อเพลงที่ร้องขึ้น และหวังที่จะหลุดพ้นวังวนที่วุ่นวายนี้สักที

คำประพันธ์ในเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาผ่านความคิดของตัวละคร โดยบรรยายบรรยากาศรอบตัวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน สามารถเห็นภาพได้และบรรยายความรู้สึกของตนเองควบคู่กันไป ภาษาที่ใช้ก็สื่อความได้ตรงตัวจุดเด่นของเรื่องนี้คือการนำเอา[[เพลงลูกทุ่ง]] ที่เป็นที่นิยมและสอดคล้องกับเรื่องมาเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปสู่การจินตนาการความคิดของตัวละคร
สะท้อนภาพความจริงของสังคมเมืองหลวงที่เราทุกคนล้วนเจอกันอยู่เป็นประจำ คือ ความเห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่น การดูถูกเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งเรารู้ว่ามันไม่ดีแต่สิ่งเหล่านี้ก็มีอยู่ในทุกคนไม่มากก็น้อย
สะท้อนภาพความจริงของสังคมเมืองหลวงที่เราทุกคนล้วนเจอกันอยู่เป็นประจำ คือ ความเห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่น การดูถูกเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งเรารู้ว่ามันไม่ดีแต่สิ่งเหล่านี้ก็มีอยู่ในทุกคนไม่มากก็น้อย

[[Category:วรรณกรรม]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:05, 22 ตุลาคม 2548

หนังสือซอยเดียวกัน แต่งโดย วาณิช จรุงกิจอนันต์

ประวัติหนังสือ

หนังสือเรื่องซอยเดียวกันนี้ เกิดจากความตั้งใจของวาณิช จรุงกิจอนันต์ผู้เขียนที่ต้องการจะมีหนังสือรวมเรื่องสั้นเป็นของตนเอง เนื่องจากผู้เขียนให้ความสำคัญกับคำว่า "นักเขียน" มาก จึงรู้สึกกระดากปากที่จะเรียกตัวเองเช่นนั้น จนเมื่อได้ออกหนังสือเรื่องซอยเดียวกัน ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในคำนำว่า “ผมเขียนหนังสือรวมพิมพ์เป็นเล่มมาแล้วหลายเล่ม แต่กล่าวได้ว่าเล่มที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นนักเขียนโดยสมบูรณ์คือเล่มนี้ เล่มที่ให้ชื่อว่าซอยเดียวกันนี้ ” จากความตั้งใจของผู้เขียนนี่เอง ทำให้ซอยเดียวกันสำเร็จเป็นรูปเล่มในปีพ.ศ. 2526 และหนังสือเล่มนี้ก็เป็น 1 ใน 47 เล่มที่ผ่านเข้าพิจารณารางวัลซีไรต์ ด้วยเหตุว่าหนังสือเล่มนี้มีกลวิธีการนำเสนอที่แปลกใหม่ กล้าสร้างสรรค์รูปแบบที่แตกต่าง มีเนื้อหาสะท้อนชีวิตได้อย่างโดดเด่น บวกกับฝีมือทางวรรณศิลป์ ทำให้ซอยเดียวกันกลายเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรต์ในปีพ.ศ. 2527 ในที่นี้ขอกล่าวตัวอย่าง เรื้องสั้นที่รวบรวมไว้ใน ซอยเดียวกัน สักเรื่องสองเรื่อง

เรื่องเมืองหลวง

เมืองหลวงเป็นเรื่องราวของคนต่างจังหวัดที่ต้องมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านความคิดของชายคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เดิมๆในกรุงเทพฯ อย่างรถติด คนเห็นแก่ตัว การดูถูกเพื่อนมนุษย์ที่ทำตัวต่างออกไป สถานการณ์ของเรื่องเริ่มต้นภายในรถเมล์คันหนึ่งช่วงเวลาหลังเลิกงาน ที่ผู้คนต่างยื้อแย่งกันเพื่อให้ได้นั่ง ได้รับความสะดวก สภาพอันน่าอึดอัดบนรถเมล์ยามที่การจราจรติดขัด โดยในเรื่องมีผู้ทำลายความตึงเครียดนั้นโดยการร้องเพลงขึ้นมา บางคนก็มองว่าบ้า บางคนก็ชื่นชม ส่วนตัวละครที่ดำเนินเรื่องนั้นก็จินตนาการชีวิตของตนเองตามเนื้อเพลงที่ร้องขึ้น และหวังที่จะหลุดพ้นวังวนที่วุ่นวายนี้สักที

คำประพันธ์ในเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาผ่านความคิดของตัวละคร โดยบรรยายบรรยากาศรอบตัวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน สามารถเห็นภาพได้และบรรยายความรู้สึกของตนเองควบคู่กันไป ภาษาที่ใช้ก็สื่อความได้ตรงตัวจุดเด่นของเรื่องนี้คือการนำเอาเพลงลูกทุ่ง ที่เป็นที่นิยมและสอดคล้องกับเรื่องมาเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปสู่การจินตนาการความคิดของตัวละคร สะท้อนภาพความจริงของสังคมเมืองหลวงที่เราทุกคนล้วนเจอกันอยู่เป็นประจำ คือ ความเห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่น การดูถูกเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งเรารู้ว่ามันไม่ดีแต่สิ่งเหล่านี้ก็มีอยู่ในทุกคนไม่มากก็น้อย